พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว

บทที่ 803 ท่อนไม้



บทที่ 803 ท่อนไม้

ระหว่างทางกลับ รพีพงษ์และอารียายังคงอึ้ง มีแต่คำพูดของ

หมอดังกึกก้องอยู่ในหู “หากร่างกายของเธอสามารถเป็นแบบนี้ไปได้ตลอด ก็ไม่น่า

จะมีโรคภัยใดๆ สุขภาพดีตลอดชีวิต

แม้คำพูดนี้ของหมอเมื่อฟังแล้วควรจะดีใจสิถึงจะถูก แต่อารี ยากินยาพิษเข้าไปสองประเภท แต่ร่างกายของอารียา ทำให้คน รู้สึกประหลาดใจยิ่งนัก

“รพีพงษ์ คุณว่าอุปกรณ์ทางการแพทย์ของโรงพยาบาลนี้มี ปัญหาหรือเปล่า ไม่งั้นเราลองไปตรวจที่โรงพยาบาลอื่นดูกัน ไหม” อารียายังคงกล่าวอย่างกังวล

“โรงพยาบาลนี้เป็นโรงพยาบาลที่ดีที่สุดของเกียวโตแล้ว อุปกรณ์ของพวกเขาทันสมัยกว่าที่อื่น แม้อุปกรณ์จะมีปัญหา ก็ไม่ น่าจะมีปัญหาทุกตัวนะ ถ้าผลของพวกเขาไม่น่าเชื่อถือล่ะก็ ผล ของโรงพยาบาลอื่นไม่น่าเชื่อถือยิ่งกว่า รพีพงษ์กล่าว

“งั้นมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่เนี่ย ฉันรู้สึกว่ามันไม่ปกตินะ ฉันมัก จะรู้สึกว่าพลัง ในช่วงนี้มันมหาศาลเหลือเกิน ไม่เหนื่อย คุณว่าฉัน คงไม่โดนของอะไรเข้าตัวหรอกมั้งนะ?” อารียากล่าวอย่างกังวล

รพีพงษ์มองบน กล่าว “เค้าถูกทำของใส่ ร่างกายจะเป็นโรค ร่างกายไม่มีแรง แต่นี่คุณโดนของแต่ร่างกายกลับมีพลัง ไม่มีโรคภัย ถ้าแบบนี้ ของที่เข้าคุณก็เป็นของดีนะ

อารียาได้ยินคำพูดของรพีพงษ์ก็รู้ว่ารพีพงษ์กำลังหัวเราะตัว เองอยู่ คิดๆก็ใช่ โลกนี้จะมีของอยู่ได้ไงกัน เธอคิดมากไป

รพีพงษ์ขับรถพลาง ก็คิดพลางว่าเกิดอะไรขึ้นกับอารียากันแน่ ไม่นาน ตาเขาก็เป็นประกาย แล้วกล่าว “ผมรู้ว่าทำไมคุณถึงเป็น แบบนี้แล้ว”

“ทำไม?” อารียารีบถาม

“คุณจำวันนั้นที่คุณฝันได้ไหม คุณได้กินท่อนไม้ไปนิดนึง?”

อารียาพยักหน้า

“คุณคิดว่าตัวเองเริ่มมีพลังมหาศาล เพราะเริ่มตั้งแตกที่คุณ กินไม้ท่อนนั้นไหม?” รพีพงษ์ถามต่อ

อารียาคิดๆ พบว่าหลังจากที่ตัวเองได้กินท่อนไม้นั้นแล้ว ก็มี พลังมหาศาลขึ้นจริงๆ และถ้าจะพูดว่าพลังมหาศาลก็พูดไม่ได้ หลังจากที่ครั้งนั้นได้กินท่อนไม้แล้วนั้น เธอได้ใช้มันกับรพีพงษ์ หลายวัน ถึงจะเริ่มเพลาลง

เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ อารียาก็หน้าแดงขึ้นมา

“ถ้าพูดแบบนี้ ก็น่าจะเริ่มจากวันนั้น ฉันก็กระปรี้กระเปร่ามา โดยตลอด แม้หนูลินจะงอแง ฉันก็ไม่รู้สึกเหนื่อย ตอนแรกฉันคิด ว่าเป็นเพราะอยู่กับคุณ ฉันมีความสุข จึงไม่รู้สึกเหนื่อย” อารียา กล่าว
คำพูดของเธอทําให้รพีพงษ์ยิ่งมั่นใจ ว่าที่อารียาเป็นอยู่ ปัจจุบันนี้ เป็นเพราะไม้ท่อนด่านั้นจริงๆ

เพราะสิ่งนี้ได้ถูกเก็บไว้กับยาพิษอีกสองชนิด ดังนั้นรพีพงษ์จึง ลืมฉวยโอกาสนี้ให้อาจารย์ดูว่ารู้จักที่มาที่ไปของของนี้หรือไม่

ถ้าไม่ใช่เพราะคิดเรื่องนี้ออก รพีพงษ์ก็คงจะลืมเรื่องของท่อน ไม้นี้ไปแล้ว

“ท่อนไม้นั้นไม่ธรรมดาจริงๆ ไม่คาดคิดว่าหลังจากกินเข้าไป แล้ว ยังทำให้คนที่ได้รับพิษไม่เป็นไรอีกด้วย แม้จะยังไม่แน่ใจว่า ท่อนไม้นั้นมาจากที่ไหน แต่ตอนนี้ที่รู้ๆ ของสิ่งนี้ไม่ได้เป็นโทษ รพีพงษ์กล่าวอย่างสงบ

รู้ว่าที่ตัวเองเป็นอยู่นี้เป็นเพราะท่อนไม้นั่นแล้ว อารียา สบายใจไปไม่น้อย ช่วงนั้นที่วางท่อนไม้ไว้บนหัวเตียงเธอก็รู้สึก ว่ามันเป็นของที่แปลกประหลาด ไม่คาดคิดว่ากินเข้าไปแล้วยัง เป็นยาถอนพิษอีกด้วย เป็นของดีที่หาได้ยากจริงๆ

“ไม่ต้องคิดถึงเรื่องที่ไม่มีประโยชน์พวกนี้อีกแล้ว คนไม่เป็น อะไรก็ดีแล้ว เดี๋ยวถ้ามีโอกาส ผมจะไปศึกษาที่มาของท่อนไม้ว่า มันมาจากไหนกันแน่” รพีพงษ์กล่าว

อารียาพยักหน้า ถอนหายใจยาวๆ

คฤหาสน์ใหญ่ตระกูลลัดดาวัลย์

ในห้องที่มืดมิด ชายชุดดำถูกมัดตัวไว้ ใบหน้าเขาได้ปรากฏ ออกมา เป็นชายวัยกลางคนอายุราวๆสี่สิบกว่าปี
อายุ สามารถเป็นแดนปรมาจารย์ได้ ถือว่ามีพรสวรรค์ไม่ น้อยเช่นกัน

ที่เขามีโต๊ะวางอยู่ตัวหนึ่ง บนโต๊ะขณะนี้มีขวดเล็กๆ ใบ ป้ายไม้ และมีกระดาษที่ม้วนๆหลายแผ่นกำลังวางอยู่ ของเหล่านี้ได้มาจากการค้นตัวชายชุดดำ เพราะรพีพงษ์เน้น เรื่องยาพิษที่เขาพกติดตัวมา ดังนั้นครองภพที่รับผิดชอบเรื่อง

การค้นตัวจึงไม่กล้าแตะต้องสิ่งของที่ได้จากการค้นตัวนี้ ล้วนวาง

มันไว้บนโต๊ะ รอรพีพงษ์มาดู

ผ่านไปไม่นาน ประตูห้องถูกเปิดออก รพีพงษ์เดินมาจากด้าน

นอก

ครองภพอยู่ข้างๆเขา หลังจากที่ทั้งสองเดินเข้ามาแล้ว เขา ก็ได้ปิดประตู

“ปลุกมัน” รพีพงษ์กล่าว

ครองภพได้ถือถังน้ำที่เตรียมไว้ข้างๆ เทลงไปที่ชายชุดดำนั้น

ในทันที

ชายชุดดำตื่นขึ้นมา เห็นตัวเองถูกมัด ด้านหน้าคือรพีพงษ์แล้ว นั้น ก็ผวาขึ้นมา พยายามจะใช้พลังเน่ยจิ้งเพื่อปลดเชือก ในทันที แต่เขาก็พบว่าตัวเองไม่สามารถไหลเวียนเน่ยจิ้งในร่างกายได้

“ตอนนี้ฉันจะถามคำถามบางคำถามกับแก ตอบให้ดีๆ มิเช่น นั้น อย่าหาว่าฉันไม่เตือน” รพีพงษ์กล่าว

“แกเป็นใคร?”
ชายชุด เห็นรพีพงษ์ กล่าว “ฉันบอกแกไปแล้ว ว่าฉันคือ เพื่อนของชินาธิป”

ครองภพที่อยู่ข้างๆได้ยินชายชุดดำพูดแล้วนั้น ก็ยิ้มอย่างมี เลศนัย จากนั้นก็เดินไปด้านหน้าของชายชุดดำ ไม่พูดพร่ำทํา เพลงหยิบมีดสั้นจากหลังตัวเองออกมา ทิ่มไปที่ต้นขาของชายชุด ทําทันที

เสียงร้องโอดครวญดังขึ้น ราวกับเสียงฆ่าหมูอย่างไรอย่างนั้น ชายชุด อดกลั้นจนหน้าดำหน้าแดง นัยน์ตาสองข้างเต็มไป ด้วยเลือดเป็นสาย

ครองภพในฐานะเจ้าสำนักของลอบสังหาร ปฏิบัติการสอบ สังหารมาตลอด มีประสบการณ์ในการบีบถามอย่างโชกโชน อีก ฝั่งพูดเท็จหรือไม่ แค่ดูก็รู้แล้ว

และเมื่อเขาบีบคลั้นอีกฝั่ง จะต้องทำให้ได้ ก็คือให้อีกฝั่งรู้ว่า ตนไม่ใช่แค่ทำให้กลัวเท่านั้น ถ้าอีกฝั่งไม่ตรงไปตรงมา เขาก็ สามารถลงมือฆ่าได้จริงๆ

“ลูกพี่กูถามว่ามึงเป็นใคร ไม่ได้ถามว่ามึงเป็นเพื่อนใคร ถึง พกขวดกระป๋องมาหลายอัน แล้วยังมีป้ายไม้ที่เขียนชื่อของยาไว้ ดุๆไปน่าจะไม่ธรรมดา รีบพูดออกมา ไม่งั้นจะกรีดเนื้อถึงแล้ว วนรอบๆ” ครองภพเกรี้ยวกราด

รพีพงษ์เห็นครองภพไม่พูดพร่ำทำเพลง ก็รู้สึกนับถือ ที่แท้เรื่อง เฉพาะก็ต้องเอาคนที่ทำเฉพาะด้านมาทำ

ชายชุดด่าดูออกว่าครองภพเป็นคนดุร้าย บวกกับเมื่อกี้ที่ครองภพ มันเกิดขึ้นอย่างกะทันหัน แม้จะเป็นแดนปรมาจารย์ ก็ขวัญหายได้ ดังนั้นจึงไม่กล้าลองใจใดๆ

“ฉัน ฉันคือคนของสำนักเทพยาเซียน ป้ายไม้นั้นเป็นสำนัก เทพยาเซียนทำขึ้นเอง พวกแกถามคนที่รู้จักสำนักเทพยาเซียนดู ก็รู้” ชายชุด รีบกล่าว

ได้ยินสำนักเทพยาเซียนคำนี้ รพีพงษ์ก็แปลกใจ เขาไม่เคย ได้ยินเกี่ยวกับสํานักเทพยาเซียนมาก่อน และไม่รู้ว่าสำนักเทพยา เซียนทําอะไรกันแน่

แต่เมื่อฟังชื่อ ก็รู้แล้วว่าเกี่ยวข้องกับยาแน่นอน

ครองภพที่อยู่ข้างๆเมื่อได้ยินชายชุดดำกล่าว ก็ตาโตขึ้นมา ทันใด แล้วกล่าวอย่างตกใจว่า “พระเจ้า มันเป็นคนของสํานัก เทพยาเซียนหรอเนี่ย!”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ