พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว

บทที่ 630 เดนชาย แบร่ๆๆ



บทที่ 630 เดนชาย แบร่ๆๆ

ในห้องอาบนํ้า

รพีพงษ์เอนกายอยู่ในห้องอาบน้ำ มีเพียงกางเกงในตัวหนึ่ง ผิวสีตะกั่วที่สะท้อนอยู่ในน้ำปลุกเร้าอารมณ์ยิ่ง

ฝนสุดายืนอยู่ด้าน เสื้อผ้าเปียกปอนไปทั้งตัว ผมที่เปียกชุ่มแผ่ สยาย ดวงหน้าละเอียด

ประณีตยิ่งเย้ายวน

ห้องอาบน้ำเปียกชุ่มไปด้วยน้ำ เครื่องอาบน้ำกระจัดกระจาย เต็มพื้น เห็นได้ชัดว่าพื้นที่ ตรงนี้เกิดความรุนแรงขึ้นเมื่อครู่

ผ่านไปสักพัก รพีพงษ์ค่อยๆลืมตาขึ้น ความร้อนราคะตรงท้อง

น้อยหายไปอย่างถนัดตา ในหัวรู้สึกสงบอย่างประหลาด

หลังจากที่รู้สึกว่าตัวเองแช่อยู่ในน้ำที่เย็นเฉียบ เขาสูดลม หายใจลึก เขาพูดนั่งขึ้น ในอ่างอาบน้ำ หันไปมองฝนสุดา

ฝนสุดาเห็นรพีพงษ์ตื่นขึ้น แววตาที่สับสนเลือนหาย เธอจึงต้อง มองรพีพงษ์ด้วยอาการงอนตุ๊ดตู้ป่อง ตัดพ้อตาบ้าเอ๊ย แน่จริง ก็นอนต่อสู้ ลุกขึ้นมาทำไม

เมื่อย้อนคิดตอนที่รพีพงษ์หมดสติไป รพีพงษ์หรี่ตาลง จากนั้น จึงรีบสำรวจร่างกายตนเอง มองฝนสุดาอย่างตื่นเต้น ถาม ขึ้น พวกเราทำอะไรกัน ทำไมฉันถึงได้อยู่นี่ ทำไมเธอถึงเปียกโชก”

พอเปียกโชกเสื้อผ้าจึงแนบตัวฝนสุดาแน่น ส่วนเว้าส่วนโค้ง อรชรอ้อนแอ้นของเธอ โดดเด่นออกมาอย่างเห็นได้ชัด รพีพงษ์ จ้องเธอเขม็ง กลืนน้ำลายอย่างได้สติ ดีที่ผลข้างเคียงของยา หมดไปแล้ว ไม่อย่างนั้นเขาคงได้ขาดสติอีกครั้ง

“ทำอะไร นายลูกผู้ชาย ยังมีหน้ามาถามคำถามแบบนี้กับฉัน อีก ฉันชักสงสัยนะว่านายเป็นพวกรักร่วมเพศหรือเปล่า นายเป็น ถึงขนาดนี้แล้ว ฉันยืนอยู่ตรงหน้านายทั้งคน เข้าขาให้นายเต็มที่ นายก็ยังอดกลั้นวิ่งลงไปแช่น้ำในอ่างอาบน้ำ รพีพงษ์ นายมัน ไม่ใช่ผู้ชาย! “ฝนสุดาฮึดฮัด ราวกับว่าตัวเองเสียเปรียบเต็ม ประดา

“ความหมายของเธอคือ เรายังไม่ได้ทำอะไรกันใช่ไหม” พงษ์ถามลองใจ

ฝนสุดเก่าหมัดชกไปที่หน้าอกรพีพงษ์แรงๆ รพีพงษ์หายใจ หอบ เธอบ่นว่า “ตาบ้าน แช่อยู่ในอ่างน้ำเป็นนานสองนาน จะทำ อะไรกับฉันได้อีกเล่า ฉันอุตส่าห์เป็นฝ่ายพลีกาย ฉันไม่น่าช่วย นายเลยจริงๆ!

ได้ยินฝนสุดาพูดแบบนี้ รพีพงษ์จึงรู้สึกโล่งใจ ดูท่าเขาคงยัง ไม่ได้ทำอะไรกับฝนสุดาเป็นแน่ เดาว่าหลังจากที่ตัวเองขาดสติ ไป แม้ว่าจะอยากทําเรื่องพรรคนั้นมาก แต่ก็อาศัยความอดกลั้น ระงับไว้ได้ วิ่งเข้าไปสงบจิตใจในห้องน้ำ

รพีพงษ์ยิ้มให้ฝนสุดา เปิดปากพูด“ฉันไม่ได้ทำอะไรเธอ เธอน่าจะดีใจนี่นา ฉันไม่อยากทำลายพรหมจรรย์ของเธอ

ฝนสุดาถลึงตาพูด ใครอยากให้นายทำแบบนั้นกันต่อไปฉัน จะต้องแต่งงานกับนาย จะถือว่านายทําลายพรหมจรรย์ฉันได้ไง ล่ะ! ”

รพีพงษ์ยืนตรงหน้าฝนสุดา ยิ้มแล้วตบบ่าเธอ พูดขึ้น เอาล่ะ ฉันมีชีวิตรอดมาได้ เธอมีความดีความชอบมากสุด บุญคุณครั้งนี้ ฉันจะไม่มีวันลืมชั่วชีวิต ต่อไปฉันต้องตอบแทนเธอแน่นอน”

“งั้นก็ได้ ฉันไม่เอาอะไรทั้งนั้น นอกจากให้นายมาสู่ขอฉันฝน สุดารีบชิงพูด

“นอกจากเรื่อง “รพีพงษ์รีบเสริม เสื้อผ้าเธอเปียกปอนหมด แล้ว รีบเปลี่ยนเถอะ เดี๋ยวเป็นหวัด

พูดจบ เขาจึงเดินไปทางห้องอาบน้ำ

ฝนสุดากัดฟันกรอดมองตามเงาหลังรพีพงษ์ สีหน้าไม่สบอา รมณ์ค่อยๆจางหาย ใบหน้างดงามปรากฏรอยซุกซน ผ่านแวบ ไป

หลังจากที่เปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อย รพีพงษ์สำรวจตัวเองอย่าง ละเอียดอีกครา ยืนยันว่าตัวเองไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆ มีเพียงแค่ ปัญหาเล็กๆน้อยๆเท่านั้น ไม่นานก็หายดี

เขาเข้าไปดึงฝนสุดาออกมาจากห้องน้ำ แล้วให้เธอเปลี่ยน เสื้อผ้า จากนั้นตัวเองก็ไปเก็บห้องที่รกเลอะเทอะ

ไม่นานนัก อาดุลป้าพิชาและดามาก็ทยอยกันกลับมา รพีพงษ์กล่าวขอบคุณพวกเขา

จากใจ ขอบคุณที่พวกเขาคอยดูแลในช่วงเวลานี้

หลังจากที่ครอบครัวดามารู้ว่าบาดเจ็บของรพีพงษ์ใกล้หาย ดีแล้ว ต่างก็ตกตะลึง รู้สึกว่าที่รพีพงษ์ฟื้นตัวได้เหมือนเดิม นั้นคือ ปาฏิหาริย์

เพื่อที่จะฉลองให้การฟื้นตัวของรพีพงษ์ ป้าดา มาตั้งใจไปซื้อ กับข้าว เตรียมทําอาหาร อร่อย เพื่อเฉลิมฉลอง

รพีพงษ์กับฝนสุดาตามเข้าไปช่วย ฝนสุดาคอยหาโอกาสตีตน เข้าใกล้รพีพงษ์เสมอ รพีพงษ์คอยหลบหน้าหลบตา เพียงแค่ฝน สุดาเข้าใกล้ เขาก็จะรีบเดินหนี

ดามาเห็นสิ่งเหล่านี้กับตา เธอไม่รู้ว่ารพีพงษ์กับฝนสุดาไป ถึงขั้นไหนกันแล้ว มักจะคิดว่าพวกเขาเป็นแฟนกัน ตอนนี้พอเห็น รพีพงษ์คอยหลบหน้าฝนสุดา ราวกับรังเกียจ ทำให้ดามาไม่ สบอารมณ์

บวกกับดามารู้สึกว่ารพีพงษ์ไม่เหมาะสมกับฝนสุดาตั้งแต่ แรก ตอนนี้รพีพงษ์ยังกล้ารังเกียจฝนสุดาอีกหรือ ดามารู้สึก แย่กับรพีพงษ์ถึงขั้นสุด

ตอน รพีพงษ์บาดเจ็บ ฝนสุดาเอาใจใส่เขาเป็นอย่างดี ตอนนี้ พอหายดี กลับมาทำท่ารังเกียจฝนสุดา สำหรับดามาแล้ว พฤติกรรมของรพีพงษ์ เป็นเดนชายชัดๆ

พอรพีพงษ์หายดี เธอจึงไม่พูดอะไร
หลังจากที่กินข้าว รพีพงษ์ไปหาดามา ถามเขาว่ามีผ้านวม พื้นนอนไหม ตอนนี้เขาหายแล้วไม่นอนเตียงก็ได้ ที่บ้านดา มา ไม่มีห้องเหลือ เขาจึงต้องนอนห้องเดียวกับฝนสุดา เขาต้องยก เตียงให้ฝนสุดานอนอยู่แล้ว ส่วนเขาก็ปูพื้นนอน

ดา มาได้ยินคําพูดรพีพงษ์ ยิ่งไม่สบอารมณ์ไปใหญ่ จึง ระเบิดขึ้น”รพีพงษ์ นายหมายความว่าไง พี่ฝนสุดาดูแลนายอย่าง ดีมานานขนาดนี้ ตอนนี้นายหายดีแล้ว ก็เริ่มรังเกียจเธอ ตอนนี้ แม้แต่นอนเตียงเดียวกับเธอก็ยังไม่ยอม นายมันไร้หัวใจ จริงๆ!

รพีพงษ์ตะลึงในคำพูดของดามา จึงรีบอธิบายเธอเข้าใจ ผิดแล้ว…….

“เข้าใจผิดอะไรล่ะ นายข้ามแม่น้ำรื้อสะพานชัดๆ ที่ผู้ชาย

อย่างนาย น่ารังเกียจจริงๆ พี่ฝนสุดาอยู่กับนาย ซวยไปแปด

ชาติ”ดามาไม่เปิดโอกาสให้รพีพงษ์ปริปากพูด

ฝนสุดาเดินมาพอดี พูดขึ้นอย่างน่าสงสารน้องดา อย่าโทษ เขาเลย ต้องโทษพี่คิดเองเออเอง”

“พี่ฝนสุดา เขาทำแบบนี้ ไม่ยุติธรรมกับพี่เลย”ดามาพูด แล้วจ้องรพีพงษ์ พูดขึ้นอีก ถ้าไม่นอนเตียงเดียวกับพี่ฝนสุดา นายก็ไม่ต้องมานอนบ้านฉัน เป็นชาย”

พูดจบ เธอก็หมุนตัวออกไป

รพีพงษ์ถอนหายใจอย่างจนใจ รู้ว่าคงอธิบายไม่ได้
ฝนสุดาแลบลิ่นปริ้นตาให้รพีพงษ์ หัวเราะคิกคัก”เดนชาย แบ

รพีพงษ์จ้องเธอเขม็ง ยื่นมือไปคว้าเธอไว้ ฝนสุดารีบหมุนตัว กลับเข้าห้องไป

รพีพงษ์ตามเข้าไป เขาเองก็ไม่รู้ตัว เขากับฝนสุดา อยู่ด้วยกัน ได้ธรรมชาติขนาดนี้แล้ว ถ้าเป็นเมื่อก่อน เขาคงไม่หยอกเงิน กับผู้หญิงคนไหนนอกจากอารียา

ในห้อง

ฝนสุดาจ้องรพีพงษ์ที่นั่งอยู่บนโซฟา ถามขึ้น “คุณหมอบอกว่า นายเหลือบาดแผลเล็กๆน้อยๆก็หายดีแล้ว ต่อไปนายจะทำยัง ไง”

รพีพงษ์หรี่ตา ก่อนหน้าเขาเหลือชีวิตเพียงสองเดือน แน่นอน ว่าย่อมไม่มีแก่ใจคิดถึงเรื่องอนาคต

ตอนนี้บาดแผลสมานแล้ว เรื่องแรกที่ปรากฏขึ้นในหัว ย่อม เป็นเรื่องแก้แค้นอนันยช

แต่ว่าเขารู้อยู่แก่ใจ อนันยชแกร่งเกินกว่าที่เขาจะจินตนาการ โดยเฉพาะหมัดอันน่าเกรงขาม รพีพงษ์แทบจะไม่รู้ว่าพละกำลัง มหาศาลเช่นนั้นมาจากไหน

ถ้าตอนนี้ออกไปแก้แค้นอนันยช เขาก็คงแพ้กลับมาอีกครั้ง และคงไม่มีชีวิตรอดอีก
ดังนั้นสิ่งที่เขาต้องทํา คือต้องให้รู้แน่ว่าอนันยชมีศักยภาพ มากแค่ไหน อีกอย่างคือ ต้องคิดเพิ่มกำลังของตัวเอง อย่างน้อย ก่อนที่จะไปแก้แค้นอนันยช เขาจะต้องมีความเข้าใจที่มากพอ

ตอนนี้ทุกคนต่างคิดว่าเขาตายไปแล้ว อันนี้เป็นเรื่องหนึ่ง ที่ ทำให้เขามีเวลาฝึกฝนตนเองและก็เป็นช่วงเวลาที่รพีพงษ์จะได้รู้ ศักยภาพที่แท้จริงของอนันยช จึงไปหาอาจารย์ของ

เขา

“รอให้แผลสมานดีก่อน ฉันจะไปหาอาจารย์ เตรียมตัวฆ่า อนันยช”รพีพงษ์ตอบเสียงขรึม

ฝนสุดาพยักหน้าพูดขึ้น”นายจะไม่บอกอารียาหน่อยเหรอ”

รพีพงษ์ลังเล ข่าวที่ว่าตนเองยังมีชีวิตนั้นจะบอกใครไม่ได้ ถ้า เรื่องแพร่งพรายออกไป อนันยชจะต้องไปลงมือกับอารียา บังคับ ให้เขาแสดงตัวออกมา

ตอนนี้อย่างมากแค่ให้อารียารู้ได้คนเดียวว่าเขายังมีชีวิต ที่ เหลืออย่างพวกธฤตญาณจะปริปากบอกไม่ได้

“พรุ่งนี้ฉันไปซื้อมือถือ เรื่องนี้บอกอารียาได้คนเดียว เธอจะได้ ไม่ตกใจ รพีพงษ์เปิดปาก

“อ่อ”ฝนสุดาขานรับ จากนั้นเดินไปเอนบนเตียง

“แล้วเธอล่ะ ไม่ติดต่อคนตระกูลก้องวณิชกุลเหรอ”รพีพงษ์ถาม
“ตอนนี้ยังไม่ได้มั้ง อนันยชน่ากลัวขนาดนั้น ฉันรู้สึกว่าต่อให้ เป็นตระกูลก้องวณิชกุล ก็ไปต่อกรอะไรไม่ได้ ให้คนที่บ้านรู้ว่าฉัน ยังมีชีวิต รังแต่จะทำให้เป็นจุดสังเกตของอนันย เปล่าๆ ค่อยว่า กัน ฉันยังทำให้นายชอบฉันไม่ได้เลย ดังนั้นฉันยังกลับไม่ได้ ฝน สุดาเอ่ยปาก

“อีกอย่าง ฉันจะตามนายไปหาอาจารย์ นายห้ามปฏิเสธนะ ถ้า นายไม่ยอม ฉันจะเรียกน้องดามาด่านาย ให้น้องรู้ว่านายทิ้งฉัน ไป คิดๆดู ฝนสุดาจึงเสริมเข้าไปอีกค่

รพีพงษ์สีหน้าจนใจ ตอนนี้เขาเอาคุณหนูคนนี้ไม่อยู่หมัด อีก อย่างเมื่อเขา…..ไม่ได้จะปฏิเสธ

“ไม่กี่วันนี้ทำไมเธอไม่ใส่เครื่องประดับแล้วล่ะ เป็นเพราะ

ธรรมดาเกินไป เธออยากให้คนอื่นรู้สึกว่าเธอคู่ควรฉันใช่ไหม”

รพีพงษ์เปลี่ยนเรื่อง ยิ้มแล้วถาม

“ไม่ต้องมายุ่ง”ฝนสุดาจ้องรพีพงษ์ แล้วหมุนตัว ไม่สนใจเขา

อีก

กลางดึก รพีพงษ์เอนกายบนโซฟาที่ทั้งเย็นและแข็ง หันไปมอง ฝนสุดาที่นอนอยู่บนเตียงที่แท้ไม่กี่วันนี้ เธอลำบากขนาดนี้เอง แต่ไม่เคยปริปากบ่น

เป็นนานกว่าที่เขาลุกขึ้นจากโซฟาเดินมาที่ข้างเตียง อาศัย แสงจันทร์ลอบมองฝนสุดา

เธอนอนหลับสบาย ราวกับว่าไม่เคยได้หลับสบายแบบนี้มา ก่อน ดวงหน้าสวยงามดูอิ่ม ใจ
“รพีพงษ์……..นายมันบ้า”ฝนสุดาละเมอพิมพ์

รพีพงษ์อมยิ้มอยู่มุมปาก จากนั้นจึงพูดกับคนบนเตียง ขอบใจ


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ