พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว

บทที่ 656 ใครบอกแกว่าฉันตายแล้ว



บทที่ 656 ใครบอกแกว่าฉันตายแล้ว

ภายในห้องนั่งเล่นตระกูลลัดดาวัลย์

จารุณีนั่งคิ้วขมวดอยู่บนโซฟา ท่านคทากับคนระดับสูงใน ตระกูลลัดดาวัลย์ก็นั่งอยู่ที่นี่ด้วย บรรยากาศค่อนข้างน่าอึดอัด

เพราะกำลังจะถึงช่วงเตรียมคลอดแล้ว อารียาจึงไม่มีทาง จัดการเรื่องในตระกูลได้ จึงทำได้เพียงยกเรื่องในตระกูลให้ท่าน คทาดูแล ขณะนี้อารียากำลังเตรียมตัวอยู่ในห้องที่ถูกจัดไว้อย่าง ดี คุณหมอถูกเชิญกลับมาที่บ้าน เพื่อที่จะไม่ให้เกิดเรื่องที่ไม่คาด ฝันระหว่างคลอด

จากสถานการณ์ของตระกูลตอนนี้ ถ้าไปคลอดที่โรงพยาบาล ตระกูลนฤวัตปกรณ์กับตระกูลวรโชติธีรธรรมอาจจะมีแผนไม่ดี ดังนั้นเลยทําได้เพียงเตรียมของในคฤหาสน์ใหญ่ตระกูลลัดดา วัลย์ให้พร้อม

“ท่านคทา ขอร้องล่ะช่วยหอการค้าสมน. ของพวกเราด้วย ช่วง นี้ตระกูลนฤวัตปกรณ์กับตระกูลวรโชติธีรธรรมเอาแต่เล่นงานเรา มันใช้วิธีทำให้เราต้องเสียเงินห้าหมื่นล้าน ถ้าก่อนวันนี้เราไม่ สามารถอุดช่องโหว่นี้ได้ หอการค้าของสมนของเราต้องจบเห่ แน่ๆ ” จารุณีพูดอ้อนวอนท่านคทา

ตระกูลนฤวัตปกรณ์กับตระกูลวรโชติธีรธรรมจะจัดงานแบ่ง ธุรกิจของตระกูลลัดดาวัลย์ในคืนพรุ่งนี้ ช่วงนี้พวกนั้นต้องทำให้ ทุกคนเชื่อว่าตระกูลลัดดาวัลย์ไม่ได้แข็งแกร่งอีกแล้ว และกลายเป็นเบี้ยล่างของพวกเขา

ถ้าหอการค้าสมน.จะล้มละลายก่อนงานในคืนพรุ่งนี้ ต้องสร้าง ความเชื่อใจให้กับคนจำนวนมากได้อย่างไม่ต้องสงสัย พวกนั้น จะยิ่งบีบบังคับให้ตระกูลลัดดาวัลย์แบ่งส่วนแบ่งได้ง่ายขึ้น

ท่านคทามองจารุณีด้วยสีหน้าลำบากใจ ถึงแม้ว่าตอนนี้ สถานการณ์ของตระกูลลัดดาวัลย์จะดีกว่าหอการค้าสมนเล็ก น้อย แต่มันก็ไม่ดีได้ขนาดนั้น อีกทั้งตอนนี้ทั้งเมืองเกียวโตก็ต้อง จะจัดการกับตระกูลลัดดาวัลย์ การที่จะเอาเงินห้าหมื่นล้านมาให้ หอการค้าสมน นับว่าเป็นตัวเลือกที่ยากมาก

แต่ก่อนหน้านี้อารียาได้บอกไว้ว่าไม่ว่าจารุณีจะขอร้องอะไร ต้องทำให้เธอพอใจ อย่างที่สุภาษิตกล่าวไว้ว่าน้ำพึ่งเรือ เสือพึ่ง ป่า ถ้าหอการค้าสมน.พังลง ก็ไม่ได้มีผลดีกับตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณจารุณี ตอนนี้คุณก็น่าจะรู้สถานการณ์ของตระกูลเรา เรา โดนจับตามองในทุกด้าน เงินของตระกูลในตอนนี้ก็ใช้เพื่อรักษา อุตสาหกรรมเอาไว้ เงินที่เราสามารถให้ได้แค่สามหมื่นล้าน เท่านั้น เดี๋ยวผมจะให้คนโอนเงินไปให้คุณ ส่วนที่เหลือเราไม่ สามารถช่วยได้แล้วจริงๆ” ท่านคทาเอ่ยขึ้น

จารุณีมองท่านคทาอย่างซาบซึ้ง ถึงแม้เงินสามหมื่นล้านยังไม่ สามารถเอาไปอุดส่วนที่ขาดหายไปได้ แต่มันสามารถทำให้หอ การค้าสมนยังอยู่ต่อได้อีกสักพัก ทำให้พวกเขามีเวลาไปหาวิธี อื่น

“ท่านคทา เงินนี่เราให้ไม่ได้นะ ตอนนี้ตระกูลของเราเป็นยังไงคุณน่าจะรู้ดี ตอนนี้เรายังเอาตัวเองไม่รอดเลย จะเอาเวลาที่ไหน ไปสนใจหอการค้าสมุนล่ะ!” ชายผมหงอกอย่างโดยรีบเอ่ยขึ้น

“ใช่ นั่นเงินสามหมื่นล้าน ตอนนี้ตระกูลลัดดาวัลย์ยังเอาตัวไม่ รอด ทำไมไม่เก็บเงินเอาไว้ เอาเงินไปให้คนอื่นทำไม!” ตันหยง พูดเสริม

ท่านคทาหันไปมองทั้งสองคน แล้วพูดด้วยน้ำเสียงเย็นซาว่า “นี่เป็นคําสั่งของนายหญิง เมื่อหอการค้าสมนลำบาก พวกเราจะ ไม่สนใจไม่ได้”

โสธัยกับตันหยงมองหน้ากัน ดูเหมือนทั้งสองคนจะไม่สบ

อารมณ์

จารุณีคิดไม่ถึงว่าจะมีคนคัดค้านเรื่องนี้ ความหวังที่เพิ่งจะเริ่ม มีขึ้นมากลับต้องพังทลายลง

“ท่านคทา เรื่องนี้ไม่ว่านายหญิงจะสั่งหรือไม่ คุณต้องพิจารณา ถึงตระกูลของเราด้วย จุดประสงค์ที่ตระกูลนวัตปกรณ์กับตระ กูลวรโชติธีรธรรมจัดงานในคืนพรุ่งนี้ เราคงไม่ต้องพูดถึงแล้ว ตระกูลของเราอาจจะยื้อไม่ได้อีก คุณมีเงินขนาดนั้น แบ่งให้ คนในบ้านดีกว่า ในสถานการณ์แบบนี้ ทุกคนก็ไม่อยากเร่ร่อน หรอกนะ” ตันหยงพูดด้วยสีหน้ากระวนกระวาย

โดยส่งเสียงที่ออกมา แล้วพูดว่า “ท่านคทา วันนี้ไม่มีคนอื่น ผมพูดตรงๆ เลยแล้วกัน อารียาคือนายหญิง แต่นี่ไม่ได้เป็นของ เธอ มันเป็นของพวกเรา วันนี้เธอมาควบคุมตระกูลของเรา แถม ยังช่วยคนอื่นอีก นี่มันไม่สมเหตุสมผลเอาเสียเลย แถมยังเอาแต่พูดว่านายใหญ่ยังมีชีวิตอยู่ เขาจะกลับมาไม่ช้าก็เร็ว แต่ความ จริงเป็นยังไงพวกเรารู้อยู่แก่ใจ นี่เป็นแค่ข้ออ้างที่เธอจะใช้ อำนาจในตระกูลของเรา ถ้าเป็นอย่างนี้ต่อไป ตระกูลของเรา จบเห่แน่ และคนในตระกูลก็ต้องล่มจมเพราะเรื่องนี้

“บังอาจ” ท่านคทายวาดออกมา “นายกล้าพูดอย่างนี้กับนาย หญิงเหรอ กล้ามากเลยนะ!”

โสธัยแบะปาก แล้วพูดว่า “ไม่ว่ายังไงผมก็เป็นผู้อาวุโสใน ตระกูล ผมแค่อยากให้คุณเห็นความจริงเท่านั้น สรุปว่า ผมไม่ เห็นด้วยกับการเอาเงินสามหมื่นล้าน ให้หอการค้าสมน

“ผมก็ไม่เห็นด้วย!” ตันหยงตะโกนออกมาเช่นกัน

ส่วนคนระดับสูง ในตระกูลที่เหลือเงียบและไม่พูดอะไร ดูออก ว่าพวกเขาคล้อยตามคำพูดของโดย

จารุณีเห็นเหตุการณ์ตรงหน้า เธอเหนื่อยใจ เธอรู้ดีว่าอารียาดี กับเธอ และอารียาก็ไม่ใช่หัวหน้าของตระกูล การที่คนพวกนี้ คัดค้าน มันก็อยู่บนหลักของเหตุผล

ท่านความองโศรัยกับตันหยง ในใจของเขาโกรธเป็นอย่าง มาก เขาสืบพบว่า ในช่วงนี้สองคนนี้ไปมาหาสู่กับคนในตระกูลวร โชติธีรธรรม เขารู้อยู่แก่ใจว่าสองคนนี้กำลังทรยศตระกูล แต่เขา ยังไม่มีหลักฐานมามัดตัวสองคนนี้

เขารู้ว่าสองคนนี้ไม่ได้คิดถึงตระกูล แต่เพราะไม่อยากให้แผน ของตระกูลนฤวัตปกรณ์กับตระกูลวรโชติธีรธรรมมีช่องโหว่ เท่านั้น
ถ้าพูดตามหลักเหตุผล ค่าพูดของโดยไม่ได้มีอะไรน่าสงสัย เลย ถ้าเขายังดึงดันเอาเงินสามหมื่นล้าน ให้จารุณี เขาคงจะมอง หน้ากับคนในตระกูลไม่ติด

จารุณีก็เข้าใจสถานการณ์ตอนนี้ดี จึงถอนหายใจออกมา จาก นั้นจึงลุกขึ้นจากโซฟา เธอมองท่านคทาแล้วพูดออกมาเบาๆ ว่า ขอบคุณท่าน ทามากนะคะ”

พูดจบ เธอก็เดินออกไปข้างนอก

โศธยกับตันหยงแสยะยิ้ม โดยใช้โอกาสนี้เดินเข้าไปหาท่าน คทา แล้วพูดว่า “ท่านคทา นายใหญ่ของตระกูลตายไปครึ่งปี แล้ว ตระกูลของเรากำลังตกอยู่ในสถานการณ์คับขัน เมื่อคุณ บอกว่าเงินในบัญชีของตระกูลเหลือสามหมื่นล้าน เพราะฉะนั้น ควรจะพูดกับพวกเราหรือไม่ว่าจะแบ่งเงินสามหมื่นล้านยังไง

ท่านคทาตบโต๊ะด้วยความโกรธ “นายหมายความว่ายังไง อย่าบอกนะว่านายคิดว่าตระกูลของเราจะไปไม่รอดแล้ว

โสธยหัวเราะออกมา แล้วพูดว่า “เรื่องนี้มันสมควรเกิดขึ้น ตั้งแต่นายใหญ่ตายแล้ว ท่านคทา ผมว่าคุณโดนผู้หญิงอย่างอารี ยาหลอกให้แล้วล่ะ

ขณะนั้นเองก็มีเสียงดังเขามาในหูของเขา

“ใครบอกนายว่าฉันตายแล้ว”

ตัวของโศธยชะงักไป เขาหันไปทางประตู เห็นคนที่ผมเผ้า ยุ่งเหยิง หนวดเครายาวเฟื้อยยืนอยู่หน้าประตู
ขณะนั้นจารุณีก็เพิ่งจะเดินถึงหน้าประตู หลังจากที่เธอเห็นคนที่ ยืนอยู่หน้าประตู เธอสงสัยเล็กน้อย แต่วินาทีที่เธอได้สบตากับคนนั้น เธอรู้ขึ้นมาทันทีว่าคนที่

สภาพมอมแมมคนนี้เป็นใคร

น้ำตาเธอไหลออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่ เธอพูดด้วยน้ำเสียง สะอึกสะอื้นว่า “รพีพงษ์


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ