พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว

บทที่ 374 เด็กสาวไร้เดียงสา



บทที่ 374 เด็กสาวไร้เดียงสา

ด้านนอกคฤหาสน์คริสทัล

แม้ว่าประตูใหญ่ของคฤหาสน์จะปิดไปแล้ว แต่ผู้คนที่อยู่ รอบๆคฤหาสน์ก็ยังไม่แยกย้ายกันไป

ทุกคนยังคงตั้งหน้าตั้งตาที่จะเปิดหูเปิดตากับฉากภายใน

คฤหาสน์อยู่

และถึงแม้ว่าจะไม่ได้เข้าไป ด้านนอกของคฤหาสน์คริสทัล ในคืนนี้ก็ยังมีแสงไฟประดับพร่างพราวละลานตาอยู่เพียง แค่ยืนมองจากด้านนอก ที่นี่ก็ยังคงเป็นทิวทัศน์ยามค่ำคืนที่ สวยงามที่สุดของเมืองริเวอร์อยู่ดี

“อยากจะเข้าไปดูสักครั้งจริงๆ เมื่อกี้พวกคุณเห็นไหม ดู เหมือนว่าผู้นำตระกูลกุลสวัสดิ์จะเข้าไปแล้ว”

“ไม่ใช่แค่ผู้นำตระกูลกุลสวัสดิ์นะ ธฤตญาณผู้โด่งดังแห่ง เมืองริเวอร์ก็ปรากฏตัวแล้ว ชายวัยกลางคนซึ่งดูมืออร่าเอ่อ ล้นที่เดินเข้ามาพร้อมกับเขา ฉันเพิ่งนึกขึ้นมาได้ว่าเขาคนนั้น ดูคล้ายกับประธานของบริษัทซันบับเบิล กรุ๊ปมาก จากนั้นพอ ตรวจสอบดูก็พบว่าเป็นเช่นนั้นจริงๆ”

“โอ้พระเจ้า แขกที่มาร่วมงานเลี้ยงคืนนี้ยิ่งใหญ่ขนาดนี้ เลยเหรอ?”
“มีใครสังเกตเห็นพวกคนที่เข้ามาตอนสุดท้ายนั่นบ้างไหม ฉันไม่เคยได้ยินเกี่ยวกับคนเหล่านั้นในเมืองริเวอร์เลย แต่ พวกเขาให้ความรู้สึกว่ายิ่งใหญ่กว่าธฤตญาณกับผู้นำตระกูล กุลสวัสดิ์นะอะไรนั่นตั้งเยอะ คนพวกนั้นต้องเป็นคนไหญ่คน โตจากที่ไหนสักแห่งแน่ๆ”

“เจ้าของคฤหาสน์คริสทัลแห่งนี้เป็นใครกันแน่ ถึงได้ มีหน้ามีตาใหญ่ขนาดนี้ ฉันล่ะอยากจะเข้าไปดูสักที่จริงๆ ทำไมฉันไม่โชคดีอย่างนั้นบ้างกัน น่าหงุดหงิดจริงๆ”

“เจ้าของคฤหาสน์คริสทัลแห่งนี้ต้องไม่ธรรมดาแน่ๆ เขา สามารถเชิญคนใหญ่คนโตมาได้มากมายขนาดนี้ก็อธิบาย ตัวตนของเขาได้แล้ว บอสใหญ่เหล่านี้ไม่มีทางจะมางาน เลี้ยงของคนที่ไร้ฐานะอย่างแน่นอน”

ในตอนที่ทุกคนทยอยกันพูดถึงเรื่องนี้นั่นเอง จู่ๆบนกำ แพงคริสทัลของคฤหาสน์คริสทัลก็มีภาพฉายหนึ่งปรากฏขึ้น มา ในภาพฉายคือภาพที่รพีพงษ์กับอารียากำลังจูบกันอย่าง ร้อนแรงอยู่

“พวกคุณดูเร็ว มีภาพอยู่บนกำแพงคริสทัลด้วย!” คนคน หนึ่งอุทานด้วยความตกใจ แล้วทุกคนก็มองไปทางกำแพงค ริสทัลนั้น

“โอ้พระเจ้า สองคนนี้กำลังจัดงานแต่งงานเหรอ? ฉันนึกว่าข้างในเป็นงานเลี้ยงไหญ่โตซะอีก!”

“เจ้าสาวคนนั้นสวยเกินไปแล้ว เจ้าหญิงในเทพนิยาย ขัดๆ”

ปฏิกิริยาแรกของทุกคนหลังจากเห็นภาพ ก็คือชื่นชม ความสวยของอารียา

แต่ไม่นาน คนที่ละเอียดรอบคอบก็พบว่าบุคคลทั้งสองใน ภาพนั้นดูคุ้นๆตา

“ชายคนนั้นไม่ใช่รพีพงษ์หรอกเหรอ เจ้าสาวคนนั้นคืออารี ยานี่! คนคนหนึ่งอุทานออกมาด้วยความตกใจ

“สุดท้ายกลายเป็นว่าที่กำลังจัดในคฤหาสน์คริสทัลนี้ คือ งานแต่งของรพีพงษ์กับอารียา? นี่มันจะน่าตกใจเกินไป ไหม?”

“รพีพงษ์กับอารียาไม่ได้จัดงานแต่งไปแล้วเหรอ? แล้วที่นี่ เป็นถึงคฤหาสน์คริสทัลเชียวนะ พวกเขาจะจัดงานแต่งที่นี่ได้ ยังไงกัน คงไม่ใช่เรื่องโกหกใช่ไหม?”

“ไม่ใช่เรื่องโกหก นี่เป็นการฉายสดจริงๆ พวกคุณดูที่หน้า จอด้านบนสิ พระเจ้าช่วย ที่แท้ในปราสาทคริสทัลแห่งนี้คือ งานแต่งของรพีพงษ์กับอารียา นี่มันจะฟุ่มเฟือยเกินไปแล้ว!”

“ให้ตายเถอะ ไม่ใช่ว่ารพีพงษ์เป็นแค่เศษขยะไร้ค่าหรอก เหรอ? เขาจะจัดงานแต่งในสถานที่แบบนี้ได้ยังไง?”
“ไม่ใช่แต่เขาจัดงานแต่งงานที่นี่เท่านั้น แต่คนที่มางาน แต่งล้วนแต่เป็นคนใหญ่คนโตทั้งนั้น คนแบบนี้จะเป็นขยะไป ได้ยังไง ดูเหมือนว่าก่อนหน้านี้พวกเราจะเข้าใจเขาผิดมา ตลอดเลยสินะ พูดตามตรง ฉันล่ะอิจฉา”

“ให้ตายเถอะ ถ้ารู้มาก่อนฉันก็จะไปเป็นเพื่อนกับรพีพงษ์ ตั้งแต่แรกแล้ว บางที่ตอนนี้ฉันอาจจะผสมปนเปเข้าไปเป็น หนึ่งในคนที่ดูกระบวนการแต่งงานอยู่ด้านในนั้นก็ได้ เสียดายจัง”

“คุณไม่เห็นเหรอว่าคนที่มางานแต่งของเขาล้วนเป็นใคร กันบ้างนะ ถึงแม้คุณยังอยากเป็นเพื่อนกับเขา เขาก็ไม่จำเป็น ต้องสนใจคุณเลยด้วยซ้ำ”

การฉายภาพบนกำแพงคริสทัลทำให้เกิดการถกเถียงกัน อย่างล้นหลามในหมู่คนด้านนอก ไม่มีใครนึกเลยว่าที่จัดขึ้น ข้างในนี้ ที่แท้คืองานแต่งงานของรพีพงษ์

เจ้านั่นที่ถูกพวกเขามองว่าเป็นขยะ ตอนนี้กลับได้เชิญคน ใหญ่คนโตที่มีหน้าตามีตามากมายมาร่วมงานแต่งของเขา รวมกับคฤหาสน์คริสทัล นี้ไม่ใช่สิ่งที่คนธรรมดาจะทำได้เลย

จินตนาการได้เลยว่า หลังจากคืนนี้จะไม่มีใครเรียกรพี พงษ์ด้วยคำว่าขยะอีกแล้ว จากนี้ไปเมื่อคนจะพูดถึงรพีพงษ์ ขึ้นมาอีก สิ่งที่พวกเขาจะนึกถึงก็คืองานแต่งงานที่เหมือนฝันในคืนนี้ และเหล่าบอสใหญ่ระดับท็อปที่มาร่วมงานแต่ง

ภาพบนกำแพงคริสทัล หลังจากที่รพีพงษ์กับอารียาจูบกัน แล้ว ก็หันมองกลับไปทางทุกๆคน บนใบหน้าของทั้งคู่ต่างก็ เปี่ยมล้นไปด้วยรอยยิ้มที่มีความสุข ในเวลานี้ พวกเขาทั้ง สองคนเป็นคนที่มีความสุขที่สุดในโลก

“น่าอิจฉาเกินไปแล้ว พวกเขาสองคนนี่มันเจ้าชายกับเจ้า หญิงชัดๆเลย”

“ถ้าฉันสามารถจัดงานแต่งแบบนี้ได้บ้าง ถึงจะเสียเวลา ชีวิตไปสักสิบปีก็ไม่เป็นไร”

“คนขี้โกหกพวกนี้นี่ ไม่ใช่บอกว่ารพีพงษ์เป็นขยะไร้ค่า หรอกเหรอ ทำไมเขาหล่อได้ขนาดนี้ แถมยังจัดงานแต่งงาน ในฝันให้กับผู้หญิงของตัวเองได้ ฉันคิดว่าเขานี่สิถึงจะเป็น ผู้ชายที่ดีที่สุดในโลก!”

ตอกไม้ไฟจำนวนนับไม่ถ้วนพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า ระบายสีให้ทั่ว ทั้งท้องฟ้ามีสีสันมากมายละลานตา

คนทั้งหมดล้วนจมอยู่ในฉากงานเลี้ยงอันยิ่งใหญ่นี้ ทุกคน ต่างจ้องมองคู่สร้างคู่สมบนกำแพงคริสทัลด้วยความอิจฉา

ในแววตาเผยความอบอุ่นออกมา

บางคนมีความสุขบางคนเศร้า
ตอนนี้ชั้นสาม ที่นั่งริมหน้าต่าง ในร้านกาแฟแห่งหนึ่งตรง ข้ามกับคฤหาสน์คริสทัล

จารุณีนั่งอยู่ข้างหน้าต่าง จ้องมองทั้งสองคนนั้นบนกำแพง คริสทัลฝั่งตรงข้าม และดอกไม้ไฟที่ส่องแสงระยิบระยับ ละลานตาบนท้องฟ้า น้ำตาไหลออกมาอย่างหยุดไม่ได้

“ไอ้บ้ารพีพงษ์ ไอ้คนเลว ไอ้งเง่า ไอ้คนไม่มีหัวใจ ทำไมถึง ทิ้งฉันไปแต่งงานกับผู้หญิงคนอื่นแบบนี้ ฉันรักนายมาก ขนาดนี้ หรือว่าจะถูกนายมองข้ามมันเฉยๆเลยงั้นเหรอ?”

จารุณีร้องไห้ไปพูดกับตัวเองไป ท่าทางราวดอกสาลี่ต้อง หยาดฝนทำเอาคนช้ำใจตาม

แม้ว่าเธอจะตามธีรศานติ์มาด้วยกันถึงเมืองริเวอร์ แต่ สุดท้ายเธอก็ไม่สามารถปลุกความกล้าที่เข้าไปดูงานแต่ง ของรพีพงษ์กับอารียาด้วยตาของเธอเองขึ้นมาได้

แม้ว่าครั้งก่อนเธอจะเคยบอกว่าจะลองคิดเป็นแค่น้องสาว ของรพีพงษ์ดู แต่หลังจากนั้นเธอก็ค้นพบว่า ความรู้สึกของ เธอที่มีต่อรพีพงษ์ มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะตัดใจ จะไปเป็น น้องสาวง่ายๆขนาดนั้นได้ยังไง

บางที่จารุณีอาจจะไร้เดียงสามาตั้งแต่เด็กจนโต แต่เมื่อวัน หนึ่งเด็กสาวเช่นนี้ได้มาเจอสถานการณ์จริงแล้ว บางทีแม้แต่ ตลอดชีวิต จะให้เธอละทิ้งความสัมพันธ์ช่วงหนึ่งนั้นก็เป็น เรื่องที่ยากเอามากๆ
หลังจากคิดอยู่หลายวันขนาดนี้แล้ว จารุณีรู้สึกว่าเธอยัง หาทางปล่อยวางเรื่องรพีพงษ์ไม่ได้ เธอรู้สึกว่าในชีวิตของ เธอควรมีอะไรบางอย่างเกิดขึ้นกับรพีพงษ์บ้าง

แต่ตอนนี้รพีพงษ์กับอารียาจัดงานแต่งงานขึ้นมาอีกครั้ง ก็ เพียงพอแล้วที่จะแสดงให้เห็นถึงความรู้สึกที่รพีพงษ์มีต่ออารี ยา ตอนนั้นกระทั่งตัวเธอเริ่มพุ่งเข้าไปกอดรพีพงษ์เองแบบ นั้น แต่รพีพงษ์ก็ยังไม่มีความเปลี่ยนแปลงอะไรเพราะตัวเธอ

เลยแม้แต่น้อย

เธอรู้แล้วว่า จะทำให้รพีพงษ์เปลี่ยนใจนะ เป็นเรื่องที่เป็น ไปไม่ได้อีกต่อไปแล้ว

ในใจเธอรู้ชัดดีว่า ถ้าเธอไปงานแต่งของรพีพงษ์จริงๆ ตอนนั้นเธอจะต้องอดที่จะร้องไห้ไม่ได้แน่ๆ แบบนั้นแล้วตัว เธอก็จะกลายเป็นตัวตลกสำหรับทุกคน เธอไม่อยากให้คน อื่นเห็นเธอร้องไห้ดังนั้น ดังนั้นจึงไม่ได้ตามเข้าไปใน คฤหาสน์ด้วยกันกับธีรศานติ์

พนักงานเสิร์ฟเห็นว่าจารุณีกำลังร้องไห้หนักขนาดนี้ จึง เข้ามาปลอบว่า “คุณหนู ขอโทษนะครับคุณเจอปัญหาอะไร มาหรือเปล่า? ที่จริงแล้วในชีวิตคนเราไม่มีอะไรที่ไม่สามารถ ฝ่าฟันไปได้หรอกนะ เพียงแค่คุณเปิดใจมองให้กว้างขึ้นสัก หน่อย เรื่องเหล่านั้นมันก็ไม่ได้มีอะไรเลย”

เมื่อกำลังได้ยินคำพูดของพนักงานเสิร์ฟ ก็เหลือบจ้องเขาและกล่าวว่าทันที “ออกไป!”

พนักงานเสิร์ฟกลัวมากจนรีบเดินหนีไปจากจารุณีทันที บน ใบหน้ายังมีความรู้สึกพูดไม่ออกอยู่ คิดว่าตัวเขาอุตส่าห์ ปลอบด้วยความหวังดี กลับมาไล่ฉันไปอีก ที่เธอเศร้ามันก็ สมควรแล้วแหละ

จารุณีรู้สึกว่าคนอื่นไม่รู้สึกถึงความเจ็บปวดในใจของเธอ ดังนั้นจึงไม่มีคุณสมบัติที่จะมาบอกให้ตัวเธอเปิดใจมอง กว้าง

หลังจากนั้นสักพัก จารุณีถึงหยุดร้องไห้ และออร่าทั่วทั้งตัว ของเธอล้วนเปลี่ยนไปเล็กน้อย

เธอเหลือบมองไปที่กำแพงคริสทัลนอกหน้าต่างอีกครั้ง ดวงตาทั้งสองข้างของเธอก็หรีลง ในแววตาเผยร่องรอย ความลึกล้ำริ้วหนึ่งที่ไม่สมกับเป็นเธอออกมา

“ทำไมฉันจะต้องเสียเขาไปแบบนี้ด้วย ถึงแม้ว่าเขาจะ แต่งงานแล้ว แล้วยังไง แต่งได้ก็หย่าได้งานของฉันตอนนี้ ไม่ใช่การจัดการรพีพงษ์ แต่ต้องจัดการผู้หญิงคนนี้ที่แย่งรพี พงษ์ไปต่างหาก”

ในเมื่ออุตส่าห์มาถึงเมืองริเวอร์แล้ว งั้นก็อาศัยอยู่ที่นี่สัก พักแล้วกัน ดูเสียหน่อยว่าที่ที่คนในใจของฉันอาศัยอยู่เป็น สถานที่แบบไหนกันแน่”
“แล้วก็ถือโอกาส จัดการกับภรรยาของรพีพงษ์ให้ เรียบร้อยไปด้วยเลยทีเดียว ดูชิว่าเธอจะมีดีแค่ไหนถึงคู่ควร แก่เป็นเจ้าของรพีพงษ์ ฉันจารุณีเองก็สามารถเป็นเจ้าของรพี พงษ์ได้เหมือนกัน!”

พูดกับตัวเองเสร็จ บนใบหน้าของจารุณีก็เผยรอยยิ้ม

ร้ายๆออกมา

เด็กสาวไร้เดียงสาในตอนแรกคนนั้น ได้กลายเป็นอดีตไป

แล้ว..*


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ