พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว

บทที่887 วิญญาณตนหนึ่ง



บทที่887 วิญญาณตนหนึ่ง

เทือกเขาคุนหลุน

จากการปรับตัวสองวัน รพีพงษ์เริ่มคุ้นชินกับกิจวัตรของกลุ่ม สิงโต แล้วยังคุ้นเคยกับกฎเกณฑ์ของที่นี่แล้วด้วย ขณะเดียวกัน ก็รู้ถึงวิธีการที่จะเอาหยก โยงจิตมาได้แล้ว

ในกลุ่มสิงโตเพื่อที่จะให้ได้หยกโยงจิตมานั้น นอกจากสะสม ผลงาน ก็ไม่มีวิธีอื่นแล้ว จะไปขโมยหยกโยงจิตออกมาจากห้อง เก็บก็ไม่ได้

ที่นี่เพียงแค่ยอดฝีมือทั้งสี่ รพีพงษ์ก็ต่อกรไม่ไหวแล้ว ไม่ต้อง พูดถึงฝีมือของรัชธรรมที่คาดเดาไม่ได้เลย

และห้องเก็บของกลุ่มสิงโตอยู่ที่ไหนก็ไม่รู้ มีเพียงธัชธรรมและ

คนสำคัญของกลุ่มสิงโตเท่านั้นที่รู้ว่าอยู่ไหน รพีพงษ์เพิ่งจะเข้า

ร่วม ก็ไม่สามารถวนอยู่ในหุบเขา หาที่อยู่ของห้องเก็บได้

ดังนั้นสิ่งที่เป็นไปได้ในตอนนี้คือ รีบสะสมผลงาน แล้วแลก หยก โยงจิตจากกลุ่มสิงโต

รพีพงษ์ไม่อยากอยู่ที่สำนักงานใหญ่กลุ่มสิงโตนานนัก เพราะ อยากสะสมผลงาน เขาต้องออกไปทำภารกิจด้านนอก แม้อยู่ที่ สำนักงานกลุ่มสิงโตจะมีโอกาสได้ผลงานบ้าง แต่พึ่งแค่สะสมผล งานพวกนั้น รพีพงษ์ก็ไม่รู้ว่าต้องรอถึงเมื่อไหร่ถึงจะได้แลกหยก

โยงจิตมา
เขามีเวลาแค่สามปี ปัจจุบันครึ่งปีกำลังจะผ่านไป ดังนั้นเขา ต้องเร่งมือแล้ว

เขาเก็บข้าวของของตัวเอง จากนั้นก็เดินออกจากห้องไป เขา จะไปพบธัชธรรมสักครั้ง ถ้าธัชธรรมไม่มีธุระอะไรแล้ว เขาก็จะ ออกจากเทือกเขาคุนหลุน แล้วกลับบ้าน

ตลอดทางที่มาบนเขาของกลุ่มสิงโต ห่างไกลมาก รพีพงษ์เห็น

ห้องว่างบนเขานั้น และด้านนอกมีต้นไม้ใหญ่อยู่ต้นหนึ่ง

ไม่ไกลจากห้องนั้นมีหินก้อนใหญ่ บนหินวางชุดชาไว้ ดูเหมือน เมื่อมีคนดื่มมันแล้วไม่เก็บ

หลังจากที่เดินถึงห้องไม้ รพีพงษ์ก็ตะโกน “ผู้อาวุโส มิทราบว่า จะออกมาเจอกันหน่อยได้มั้ย?”

ผ่านไปสักพัก รพีพงษ์ก็ยังไม่ได้รับเสียงตอบกลับ

“หรือว่าไม่อยู่กันนะ?” รพีพงษ์สงสัย

เขาได้ยินพนักงานของกลุ่มสิงโตพูดว่า หลังจากที่ธัชธรรม กลับมาก็อยู่บนเขาตลอดเวลา ไม่เคยลงไป แต่ที่นี่กลับไม่เห็นธัช ธรรมแล้ว

เมื่อคิดๆว่าธัชธรรมอาจจะมีธุระอะไร ไปในที่ที่เขาไม่รู้ รพีพงษ์ ก็ได้ขึ้นไปนั่งบนก้อนหินนั้น คิดว่าจะนั่งสักพัก

รพีพงษ์ไม่รู้ ในห้องบนยอดเขานี้ ดูไปจะเชื่อมกับด้านในของ ภูเขา ตรงไปตามทางเดิน สามารถไปถึงใจกลางของภูเขาได้
ใจกลางของเขาว่างเปล่า ข้างในเป็นที่ว่างกว้างขวาง ขณะนี้ ธัชธรรมกำลังอยู่ที่ว่างตรงนี้

ด้านในถ้ำมีแสงสลัว ด้านในนอกจากทางเดินนั้นแล้ว ก็ไม่มี สิ่งปลูกสร้างใดๆของมนุษย์

ตอนนี้แสดงสว่างในถ้ำ จึงไฟในการให้แสงสว่าง ดังนั้นจึงไม่ ถือว่าสว่างมากนัก แค่สลัวๆ

ขณะนี้ธัชธรรมกำลังยืนอยู่ที่หินสว่างก้อนหนึ่ง ด้านหน้าของ เขาวางโต๊ะไว้บนโต๊ะมีเทียน

หินก้อนนี้ดูๆไปเป็นของแข็ง ด้านในเป็นสีดำของเหลวกำลัง ไหลเวียนอยู่ สีดำนั้นไม่ได้เหมือนตอนกลางคืน แต่เหมือนกับ เหวก็มีปราน จ้องไป ก็ให้ความรู้สึกถูกดูดเข้าไป ค่อนข้างลี้ลับ

และถ้าไม่มีหินนี้อยู่ ความมืดที่อยู่ด้านในก็จะพุ่งออกมาด้าน นอก กลืนกินทุกอย่างที่อยู่รอบนอกจนหมด

แต่รอบๆก้อนหินมีลายแปลกประหลาดอยู่บนลายแปลก ประหลาดนั้นแป๊ปๆก็มีแสงประกายขึ้นมา เหมือนกับคำสาป ที่ ขังแสงสลัวสีดำนี้ไว้

ราวกับไม่มีใครนึกถึงว่า ในถ้ำนี้ ก็มีสิ่งของที่ไม่ธรรมดาอยู่ ขณะนี้ธัชธรรมยืนอยู่ด้านหน้าโต๊ะ ในมือถือไม้เทพแดงที่เอา มาจากนิรภัฏ

“อาจารย์ ผมได้เอาไม้เทพแดงมาแล้ว เดี๋ยวผมจะทำพิธี แบบ นี้ท่านก็สามารถอยู่ต่อไปได้อีกสักระยะแล้ว”
สิ้นสุดเสียงของเขา กําแพงหินที่อยู่ต่อหน้าเขา ก็มีแสงไฟวิบ วัน ไม่นานก็ปรากฏเงาของคนอื่น ดูๆไปเหมือนเป็นภาพลวงตา โปร่งใส แล้วเหมือนกับโดนกักไว้ในกำแพงหินอย่างนั้น แปลก ประหลาดเหลือเกิน

เงานั้นจ้องไปที่ธัชธรรม แล้วกล่าว “ธัชธรรม ลำบากแกแล้ว”

ธัชธรรมยิ้ม แล้วกล่าว “อาจารย์ก็ตลก คนที่ลำบากน่าจะเป็น อาจารย์ถึงจะถูก ผมก็แค่ทํางานให้แค่นั้นเอง”

“ฉันก็เป็นแค่วิญญาณ ไม่ลำบาก แต่แค่ถูกกักไว้ที่นี่ จนน่าเบื่อ ก็เท่านั้น” เงานั้นกล่าวอย่างสงบ

คนนี้คืออาจารย์ของรัชธรรม เจ้าสำนักคนก่อนหน้าของกลุ่ม สิงโต ชื่อบริพันธ์

ที่ธัชธรรมรู้ว่าบนแดนดั่งเทพ ยังมีแดนเทพอยู่ ก็เพราะบริพันธ์

เป็นยอดฝีมือแดนเทพคนเดียวที่ธัชธรรมรู้ว่าอยู่บนโลกนี้

เพียงแค่ไม่กี่ปีก่อนหน้านี้เป็นเรื่องใหญ่ขึ้น บริพันธ์จึงเหลือแค่ วิญญาณ แล้วยังถูกกักไว้ในกำแพงหินนี้ด้วย

“วิญญาณนี้ของฉันอยู่ได้ไม่นานแล้ว แม้จะมีไม้เทพแดงช่วย อยู่ สุดท้ายก็ต้องสลายไป คนที่แกหวังจะเจอหาไปถึงไหนแล้ว? ก่อนที่ฉันจะสลายไป สามารถเป็นแดนเทพ เปลี่ยนแปลงปัจจุบัน ถ้าไม่มีใครมาปรามช่องเข้านี้ไว้ ถึงเวลานั้น ที่โชคร้ายก็จะเป็น โลกของเรา” วิญญาณของบริพันธ์ถอนหายใจ

“ผมหาคนเจอแล้ว เป็นคนที่มีสติปัญญาที่สุดที่เคยมีมา แต่จะเป็นแดนเทพก่อนที่อาจารย์จะสลายไปได้มั้ยนั้น ก็ต้องพึ่งตัวเขา

เองแล้ว” ธัชธรรมกล่าว บริพันธ์พยักหน้า ไม่พูดอะไรต่อ ตอนนี้ท่าทีของเขา แม้จะ

กังวลเรื่องนี้ ก็เหนือบ่ากว่าแรงแล้ว ธัชธรรมไม่คิดเรื่องนี้อีก แล้วเลื่อนเทียนบนโต๊ะ ไว้ข้างกำแพง หิน แล้วกล่าว “อาจารย์เตรียมตัวนะ ผมจะจุดไม้เทพแดงแล้ว

ท่านดูดมันเข้าไปวิญญาณจะอยู่ได้อีกสักระยะ

พูดจบ ธัชธรรมก็เอาไม้เทพแดงที่อยู่ในมือจุดกับเทียน ตอนที่ ไฟจุดเข้ากันไม้ไฟก็ติดขึ้นมา

จากนั้นควันก็ไปที่กำแพงหิน บริพันธ์ที่อยู่ในกำแพงหินเริ่มพูด อากาศนั้นเข้าไป

ผ่านไปไม่นาน อากาศนั้นก็ถูกบริพันธ์สูดจนหมด แต่ร่างของ

เขา ก็เชื่อมแน่นเข้าหากัน ไม่เหมือนเมื่อก่อนที่เกือบจะสลายแล้ว

“ความรู้สึกนี้ดีจัง เสียดายไม้เทพแดงมีน้อย ถ้ามีมากพอล่ะก็ ก็จะทำให้ร่างของฉันกลายเป็นร่างจริงก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ เสียดายจัง”

บริพันธ์หัวเราะออกมา ด้วยเสียงโล่งอก ไม่ได้รู้สึกผิดหวังแต่ อย่างใด


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ