พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว

บทที่275 ไม่อยาก



บทที่275 ไม่อยาก

หลังจากที่นฤพลได้ยินคำพูดของรพีพงษ์แล้ว ก็ ชะงักทันใด แต่ไม่ได้ก็รู้สึกตัวขึ้นมา แล้วกล่าว “เคย ได้ยินอยู่นะ หลายปีก่อน ที่เมืองกรีนโคลธฤตญาณ คนนี้มีชื่อเสียงค่อนข้างดัง เมืองกรีนโคล อยู่ในกำ มือของเขาแต่เพียงผู้เดียว ถือว่าเป็นคนที่มีอำนาจไม่ เบาของเมืองกรีนโคลอลยล่ะ”

“สถานะตระกูลธนาพัชร์กุลที่เมืองกรีนโคลไม่มี ใครกล้าแตะ ตอนแรกที่ธฤตญาณเป็นใหญ่ ฉันยัง อยากกำจัดเขาทิ้ง จะได้ไม่มีใครมาสั่นคลอนสถานะ ของตระกูลธนาพัชร์กุลได้”

“ต่อมาลูกน้องของธฤตญาณได้แปรพักตร์ ได้ยินมาว่าในค่ำคืนที่ฝนพรำเขาถูกลูกน้องแทงตาย จากนั้นฉันก็ไม่เห็นเขาอีกเลย”

“แกถามทำไมหรอ?” นฤพลพูดจบ ก็มองไปที่รพี พงษ์อย่างสงสัย

รพีพงษ์ยิ้มกับนฤพล แล้วกล่าว “ธฤตญาณยัง ไม่ตาย ตอนนี้เขาอยู่กับผม สิ่งที่ผมจะขอนั้นง่าย มาก ผมหวังว่าท่านหัวหน้าตระกูลธนาพัชร์กุลจะให้ ความช่วยเหลือผม ล้างแค้นให้ธฤตญาณ”
นฤพลตะลึง ไม่คาดคิดว่าธฤตญาณยังมีชีวิตอยู่ แล้วยังเป็นคนของรพีพงษ์อีกด้วย นี่เหนือความคาด หมายของเขามาก

“ไม่คาดคิดว่าเขายังมีชีวิตอยู่ ที่ฉันรู้ เขาเป็น พวกมั่นใจในตัวเองสูง จะให้เขาทำเรื่องอะไรให้ เป็น สิ่งที่ยากมากเหลือเกิน ตอนแรกฉันอยากเขา แต่ถูก เขาปฏิเสธกลับมา ดูๆไปแกไม่ธรรมดาอย่างที่พวก เราคิดไว้เลยแหะ” นฤพลมองรพีพงษ์ด้วยสายตาที่ ชื่นชม

รพีพงษ์ยิ้ม แล้วกล่าว “ก็แค่โชคดีที่ได้นับถือกัน เป็นพี่น้องเท่านั้นเอง ไม่ทราบว่าท่านหัวหน้าตระกูล ธนาพัชรกุลจะสามารถช่วยพี่น้องคนนี้ของผมล้าง แค้นได้หรือไม่?”

นฤพลยิ้ม แล้วกล่าว “แกชนะโกะ ยังไงฉันก็ตอบ รับข้อเรียกร้องของแก ฉันนฤพลไม่ได้เป็นคนพูด ปลด ในปีนั้นธฤตญาณได้ทิ้งอำนาจไว้ก่อนที่เขาจะ ไป ด้วยกำลังของตระกูลธนาพัชร์กุล จะช่วยเขาล้าง แค้นนั้นเป็นเรื่องง่ายมาก”

รพีพงษ์พยักหน้า รพีพงษ์ได้คิดถึงเรื่องที่จะช่วย ธฤตญาณล้างแค้นมาตั้งนานแล้ว เพียงแค่หาโอกาส ที่เหมาะสมไม่ได้ ครั้งนี้ได้รับความช่วยเหลือจาก ตระกูลธนาพัชร์กุล การล้างแค้นก็มิได้เป็นเรื่องยากแต่อย่างใดแล้ว

“ใช่ หลังจากที่ธฤตญาณจากไปแล้ว ใครที่รับ ช่วงอำนาจต่อจากเขา?” รพีพงษ์นึกขึ้นได้ว่าตอน แรกให้ไตรทศไปสืบเกี่ยวกับธฤตญาณ ได้บอกไว้ว่า ถ้าตอนนั้นธฤตญาณร่วมมือกันได้ ก็เป็นเรื่องดี

เพียงแต่ธฤตญาณไม่ได้ทำแบบนี้ แต่เลือกที่จะ หนี ถึงได้ถูกลูกน้องเล่นงาน สุดท้ายตอนที่จะฆ่า แขนก็ใช้การไม่ได้เสียแล้ว

รพีพงษ์สงสัยจุดนี้ ต่อมาเขาได้ถามธฤตญาณ หลายครั้ง แต่ธฤตญาณก็ไม่ยอมบอกเหตุผล รพี พงษ์ก็ทำได้เพียงไม่ถามอีกต่อไป

“หลังจากที่ธฤตญาณจากไปแล้ว คนที่รับช่วง อำนาจต่อ เป็นผู้หญิงคนหนึ่ง คนของฉันได้ทำการ สืบมาแล้วผู้หญิงคนนี้เคยมีความสัมพันธ์กับธฤต ญาณช่วงระยะเวลาหนึ่ง ตอนนั้นที่รู้เรื่องนี้ ฉันยัง รู้สึกหมดอาลัยตายอยากเลย แม้แต่ผู้หญิงของตัว เองยังหักหลังเขาได้ ใจคนยากที่จะหยั่งรู้” นฤพล กล่าวอย่างถอดใจ

รพีพงษ์ขมวดคิ้ว ไม่คาดคิดว่าคนที่รับช่วง

อำนาจต่อจากธฤตญาณ จะเป็นผู้หญิง ฝีมือของธ ฤตญาณ ไม่น่าจะเกิดเหตุการณ์ที่ผู้หญิงของตนหัก หลังตนเองได้ เกรงว่าเรื่องนี้จะไม่ธรรมดาอย่างที่คิดไว้เสียแล้ว

“งั้นต้องรบกวนท่านหัวหน้าตระกูลธนาพัชร์กุล ด้วย เดี๋ยวผมจะไปคุยกับธฤตญาณสักหน่อย หาก ต้องการล้างแค้นล่ะก็ หวังว่าท่านหัวหน้าตระกูลธนา พัชร์กุลจะไม่นิ่งดูดาย” รพีพงษ์กล่าว

นฤพลพยักหน้า จากนั้นก็เกิดความลังเลขึ้น เหมือนมีอะไรจะพูด

รพีพงษ์เห็นท่าทีเขาก็ได้ถามขึ้น ท่านหัวหน้า ตระกูลธนาพัชร์กุลมีอะไรอยากพูดหรือเปล่าครับ? หรือจะบอกว่า การช่วยธฤตญาณล้างแค้นนั้น สำหรับคุณนั้นเป็นเรื่องยาก?”

“ไม่ใช่เรื่องนี้ ช่วยธฤตญาณล้างแค้นเป็นเรื่อง เล็ก แต่ผมยังมีอีกเรื่อง อยากจะขอให้คุณช่วย แต่ ผมแพ้โกะ ควรที่จะทำตามคำขอของคุณ ถ้าให้คุณ ช่วยอีก มันจะไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่” นฤพลกล่าว

“อ๋อ? เรื่องอะไรหรอครับ?” รพีพงษ์ถาม

“คืองี้ อีกไม่กี่สัปดาห์ เมืองกรีนโคลจะจัดแข่ง โกะถึงเวลานั้นคนรอบๆเมืองกรีนโคลประมาณสิบ กว่าคนจะมาเข้าร่วมการแข่งขันด้วย การแข่งขันครั้ง นี้จะมีเพียงวัยรุ่นเท่านั้นที่เข้าร่วมได้ ความจริง เป็นการแข่งขันปกติทั่วไป ฉันก็ไม่ได้ใส่ใจอะไร และ ฉันก็ไว้ใจฝีมือของวินท์
“แต่ช่วงนี้ฉันได้รับข่าวมาว่า เมืองริเวอร์มีคนที่มี พรสวรรค์คนหนึ่ง ชื่อว่าโกมุท ความสามารถชั่งน่า ตกใจ และนายกสมาคมโกะของเมืองริเวอร์คือ ประธานของบริษัทอสังหาริมทรัพย์เมค์ส เขาอยาก จะมาพัฒนาวงการอสังหาของเมืองกรีนโคล อสังหา เป็นชีวิตจิตใจของตระกูลธนาพัชร์กุล ฉันไม่มีทาง เปิดโอกาสให้เขาได้เข้ามาแน่นอน”

“แต่ครั้งนี้บริษัทอสังหาริมทรัพย์เมค์สจะใช้การ แข่งขันโกะเพื่อเผยแพร่ชื่อเสียงของตน ถ้าโกมุท ชนะการแข่งขัน สิ่งที่เขาเตรียมไว้ จะเป็นตัวแทน ป่าวประกาศของบริษัทอสังหาริมทรัพย์เมค์สในเมือ งกรีนโคล ถึงเวลานั้นอสังหาจะถูกแบ่งตลาดออกไป ตระกูลธนาพัชร์กุลจะได้รับผลกระทบอย่างมาก ประธานของบริษัทอสังหาริมทรัพย์เป็นคนใจดำ การ ก่อสร้างของบริษัทพวกเขา ครึ่งหนึ่งของโครงการ นั้นใช้วัตถุดิบที่ไม่ได้มาตรฐาน ฉันไม่อยากให้อสัง หาของเมืองกรีนโคลถูกเขาทำลาย”

“หากต้องการขัดขวางบริษัทอสังหาริมทรัพย์ เมค์ส ต้องชนะโกมุทในการแข่งขันโกะ ครั้งนี้ที่พวก เรามาเมืองริเวอร์ เพื่อมาดูฝีมือของโกมุท เมื่อสอง สามวันก่อนพงกเราได้ดูเขาแข่งขันสองสามรายการ พบว่าฝีมือเขาค่อนข้างดีเลยทีเดียว ในรุ่นเดียวกัน น้อยคนที่จะเทียบกับเขาได้ แม้แต่วินท์ก็ไม่แน่ว่าจะชนะเขาได้หรือไม่”

“ดังนั้นฉันจึงอยากเชิญแกมาเป็นตัวแทนของ สมาคมโกะแห่งเมืองกรีนโคล เพียงแค่ชนะโกมุท เท่านั้น ฉันจะให้แกขอเพิ่มได้อีกหนึ่ง หวังว่าแกจะ ตกลง”

เมื่อฟังนฤพลพูดจบ รพีพงษ์ก็พยักหน้า เขาเคย ได้ยินชื่อเสียงของบริษัทอสังหาริมทรัพย์เมค์ส ถึง แม้พวกเขาจะเก่ง แต่พวกเขาก็มีชื่อเสียในเรื่องการ ใช้วัสดุอุปกรณ์ที่ไม่ได้มาตรฐานเช่นกัน แล้วบริษัท อสังหาริมทรัพย์เมค์สยังเคยท้าทายบริษัทซัน บับเบิ้ลกรุ๊ปอีกด้วย เพียงแค่เธียรวิชญ์ไม่ใส่ใจก็แค่ นั้น

ตอนนี้ได้ยินนฤพลพูดแบบนี้ รพีพงษ์ก็รู้สึก รังเกียจบริษัทอสังหาริมทรัพย์เมค์สขึ้นมา บริษัทที่ ใช้วัสดุก่อสร้างไม่ได้มาตรฐาน ถ้าให้พวกเขาเจริญ ก้าวหน้า ก็มีแต่ทำร้ายคนมากขึ้น

ยังไงก็แค่ไปเล่นโกะ แล้วยังได้น้ำใจจากตระกูล ธนาพัชร์กุลอีก สำหรับรพีพงษ์แล้ว มีแต่จะได้

“ตกลง ถึงเวลานั้นผมจะไปช่วย” รพีพงษ์กล่าว

นฤพลตาเป็นประกาย มองไปที่รพีพงษ์อย่าง ซาบซึ้งใจ ตอนแรกเขาคิดว่ารพีพงษ์จะไม่ตกลงเสีย อีก เพราะบริษัทอสังหาริมทรัพย์เมค์สนั้นอยู่ที่เมืองริเวอร์

รพีพงษ์ไม่สนใจเรื่องนี้ แม้จะเป็นคนของเมืองริ เวอร์ด้วยกัน แต่เขาไม่มีทางเอาเหตุผลนี้เข้ามา เพื่อ จะช่วยบริษัทที่ใช้วัสดุไม่ได้มาตรฐานมาก่อสร้าง แน่นอน

รวินท์เห็นรพีพงษ์ตอบตกลง ก็รู้สึกซาบซึ้งใจ สายตาที่มองไปที่รพีพงษ์นั้นเปลี่ยนไปเป็นอบอุ่น มากขึ้นในทันใด

การแข่งขันโกะจะเริ่มขึ้นในอีกหนึ่งสัปดาห์ให้ หลัง รพีพงษ์พูดกับนฤพลว่าเขาจะไปคุยกับธฤต ญาณ ถ้าโอเคล่ะก็ จะพยายามล้างแค้นให้ธฤต ญาณก่อนเริ่มการแข่งขัน

หลังจากที่พูดคุยกันเสร็จ รพีพงษ์ได้คุยเรื่อ

งอื่นๆกับพวกเขาต่อสักพัก กระพันเหมือนจะชอบเจส สิกา แต่เจสสิกากลับอยู่ข้างรพีพงษ์ตลอด ให้รพี พงษ์ขวางกระพันให้ หลังจากที่กระพันรู้ว่ารพีพงษ์ แต่งงานแล้ว ก็ไม่ได้รู้สึกว่ารพีพงษ์จะเป็นศัตรูด้าน ความรักอะไรกับเขาอีกยังไงเจสสิกาก็ไม่มีทางมี ความสัมพันธ์ใดๆกับคนที่แต่งงานแล้วได้

รวินท์ก็ไปพูดคุยกับรพีพงษ์ นฤพลไม่เคยเห็นรวิ นท์เข้าหาใครก่อนเลย

ประมาณห้าทุ่ม รพีพงษ์เพิ่งจะเดินออกจากคลินิก รีบกลับไปที่บ้าน

หลังจากที่อารียากลับจากโรงแรมแมนดี้แล้วนั้น ก็รู้สึกเสียใจ เพราะวันนี้อีกนิดเดียว เธอก็จะโดนไต รวิชญ์ลวนลามแล้ว

ความจริงเธออยากระบายความในใจให้กับรพี พงษ์ แต่เมื่อกลับมาถึงพบว่ารพีพงษ์ไม่อยู่ เธอรู้สึก

ผิดหวัง

หลังจากที่เธออาบน้ำแล้วก็กลับไปนอนที่ห้อง คิดว่าอีกไม่นานรพีพงษ์คงกลับมา

แต่ทว่ารอจนถึงห้าทุ่มแล้ว รพีพงษ์ก็ยังไม่ถึง บ้าน

ที่งานเลี้ยงเธอก็ดื่มเข้าไปไม่น้อยแล้ว เมื่อนอน ลงบนเตียง ก็เริ่มมึน เริ่มจะทนไม่ไหว ก็หลับไป

เมื่อรพีพงษ์กลับถึงบ้าน ก็เดินเข้าห้องไป เห็น อารียานอนบนเตียงโดยไม่ห่มผ้า ก็รู้สึกรักมากขึ้นมา รีบห่มผ้าให้เธอ

อารียาหันตัว แล้วจับไปที่แขนของรพีพงษ์ แล้ว พูดในฝันว่า “รพีพงษ์ ขอบคุณนะ”

ปากของรพีพงษ์โค้งทำมุมเป็นรอยยิ้ม จากนั้นก็ ลงไปนอนข้างๆอารียา ให้เธอจับแบบนี้ปล้วนอนหลับ ไปเช้าของวันรุ่งขึ้น ตอนที่อารียาตื่นขึ้นแล้วเห็นรพี พงษ์ใส่ชุดนอนข้างเธอนั้น แล้วมือของเธอจับไปที่ แขนของรพีพงษ์ รพีพงษ์อยากให้เธอนอนสบาย เลย อยู่ในท่านั้นไม่ขยับแม้แต่น้อย

อารียาเข้าใจทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น เธอรู้สึกซึ้งใจ ต่อรพีพงษ์

ตอนแรกเธออยากจะเล่าให้รพีพงษ์ฟังถึงเรื่อง ของบริษัทอสังหาริมทรัพย์เมค์ส แต่เมื่อนึกถึงสิ่งที่ รพีพงษ์ทำให้กับเธอ เธอไม่อยากให้รพีพงษ์เป็นห่วง เธอบ่อยนัก ดังนั้นครั้งนี้เธอจะตัดการด้วยตัวเอง

ในตอนทานอาหารเช้า รพีพงษ์ถามอารียาว่า “โครงการนั้นของเธอเป็นอย่างไรบ้าง?”

รพีพงษ์ ไม่รู้ว่าโครงการที่อารียากำลังต่อรองอยู่ นั้นเป็นของบริษัทอสังหาริมทรัพย์เมค์ส ถ้ารู้ล่ะก็ เขาจะต้องห้ามอารียาไว้แน่นอน แล้วให้บริษัทซัน บับเบิ้ลกรุ๊ปให้โครงการใหม่เธออีก

อารียาทำอะไรไม่ถูก แล้วกล่าว “ก็….ก็เกือบจะ สำเร็จแล้ว วันนี้ฉันต้องไปบริษัทพวกเขาอีกครั้ง น่า จะไม่มีปัญหาอะไรแล้ว”

เห็นอารียาพูดแบบนี้ รพีพงษ์ก็พยักหน้า อีกไม่ นานเขาต้องไปที่เมืองกรีนโคล ต้องอยู่ที่นั่นอย่าง น้อยหนึ่งสัปดาห์ ดังนั้นต้องให้แน่ใจก่อนว่าอารียาไม่ประสบปัญหาใดๆ

“ผมอาจจะต้องไปจากที่นี่สักสัปดาห์ ไปทำธุระ

ที่เมืองกรีนโคล ถ้าคุณมีปัญหาอะไรล่ะก็ บอกผมได้ นะ ผมช่วยคุณแก้ปัญหาก่อนจะไป” รพีพงษ์พูด อารียาได้ยินว่ารพีพงษ์จะต้องไปทำธุระ ก็ยิ่งไม่ อยากรบกวนรพีพงษ์เข้าไปใหญ่ ดังนั้นจึงรีบส่ายหัว

แล้วกล่าว “ไม่เป็นไร ฉันโอเค”

เห็นอารียาตั้งมั่นขนาดนี้ รพีพงษ์จึงไม่คิดอะไร มาก คิดว่าการร่วมมือกันครั้งนี้ของอารียานั้นราบรื่น แล้วยังชมอารียาอีกด้วย

“รพีพงษ์ ครั้งนี้คุณไปทำอะไรที่เมืองกรีนโคล?” อารียาถาม

“ช่วยเพื่อนเอาของที่ควรจะได้รับกลับมา แล้วก็ เข้าร่วมการแข่งขัน” รพีพงษ์กล่าว

“แข่งขัน? แข่งอะไร” อารียาถาม

“การแข่งขันโกะ” รพีพงษ์ตอบ

“คุณเล่นโกะเป็นด้วยหรอ?” อารียาตะลึง

“ผมทำเป็นอีกอย่าง รอให้มีเวลาแล้วผมจะโชว์ แต่ละอย่างให้คุณดู” รพีพงษ์ยิ้มแล้วลูบหัวอารียา

อารียาถอนหายใจ เธอรู้สึกว่าเธอและรพีพงษ์มีความแตกต่างกันมากเข้าไปอีก บางครั้งเธอก็สงสัย ว่าตัวเองคู่ควรกับรพีพงษ์หรือไม่

“ไม่ได้ การร่วมมือกันครั้งนี้ฉันจะต้องทำมันให้ สำเร็จด้วยตัวเอง จะให้รพีพงษ์ช่วยไม่ได้อีกแล้ว” อารียาตัดสินใจอย่างเงียบๆ

หลังจากที่ทานอาหารเช้าแล้ว รพีพงษ์ก็ได้ไป สถานบันเทิงสตาร์กาย

ธฤตญาณเทชาให้เขา ยิ้มแล้วถาม “เมื่อวานเพิ่ง

จะมาดูจักรพันธ์ไปเอง ทำไมวันนี้มาอีกละ?” “วันนี้ฉันไม่ได้มาเพราะจักรพันธ์ แต่มาเพื่อแก” รพีพงษ์กล่าว

ธฤตญาณชะงัก แล้วนั่งลงข้างๆรพีพงษ์ “เพื่อ ฉัน?”

“แกอยู่เมืองริเวอร์มาได้หนึ่งปีแล้วป่ะ? รวมกับ ช่วงที่แกปิดบังตัวตนของตัวเอง น่าจะเกือบสองปี แล้วไหม” รพีพงษ์กล่าว

“ทำไมถึงพูดเรื่องนี้? แกคงไม่คิดจะไล่ฉันไปใช่

ไหม?”

ธฤตญาณมองไปที่รพีพงษ์อย่างแปลกใจ

รพีพงษ์หัวเราะฮ่าฮ่า แล้วกล่าว “ฉันจะไล่แกไป ได้ไงกัน วันนี้ที่ฉันมาหาแก เพื่อจะถาม ถ้าตอนนี้ให้โอกาสแกหนึ่งครั้ง แกอยากจะล้างแค้นคนที่หักหลัง แกในตอนนั้นไหม?”

ธฤตญาณชะงัก แล้วกล่าว “ไม่อยาก”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ