พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว

บทที่899 ผลลัพธ์ของไม้เทพแดง



บทที่899 ผลลัพธ์ของไม้เทพแดง

ไม่นาน รพีพงษ์ก็เลื่อยไม้เทพแดงออกเป็นขี้เลื่อย เขาไม่กล้าทำ ไว้เยอะ กลัวว่าจะเกิดเหตุการณ์ที่บังคับตัวเองไม่ได้

หลังจากที่ทำเป็นขี้เลื่อยแล้ว รพีพงษ์ก็จุดไฟเทียนที่วางอยู่บน โต๊ะ จากนั้นก็เอาเศษเลื่อยพวกนั้นโยนเข้าไปในไฟ

เศษเลื่อยเจอเข้ากับไฟ ก็จุดติด จากนั้นก็มีสีเขียวอมน้ำเงิน ปรากฏออกมา บนเทียน ดูแล้วค่อนข้างลี้ลับ

รพีพงษ์ดูไปที่สีเขียวอมน้ำเงินที่ไหลออกมา ไม่รู้ว่าจะจัดการ อย่างไร จึงได้เข้าไปสูดดม ควันสีเขียวอมน้ำเงินได้เข้าในจมูกของรพีพงษ์แล้วไปต่อใน

ร่างกาย รพีพงษ์รู้สึกมีพลังมหาศาลเกิดขึ้นมา ชั่วพริบตาเดียว

เขารู้สึกเหมือนวิญญาณออกจากร่าง

จากนั้นเขาก็รู้สึกว่าในหัวพองตัวขึ้น ราวกับจะแตกออกมา ให้ ตัวเองออกมาอย่างไรอย่างนั้น

สักพัก รพีพงษ์สามารถควบคุมความรู้สึกที่เกิดขึ้นได้ จึงโล่ง อกลง ตอนนั้นเขามีความรู้สึกเหมือนในหัวจะระเบิดออกอย่างไร อย่างนั้น แม้จะไม่เจ็บปวดมาก แต่สัญชาตญาณของร่างกาย ทำให้เขารู้สึกหวาดกลัวเล็กน้อยกับการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว

หลังจากที่พักฟื้นจนเป็นปกติแล้ว รพีพงษ์ก็รีบเช็คร่างกายตัว เอง พบว่าไม่มีปัญหาใดๆ แต่อารมณ์เขาดีมากขึ้นไปอีกประสาทสัมผัสทั้งห้าทะลุปรุโปร่งมากขึ้น การรับรู้สัมผัสเทียบกับ เมื่อก่อนได้พัฒนาขึ้นอีกขั้น

การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ถือว่าไม่มากนัก แต่สำหรับรพีพงษ์ที่ เป็นแตนครึ่งดั่งเทพแล้ว การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ ได้เพิ่ม เปอร์เซ็นต์การชนะในการต่อสู้มากขึ้น

การต่อสู้ระหว่างยอดฝีมือด้วยกัน แข่งกันด้วยการได้เปรียบ ตอนที่ฝีมือของทั้งสองคนเทียบเท่ากันนั้น ถ้าต้องการที่จะชนะ ทำได้เพียงหาจุดอ่อนของอีกฝ่ายเท่านั้น

ตอนนี้ประสาทสัมผัสทั้งห้าของรพีพงษ์ทะลุปรุโปร่ง นั่นก็ หมายความว่าการรับรู้มีมากกว่าของผู้คนรอบๆ เขาจะสามารถ พบจุดอ่อนของอีกฝ่ายได้อย่างง่ายดาย แล้วจับจุดในการต่อสู้ได้

ก่อนหน้านี้ด้านการตอบสนองของรพีพงษ์ก็มีมากกว่าคนอื่น อยู่แล้ว ตอนนี้ไม้เทพแดงทำให้รพีพงษ์มีปฏิกิริยาโต้ตอบที่เร็ว ขึ้น นี่หมายถึงอะไร ไม่ต้องพูดก็น่าจะรู้

สิ่งสำคัญที่สุดคือ รพีพงษ์เพียงทดสอบ ใช้แค่ขี้เลื่อยเล็กน้อย เท่านั้น ก็มีผลลัพธ์มากขนาดนี้

หากใช้เยอะขึ้นมาหน่อย ไม่รู้ว่าจะเปลี่ยนแปลงยังไง

หลังจากที่เห็นไม้เทพแดงไม่มีผลร้ายกับตัวเอง รพีพงษ์ก็ได้ หยิบมีดสั้นขึ้นมา เริ่มตัดไม้ออกมาให้เป็นขี้เลื่อย จำนวน ในครั้ง นี้ เมื่อกว่าครั้งที่แล้วมาก

หลังจากที่ทำเป็นขี้เลื่อยเสร็จแล้ว รพีพงษ์ก็ได้เอาพวกมันจุดไว้บนเทียน ควันสีเขียวอมน้ำเงินปรากฏ เข้มกว่าเมื่อหนึ่งเท่า

รพีพงษ์ได้สูดควันสีเขียวอมน้ำเงินเข้าไปอีกครั้ง ครั้งนี้จิต วิญญาณของเขาได้ถูกกระตุ้นอย่างรุนแรง จากนั้น เขาก็ตาโต เพราะเขารู้สึกได้ว่า ในหัวมีพลังวิเศษเกิดขึ้น เป็นสิ่งที่เขาไม่ได้ เคยรู้สึกมาก่อน

และพลังที่เกิดขึ้นมากะทันหันนั้น กำลังทำร้ายความสบายที่

อยู่ในหัวของเขา ออกไปด้านนอก

ความรู้สึกนั้นทําให้เขาเจ็บปวดอย่างมาก แต่สัญชาตญาณ บอกเขาว่า ตอนนี้สิ่งที่เขาต้องทำ คือเอาพลังนั้นออก มิเช่นนั้น พลังที่อยู่ในสมองของรพีพงษ์จะผสมปนเปกัน ถึงเวลานั้นจะ ทำให้เขากลายเป็นคนบ้าคนหนึ่งได้

ไม่ลังเล แต่อย่างใด รพีพงษ์รีบเลื้อยไม้เทพแดง วางไว้บน เทียน ควันสีเขียวอมน้ำเงินปรากฏขึ้น รพีพงษ์สืบสูดเข้าไปทันที แต่ก็ยังไม่สามารถเอาพลังนั้นออกจากสมองเขาได้

รพีพงษ์เพียงแค่รู้สึกถึงความเจ็บปวดที่แสนสาหัส เหงื่อไหล เต็มหัว เขาพยายามกัดฟันให้ตัวเองตื่นตัวอยู่ตลอด พยายามให้ ความสบายนั้นออกจากตัวเอง

เพราะการทำให้เป็นขี้เลื่อยนั้นมันนาน รพีพงษ์ได้หยิบไม้เทพ แดงขึ้นมา รมควันบนเทียน

เพียงแว๊บเดียว ไม้เทพแดงก็ติดไฟ เหมือนไฟจากถ่าน ไม่หยุด ที่จะปรากฏควันสีเขียวอมน้ำเงินออกมา
รพีพงษ์เพิ่งจะรู้ว่าไม้เทพแดงนี้แม้ไม่เลื้อยเป็นขี้เลื่อย ก็ สามารถจุดได้ ที่ธัชธรรมที่เป็นขี้เลื่อย ก็เป็นไม้เทพแดงของเขา ค่อนข้างเล็ก

ไม่นาน ในห้องก็เป็นไปด้วยควันสีเขียวอมน้ำเงิน และไม้เทพ แดงก็ถูกใช้ไปเกือบครึ่งแล้ว

รพีพงษ์รู้ว่าไม่ควรใช้ไม้เทพแดงต่อไป มิเช่นนั้นควันสีเขียวอม

น้ำเงิน จะทำให้หัวของเขาระเบิดออกได้

ดังนั้นเขาจึงใช้พลังวิเศษเสนมาดับไฟบนไม้เทพแดง จากนั้นก็ นั่งลงบนเตียง ตาปิดสองข้าง เริ่มสูดควันสีเขียวน้ำเงินเข้าไปใน ร่างกาย

ตามที่รพีพงษ์ได้สูดควันเข้าไป ควันสีเขียวน้ำเงินที่อยู่ในห้อง ก็ลดลง สีหน้าของรพีพงษ์เหมือนถูกย่างมา เหงื่อไหลออกมา อย่างไม่หยุด บนหัวเริ่มเต็มไปด้วยความร้อน ดูๆไปค่อนข้าง ประหลาด

ตอนนี้ในหัวของรพีพงษ์พูดได้ว่าวุ่นวายไปหมด จิตวิญญาณ ของรพีพงษ์อยู่กับพลังแปลกประหลาดนั้น เขาพยายามเอามัน ออกจากในสมอง เพื่อที่จะให้ตัวเองรู้สึกผ่อนคลายลง

จากการรับรู้สัมผัสของรพีพงษ์ ในควันสีเขียวอมน้ำเงินนั้น มี พลังทรพีพงษ์ไม่เคยเจอมาก่อนอยู่ด้วย พลังนี้เมื่อถูกรพีพงษ์สุด เข้าไปแล้ว พลังทั้งหมดที่เกิดขึ้นในหัวของเขาได้ผ่านเข้าไป ให้ พลังนั้นไม่หยุดที่จะผสมกัน

พลังเหล่านั้นที่อยู่ในหัวของรพีพงษ์ มีความแตกต่างจากเนียจิ้งและพลังวิเศษเสนอย่างมาก รพีพงษ์ไม่เคยเห็นมาเลยก่อน หน้านี้ เขารู้สึกได้ว่าพลังนี้ไม่ปกติ เมื่อเทียบกับพลังวิเศษเสน หรือเนยจิ้ง พลังนี้แปลกประหลาดและลี้ลับมาก รพีพงษ์ในตอนนี้ ไม่รู้ว่าพลังนี้เอาไว้ทำอะไร

ผ่านไปนาน รพีพงษ์ใช้พลังจิตของตัวเองทั้งหมด สูดควันสี เขียวน้ำเงินที่อยู่ในห้องจนหมด ในที่สุดพลังที่พุ่งออกที่อยู่ในตัว ของรพีพงษ์ สุดท้ายก็ได้ออกจากหัวของเขาไปได้สําเร็จ

จากนั้น รพีพงษ์พบว่าในสมองตัวเองเป็นวังวัน ด้านในปล่อย พลังจิต จิตวิญญาณที่อ่อนล้าของเขาได้เข้ากับพลังนี้ ได้เปลี่ยน เป็นมีพลังชีวิตที่เปี่ยมล้นขึ้นมา

ผ่านไปสักพัก วังวนนั้นได้หยุดปล่อยออก จากนั้นก็เก็บซ่อนไว้ สุดท้ายในหัวของรพีพงษ์ รวมกันเป็นกลลวงตาลักษณะคนที่เป็น สีเขียวอมน้ำเงินอ่อนๆ เป็นลักษณะของรพีพงษ์

รพีพงษ์ตะลึงอย่างมาก เพราะเขาพบว่า ที่เขาสามารถเห็นกล ลวงตาสีเขียวน้ำเงินนั้นได้เหมือนกับเนยชื่อที่อยู่ในหนังสือ โบราณที่กล่าวไว้นั้น ค่อนข้างลี้ลับ

และสิ่งที่ทำให้รพีพงษ์ตะลึงคือ ตอนนี้เขารับรู้ได้อย่างชัดเจน ถึงรายละเอียดทุกอย่างที่มีในห้อง ของทุกสิ่งล้วนอยู่ในการ สัมผัสรับรู้ของเขาทั้งหมด แล้วเขาในตอนนี้ กำลังหลับตาอยู่


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ