พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว

บทที่ 485 หักหลัง



บทที่ 485 หักหลัง

รพีพงษ์มองกลุ่มคนพวกญาดา ภายในใจก็เข้าใจว่าใครอยาก จะทำให้ตระกูลลัดดาวัลย์แตกแยกล่ะ

เขาหรี่ตามองญาดาเพียงชั่วพริบตา ครั้งที่แล้วรพีพงษ์ได้แย่ง อำนาจการควบคุมของตระกูลลัดดาวัลย์กลับไป ญาดายังคิดจะ ตีสนิทกับรพีพงษ์ ทว่าถูกรพีพงษ์ทำให้ไม่เห็นในสายตา นึกไม่ ถึงว่าตอนนี้ตระกูลลัดดาวัลย์ถูกกรุ๊ปKINจ้องจะหาเรื่อง ญาดาก ลับยังเป็นผู้นำที่อยากจะทำให้ตระกูลลัดดาวัลย์เกิดการ แตกแยก ดูๆ แล้วตนเองดูลูกพี่ลูกน้องตรงหน้าต่อไป

ตอนเด็กๆ ญาดามักจะตามอยู่ข้างหลังตนเองตลอดเวลา และ เห็นรพีพงษ์เป็นไอดอลของเธอ หลังจากรพีพงษ์ถูกไล่ออกจาก ตระกูลลัดดาวัลย์ ญาดาก็นึกว่าตัวเองสูงส่งกว่าคนอื่นหนึ่งขั้น จึง เริ่มคิดว่ารพีพงษ์ไม่ควรที่จะได้รับการสรรเสริญจากเธอ

ครั้งแรกที่รพีพงษ์กลับตระกูลลัดดาวัลย์ ญาดาก็แสดงทีท่าที่ ดูถูกรพีพงษ์จริงๆ ทว่าหลังจากที่รพีพงษ์ชนะอาจารย์หมากล้อ มญาธิป เธอก็ทำท่าทีที่มีต่อรพีพงษ์นั้นเปลี่ยนไป

หลังจากรพีพงษ์ยึดอำนาจของตระกูลลัดดาวัลย์กลับไป ญา ดาก็เคยแสดงท่าทีที่ประจบประแจงกับรพีพงษ์

วันนี้ตระกูลลัดดาวัลย์มีตำแหน่งที่มีความเสี่ยงอันตรายใน เกียวโต ญาดาจึงเป็นผู้นำที่จะทำให้ตระกูลลัดดาวัลย์แตกแยก ทำให้เห็นอย่างชัดเจน เธอเป็นผู้หญิงคนหนึ่งที่มีอำนาจและอิทธิพลมาก

ตอนที่คนๆ หนึ่งมีหน้ามีตา ญาดาก็จะรีบไปประจบประแจงคน อื่น ตอนที่คนๆ หนึ่งตกอับ ญาตาก็จะถีบเขาไปไกลๆ และ ตัดขาดความสัมพันธ์ตั้งแต่เนิ่นๆ

รพีพงษ์นึกไม่ถึงว่าญาดาจะกลายเป็นคนแบบนี้ ดูๆ แล้วหลัง จากที่ตัวเองถูกไล่ออกจากเกียวโต ญาดาได้รับผลกระทบจาก ธราและโยษิตาสองแม่ลูก

ทว่าเรื่องนี้ก็ไม่ได้สำคัญอะไรแล้ว ทุกคนต่างก็มีทางเลือกของ ตัวเอง ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไร ไหนๆ ญาดาก็เลือกท่าทีแบบนี้ งั้นเธอก็ควรที่จะรับผิดชอบที่สิ่งที่ตามมา

ทำให้เห็นล่วงหน้า ครั้งนี้หากรพีพงษ์สามารถแก้ไขวิกฤตของ ตระกูลลัดดาวัลย์ ผลที่ตามมาที่ดีที่สุดของญาดา ก็คือถูกไล่ออก จากตระกูลลัดดาวัลย์

ญาดาเองก็รู้จุดๆ นี้ดี ทว่าเธอกลับไม่คิดว่ารพีพงษ์จะมีความ สามารถในการแก้ไขวิกฤตครั้งนี้ของตระกูลลัดดาวัลย์

“เหลวไหล! ” เวลานี้มีเสียงก่นด่าดังขึ้น ทุกคนหันไปมอง ก็ เห็นท่านคทาเดินมา

“รพีพงษ์คือนายใหญ่ของตระกูลลัดดาวัลย์ แกเป็นคนของ ตระกูลลัดดาวัลย์ ไหนๆ ก็ปฏิบัติตัวอย่างไม่มีมารยาทต่อนาย ใหญ่แบบนี้ หรือว่าอยากจะก่อกบฏหรือไง! ” ท่านคทามองญา 11 ดาด้วยความโมโห
ญาดาไม่ได้กลัวแม้แต่น้อย แล้วจับจ้องท่านคทาไว้ “ท่านคทา วันนี้ผู้ที่ควบคุมดูแลงานของตระกูลลัดดาวัลย์แทน ก็น่าจะรู้ดี ตระกูลลัดดาวัลย์ในตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร เรากำลังเผชิญ กับความเสี่ยงอันตรายในเกียวโต และทุกอย่างนี้ ก็เพราะว่าร พงษ์ที่เป็นนายใหญ่คนนี้! ” 11

“ถ้าเขาเป็นนายใหญ่ แล้วนำพาผลที่ตามมาคือทำให้ตระกูล ลัดดาวัลย์พินาศ งั้นเราจะเอานายใหญ่คนนี้ไว้แล้วจะมีประโยชน์ อะไร! ”

คำๆ นี้ของเธอเอ่ยพูดออกมา คนพวกนั้นที่อยู่ข้างหลังเธอจึง ตะโกนขึ้นมาตามทันที ทุกคนถูกทำให้โมโหอย่างมาก

“รพีพงษ์ รีบหลีกตำแหน่งนายใหญ่ของนายออกมา! นายไม่ เหมาะกับตำแหน่ง! ”

“ถึงแม้นายจะมีฐานะว่าเป็นนายใหญ่ แต่ว่าไม่เคยที่จะสนใจ งานของตระกูลลัดดาวัลย์เลย อีกอย่างยังจะสร้างศัตรูอันใหญ่ หลวงแบบนี้ให้กับตระกูลลัดดาวัลย์ นายคือคนบาปของตระกูล ลัดดาวัลย์ ตามกฎของตระกูลแล้ว แกควรถูกไล่ออกจากตระกูล ลัดดาวัลย์! ”

“ต่อให้เป็นสวะ ก็ไม่มีทางทำให้ตระกูลลัดดาวัลย์ตกอยู่ใน สภาพวันนี้ รพีพงษ์ นายมันไม่คู่ควรแม้แต่จะเป็นสวะ แล้วยัง มีหน้ากลับมาอะไรอีก ถ้าฉันเป็นนาย ก็คงจะฆ่าตัวตายเพื่อ ไถ่บาปไปนานแล้ว! ”
ท่าน ทาถูกคําพูดของคนพวกนี้ทำให้สีหน้าแดงขึ้นมาทันที แล้วแทบจะลงไม้ลงมือสั่งสอนพวกเขายกตั้งจนใจจะขาด

เวลา รพีพงษ์จึงผายมือให้ท่านคทา จากนั้นก็เดินไปทางฝั่ง ญาดา

“รพีพงษ์ นายไม่สมควรเป็นนายใหญ่ของตระกูลลัดดาวัลย์ ฉันว่านายรีบหลีกตำแหน่งนี้ออกมาเถอะ ไม่งั้นตระกูลลัดดาวัลย์ จะพังพินาศเพราะนาย! ” ญาดาเงยหน้าขึ้น แล้วมองรพีพงษ์ด้วย สายตาที่ดูหมิ่น

“เธอตัดสินจากตรงไหนว่าตระกูลลัดดาวัลย์จะพังพินาศ? ” รพีพงษ์จับจ้องญาดาแล้วเอ่ยถาม

“กรุ๊ปKINหาเรื่องตระกูลลัดดาวัลย์มาตั้งนานแล้ว ธุรกิจของ เรา ถูกพวกเขากดขี่จนแทบจะเงยหน้าไม่ขึ้น กรุ๊ปKINใช้เงินทุน มาจู่โจมพวกเรา ตามเงินทุนของตระกูลลัดดาวัลย์ แน่นอนว่าคง ไม่มีทางยืดเวลาให้นานเกินไป”

“อีกอย่างพรุ่งนี้กรุ๊ปKINก็จะเข้าสู่การลองเชิงตระกูลลัดดา

วัลย์อย่างสุดความสามารถ ตามสถานการณ์ในตอนนี้ที่ของ

ตระกูลลัดดาวัลย์ อย่างน้อยก็ต้องการกระแสเงินสดหนึ่งหมื่น

ล้าน ถึงจะสามารถฝ่าฟันไปได้ และสิ่งที่ฉันรู้ หลายวันมานี้การ

ต่อต้านกับบริษัทKIN บัญชีของตระกูลลัดดาวัลย์ เหลือแค่พัน

ล้านก็ไม่ถึง”

“ส่วนนายที่เป็นนายใหญ่ ก็ไม่เคยถามเรื่องพวกนี้ นายบอก ฉัน กระแสเงินสดหนึ่งหมื่นล้านนี้ จะเอามาจากไหน? ถ้าไม่ได้มาตระกูลลัดดาวัลย์จะเดินสู่หนทางแห่งความพินาศหรือไม่? ”

ได้ยินคําถามของญาดา รพีพงษ์หัวเราะออกมาทันที แล้วเอ่ย ถามกลับ “เธอแน่ใจขนาดนี้เลยหรอว่าตอนนี้ฉันไม่สามารถเอา เงินหนึ่งหมื่นล้านออกมาได้? ”

ญาดาเบะปากแล้วพูดขึ้น “ฉันรู้ว่านายมีบัตรเครดิตสีดำระดับ โลก ถึงแม้มันจะสามารถใช้เงินได้ไม่จำกัด แต่ไม่มีทางรูดหนึ่ง หมื่นล้านแค่ครั้งเดียว และบริษัทซันบับเบิล กรุ๊ปที่อยู่ในเมือง เวอร์ของนาย ถึงแม้รูปแบบไม่ถือว่าเล็ก ทว่าถ้าอยากจะเอา เงินสดออกมาหนึ่งหมื่นล้าน ก็คงเป็นคนโง่ที่กำลังเพ้อฝันอย่าง ไร้ข้อสงสัย กระแสเงินสดกับมูลค่าทางตลาดของบริษัท ถือเป็น เรื่องสองอย่าง”

“พูดได้ถูก ตอนนี้นายไม่สามารถเอาเงินสดหนึ่งหมื่นล้านออก มา นายก็อย่าเสแสร้งเลย ตระกูลลัดดาวัลย์กลายเป็นแบบนี้ก็ เพราะว่านาย! ” ทุกคนต่างก็ก่นการพีพงษ์

“นึงไม่ถึงว่าเธอยังเข้าใจอย่างกระจ่างแจ้งดีหนิ” รพีพงษ์ยิ้ม แล้วพูด “งั้นฉันจะถามอีกคำ แล้วเธอรู้ได้ไงว่าพรุ่งนี้กรุ๊ป KIN จะ เริ่มลองเชิงตระกูลลัดดาวัลย์อย่างสุดความสามารถหรอ? เรื่อง แบบนี้ ไม่น่าจะเป็นการรักษาความลับอย่างเคร่งครัดหรอ จู่ๆ ก็ จู่โจมตระกูลลัดดาวัลย์แบบนี้ ผลสรุปจะดีกว่าไหม? อีกอย่าง เธอถูกกรุ๊ปKINซื้อใจไปแล้วใช่ไหม? ”

ญาดาเกร็งไปทั้งเรือนร่างทันที ใบหน้าเผยความละอายใจ ออกมาทันที แล้วพูดขึ้น “นายอย่ามาใส่ร้ายฉัน ฉันก็แค่ใช้วิธีของฉันไปสืบค้นออกมาเท่านั้น ฉันไม่เหมือนนาย ไม่ได้ใส่ใจ เรื่องของตระกูลลัดดาวัลย์เลย”

รอยยิ้มบนใบหน้าของรพีพงษ์ก็ค่อยๆ หายไป เขาสามารถ รู้สึกได้ว่าญาดากำลังโกหก เขานึกไม่ถึง ญาตากลับถูก กรุ๊ปKINซื้อใจไป ทีแรกรพีพงษ์แค่คิดว่าญาดามีทางเลือกของตัว เอง ในเวลาแบบนี้เพื่อผลประโยชน์ของตนเองยังทำท่าทีที่ คัดค้านกับรพีพงษ์ และเลือกอันไหนก็มีข้ออ้างได้เสมอ

แต่ว่าเขาคิดยังไงก็นึกไม่ถึง ญาดากลับทำเรื่องที่ทรยศตระกูล ลัดดาวัลย์ นี่ทำให้เขาไม่สามารถทนดูได้

รพีพงษ์กวาดสายตามองทุกคนในเหตุการณ์ แล้วพูดด้วย

เสียงเย็นชา “ฉันสามารถรับประกันกับพวกคุณ พรุ่งนี้การลอง

เชิงของกรุ๊ปKIN แค่จะเป็นเรื่องที่ป่าวประกาศ ฉันรู้ว่าพวกคุณ

ต่างก็มีความคิดบางอย่าง ฉันจะให้พวกคุณมีเวลาคิดพิจารณา

หนึ่งคืน ถ้าพรุ่งนี้พวกคุณยังเหมือนญาดา นึกว่าตระกูลลัดดา

วัลย์จะเดินเข้าสู่เส้นทางที่พังพินาศ งั้นก็อย่าหาว่าฉันที่มีนาย

ใหญ่คนนี้ ไร้จิตใจ”

ญาดาแสยะยิ้มทันที แล้วพูดขึ้น “รพีพงษ์ ทำไมนายถึงไม่คิด ดีๆ ว่าวันนี้นายจะเอาอะไรมารับประกัน? ทุกคนก็ทำเพื่อตระกูล ลัดดาวัลย์เท่านั้น ถ้านายไม่อยากให้ตระกูลลัดดาวัลย์พังพินาศ ทางเลือกที่ดีที่สุด นั่นก็คือถอยตำแหน่งนายใหญ่ออกมา แต่ ไม่ใช่ว่ามาพูดคำพูดที่เป็นจริงที่นี่”

คนที่อยู่ข้างหลังของญาดาต่างก็มองรพีพงษ์ด้วยสีหน้าที่ดูหมิ่น และต่างก็คิดว่าญาดาพูดถูก รพีพงษ์ก็แค่พูดเกินจริงเท่านั้น

“มาถึงเวลาแบบนี้แล้ว นายอย่างมาเสแสร้งที่นี่เลย ถ้านาย หวังดีกับตระกูลลัดดาวัลย์จริงๆ ก็รีบหลีกตำแหน่งนายใหญ่ออก มา ไม่ว่าใครจะเป็นนายใหญ่ ก็ต้องทําได้ดีกว่านายแน่นอน”

“ตอนแรกให้รพีพงษ์ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ มันก็เป็นข้อผิด พลาดตั้งแต่ทีแรก วันนี้ธุรกิจตระกูลลัดดาวัลย์ตกอยู่ใน สถานการณ์ที่อันตราย ทั้งหมดก็คือความรับผิดชอบของรพีพงษ์ เขากลับไม่รู้จักกลับตัวกลับใจ ช่างน่าเกลียดจริงๆ เลย”

“ถ้ารพีพงษ์ดื้อรั้นที่จะให้ตระกูลลัดดาวัลย์เดินไปสู่เส้นทางตัน ถึงเวลาเราก็ทําได้เพียงวางแผนทางออกทางอื่น”

รพีพงษ์ไม่ได้สนใจทุกคนอีก แล้วหันหลังทันที จากนั้นก็เดินไป ทางฝั่งห้องหนังสือ ท่านคทานเห็น จึงมองทุกคนในตระกูลลัดดา วัลย์ด้วยความประหม่า จากนั้นก็หันหลังรีบตามไป

ญาดาจับจ้องเรือนร่างของรพีพงษ์ไว้ สีหน้าเปลี่ยนเป็นเย็นชา

อย่างมาก ผ่านไปสักพัก เธอจึงพูดเองเออเอง “รพีพงษ์

ธรรมชาติของสังคมนี้ยังคงเป็นปลาใหญ่กินปลาเล็ก นายทำ

แบบนี้ ก็แค่เพื่ออนาคตของตัวเองเท่านั้น ใครบ้างที่ไม่อยากให้

ตัวเองมีชีวิตที่ดีหน่อย ฉันไม่ได้คิดว่าตัวเองทำอะไรผิดไป

ในห้องหนังสือ ท่านคทายืนอยู่ตรงหน้ารพีพงษ์ แล้วขมวดคิ้วเป็นปม ผ่านไปสักพัก ก็เอ่ยพูดขึ้น “ถ้าญาดาพูดเป็นความจริง พรุ่งนี้กรุ๊ปKINจะเริ่มลองเชิงสุดความสามารถ ตามกระแสเงินสด ในตอนนี้ของตระกูลลัดดาวัลย์ ก็ไม่มีทางต่อต้านอยู่แล้ว ดูๆ แล้วครั้งนี้กรุ๊ปKINกำลังจะจู่โจมตระกูลลัดดาวัลย์ของพวกเราให้ ล้มละลายในนัดเดียว”

รพีพงษ์จับจ้องไปยังเอกสารบนโต๊ะไปสักพัก จากนั้นก็เงย หน้าขึ้น แล้วยิ้มพูดกับท่านคทา “เรื่องนี้คุณไม่ต้องเป็นห่วงหรอก ก็แค่กระแสเงินสดหนึ่งหมื่นล้านเท่านั้น ผมจะจัดการเอง เป้า หมายของกรุ๊ปKINไม่มีทางสำเร็จ”

ท่านคทาขึงตาโตทันที แล้วพูดขึ้น “รพีพงษ์ นั่นเป็นกระแส เงินสดตั้งหนึ่งหมื่นล้านเลยนะ ต่อให้เป็นบริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง หอการค้าสมน ในโลกธุรกิจ อยากเอากระแสเงินสดออกมาหนึ่ง หมื่นล้านก็ยังยากมากเลย นายแน่ใจหรอว่ามีวิธีจัดการ 11

รพีพงษ์พยักหน้าด้วยความจริงจัง แล้วพูดขึ้น “แน่ใจ”

ท่านคทาครุ่นคิดสักพัก แล้วค่อยถาม “ครั้งนี้นายจากไป ไป เจอกับอะไรมาใช่ไหม? ”

รพีพงษ์ไม่ได้ปิดบัง แล้วพยักหน้า

“จิรเวชคนนั้นทำไมถึงต้องลงไม้ลงมือกับตระกูลลัดดาวัลย์ ด้วย นายรู้เหตุใด ในนั้นไหม? ” ท่านคทาเอ่ยถามต่อ

เขามักจะรู้สึกว่า รพีพงษ์ในตอนนี้ให้ความรู้สึกที่สงบสติ อารมณ์อย่างมาก เหมือนจิรเวชสำหรับเขาแล้วไม่ถือว่าเป็นตัว อะไรเลย
และเขาก็แอบเดาได้ เหตุผลที่รพีพงษ์สามารถสงบสติอารมณ์ แบบนี้ น่าจะเกี่ยวข้องกับการจากไปครั้งนี้

“จิรเวชคือคนของตระกูลนิธิวรสกุล ตระกูลลัดดาวัลย์ของผม เป็นศัตรูคู่อาฆาตของตระกูลนิธิวรสกุล พวกเขาอยากจะทำลาย ล้างพวกเรา ดังนั้นจึงส่งจิรเวชมา” รพีพงษ์พูดขึ้น

ท่านคทาขึงตาโตทันที แล้วมองรพีพงษ์อย่างไม่น่าเชื่อ พร้อม เอ่ยถาม “ตระกูลนิธิวรสกุล? เป็นตระกูลชั้นสูงระดับตระกูลนั้น หรอ? ”

“ท่านคทาเคยได้ยินตระกูลนี้? ” รพีพงษ์ถามอย่างตกตะลึง

ท่านคทาสูดลมหายใจเข้าลึก แล้วพูดขึ้น “ตอนนั้นได้ยินพ่อ ของนายเคยบอก แค่ว่าตอนนั้นพ่อของนายพูดได้ลึกลับมาก แค่ พูดถึงการดารงอยู่ของตระกูลนิธิวรสกุลอย่างคร่าวๆ นึกไม่ถึงว่า พวกเขากลับเป็นศัตรูคู่อาฆาตของตระกูลลัดดาวัลย์”

“ถ้าพูดตามความจริง ตระกูลลัดดาวัลย์คือสาขาย่อยของตระ กูลนิธิวรสกุล แค่ว่าตั้งแต่รุ่นของคุณ ก็ได้ออกจากตระกูลนิธิว รสกุล ถึงรุ่นนี้ของคุณพ่อ ก็ยิ่งเปลี่ยนเป็นตระกูลลัดดาวัลย์ คุณปู่ เสียในน้ำมือของคนในตระกูลนิธิวรสกุล ดังนั้นเรากับพวกเขา คือศัตรูคู่อาฆาต” รพีพงษ์อธิบายขึ้น

ท่าน ทาถูกคำพูดของรพีพงษ์ทำให้ตะลึงงันไม่หยุด ท่าน คทาเป็นติดตามกลุ่มคนนั้นของนนทภู แต่ต่อให้เป็นแบบนี้ ก็ไม่รู้ ตระกูลลัดดาวัลย์และตระกูลนิธิวรสกุลกลับยังมีความสัมพันธ์ แบบนี้
…..นายรู้เรื่องนี้ได้ยังไง? ” เสียงของท่าน ทาสั่นเทา “นาย….

“ครั้งนี้ผมจากไป ไปเจอกับพ่อ” รพีพงษ์พูดด้วยเสียงเรียบเฉย และท่านคทาก็รู้สึกได้ว่ากลางกะโหลกศีรษะของตัวเองเหมือน ถูกฟ้าผ่า ตั้งแต่หัวจรดเท้า ทั้งตัวก็รู้สึกเหน็บชาเล็กน้อย


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ