พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว

บทที่776 ขยะแขยง



บทที่776 ขยะแขยง

หลังจากที่ครนได้ยินรพีพงษ์พูดแล้วนั้นก็เหยียดหยามอย่าง รุนแรง อยากให้เขาคุกเข่าขอโทษ ไม่มีใครในเมืองเย็นหยาง กล้าพูดแบบนี้ ไอ้เด็ก ใช้ของข้างถนน ไม่รู้ว่าไปเอาความกล้ามา จากไหน

รพีพงษ์บอกสถานการณ์ที่ตนเจออยู่ตอนนี้ให้ฟังอย่างคร่าวๆ ท่านคทาบอกว่าจะจัดคนมาเดี๋ยวนี้ ให้รพีพงษ์รอสักครู่

หลังจากที่วางสายแล้วนั้น รพีพงษ์ก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้ กล่าว “อีกแป๊ปคนของผมจะมาจัดการเรื่องนี้ ถ้าคุณไม่ถือสาล่ะก็ นั่งรอ สักครู่แล้วกัน”

คารนดูแคลน จากนั้นก็โบกมือ มีคนเอาเก้าอี้มาวางไว้หลัง

เขาทันที

หลังจากที่นั่งลงแล้ว คำรนก็มองไปที่รพีพงษ์ “งั้นผมจะรอที่นี่ ดูสิว่าคุณจะเรียกใครมา ที่เมืองเย็นหยาง กล้าไม่ให้เกียรติครน มีแค่ไม่กี่คนเท่านั้น”

อรรจยามองรพีพงษ์อย่างสะใจ มั่นใจว่าครนอยู่ที่นี่ รพีพงษ์

ไม่มีทางทำอะไรได้แน่นอน วันนี้รพีพงษ์จะต้องโชคร้าย

ผลอุทัยเซ็ง เขารู้สึกไม่ค่อยปลอดภัย แม้เขาจะคิดว่า ในเมือง เย็นหยางรพีพงษ์สู้ครนไม่ได้ แต่รพีพงษ์สงบนิ่งขนาดนี้ ถ้าไม่มี ฝีมือ จะสงบนิ่งขนาดนี้ได้ไงกัน
ตอนนี้เขาเสียใจอย่างมากที่เข้ามายุ่งกับเรื่องนี้เพียงเพราะ เงิน ถ้ารู้ว่าเป็นงี้ เขาพาอรรจยาออกไปจากที่นี่ตั้งนานแล้ว

เจ้าของร้านเหมือนรพีพงษ์ คือไม่ร้อนรนใดๆ แต่กลับรอดอย อีกต่างหาก ในเมืองเย็นหยางตระกูลจนกวีเป็นราชามาหลายปี จนกระทั่งบัดนี้มีคนจัดการพวกเขาได้ เขาจึงรู้สึกดีใจอย่างหา ที่สุดไม่ได้

ครนยังคงเข้าข้างตัวเอง ตอนนี้เขารอไม่ไหวที่จะเห็นท่าที ของครนเมื่อรู้ตัวตนที่แท้จริงของรพีพงษ์แล้วว่าจะเป็นอย่างไร

“ถ้าผมเดาไม่ผิดล่ะก็ ที่คุณให้คนบอกยุ่งกับภรรยาผม ก็เป็น เพราะเรื่องของอาจารย์โอบนิธิใช่ไหม?” รพีพงษ์ถาม ครนเห็นรพีพงษ์พูดเรื่องนี้ขึ้นมาก่อน จึงดูแคลนทันใด กล่าว

“เขายุยิงคือกำไรครึ่งหนึ่งของตระกูลจนกวีในทุกปี เพราะแกไอ้

เด็กน้อย เขายุผิงจึงได้ถูกปิด ตอนนี้ทุกวันผมขาดทุนเท่าร้าน

อาหารพูคาย คุณว่าผมควรจะสั่งสอนคุณไหม?”

รพีพงษ์หัวเราะออกมา กล่าว “เหตุที่ทำให้เขายุผิงถูกปิด เป็น เพราะอาจารย์โอบนิธิ ผมก็แค่เปิดโปงความเลวของมันก็แค่นั้น หรือผมทําแบบนี้นั้นผิดหรอ?”

“กูไม่สนว่ามึงจะผิดไหม ถ้าไม่ใช่เพราะมึง เรื่องของอาจารย์ โอบนิธิก็ไม่มีทางถูกเปิดโปงได้ ผมไม่หาเรื่องคุณจะหาเรื่อง ใคร” คารนกล่าวอย่างโมโห

“นี่แสดงให้เห็นว่า ตระกูลจนกวีทุกคนก็ไม่ได้เรื่องทั้งหมด แก สามารถเอาไอ้เลวต่ำช้ามาแสร้งเป็นพระอรหันต์ เพื่อรายได้การกระทําแบบนี้ เทียบกับอาจารย์โอบนิธิแล้วนั้น ก็ไม่ต่างกัน ในเมื่อเป็นแบบนี้ ผมก็ต้องธำรงไว้ซึ่งคุณธรรม” รพีพงษ์พิมพ์

ค่าโนเยาะเย้ย กล่าว “อย่างมึง จะธำรงคุณธรรม กูว่ามึงตบ หน้าตัวเอง ให้ตื่นจากฝันเหอะ”

“กูพาให้ตระกูลจนกวีเจริญก้าวหน้ามาได้ขนาดนี้ ผ่านเรื่อง ต่างๆนานๆมามากมาย คนที่อยากล้มกตระกูลจนกวียังทำไม่ได้ แล้วมึงคิดว่าอย่างเด็กยี่สิบกว่าปีอย่างมึงจะมาข่มขู่อะไรก็ได้?

รพีพงษ์ไม่พูดพร่ำทำเพลงใดๆ หันไปมองอารียา ถาม “คุณ คิดว่านายใหญ่ของตระกูลจนกวีเป็นไง?”

“น่าขยะแขยง” อารียาตอบสองคำ

รพีพงษ์หัวเราะรู้สึกว่าคำพูดของอารียาพูดได้โดนใจ

ครนได้ยินอารียาพูดถึงตัวเอง ก็ไม่สนใจ กล่าว “คนสวย ตอนนี้ไอ้เด็กนี่ยังไม่ได้ถูกผมจัดการ คุณพูดคำพูดแบบนี้ต่อหน้า มัน ผมไม่โทษคุณ รอให้ผมจัดการกับมันก่อน ถึงเวลานั้นตอนที่ คุณอยู่บนเตียงผม หวังว่าคุณก็จะเป็นแบบนี้นะ

เมื่อได้ยินคำพูดของครน รพีพงษ์ก็โมโห แล้วหันไปตบการน

ใบหน้าคารนมีรอยแดงเพิ่มขึ้นมา

เขามองรพีพงษ์อย่างไม่คาดคิด ในเมืองเย็นหยาง ไม่มีใคร กล้าตบเขา

“มึงอยากตายหรือไง!” ครนตะคอกใส่รพีพงษ์
การ์ดที่มาพร้อมกับครนล้อมรอบไว้ทันใด

รพีพงษ์มองคารนอย่างดูแคลน กล่าว “ถ้ายังพูดผิดอีก จะ ไม่ใช่แค่ตบ

ครนเพิ่งจะนึกขึ้นได้ว่าแม้อาจารย์โอบนิธิรพีพงษ์ก็ตีตายมา แล้ว การ์ดเหล่านี้ยืนอยู่ต่อหน้ารพีพงษ์ ถ้าโดนตบ เขาก็ไม่มีทาง ตบรพีพงษ์กลับได้ ไม่เช่นนั้นถ้ารพีพงษ์โมโห ต้องตบเขาตาย แน่ๆ

เขาโบกมือให้กับพวกการ์ดพวกนั้น ให้พวกเขาสลายตัว จาก นั้นก็มองรพีพงษ์อย่างเกรี้ยวกราด กัดฟันกล่าว “เหอะ กูเป็นคน มีวัฒนธรรม ไม่คิดเล็กคิดน้อยกับพวกมึง แต่กูจะบอกให้นะ ใน โลกนี้ เงินเท่านั้นที่ครองโลก ทำได้มากกว่าศิลปะการต่อสู้อีก เยอะ ถึงเวลานั้นมึงอย่าเสียใจล่ะกัน!”

อรรจยาจ้องรพีพงษ์อย่างโมโห ราวกับคนที่ถูกตบเป็นเธอ แต่ เธอเห็นรพีพงษ์ลงมือแล้ว รพีพงษ์ถือเป็นคนที่น่ากลัวเลยทีเดียว

“เหอะ แกก็สะใจได้แค่นี้หรอก รอให้คนที่แกเรียกมาขอโทษ เจ้าสำนักครนแล้ว ดูว่าแกจะยังสงบได้แบบนี้อีกไหม” อรรจยา พิมพา

ผ่านไปไม่นาน หน้าประตูร้านอาหารคายมีรถสองสามคนมา จอด สวมชุดสูท ใส่แว่นตา มีสง่าราศีลงมาจากรถ จากนั้นก็เดิน เข้าไปที่ร้านอาหาร คาย

พวกเขาเพิ่งเข้าไป ครนที่กำลังคิดว่าจะแก้เผ็ดรพีพงษ์ยังไง ก็ได้สังเกตเห็น จากนั้นก็รีบยืนขึ้น เดินไปยังคนเหล่านั้น
“เข็มทิศ คุณมาได้ไง?”

“เดชาธร คุณมาด้วยกันได้ไงเนี่ย?”

“จา….จารยศ คุณก็มา วันนี้เป็นวันอะไร พวกคุณมาทานข้าว ที่นี่หรอ? ถ้ารู้ตั้งแต่แรก ผมได้เตรียมการไว้เนิ่นๆ

ครนจ้องไปยังคนที่เดินเข้าร้านอาหารอย่างตะลึง เกิดความ ประหลาดใจขึ้นมา

แม้ในเมืองเย็นหยางมีไม่กี่คนที่กล้าทำผิดต่อเขา แต่ยังไงก็ยัง มีคนแบบนั้นอยู่ อย่างน้อยสามคนที่โผล่มาที่ร้านอาหารในตอน นี้ไม่มีใครที่เขากล้ายั่วโมโห

ผู้ว่าราชการเมืองและผู้ตรวจการสองคนนี้ไม่ต้องพูดถึง เมือง เย็นหยาง เขาทั้งสองใหญ่ที่สุด แม้ครนจะเก่งกาจ ก็แตะต้อง สองคนนี้ไม่ได้

และผู้กำกับดูแลเมืองนั้น เป็นหัวหน้าสูงสุดที่ดูแลเขายุผิง เขา ทุ่มทุนมหาศาล ให้กับผู้กำกับดูแลเมืองนี้ให้ตัดขาดความ สัมพันธ์ระหว่างเขาและอาจารย์โอบนิธิ

ขณะนี้ทั้งสามปรากฏกายที่นี่ ครนจึงผวาขึ้นมา

ทั้งสามเห็นครนประจบสอพลอ ก็ดูแคลนขึ้นมา มองเขาด้วย ท่านเยือกเย็น แล้วเดินไปหารพีพงษ์

เมื่อถึงรพีพงษ์ ทั้งสามก็ยิ้มออกมาอย่างอบอุ่น

“คุณรพี ขอโทษจริงๆ พวกเรามาช้า ให้คุณรอนาน” เข็มทิศยิ้มพลางกล่าวต่อรพีพงษ์

เดชาธรและจารยศก็รีบแสดงท่าทีขอโทษตามมา ครนที่อยู่ไม่ไกลเห็นเหตุการณ์นี้ ก็แข็งที่อเป็นหิน


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ