พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว

บทที่669 พวกเขาไม่คู่ควร



บทที่669 พวกเขาไม่คู่ควร

“อย่ามาตลก? เอ็กเซลเลนซ์ของพวกเราจะร่วมมือกับกรุ๊ป จริงๆ แต่นี่เป็นการร่วมมือระหว่างประเทศของทั้งสองบริษัท คุณ คิดว่าคุณเป็นใคร อยากจะมาช่วยฉันอีก” เดซี่พูดกับรพีพงษ์ อย่างไม่พอใจ

“เอิ่ม ในHXกรุ๊ป คำพูดผมก็มีค่านะ” รพีพงษ์กล่าว

เดซี่จ้องไปที่รพีพงษ์ด้วยสายตารังเกียจ แล้วกล่าว “วัด คุณ รีบให้มันไปเถอะ ฉันทนไม่ไหวแล้ว ในโลกนี้ทำไมยังมีคนที่หน้า ด้านแบบนี้อีกนะ HXกรุ๊ปเป็นบริษัทอินเตอร์เน็ตชั้นนำ กับพ่อ บ้านอย่างแกจะพูดอะไรได้ แม้แกอยากคุยโว ก็หาข้ออ้างอย่าง อื่นดีกว่าป้ะ?”

หวัดก็มองไปที่รพีพงษ์อย่างไม่พอใจ กล่าว “พวกเราคุยกัน ดีๆ อย่าขี้โม้ ผมรู้ว่าตอนที่คุณดื่มเหล้ากับพวกชาวนานั้นลอบคุย โว แต่อยู่ต่อหน้าพวกเราไม่จำเป็นต้องทำแบบนั้น เรามันคนละ ชั้น ไม่มีใครชอบฟังแกโม้”

รพีพงษ์กระพริบตา แล้วกล่าว “ทำไม ดูถูกชาวนาหรอ?

“เหอะเหอะ ก็แค่แบกหาม ทำไมฉันจะดูถูกไม่ได้”

รพีพงษ์หน้านิ่ง ความจริงเขาอยากช่วยเอ็กเซลเลนซ์ หวัดและ เดซี่จะไม่เชื่อก็ชั่ง แล้วยังจะดูถูกชาวนาอีก ทำให้เขารู้สึกรับไม่ ได้จริงๆ
แกคิดว่าแกเป็นใคร ไม่ให้เกียรติใครทั้งนั้น แม้แกจะมีมาก สุดท้ายก็เป็นแค่คนที่รวยข้ามคืนแล้วขาดการอบรมสั่งสอน” รพี พงษ์ตอกกลับอย่างไม่เกรงใจสักนิด

สีหน้าทั้งสองเปลี่ยนไป ไม่คาดคิดว่ารพีพงษ์จะกล้าพผุดแบบ นี้กับพวกเขา ในใจ รู้สึกวาารพีพงษ์ก็เป็นแค่ไอ้สวะ ไม่ว่าเขาจะ พูดอะไร ก็ไม่มีสิทธิ์ตอบกลับทั้งนั้น

“แกว่าใครรวยข้ามคืน! แกไอ้สวะ กล้าพูดแบบนี้กับฉัน อยาก ตายหรือไง!” เดซี่ยืนขึ้นทันที จมูกแล้วดารพีพงษ์

ทุกคนที่อยู่ในร้านอาหารต่างหันหน้ามอง ธวัตรู้สึกอาย จึงรีบ ลากเดซี่ แล้วกล่าว “คุณใจเย็นๆนะ ที่นี่คนเยอะ อย่าเป็นตัวตลก ให้ทุกคนหัวเราะ”

เดซี่นั่งลง แต่ยังคงจ้องไปที่รพีพงษ์ด้วยความโมโห

วัดมองรพีพงษ์ด้วยสีหน้าไม่พอใจ แล้วกล่าว “รพีพงษ์ แก รีบขอโทษเดชะ เห็นแกอารียา พวกเราจะไม่คิดเล็กคิดน้อยกับ แก รู้เรื่องหน่อย อย่าทะเลาะกับพวกเรา ทำผิดกับเรา ไม่มีประโย ชน์ใดๆ”

“ผมอยากช่วยพวกคุณ แต่เธอกลับพูดจาหยาบคาย แล้วยัง ดูถูกชาวนาอีก ทําไมผมต้องขอโทษเธอ?” รพีพงษ์กล่าวอย่าง สงบ

“พอแล้ว คุณหยุดเสแสร้งได้ล่ะ คุณช่วยอะไรได้ เราองของคุณ ใครบ้างไม่รู้ อย่ามาคุยโวโอ้อวด รีบขอโทษเดซี่ซะ”ธวัต กล่าว อย่างรําคาญ
รพีพงษ์ยืนขึ้นจากเก้าอี้ แล้ววางคีย์การ์ดห้องและกระดาษที่ อยู่ไว้บนโต๊ะ แล้วกล่าว “เห็นแก่อารี วันนี้ผมไม่คิดเล็กคิดน้อย กับพวกคุณ นี่เป็นห้องที่จองไว้ให้ พวกคุณไปกันเองล่ะกัน ถ้า พวกคุณยังคิดไปเองอีกล่ะก็ ผมจะไม่เกรงใจแล้วนะ”

พูดจบ รพีพงษ์ก็หันหลังเดินออกไป

“แกดูถูกใคร ใครเสียดายห้องที่แกจึงไว้ไม่แน่อาจจะเป็นห้อง ที่อยู่บริเวณขอทานอาศัยอยู่ก็เป็นได้ ถ้าแน่ก็อย่าเพิ่งไป ซึ่งน่า โมโหจริงๆ!” เด ตะโกนไปที่รพีพงษ์

วัดห้ามเดไว้ แล้วปลอบใจว่า “พอแล้วพอแล้ว มันคงกลัว แล้วแหละ ดังนั้นจึงหนีหัวซุกหัวซุนไปเลย เชื่อแล้ว ยังสำคัญตัว เองอีก เราอย่าไปใส่ใจคนแบบนั้นเลย”

“บอกแล้วว่าประเทศไม่มีอะไรดี ตอนนี้คุณเชื่อแล้วยัง คนที่นี้ สันดารเสีย ทุกๆคนอะ สำคัญตัวเองทั้งนั้น ไม่ได้ๆ รอให้คุณรับ ช่วงต่อเอ็กเซลเลนซ์ก่อน แล้วฉันจะกลับอเมริกา คนที่นั่นดีๆทั้ง นั้น” เดซี่กล่าวอย่างโมโห

“โอเค โอเค เอาตามที่คุณว่า เดี๋ยวผมจะบอกอารียาเรื่องนี้ จะ ต้องให้ไอ้สวะนั่นขอโทษคุณให้ได้ เรากินข้าวก่อนดีไหม” วัต ปลอบโยนเดซี่

เดซี่ส่งเสียงอืม และไม่ใส่อารมณ์อีก

คนรอบๆจ้องไปที่วัดและเดซี่ ล้วนรู้สึกไม่พอใจ คำพูดของเด เมื่อยั่วโมโหพวกเขา แต่ทุกคนไม่อยากมีเรื่อง ดูเหตุการณ์ที่ เกิดขึ้นก็พอแล้ว
นอกร้านอาหาร รพีพงษ์เดินไปยังที่รถโรลส์รอยซ์ด้านหน้า คนจํานวนไม่น้อยล้อมรอบอยู่ จ้องไปที่รถหรูอย่างไม่ละสายตา ล้วนรู้สึกอิจฉา

รพีพงษ์เดินไปถึงรถด้านหน้า แล้วเรียกคนในรถออกมา เปิด ประตูม ให้รพีพงษ์

รพีพงษ์นั่งในรถ คนที่เปิดประตูนั่งที่คนขับ แล้วถาม “คุณรพี

คุณ ให้ผมมา รับคนไม่ใช่หรอ?”

“ไม่ต้องรับแล้ว พวกเขาไม่คู่ควร รพีพงษ์กล่าวอย่างสงบ คนขับรถเข้าใจความหมายที่รพีพงษ์พูด ก็สตาร์ทรถทันที ออกจากที่นี่ จากสายตาที่อิจฉา

โรลส์รอยซ์คันนี้เป็นรถที่รพีพงษ์นั่งมาร้านอาหารแล้วโทร เรียกให้คนมารับ โดยเฉพาะ ตอนเขาออกมารู้สึกว่าเรียกรถนั้น สะดวก ไม่จําเป็นต้องขับรถ แต่เมื่อคิดว่าต้องไม่ให้อารียาเสีย หน้า จึงได้ให้คนเอารถมาส่ง

ใครจะรู้ว่าฑวัตและเดซี่เรียกให้เขามาเพื่อจะโอ้อวด แล้วยัง บูชาคนต่างชาติอีก ดูถูกคนอื่น ดังนั้นรพีพงษ์จึงไม่จำเป็นต้อง เกรงใจพวกเขา และไม่ต้องใช้รถคันนี้ส่งพวกเขาอีก

ที่เอาคีย์การ์ดห้องพักไว้ให้นั้น เป็นเพราะรพีพงษ์เห็นแก่อารียา

เมื่อทานข้าวเสร็จ หวัดและเดซี่ทั้งสองออกมาจากร้านอาหารวัตถือคีย์การ์ดห้องทรพีพงษ์เอาไว้ให้แล้วดูกระดาษที่เขียนที่ อยู่ไว้ แล้วกล่าว “ไม่งั้นเราไปยังโรงแรมที่รพีพงษ์จองไว้ให้สัก หน่อยไหม?

“ไปที่นั่นทำไม มันจะจองที่ดีๆอะไรให้เราได้ ไม่แน่อาจจะ เหมือนคอกหมูเลยก็ว่าได้” เดซี่ไม่พอใจ

“ถ้ามันเลวร้ายมาก เราก็ถ่ายรูปไว้ แล้วลงนิวฟีด ถ้าโอเค พวกเราก็อยู่ไปก่อน ยังไงอยู่ไม่อยู่ก็ค่าเท่ากัน แล้วที่นี่ก็ไม่ไกล จากที่ๆเราอยู่ตอนนี้ด้วย เดินกที่ก้าวก็ถึงแล้ว” ฑวัตกล่าว

เดซี่ฟังแล้วรู้สึกว่ามีเหตุผล ก็พยักหน้า ทั้งสองจึงเดินไปพร้อม กัน

ไม่นาน ขวัดและเดซี่ทั้งสองได้หยุดอยู่ตรงหน้าโรงแรมระดับ ห้าดาว

ทั้งสองจ้องไปที่โรงแรมใหญ่โตที่สว่างแวววาวอย่างไม่คาด คิด ทวัตดูที่อยู่ในกระดาษอย่างละเอียดหลายครั้ง รู้สึกว่าตัวเอง มาผิดที่

“คุณแน่ใจว่าที่เขาจอง ให้เรา คือที่นี่?” เดถาม

“ดูตามที่อยู่แล้ว ก็ไม่ผิดนะ ถนนซะอิง189 ป้ายเขียนอยู่ตรง นั้นไง” ทวัตรู้สึกแปลกใจ

“ทำไมฉันรู้สึกแปลกๆ ไอ้สวะนั่นมันจะจองโรงแรมดีแบบนี้ให้ เราเลยหรอ? นี่คงไม่ใช่คีย์การ์ดปลอมหรอกนะ” เดซี่กล่าว

“ผมไปถามก็รู้แล้ว ถ้ามันปลอมจริงๆ ผมจะว่าอารียา ว่าเธอตาบอดจริงๆ ที่ว่าสามีแบบนี้” ทวัดพูดพลาง ก็เดินไปที่ประตู ของโรงแรม

ทั้งสองมาถึงหน้าประตู ยื่นบัตรนั้นให้ แล้วถาม “มิทราบว่าคีย์ การ์ดใบนี้เป็นห้องของที่นี่หรือไม่?”

คนที่อยู่หน้าประตูรับบัตรมาดู จากนั้นก็เคารพนอบน้อมแล้ว กล่าว “ใช่ คุณผู้ชายคุณผู้หญิง นี่คือคีย์การ์ดของห้องเพรสซิเดน สูทของเรา ยินดีต้อนรับทั้งสองเข้าพัก

“อะไรนะ ห้องเพรสซิเดนสูท!”

วัตและเดซี่สบตากัน ด้วยความตกใจ


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ