พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว

บทที่629 ผลข้างเคียง



บทที่629 ผลข้างเคียง

ในบ้านของคามา รพีพงษ์กับฝนสุดาอยู่ในห้อง

เป็นเพราะบ้านของดามามีห้องสามห้อง รพีพงษ์กับฝนสุดา จึงต้องเบียดกันอยู่ในห้องเดียว ฝนสุดานอนบนโซฟาของห้อง บางคืนก็จะแอบมานอนข้างกายรพีพงษ์สักครู่ แต่ไม่ใช่เพราะฝน สุดาอยากแตะองรพีพงษ์ หากเป็นเพราะโซฟานั้นแข็งมากต่าง หาก นอนไม่สบาย ตั้งแต่เด็กจนโตฝนสุดาไม่เคยนอนโซฟา พอ อดไม่ไหวจริงๆ ถึงได้ไปนอนเอนสักครู่

ฝนสุดามองรพีพงษ์ด้วยสีหน้าหนักอึ้ง ในมือถือน้ำแก้วหนึ่ง ส่วนอีกมือถือขวดยาสามเม็ด

“นายจะกินยาสามเม็ดนั้นจริงๆเหรอ”ฝนสุดาถามด้วยสีหน้า

จริงจัง

รพีพงษ์ยิ้มแล้วพูดว่า”รีบเอามาให้ฉันเถอะ เธอกลัวฉันตาย หนักหนาไม่ใช่เหรอ ตอนนี้ทำไมสับสนขึ้นมาแล้วล่ะ”

“ก็ฉันกลัวว่ายาสามเม็ดนี้จะมีปัญหานี่นา เกิดนายกินเข้าไป แล้วเป็นอะไรไป ฉันคงเสียใจแทบไม่ทัน”ฝนสุดาเอ่ยปาก

“เอาเป็นว่าตอนนี้สถานการณ์ของฉันโคตรซวย คงจะไม่ซวย ไปกว่านี้แล้วล่ะ เอามาเถอะ”รพีพงษ์เอ่ยปาก

ฝนสุดาทอดถอนหายใจออกมาอย่างอ่อนใจ ยื่นน้ำและยาส่ง

ให้รพีพงษ์
รพีพงษ์ไม่ลังเล เทยาเข้าปาก จากนั้นดื่มน้ำตาม

ผ่านไปสักพัก รพีพงษ์รู้สึกรุ่มร้อนไปทั้งตัว หน้าผากเหงื่อกาฬ

แตกเป็นเม็ดๆ สีหน้าแปรเป็นแดง

สิ่งที่ทำให้รพีพงษ์รู้สึกตกใจคือ ความเจ็บปวดที่เคยแผ่ซ่านที่ หน้าอก กลับค่อยๆคลายลง

“ยาเม็ดนี้น่าจะได้ผลอยู่ แต่ฉันแค่รู้สึกว่าเวียนหัวก็เท่านั้น อาจจะเป็นผลข้างเคียง และก็ง่วงมาก ฉันคงจะหลับยาวรพีพงษ์ พูดพลางหนังตาหนักอึ้ง

ฝนสุดารีบหามรพีพงษ์ขึ้นเตียง ในเวลานี้รพีพงษ์หลับไป เรียบร้อยแล้ว

เธอยื่นมือออกมาลูบหน้าผากรพีพงษ์ สัมผัสได้ว่าเขาตัวร้อน

มาก จึงรู้สึกกังวลในใจ รีบวิ่งออกไปหาดามา ให้ดามาไป

ตามหมอมา

หลังจากที่หมอมา จึงตรวจรพีพงษ์อีกครั้ง คุณหมอประหลาด ใจว่า แผลสาหัสของรพีพงษ์กำลังค่อยๆดีขึ้นแล้ว

ฝนสุดาจึงเล่าเรื่องที่รพีพงษ์กินยาสามเม็ดนั้นให้ฟัง คุณหมอ เองก็ฟันธงไม่ได้ว่านั่นคือยาอะไร แต่ว่าสิ่งที่แน่นอนคือ ยานั้นมี ส่วนช่วยให้รพีพงษ์ฟื้นตัวเร็วมาก

รพีพงษ์ตัวร้อนและนอนสลบไสล เพียงแต่ว่าผลข้างเคียงจาก ยานั้น แน่นอนว่ายังมีผลอื่นๆอีกด้วย คุณหมอยังไม่ได้ยืนยัน

หลังจากที่ยืนยันแล้วว่ารพีพงษ์ไม่ได้เป็นอะไร ฝนสุดาเองก็วางใจ ในขณะเดียวกันก็รู้สึกตื่นเต้น ถ้าหากว่ารพีพงษ์มีชีวิตต่อ ไปได้จริงๆ เธอคิดว่าเธอคงดีใจว่ารพีพงษ์เสียอีก

หลังจากที่คุณหมอกำชับฝนสุดาไปสองสามคำว่าช่วงนี้ให้ ดูแลรพีพงษ์ให้ดี ถ้าหากมีปัญหาอะไร ก็ให้รีบหาเขาทันที

รพีพงษ์สลบไสลไปเจ็ดวันเต็ม ในเจ็ดวันนี้ ฝนสุดาเฝ้าอยู่ข้าง กายรพีพงษ์ตลอด ไม่กล้าแม้จะห่างกายเพียงครึ่งก้าว สีหน้าของรพีพงษ์ดีขึ้นเรื่อยๆ ฝนสุดาเองก็เชื่อมั่นว่ายานี้จะ

รักษารพีพงษ์ให้หายเป็นปกติได้

ในขณะเดียวกันเธอก็รู้สึกแคลงใจ คนที่ให้ยาขนานนี้กับร พงษ์เป็นใครกัน ในฐานะคุณหนูตระกูลก้องวณิชกุล เธอไม่เคย ได้ยินยาขนานใดๆที่ทำให้คนตายฟื้นขึ้นมาได้ทั้งสิ้น คิดว่าชาย ชราผู้นั้น น่าจะมีพื้นเพที่ยากที่จะจินตนาการถึง

ช่วงบ่ายวันนี้ คุณหมอมาตรวจรพีพงษ์อีกครั้ง หลังจากที่ตรวจ

เขาแล้ว สีหน้าจึงแสดงรอยยิ้มออกมาทันที ยิ้ม ให้ฝนสุดาแล้ว พูดว่า “สภาพเขา โดยรวมนิ่งแล้วล่ะ อวัยวะภายในห้าตำแหน่ง ฟื้นฟูกลับมาดังเดิม ตอนนี้เหลือแค่บำรุงในจุดเล็กๆน้อยๆ เท่านั้น ไม่เป็นอันตรายต่อชีวิต”

ฝนสุดาตื่นเต้นขึ้นมา คิดไม่ถึงว่ารพีพงษ์จะไม่เป็นอะไรจริงๆ

“ช่างเป็นปาฏิหาริย์จริงๆ ยาที่เขากินเข้าไป จะต้องไม่ธรรมดา แน่นอน เสียดายที่ผมหายาแบบนี้ไปทำวิจัยไม่ได้” คุณหมอลุกขึ้น ยืน”นับจากพรุ่งนี้เป็นต้นไป คุณก็แค่รอเขาฟื้นขึ้นมาก็พอ แล้ว ช่วยเขาบำรุงบาดเจ็บเล็กๆน้อยๆ
หลังจากที่ส่งหมอไปแล้ว ฝนสุดาจึงกลับมาที่หน้าเตียงรพีพงษ์ น้ำตาอดไหลออกมาไม่ได้ แต่ว่าคราวนี้เป็นน้ำตาแห่งความปลื้ม

“ตาบ้าเอ๊ย ในที่สุดก็ไม่เป็นอะไรนะ ฉันรู้อยู่แล้วว่านายไม่ ตายง่ายๆหรอก”ฝนสุดาเอ่ยปากขึ้น

รพีพงษ์ค่อยๆลืมตาขึ้น เขารู้สึกเล็กน้อยว่าท้องน้อยร้อนเป็น ไฟ ไม่กี่วันมานี้เขาสลบไสล เลยไม่รู้สึกถึงอะไร แต่ก็รู้ตัวตลอด ว่ากำลังฟื้นตัว เขากดไฟร้อนนี้ลงไม่ได้

“รพีพงษ์ ตื่นแล้วเหรอ”ฝนสุดาเช็ดดวงตา ยิ้มให้รพีพงษ์

รพีพงษ์ผุดลุกขึ้นนั่งจากเตียง ตอนนี้บาดแผลเขาสมานกันจน เกือบสนิท การเคลื่อนไหวของเขาก็กลับมาได้ดังเดิมแล้ว

“ฉันรู้สึก……ร้อนเหลือเกินสองตาของรพีพงษ์เต็มไปด้วย เส้นเลือดแดง เขาจ้องไปที่แววตาของฝนสุดาที่แฝงไปด้วยความ โลก

ฝนสุดาตกใจเพราะสายตาของรพีพงษ์ เธอผงะถอยตาม

สัญชาตญาณ

“นี่….นี่คือผลข้างเคียงของยานี้หรือฝนสุดาถามขึ้นอย่าง ระมัดระวังถ้อยคํา

มือทั้งสองของรพีพงษ์กระชากเสื้อผ้าตนเองหลุดรุ่ย พูด ขึ้นน่าจะใช่ เธอรีบออกไป ฉันรู้สึกทนไม่ไหวแล้ว”

เพิ่งสิ้นเสียง เขาก็กระชากเสื้อผ้าออกทันที
ฝนสุดาได้ยินคำพูดรพีพงษ์ เธอไม่ได้ออกไป นี่เป็นเรื่องที่เธอ ถวิลหาทุกวันคืนมิใช่หรือ เธอยิ้มให้รพีพงษ์ พูดขึ้นว่า”ถ้าเป็น ผลข้างเคียงจริง ฉันรู้สึกว่านายควรจะปลดปล่อยมันออกมา ไม่ อย่างนั้นจะไปมีผลต่อการรักษาของยา ที่ทำมาทั้งหมดก็จะสูญ เปล่า นายคงอึดอัดแย่สินะ เพื่อให้นายมีชีวิตอยู่ต่อไป ฉันยินดี เสียสละตนเอง”

พูดพลาง ฝนสุดาเดินหน้าเข้าหารพีพงษ์

รพีพงษ์อาศัยสติสุดท้าย ในใจกำลังด่าทอชายชราสักร้อย รอบ ผลข้างเคียงของยา

ชายชราไม่ได้บอกเขา

“เธอรีบออกไปสิ ให้ฉันสงบอารมณ์หน่อย เดี๋ยวมีคนมาได้ยิน เข้า จะอธิบายไม่ถูก รพีพงษ์กัดฟันพูด

“อาดุลกับป้าพิชาออกไปตกปลา ดามาออกไปเล่นกับเพื่อน ตอนนี้ในบ้านเหลือแค่เราสองคนฝนสุด หน้าแดงก่ำ แววตา เขินอาย

รพีพงษ์เห็นทีท่าของฝนสุดา ยิ่งควบคุมร่างกายตัวเองไม่อยู่ สัญชาตญาณทำให้เขาโอบฝนสุดาเข้าหาตัว

“รีบออกไปสิ ฉันจะคุมสติตัวเองไม่ได้แล้วนะ ฉันจะทำอะไร

แบบนี้กับเธอไม่ได้! “รพีพงษ์คำราม

ฝนสุดาเห็นการพิพงษ์ จึงเอ่ยเสียงอ่อนโยน แต่ว่า ฉันไม่ อยากเห็นนายทุกข์ทรมานแบบนี้ ถ้าไม่ระบายออกมา นายจะอึดอัดตาย”

รพีพงษ์สูดลมหายใจเข้าลึก สติในแววตาเลือนหาย ใน สายตาเขาฝนสุดากลายเป็นอาหารอันโอชะมื้อใหญ่

เขาควบคุมร่างกายตัวเองไม่ไหวอีกต่อไป แล้วพุ่งเข้าหาฝน


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ