พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว

บทที่894 ฉันไม่มีญาติอย่างพวกแก



บทที่894 ฉันไม่มีญาติอย่างพวกแก

ทุกคนของตระกูลลัดดาวัลย์ล้วนตะลึงกับพลังที่ทั้งคู่ปล่อยมาเป็น ครั้งสุดท้าย กำลังดูคฤหาสน์พังลงไป ทุกคนล้วนตกใจจนพูดไม่ ออก

“นี่….นี่คือพลังทำลายร้างของแดนดั่งเทพหรือเนี่ย?” ดำเกิง กำลังดูภาพที่อยู่ตรงหน้าแล้วพึมพำกับตัวเอง

“ดูๆไปสิ่งที่อาจารย์พูดไว้นั้นไม่มีผิดเลย เพียงแค่เป็นแดนดั่ง เทพ จึงจะถือว่าแข็งแกร่ง ฝีมืออันน้อยนิดของเราในตอนนี้ เมื่อ อยู่ต่อหน้าคนที่แข็งแกร่งจริงๆ มันต่างกันมากเลย”ปวัตรอุทาน ออกมา

ประวีร์และดิลวิลทั้งสู้ขาเริ่มสั่น พวกเขาไม่คิดมาก่อน ว่าจะมี คนที่ใช้พลัง แล้วจะทำลายล้างสูงแบบนี้

ในสายตาของพวกเขา ไม่ถือว่าเป็นมนุษย์อีกแล้ว มีแค่เทพ เท่านั้นที่จะมีพลังแบบนี้

รพีพงษ์ได้ออกมาด้านนอกก่อนที่คฤหาสน์จะพังลง แต่ปรินทร ไม่ทันได้ระวังตัว ดูตามสถานการณ์น่าจะถูกบ้านทับไปแล้ว

สถานการณ์ของปรินทร ในตอนนี้เป็นอย่างไร รพีพงษ์ก็ไม่ มั่นใจ การจู่โจมเมื่อกี้ใช้พลังทั้งหมดที่มีของเขา และท่านี้มาจาก พลังท่าของวิเศษเสนที่เยี่ยมที่สุด ตามสถานการณ์ไม่มีแดนดั่ง เทพขั้นต้นคนไหนที่จะสามารถรับกับการจู่โจมในครั้งนี้ได้
ทุกคนเห็นรพีพงษ์กำลังยืนอยู่บนพื้นหายใจอย่างเหน็ดเหนื่อย ก็มั่นใจว่าเขาไม่ได้รับบาดเจ็บจากการปะทะเมื่อกี้ ก็โล่งอกกัน

แต่ไม่มีใครรู้ถึงสถานการณ์ของปรินทรในตอนนี้ ดังนั้นทุกคน

ยังคงร้อนรนอยู่เช่นเคย

รพีพงษ์เดินไปที่ซากปรักหักพัง ด้านใต้ของซีเมนต์บอร์ด เห็น ใบหน้าที่เต็มไปด้วยเลือด ปรินทรที่ไม่รู้ว่ายังมีชีวิตหรือตายไป แล้ว

เห็นปรินทรเป็นแบบนี้ รพีพงษ์ก็โล่งอก จากลักษณะของเขา แล้ว อยากจะมีชีวิตต่อไปน่าจะยากแล้ว

รพีพงษ์เดินไป ยื่นมือไปเอาซีเมนต์บอร์ดนั้นออก คิดจะลากปริ นทรออกมา

ในขณะเดียวกันนี้ ปรินทรก็ลืมตาขึ้นมากะทันหัน ลอยไปที่

หน้ารพีพงษ์อย่างเร็ว จะบีบคอเขา

รพีพงษ์มีลางสังหรณ์ ความรู้สึกนั้นมันค่อนข้างลึกลับ เหมือน

กับจิตของเขากำลังบอกว่าปรินทรแกล้งตายอย่างไรอย่างนั้น

เขาตั้งรับ เตรียมที่จะบีบคอปรินทร ออกแรง แล้วดันเขาลงกับ พื้น จากนั้นรพีพงษ์ก็ไปที่ปรินทรอย่างรวดเร็ว ย่อลงไป หลังจากที่

บีบคอเขาจนหักแล้ว จึงได้ผ่อนแรงลง

เสร็จสิ้นทุกอย่าง รพีพงษ์ก็รู้สึกเมื่อยเนื้อครั่นตัว ขาสองข้างก็ เบาหวิว แล้วนั่งลงกับพื้น
ทุกคนเห็นเหตุการณ์ ก็รีบวิ่งที่หารพีพงษ์ พยุงเขาขึ้นมาจาก

“ศิษย์พี่ ไม่เป็นไรใช่มั้ย? เก๋งถามอย่างเป็นห่วง

“หยิบมือถือของแกแล้วอัดคลิปเหตุการณ์ที่นี่ไว้ เน้นที่ปรินทร รพีพงษ์กล่าว

ดำเกิงซะงัก ไม่เข้าใจว่าคืออะไร?

“อัดคลิปทําไม?” ดำเกิงถาม

รพีพงษ์ไม่ตอบคําถามของดำเกิง จากนั้นก็รู้สึกบ้านหมุน แล้ว ก็เป็นลมไป

ดำเกิงเขย่าตัวรพีพงษ์อย่างแรง แล้วถาม “ศิษย์พี่ ยังไม่บอก เลยว่าอัดคลิปทำไม ทำไมเป็นลมไปก่อนเนี่ย

ไอ้อ้วนที่อยู่ข้างๆมองเขา แล้วกล่าว “ลูกพี่อยากจะเก็บการ ต่อสู้ที่ยอดเยี่ยมเอาไว้เป็นที่ระลึกมั้ง แกไม่ต้องถามมาก ให้แก อัดคลิปก็อัดไปเถอะ”

ดำเกิงคิดแล้วคิดอีกก็คิดได้ว่าอาจจะเป็นแบบนี้จริงๆ จึงได้ หยิบมือถือของตัวเองออกมา แล้วถ่ายคลิปไว้

ความจริงแล้วที่รพีพงษ์ให้ดำเกิงเอามือถือถ่ายคลิปใน เหตุการณ์เอาไว้ ก็เป็นเพราะว่าอยากที่จะพิสูจน์เป็นกลุ่มสิงโตว่า ตนเป็นคนฆ่าปรินทรด้วยตัวเอง เพื่อที่จะเอาผลงาน

กฎของกลุ่มสิงโตคือ เพียงแค่สามารถพิสูจน์ได้ว่าคนนี้เป็นคนที่ตัวเองปรีชีพ ก็สามารถเอาผลงานได้ ด้วยวิธีใดๆก็ตาม รพี พงษ์อยู่ในสถานการณ์คับขัน วิธีที่คิดได้คือการถ่ายคลิป

อารียาเดินไปที่รพีพงษ์ มองไปยังผู้ชายที่ช่วยชีวิตเธอไว้อีก ครั้ง ก็ยิ้มอย่างพอใจ จากนั้นก็กล่าวว่า “ฉันดูแลรพีพงษ์เอง เขา น่าจะเหนื่อยแล้ว ดังนั้นต้องการพักผ่อน พวกคุณไปจัดการเรื่อง คฤหาสน์ล่ะกัน

ทุกคนพยักหน้า ดำเกิงมอบรพีพงษ์ให้อารียา

“พี่สะใภ้ จะเอาไงกับพวกมันทั้งสองดี?” ไอ้อ้วนชี้ไปที่ประวีร์ และดิลวิลที่กำลังตัวสั่น

อารียามองไปที่พวกเขาทั้งคู่ ด้วยสายตาเยือกเย็น

“เรื่องนี้มีความเกี่ยวข้องที่พวกมันทั้งสองไม่สามารถหลบเลี่ยง ได้ แม้พวกมันจะมีความสัมพันธ์เป็นญาติกับฉัน แต่ฉันก็ไม่มีทาง ปล่อยพวกมันเอาไว้แน่ พวกมัน แล้วขังไว้รอให้รพีพงษ์ตื่น แล้วค่อยจัดการมัน” อารียากล่าว

ไออ้วนพยักหน้า จากนั้นก็เดินไปที่ประวีร์และดิลวิลด้วยรอย ยิ้มอันแสนชั่วร้าย

ประวีร์และดิลวิลทั้งคู่ร้อนรน ยังไงพวกเขาก็ไม่คาดคิดว่าคน ที่อยู่ต่อหน้าพวกเขาราวกับเทพนั้น จะตายด้วยน้ำมือของรพีพงษ์ พวกเขาอยากหนีก็หนีไม่ได้ ความรู้สึกในตอนนี้เหมือนกำลังจะ ตกนรกอย่างไรอย่างนั้น

ประวีร์จ้องไปที่อารียา จากนั้นก็คุกเข่าต่อหน้าเธอ แล้วอ้อนวอน “น้องสาว พวกเราผิดไปแล้ว พวกเราก็ไม่มีทางเลือกจึง ต้องพาเขามาเกียวโต ตอนนี้เขาตายแล้ว แกก็สบายดี ถือเสียว่า เห็นแก่ความเป็นญาติของเรา ปล่อยพวกเราไปเถอะนะ”

อารียาดูแคลน แล้วกล่าว “ฉันไม่มีญาติอย่างพวกแก เรื่องนี้ ฉันไม่มีทางปล่อยพวกแกเอาไว้แน่ ตนเป็นที่พึ่งแห่งตนเถอะ

ดิลวิลเห็นประวีร์คุกเข่าต่อหน้าอารียาแล้วยังไม่เป็นผล ก็ แสดงสีหน้าที่โศกเศร้าออกมา ในใจเขา เขาก็ยังคงเป็นผู้อาวุโส ของอารียา คนที่อายุน้อยกว่าจะกล้าทำคนที่อายุมากกว่าได้ลง หรือ

“อารียา พอประมาณก็พอแล้ว ประวีร์ก็คุกเข่าให้แกแล้ว แก ยังจะอะไรอีก แกก็สบายดีไม่ใช่หรอ ไม่ว่าจะยังไง พวกเราก็เป็น ญาติของแกนะ หรือแม้แต่ญาติระดับนี้แกก็ไม่นับแล้ว?” ดิลวิล กล่าว

ประวีร์ได้ยินคำพูดนี้ของดิลโลกหน้าซีด พ่อของเขาไม่รู้ถึง ความร้ายแรงของเรื่องนี้เลย

อารียาได้ฟังคำพูดของประวีร์ ก็หัวเราะ เธอจ้องไปที่ดิลวิล จากนั้นก็กล่าวอย่างหนักแน่นว่า “ขอโทษนะ ฉันไม่นับญาติอย่าง พวกแกจริงๆ เอาพวกมันไป

ไออ้วนเดินไปด้านหน้าของทั้งสอง ตบไปที่มือของดิลวิล แล้ว ด่า “มึงกล้าพูดกับพี่สะใภ้แบบนี้หรอ อยากตายใช่มั้ย มึงคิดว่า มึงเป็นใคร กล้ามานับญาติกับคุณนายของตระกูลลัดดาวัลย์ ฝัน ไปเถอะ!”
จากนั้นดิลวิลและประวีร์ทั้งคู่ก็ถูกไอ้อ้วนตบตี แล้วพาออกไปจากที่นี่


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ