พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว

บทที่ 422 เพราะตัวคุณเอง



บทที่ 422 เพราะตัวคุณเอง

เสียงกระหน่ำเคาะประตูดังขึ้น เห็นได้ชัดว่าหลังจากที่บอ การ์ตได้ยินสิ่งที่ฝนสุดาพูด เขาก็กระวนกระวายใจขึ้นมา ทันที

“คุณผู้หญิงอย่าทำเรื่องอะไรโง่ๆนะครับ มันเป็นแค่หมาที่ กิสนาเลี้ยงไว้ มันไม่มีค่าพอที่จะอยู่ห้องเดียวกับคุณผู้หญิง คุณสูงส่งและมีค่ามาก มันมีโอกาสได้ใกล้ชิดคุณแล้ว ถ้าคุณ มีอะไรกับมัน คุณท่านต้องโกรธมากแน่นอน!” น้ำเสียง กระวนกระวายของบอดี้การ์ดตั้งขึ้น

“หึ เลิกเอาตาแก่นั่นมาข่มขู่ฉันเสียที ฉันอยากทำอะไรก็ เรื่องของฉัน เขามันอยากให้ฉันทำ ฉันยิ่งอยากทำ อีกอย่าง ฉันไม่ได้ทำมาแล้วแค่ครั้งสองครั้ง ก่อนที่เขาจะใช้ฉันเป็น เครื่องมือในการแต่งงาน ฉันต้องสนุกกับการเป็นตัวของตัว เองก่อน! ” ฝนสุดาพูดเถียง จากนั้นไม่ว่าคนข้างนอกจะเคาะ ประตูยังไง เธอก็ไม่ตอบกลับอีก

รพีพงษ์มองผู้หญิงตรงหน้าอย่างประหลาดใจ จากการ สนทนาของพวกเขา รพีพงษ์พอเดาออกว่า ถึงแม้ผู้หญิงคนนี้ จะอยู่ในตระกูลสูงศักดิ์ แต่เธอไม่มีอิสระ คนพวกนี้ถูก กำหนดชะตาชีวิตไว้ตั้งแต่คลอดออกมาแล้ว

การแต่งงานของคุณหนูในตระกูลสูงศักดิ์จะนำมาซึ่งผลประโยชน์อันยิ่งใหญ่แก่ตระกูล ดังนั้นถึงแม้ว่าผู้หญิงพวกนี้ จะมีกินมีใช้ตั้งแต่เด็ก ถึงกระทั่งที่ใช้ชีวิตแบบที่คนส่วนใหญ่ คาดไม่ถึง แต่ทว่าพวกเธอก็ยังคงมีความทุกข์ของตัวเอง

เพราะความกดดันและการบังคับของพ่อ ทำให้ฝนสุดา เป็นผู้หญิงที่มีจิตใจต่อต้าน

รพีพงษ์คิดว่าอาจจะเป็นเพราะความกดดันที่เกิดขึ้น ทำให้ ฝนสุดาชอบมีใจให้กับผู้ชายที่ไม่คู่ควรกับเธอ การทำเรื่องที่ ขัดคำสั่งของพ่อ อาจจะทำให้เธอมีความสุข

ในขณะเดียวกัน เขาเข้าใจแล้วว่าการที่ผู้หญิงคนนี้เรียก เขามา เพราะการแข่งขันช่วงบ่าย ไม่ได้มีจุดประสงค์อื่น

ฝนสุดาเดินเข้ามาหารพีพงษ์ เธอเห็นว่ารพีพงษ์กำลังจ้อง เธออยู่ ความโมโหฉายขึ้นมาในแววตาของเธอ เธอบ่นออก มาว่า “นายไม่ได้คิดว่าฉันอยากมีอะไรกับนายจริงๆ ใช่ไหม เลิกฝันเถอะ ฉันแค่พูดให้เขาได้ยินเท่านั้น”

รพีพงษ์ยิ้มแล้วพูดว่า “ผมไม่ได้สนใจ

ฝนสุดาอึ้งไปครู่หนึ่ง จากนั้นเธอจึงมองรพีพงษ์อย่าง ประเมิน เธอยกยิ้มอย่างมีเลศนัย

“นายกำลังเล่นละครตบตาฉันอยู่เหรอ ทำเป็นไม่สนใจ เพื่อเรียกร้องความสนใจของฉัน?” ฝนสุดายิ้มแล้วพูดออก มา “จะไม่พูดก็ไม่ได้ว่าวิธีการแบบนายฉันเจอมาเยอะแล้ววิธีการแบบนี้ไม่ได้ทำให้ฉันสนใจนายหรอกนะกลับตรงกัน ข้ามด้วยซ้ำ”

“อืม” รพีพงษ์ตอบออกไปด้วยน้ำเสียงราบเรียบ เขาไม่ได้ มีปฏิกิริยาอะไรกับคำพูดของเธอ กลับกันเขาไม่ได้สนใจผู้ หญิงคนนี้อยู่แล้ว ไม่ว่าอีกฝ่ายจะพูดอย่างไร เขาก็แค่ตอบ ออกไปเท่านั้น

ฝนสุดา กว่ารพีพงษ์จะพูดอธิบายอะไรออกมายืดยาว เพื่อยืนยันว่าเขาไม่ได้แสดงละครตบตา ก่อนหน้านี้เธอเคย ใกล้ชิดกับพวกเสแสร้ง พวกนั้นชอบอธิบายอะไรยืดยาวเพื่อ ปกปิดเจตนาที่แท้จริงของตัวเอง

แต่รพีพงษ์ที่อยู่ตรงหน้าเธอกลับตอบมาแค่สั้นๆ คำเดียว ราวกับว่าเขาไม่ใส่ใจความเห็นของเธออย่างไรอย่างนั้น มัน ทำให้เธอรู้สึกเหมือนโดนดูถูกอย่างไรอย่างนั้น

ทำไมไอ้หมอนี่ถึงนิ่งขนาดนี้ เขาโดนฉันจับได้ ต้อง ประหม่าแล้วรีบพูดอธิบายว่าเขาไม่ได้เป็นอย่างที่เธอคิด

ให้ตายเถอะ อย่าบอกนะว่าผู้หญิงคนนี้ไม่มีเสน่ห์เมื่ออยู่ ต่อหน้าเขางั้นเหรอ

ที่ เขาก็แค่ใช้วิธีกลบเกลื่อนวิธีอื่นเท่านั้นแหละ ฉันไม่เชื่อ หรอกว่านายจะไม่หลุดอะไรออกมา ในโลกใบนี้ไม่เคยมี ผู้ชายคนไหนสามารถทำเป็นไม่สนใจเธอได้เมื่ออยู่ต่อหน้า เธอ
เธอคิดอะไรขึ้นมาในใจ ฝนสุดยิ้มหวานแล้วเดินไปหารพิ พงษ์แล้วยื่นมือไปแตะดวงรพีพงษ์

“นายไม่สนใจฉันจริงๆ เหรอ นี่มันทำให้ฉันสนใจนายมาก ขึ้นเลยนะ ฉันว่าผู้ชายอย่างพวกนาย ก็คิดแต่เรื่องแบบนั้น นายไม่สนใจฉัน เพราะว่าฉันยังมันทำให้นายสนใจต่าง หาก

“ตอนนี้ฉันอยากสนุกกับนาย เราไปห้องนอนฝั่งนั้น นาย สนใจไหมล่ะ”

รพีพงษ์มองฝนสุดาด้วยแววตานิ่งเฉย จากนั้นก็พูดว่า “ถ้า คุณไม่มีเรื่องอื่น ผมว่าผมคงกลับได้แล้ว”

ฝนสุดาแสยะยิ้มแล้วพูดว่า “เลิกเสแสร้งต่อหน้าฉันเถอะ จนถึงวันนี้ฉันยังไม่เคยเห็นผู้ชายคนไหนเสแสร้งต่อหน้าฉัน ได้เกินห้านาที ปากบอกว่าไม่ แต่พอหลังจากห้านาทีก็กลาย เป็นสัตว์ป่าดุร้าย”

“นั้นเพราะคุณเจอคนไม่ดี หรืออาจจะเพราะตัวคุณเองที่ ทำให้เจอแต่คนแบบนั้น” รพีพงษ์พูดอย่างไม่อ้อมค้อม

ฝนสุดาอึ้งไปอีกครั้ง เธอกำลังซึมซับสิ่งที่รพีพงษ์พูดเมื่อ ครู ไอ้หมอนี่ต้องการจะสื่อว่าการที่เธอเจอไอ้พวกผู้ชายนั่น เพราะตัวเธอเองอย่างนั้นเหรอ เขาคิดว่าเธอไม่มีเสน่ห์ เลย ดึงดูดได้แค่พวกไม่มีสมองอย่างนั้นเหรอ
ความหงุดหงิดก่อตัวขึ้นในใจของฝนสุดา ไม่เคยมีใคร มองเธอในแง่นี้มาก่อน ไอ้ผู้ชายคนนี้มันยังไงกันนะ นี่มันผู้ รายชื่อบื่อหรือเปล่านะ

ฝนสุดาไม่ได้พูดสิ่งที่คิดอยู่ในใจออกมา รอยยิ้มยังคง ประดับอยู่บนใบหน้าของเธอ เธอไม่เชื่อว่าถ้าเธอพยายาม ต่อไป รพีพงษ์จะยังนิ่งอยู่ต่อไปได้ ในสมองของผู้ชายพวกนี้ ก็มีแต่เรื่องแบบนี้เท่านั้น จะเป็นเพราะตัวเธอเองได้อย่างไร

เธอค่อยๆ แกะเชือกที่รัดชุดกิโมโนออกอย่างช้าๆ แล้วพูด ว่า “ฉันไม่คิดว่านายจะต่างจากผู้ชายพวกนั้น ถึงแม้จะ เป็นการพบกันโดยบังเอิญ อีกทั้งนายยังเป็นแค่นักเลง กระจอกที่โดนขังอยู่ที่นี่ แต่ว่าฉันไม่ถือสาหรอก ฉันชอบ ความท้าทายน่ะ”

หลังจากที่เธอปลดเชือกออก เผยให้เห็นสิ่งที่ชวนมอง เธอ เดินเข้าไปหารพีพงษ์ ดูเหมือนว่าเธอจะเข้าไปจู่โจมรพีพงษ์

รพีพงษ์ขมวดคิ้ว คิดไม่ถึงว่าผู้หญิงคนนี้จะพยายามขนาด นี้ เขาก้าวถอยหลังไปสองก้าวแล้วพูดว่า “ผมไม่ชอบความ ท้าทาย ผมแตะต้องภรรยาของผมคนเดียว ถ้าคุณยังทำแบบ นี้ อย่าหาว่าผมไม่เกรงใจนะ

“หึหึ ก็แค่สัตว์ในคราบคน ทำเป็นพูดเลิศหรู ผู้ชายแบบ นายไม่น่าไว้ใจที่สุด”

พูดจบ ฝนสุดา ถอดกิโมโนของตัวเองออก
รพีพงษ์เห็นดังนั้น เขาไม่สามารถให้เธอทำตามใจตัวเอง ได้อีกต่อไป ถึงแม้ว่าเขาจะมีใจที่ซื่อสัตย์ แต่ร่างกายของเขา กลับไม่เป็นเช่นนั้น ถ้าเกิดให้เธอทำตามใจตัวเองต่อไป ไม่มี ใครสามารถรับประกันได้ว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น

เขายื่นมือไปคว้าเชือกที่ชุดกิโมโน

ฝนดาหัวเราะออกมาอย่างเยือกเย็น เธอคิดในใจว่า สุดท้ายเขาก็อดไม่ไหว สิ่งที่เขาพูดมาก่อนหน้าก็แค่ลมปาก

วินาทีต่อจากนั้น ฝนสุดาถึงกับอึ้งไป หลังจากที่รพีพงษ์จับ เชือกที่ชุดกิโมโนของเธอ เขาเอาเชือกพันที่ตัวเธอสองสาม รอบ เป็นเหมือนการมัดเธอเอาไว้อย่างไรอย่างนั้น


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ