พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว

บทที่ 690 ท่านเปลี่ยนแปลง



บทที่ 690 ท่านเปลี่ยนแปลง

โคจยิ้มกว้างอย่างพอใจ ไม่ได้ใส่ใจกับคำพูดที่ตรงเป้าหมาย ของรพีพงษ์ เขาเป็นคนที่อาจหาญไม่คิดมาก ก่อนหน้านี้คิดเอง เออเองเกินไปจริงๆ ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเทือกเขาสนา ก็คิดว่า เทือกเขากิสนาเป็นแค่สวนสนุก และลูกชายของเจ้านายเทือกเขา กิสนาคงจะไม่มีความสามารถอะไร

ตอนนี้รพีพงษ์ได้พิสูจน์ตัวเองด้วยความแข็งแกร่งแล้ว โศศุจก เต็มใจที่จะยอมรับการมองด้านเดียวของตัวเองก่อนหน้านี้ ฐานะประธานของสำนักงานใหญ่สหพันธ์สหภาพจีน ความใจ กว้างนี้เขาก็ยังคงมีอยู่

“ก่อนหน้าฉันมองพลาดไปจริงๆ หวังว่าน้องชายไม่เอามา ใส่ใจ พวกเราเป็นนักสู้ เคารพในความแข็งแกร่ง นายสามารถมี ความแข็งแกร่งเช่นนี้ได้ตั้งแต่อายุเท่านี้ มันหาได้ยากในโลกนี้ มองไปที่ประเทศจีนทั้งหมด มีความสามารถอย่างนายมีจำนวน น้อย ดูเหมือนว่าฉันควรจะต้องทำความเข้าใจเทือกเขากิสนาว่า มีความเป็นอยู่อย่างไรจริงๆ” โศศุจเอ่ยปาก

รพีพงษ์ตอบกลับด้วยรอยยิ้ม ท่าทีของโศศจที่จะรับผิดชอบ ต่อสิ่งที่ตัวเองพูดทำให้เขามองดูดีมีระดับ

เขมทัตมองไปที่รพีพงษ์ด้วยรอยยิ้ม เอ่ยปากว่า “ฉันดูท่วงท่า เมื่อกี้นี้ของน้องชายค่อนข้างแปลก ฉันเคยสัมผัสกับศิลปะการ ต่อสู้มานับไม่ถ้วนในชีวิต แต่ไม่เคยเห็นสำนักของน้องชายมาก่อน ไม่รู้ว่าอาจารย์ของน้องชายอยู่ที่ไหน?

“อาจารย์เคยสั่งไว้ ไม่สะดวกที่จะบอก รพีพงษ์เอ่ยปาก เขมทัตพยักหน้า และไม่ถามอะไรอีก

พิชยะกัดฟันแล้วลุกขึ้นจากพื้น เอ่ยปากว่า “เมื่อกี้นี้ฉันแค่ ประมาทเท่านั้นเอง ไม่อย่างนั้นนายไม่มีทางมองจุดอ่อนของฉัน ออก ที่สำคัญในระหว่างต่อสู้ก็ออมมือให้นายไปมากมาย พวก เรามารู้อีกครั้ง ครั้งนี้ฉันไม่มีทางออมมือให้นายแน่ นายแพ้ แน่นอน!”

เมื่อเขมทัตได้ยินคำพูดของพิชยะสีหน้าก็เปลี่ยนเป็นคำทันที ตะโกนเสียงใส่เขาทันที “หยุดก่อความวุ่นวายได้ล่ะ แพ้แล้วก็ คือแพ้ หรือว่าแกยังขายหน้าไม่พออีกเหรอ!”

“พ่อ เมื่อกี้นี้เป็นเพราะผมออมมือให้เขาจริงๆ ถึงปล่อยให้เขา มีโอกาส ไม่อย่างนั้น…”พิชยะไม่ยอมปล่อยผ่านไปแบบนี้ ชาลิ สามองดูอยู่ด้านข้าง ถ้าหากปล่อยผ่านไปแบบนี้ จากนี้ไปภาพ ลักษณ์ตัวเองในความคิดของชาลิสาคงจะแย่ลง

เขมทัตโกรธจนหน้าเขียว การต่อสู้ก่อนหน้านี้ ทั้งๆที่รพีพงษ์ จงใจออมมือให้เขา ถึงได้ทำให้เขายืนหยัดมาได้นานขนาดนี้ ถ้า หากรพีพงษ์ต้องการที่จะชนะจริงๆ เขาแพ้ไปนานแล้ว

ตอนนี้พิชยะกลับคำบอกว่าเขาออมมือให้รพีพงษ์ถึงได้แพ้ เท่ากับว่าทําให้เขาอับอายขายหน้ามาก

“แกหุบปากเดี๋ยวนี้!”เขมทัตตะโกนใส่พิชยะ “ความสามารถไม่เท่าคนอื่นก็ต้องยอมรับ อย่าหาข้อแก้ตัวให้ตัวเอง ถ้าแกยัง เป็นแบบนี้อีก ต่อให้จะมีความสามารถแค่ไหนก็ตาม ก็ยากที่จะ กลายเป็นเซียนได้!”

พิชยะถึงได้ปิดปากเงียบ แต่ก็มองออกว่าเขาไม่พอใจ

โสดุจหันหน้าไปมองที่ชาลิสา เอ่ยปากว่า “ลิสา แกยังยืมเฉย

อยู่อีกทำไม รีบไปจัดเตรียมห้องให้น้องชายคนนี้ ช่วงที่เขาอยู่ อเมริกา ก็พักที่บ้านของเรา” “พอดีเลยถ้าในด้านเนยจิ้งแกมีอะไรที่ไม่เข้าใจ ก็สามารถขอ

คําแนะนำจากเขาได้

ชาลิสามองไปที่พ่อของตัวเองด้วยสีหน้าตกตะลึง ไม่คาดคิด ว่าท่าทีที่เขามีต่อรพีพงษ์จะเกิดเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ขนาดนี้ นี่ กับเมื่อกี้แตกต่างกันราวกับฟ้ากับดิน

เมื่อเขมทัตได้ยินคำพูดของโสสุจ ก็ถอนหายใจอย่างหมด หนทางทันที ความหมายของโสสุจนั้นชัดเจนมาก เขาไม่รังเกียจ ที่ลูกสาวของตัวเองจะใกล้ชิดกับรพีพงษ์

ก่อนที่รพีพงษ์จะปรากฏตัว เขามักจะพูดแบบนี้กับพิชยะ

แต่เขาก็ไม่สามารถพูดอะไรได้ ท้ายที่สุดถ้าเปลี่ยนเป็นเขา เขาก็คงจะให้ลูกสาวของเขาใกล้ชิดกับรพีพงษ์มากๆ แน่นอน ไม่มีใครต่อต้านผู้ชำนาญที่มีพรสวรรค์ที่ยอดเยี่ยมเช่นนี้ได้

โดยปกติเมื่อผู้คนพบเจอสิ่งที่ดีกว่า ก็จะลืมสิ่งก่อนหน้านี้ไป

“ใช่แล้ว ยังไม่รู้ชื่อของน้องชายเลย ฉันจะเรียกนายว่าน้องขายไปตลอดมันก็ไม่ค่อยเหมาะสม โดศุจจ้องไปที่รพีพงษ์แล้ว เอ่ยปากถาม

“รพีพงษ์”รพีพงษ์บอกชื่อของตัวเอง

โสดุจพยักหน้า หันหน้าไปมองชาลิสาอีกครั้ง เอ่ยปากว่า “แกยังยืนเฉยอยู่อีกทำไม รีบไปช่วยจัดเตรียมห้องนอนให้น้อง รพีพงษ์สิ”

ชาลิสาถึงค่อยดึงสติกลับมา จ้องไปที่รพีพงษ์ด้วยท่าทาง แปลกๆ จากนั้นก็พูดว่า “ตามฉันมา

รพีพงษ์สองมือประสานแล้วคำนับให้โศศจและเขมทัต จากนั้น ก็เดินตามซาลิสาเข้าไปข้างใน

ในไม่ช้า ชาลิสาพารพีพงษ์มาถึงที่ห้องพัก และพูดว่า “ช่วงนี้

นายพักที่นี่ไปก่อน ถ้าหากต้องการอะไร สามารถบอกกับฉันได้

ตลอดเวลา”

“ขอบคุณ”รพีพงษ์กล่าวประโยคเดียว

ชาลิสาไม่ได้พูดอะไร จ้องไปที่รพีพงษ์อย่างครุ่นคิด และถาม ว่า: “นายเพิ่งจะบรรลุถึงเน่ยจิ้งพื้นฐานเองไม่ใช่เหรอ ทำไมนาย ถึงได้แข็งแกร่งมากขนาดนี้ล่ะ? นายจงใจแสร้งทำเป็นว่าเพิ่งเข้า สู่เนยจิ้งพื้นฐานต่อหน้าฉันเหรอ?”

รพีพงษ์มองไปที่ชาลิสาอย่างกลืมไม่เข้าคายไม่ออก เอ่ยปาก ว่า “ฉันไม่เคยยอมรับว่าฉันมีความแข็งแกร่งเพียงเนยจิ้งพื้น ฐานนะ คุณเดาของคุณเอง”
ชาลิสาย้อนนึกดูบทสนทนาตั้งแต่ตัวเองเจอรพีพงษ์ พบว่าตัว เองจากท่าทีของรพีพงษ์ ก็สันนิษฐานว่าเขาเพิ่งก้าวเข้ายอดฝีมือ เนยจิ้งพื้นฐาน

และตัวเองเป็นเพราะแบบนี้ ท่าทีที่มีต่อรพีพงษ์จึงสามารถพูด ได้ว่าค่อนข้างแย่ แต่เขาก็ไม่สนใจ แต่กลับปฏิบัติอย่างใจเย็น เสมอ เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ ชาลิสารู้สึกได้ทันทีว่าตัวเองเทียบกับร พงษ์แล้ว ยังห่างไกลกันมาก

สีหน้าของเธอแดงขึ้นเผยถึงความกระอักกระอ่วน หลังจากที่ รพีพงษ์เห็น กลับรู้สึกรู้สึกว่า ใบหน้าที่เรียวสวยชาลิสา มีความ น่ารักเพิ่มขึ้นอีก

“ขอ…..ขอโทษนะ ก่อนหน้านี้ฉันเข้าใจนายผิด ท่าทีของฉันจึง ค่อนข้างแย่ไปบ้าง หวังว่านายจะไม่ถือสา”ชาลิสากล่าวด้วย ใบหน้าที่เต็มไปด้วยความรู้ผิด

รพีพงษ์ยิ้มเล็กน้อย แล้วพูดว่า: “ไม่เป็นไร

ชาลิสาคิดว่ารพีพงษ์เป็นคนใจกว้างจริงๆ และความแข็งแกร่ง ก็ทรงพลังขนาดนี้ อายุรุ่นราวคราวเดียวกับหล่อน…..

เดี๋ยวก่อนนะ รพีพงษ์มีสถานะของการสลับไปมาระหว่างวิชา หายใจออกและการหายใจตามปกติอยู่จริงๆด้วย ซึ่งแสดงให้ เห็นว่ารพีพงษ์ชำนาญเน่ยจิ้งได้ภายในช่วงเวลาสั้นๆ อย่างน้อย ก็คงจะภายในหนึ่งปี

และเขาสามารถเอาชนะพิชยะที่ความแข็งแกร่งบรรลุถึงเน่ยจิ้ง ชั้นต้น ซึ่งแสดงให้เห็นว่าความแข็งแกร่งของเขาก็บรรลุถึงเน่ยจิ้งชั้นต้น ที่สำคัญยังทรงพลังกว่าด้วย

สองสิ่งนี้เชื่อมโยงเข้าด้วยกัน ชาลิสาก็ได้ข้อสรุปว่า: รพีพงษ์ ภายในหนึ่งปี ก็ชำนาญเน่ยจิ้ง บรรลุถึงความแข็งแกร่งเน่ยจิ้งชั้น ต้นได้แล้ว!

หากสามารถบรรลุถึงเน่ยจิ้งชั้นต้นได้ในวัยนี้ เป็นผู้ชำนาญ หนึ่งในหมื่นคน และภายในหนึ่งปีจากพื้นฐานไปถึงชั้นต้น นี่ถือ ได้ว่าเป็นปีศาจ

ชาลิสามองไปที่รพีพงษ์ด้วยความไม่เชื่อ และพูดด้วยเสียงสั่น คลอน: “นาย….นายใช้เวลาเพียงหนึ่งปี จากเนยจิ้งพื้นฐาน บรรลุถึงระดับเน่ยจิ้งชั้นต้น นี่….นี่มันผิดปกติเกินไปแล้ว!

เมื่อได้ยินคำพูดของชาลิสา รพีพงษ์กล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “คุณเดาผิดแล้ว”

“เป็นไปไม่ได้! นายอย่ามาหลอกฉัน ฉันเดาได้ไม่มีทางผิด”ชา ลิสาพูดอย่างเด็ดขาด

รพีพงษ์ยักไหล่ และไม่ได้เถียง แต่ว่าชาลิสาเดาผิดจริงๆ

ความแข็งแกร่งของรพีพงษ์ตอนนี้คือเนยจึงขั้นกลางไม่ใช่เนีย จิ้งชั้นต้น ที่สำคัญใช้เวลาเพียงแค่ครึ่งปี ไม่ใช่หนึ่งปี

ผู้หญิงคนนี้ คิดเองเออเองอีกแล้ว


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ