พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว

บทที่ 394 กลับตัวเป็นคนดี



บทที่ 394 กลับตัวเป็นคนดี

บุณณดาเปิดประตูออก เห็นด้านนอกประตูกลุ่มคนของพวก ไอ้หัวล้าน ในใจก็กลัวเล็กน้อย ถอยหลังไปสองก้าวโดยไม่ ได้ตั้งใจ

“ทั้งๆ ที่พวกคุณผิดนัดค่าเช่าที่ค้างฉัน ฉันไปแจ้งลุง ตำรวจผิดด้วยเหรอ พวกคุณมีสิทธิ์อะไรมากดขี่ข่มเหง ไม่ จ่ายเงินยังจะอ้างเหตุผล” แม้จะกลัว แต่บุณณดาก็ยัง รวบรวมความกล้าตะโกนไปที่ไอ้หัวล้าน

ไอ้หัวล้านและลูกน้องพวกนั้นของเขาหัวเราะ ราวกับว่าคำ พูดของบุณณดาเป็นเรื่องตลก

“เธอไม่รู้หรือไงว่าลูกพี่ของพวกเราร้ายกาจขนาดไหน เธอ มาพูดเหตุผลกับเราที่นี่ ไม่คิดว่าก็เป็นเรื่องตลกรีไง? ”

“ในเขตเมืองเก่า ใครก็ต้องเกียรติลูกพี่ของเรา เช่าบ้าน ของเธอถือเป็นเกียรติของเธอ เธอยังกล้าขอเงินจากลูกพี่ ของเราอีก”

“ฉันขอเตือนให้เธอรีบเอาเงินออกมาเล็กๆ น้อยๆ เพื่อ แสดงความกตัญญูกับลูกพี่เราไม่อย่างงั้นต่อไปที่เขตเมือง เก่า เธอก็อย่างหวังว่าจะได้ปล่อยเข่า”

***
บุณณดาได้ยินสิ่งที่ลูกน้องไอ้หัวล้านพูด ในใจก็ยิ่งโกรธ คิดไม่ถึงว่าคนพวกนี้จะหน้าด้านขนาดนี้ ยังอยากให้ตัวเอง เอาเงินให้เงินให้พวกเขาอีก

“พวกคุณเช่าบ้านของฉันยังจะขอเงินกับฉัน พวกคุณทำ เกินไปจริงๆ ! ” บุณณดาพูดตะโกนใส่ไอ้หัวล้าน

“ทำเกินไป? คิดว่าเธอ….” ไอ้หัวล้านเผยรอยยิ้มที่เลว ทรามบนใบหน้า

เวลานี้รพีพงษ์เดินมาถึงที่หน้าประตู หลังจากไอ้หัวล้าน เห็นรพีพงษ์รอยยิ้มบนใบหน้าของเขาหยุดลงทันที

บัดซบ! ทำไมเขาเดินออกมาจากข้างใน?

หรือว่าเขามีความสัมพันธ์เจ้าของบ้านเช่าสาวคนนี้? ไม่ว่า จะเป็นความสัมพันธ์แบบไหน ก็ต้องไม่ใช่ความสัมพันธ์ ธรรมดาแน่นอน

คนคนนี้แม้แต่หมีดำก็ยังไม่กล้ามีเรื่องด้วย เมื่อวานที่KTV หมีดำได้พูดกับเขาชัดเจนแล้ว บอกเขาอย่าหาเรื่องคนคนนี้ ไม่อย่างงั้นจะไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองตายยังไง

เดิมที่เขาคิดว่าผู้มีอิทธิพลคนนี้มาที่นี่เมื่อวานนี้ก็แค่มีเรื่อง มาหาเทพยางศ์ และวันนี้เขาก็ไม่ได้หาเรื่องเทพยางค์ แต่ เปลี่ยนมารังแกเจ้าของบ้านเช่าสาว คิดไม่ถึงว่าจะเจอผู้มี อิทธิพลคนนี้อีกแล้ว
ยังไม่พูดถึงคำพูดที่หมีดำเตือนเหล่านั้น คนตรงหน้าคนนี้ จัดการพวกเขาทั้งหมดได้ด้วยตัวคนเดียว ลูกน้องที่มากับ เมื่อวานตอนนี้ยังนอนอยู่บนเตียงอยู่เลย มีแค่เขาที่มีความ ต้านทานของกระดูก ไม่เป็นไร

รพีพงษ์คิดไม่ถึงว่าจะเป็นไอ้หัวล้านที่มาสร้างปัญหาให้กับ บุณณดา ดูว่าทั่วทั้งเขตเมืองเก่า ไอ้หัวล้านคนนี้ก็คือว่าเป็น คนคึกคะนอง

ไอ้หัวล้านจ้องมองรพีพงษ์และกลืนน้ำลาย คำพูดติดอยู่ ในปากก็หยุดลง จากนั้นก็รีบพูดขึ้น: “เธอพูดถูกมาก พวก เราทำแบบนี้มันเกินไปหน่อยจริงๆ แม้แต่ฉันเองก็ยังรู้สึก เกรงใจเลย”

บุณณดาตะลึงทันที เดิมทีเธอคิดว่าไอ้หัวล้านจะพูดอะไรที่ โหดร้าย คิดไม่ถึงว่าจะกลับกลายเป็นยอมรับผิด

ลูกน้องหลายคนของไอ้หัวล้านต่างก็ไม่เข้าใจว่าเกิดอะไร ขึ้น พวกเขาไม่ใช่คนที่มากับไอ้หัวล้านเมื่อวานนี้ ไม่มีใครรู้ ถึงความร้ายกาจของคนตรงหน้า

“ลูกพี่ ลูกพี่จะเกรงใจมันทำไม ในเขตเมืองเก่า ต่อให้เรา ทำเกินไปมากแค่ไหน คนอื่นก็ไม่มีสิทธิ์มาว่า” ลูกน้องข้าง กายคนหนึ่งของไอ้หัวล้านพูด

ไอ้หัวล้านกระทืบไปที่เขาโดยตรง ด่า: “แม่งใสหัวไปเดี๋ยว นี้ แกไม่มีสิทธิ์อะไรมาพูดที่นี่ ถ้าแกยังกล้าพูดอะไรมั่วชั่วแม้แต่คำเดียว ฉันจะเย็บปากแก!”

เมื่อลูกน้องคนอื่นเห็นจู่ๆ ไอ้หัวล้านก็โมโห แม้ไม่รู้ว่าเป็น อะไร แต่ก็ต่างไม่กล้าพูดอะไรมั่วซั่ว

ไอ้หัวล้านสั่งสอนลูกน้องตัวเองเสร็จ หันกลับไปมองรพี พงษ์และบุณณดาทั้งสองอีกครั้ง ใบหน้าเผยรอยยิ้มรู้สึกผิด

“ต้องขอโทษจริงๆ ลูกน้องของฉันลืมกินยาก่อนออกจาก พูดตามตรง จุดประสงค์ที่ฉันมาที่วันนี้ ก็จ่ายเงินค่าเช่า บ้าน บ้านที่ค้างไว้ให้เธอ ก่อนหน้านี้อุปนิสัยของฉันอาจจะแย่หน่อ บ นั่นเป็นเพราะช่วงนั้นฉันเป็นบ้า หวังว่าเธอจะให้อภัย เธอว บอกมาค่าเช่าบ้านหลังหนึ่งเท่าไหร่ ฉันให้เธอเดี๋ยวนี้เลย” ไอ้หัวล้านพูดกับบุณณดา

รพีพงษ์เห็นไอ้หัวล้านมีปฏิกิริยาแบบนี้ ในใจเดาว่าเขาน่า จะโทรหาหมีดำแล้ว รู้ว่าตัวเองไม่ใช่คนที่มาหาเรื่องได้ง่าย ฉะนั้นหลังจากที่เจอตัว จึงรีบเปลี่ยนค่าพูด

บุณณตามองไปที่ไอ้หัวล้านด้วยท่าทางตะลึง ในใจคิดว่า ทำไมจู่ๆ เขาถึงคิดจะจ่ายค่าเช่า? วันนั้นเขายังขู่ไม่ใช่เหรอ ว่าจะทำให้ตัวเองรู้ถึงความร้ายกาจของเขา?

หรือว่าจู่ๆ เขาก็รู้ถึงความผิดชอบชั่วดี?

ในเวลานี้ บุณณดาสังเกตเห็นว่าไอ้หัวล้านชำเลืองมองไป ที่รพีพงษ์ ก็เหลือบมองตามไปทางรพีพงษ์ด้วย นึกขึ้นได้ว่าเมื่อกี้ท่าทางของไอ้หัวล้านเปลี่ยนไปหลังจากที่รพีพงษ์ออก

มา

หรือว่าไอ้หัวล้านกำลังกลัวรพีพงษ์?

ทันใดนั้นบุณณตาก็รู้สึกงงงวย รพีพงษ์นี้เป็นแค่คนที่ขน อิฐในไซต์งานก่อสร้างไม่ใช่เหรอ ทำไมไอ้หัวล้านต้องกลัว เขาขนาดนี้?

“คุณมั่นใจว่าจะให้ค่าเช่ากับฉัน? ” บุณณดายืนยันกับไอ้ หัวล้านอีกครั้ง

ไอ้หัวล้านพยักหน้าอย่างรวดเร็วพูด: “ใช่ๆๆ ไม่จ่ายค่า เช่าให้เธอ กลางคืนฉันหลับไม่สนิทเลย ฉันตัดสินใจกลับตัว เป็นคนดีแล้ว ต่อไปจะไม่ทำเรื่องหน้าไม่อายแบบนี้อีกแล้ว”

บุณณดากลอกตา พูดขึ้น: “คุณอยากจ่ายค่าเช่าบ้านให้ ฉันก็ได้ แต่ก็ต้องมีสักเหตุผล คุณต้องบอกฉันก่อนว่าทำไม จู่ๆ คุณถึงเป็นแบบนี้”

ไอ้หัวล้านมองไปที่รพีพงษ์อีกครั้ง เห็นรพีพงษ์สายตาให้ เขา รู้ทันทีว่ารพีพงษ์หมายถึงอะไร พูดขึ้น: “เมื่อวานฉันได้ รับคำแนะนำจากคนสูงศักดิ์ คนสูงศักดิ์คนนั้นทำให้ฉัน เข้าใจถึงความหมายของการเป็นคน ดังนั้นฉันจึงตัดสินใจ กลับตัวเป็นคนดี”

“สาวน้อย ฉันให้ค่าเช่าบ้านเธอน่ะ ไม่ไช่เรื่องที่เป็นอันตรายต่อเธอ ทำไมถึงกลายเป็นคนถามฉันกลับล่ะ

เห็นได้ชัดว่าบุณณดาไม่เชื่อคำพูดของไอ้หัวล้าน แต่เธอ มั่นใจ เรื่องนี้จะต้องเกี่ยวกับรพีพงษ์แน่นอน ในเมื่อคนตรง หน้าไม่ยอมพูด ตัวเองก็ไม่ควรถามมาก

เธอบอกยอดค่าเช่าบ้านที่ตัวเองควรได้รับกับไอ้หัวล้าน ไอ้หัวล้านหยิบเงินออกมาโดยไม่ลังเล ให้กับบุณณดา

จากนั้นไอ้หัวล้านก็จากที่นี่ไปโดยไม่อยากอยู่ต่อนานอีก แม้แต่วินาทีเดียว ตอนที่จากไปแอบมองรพีพงษ์อยู่หลาย ครั้ง

ไอ้หัวล้านจากไปแล้ว บุณณดาก็โล่งใจ รู้สึกว่าเรื่องวันนี้ เหมือนเพ้อฝันไปหน่อย เธอหันไปมองรพีพงษ์ที่อยู่ข้างๆ ถาม: “คุณรู้จักกับไอ้หัวล้านคนนั้นใช่ไหม? ฉันรู้สึกว่าเขาให้ เงินอย่างง่ายดายขนาดนี้ เป็นเพราะคุณ”

รพีพงษ์หัวเราะ พูด: “ผมก็ยืนอยู่ตรงนี้ตลอดไม่ได้พูดอะไร จะเป็นเพราะผมได้ยังไง ผมก็แค่คนขนอิฐ”

บุณณดาคิดๆ ดูแล้วก็ไข่ แต่ถ้าลองคิดอีกมุมหนึ่ง รพีพงษ์ ไม่พูดอะไรก็ทำให้ไอ้หัวล้านกลัวขนาดนั้น ก็ยิ่งบ่งบอกถึง ความร้ายกาจของเขา?

รพีพงษ์ไม่ได้อธิบายกับบุณณดา เมื่อเห็นว่าปัญหาดัง กล่าวนี้แก้ไขได้อย่างง่ายดาย ก็เดินตรงไปทางฝั่งเทพยางศ์
เขาไปเคาะประตูอีกครั้ง เทพยางศ์เดินมาถามว่าใคร เมื่อ รพีพงษ์พูดขึ้น ก็มีเสียงดังมาจากข้างใน: “ไสหัวไป!”

รพีพงษ์ทำอะไรไม่ได้ จึงต้องกลับไปที่บ้านเช่า

เวลาตอนบ่าย เทพยางศ์ออกไปครั้งหนึ่ง รพีพงษ์รีบตาม ไป แต่พบว่าเทพยางศ์แค่ออกไปซื้อของที่เอาไว้สำหรับทำ อาหารเท่านั้น

เทพยางพบว่ารพีพงษ์ตามเขา ยังพูดรพีพงษ์โดยเฉพาะ “นายตามฉันไม่มีประโยชน์ ฉันไม่มีวันบอกเรื่องอะไรทั้งนั้น กับนายอยู่แล้ว”

กลางคืน พีรตาเลิกงานกลับมา บุณณดาลากเธอตรง เข้าไปในห้องของตัวเอง

“เธอตื่นเต้นอะไรขนาดนี้ วันนี้ไอ้หัวล้านมาหาเรื่องเธอ ใหม? ” พีรดาเห็นท่าทีของบุณณดา เอ่ยถามขึ้น

“เรื่องที่ฉันจะพูดกับเธอก็คือเรื่องนี้ ไอ้หัวล้านนั่นไม่เพียง ไม่หาเรื่องฉัน ยังจ่ายค่าเช่าที่ติดค้างฉันอีกด้วย” บุณณดา พูด

พีรดาตะลึงทันที พูดขึ้นอย่างสงสัย: “เป็นไปไม่ได้ ไอ้หัว ล้านนั่นเย่อหยิ่งมากไม่ใช่เหรอ? ทำไมถึงจ่ายค่าเช่าที่ค้าง ให้เธอ? บุณณดา เธอคงไม่ได้ไปตอบตกลงเมื่อไขบางอย่าง ของเขา เขาถึงจ่ายค่าเช่าให้เธอนะ?”
“เธอคิดอะไรอยู่ ไอ้หัวล้านจ่ายเงินค้างค่าเช่าบ้านให้ฉัน แล้วจริงๆ และวันนี้ตอนที่มา ท่าทางก็ยังสุภาพมากด้วย ให้ เงินฉันเสร็จก็ไป” บุณณดาพูด

“ไม่น่าเป็นอย่างงั้นนะ ตามหลักแล้วไอ้หัวล้านไม่ใช่คน แบบนี้ เขามีแผนอะไรหรือเปล่า? ” พีรดาขมวดคิ้ว

“ไม่น่าจะใช่ ถ้าฉันเดาไม่ผิด ไอ้หัวล้านน่าจะกลัวรพีพงษ์” บุณณดาพูด

“รพีพงษ์? ผู้ชายธรรมดาๆ ที่อยู่ข้างบนน่ะเหรอ? เป็นไป ได้ยังไง ไอ้หัวล้านกลัวผู้ชายธรรมดาๆ คนหนึ่งได้ยังไงง ” พีรดาโต้กลับทันที

บุณณดาเล่าเรื่องทั้งหมดในวันนี้กับพีรดาฟัง พูดเรื่องที่ตัว เองรู้สึกสงสัยกับพีรดา

หลังจากที่พีรตาฟังแล้ว มีรอยยิ้มเย้ยหยันปรากฏบน ใบหน้าทันที พูดขึ้น: “บุณณดา ฉันคิดว่าเธอคิดมากไปจริงๆ ไม่ว่าไอ้หัวล้านจะกลัวใคร ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะกลัวผู้ชาย ธรรมดาคนนั้น ไม่แน่อาจเป็นเพราะเธอแจ้งคนที่สถานี ตำรวจแล้ว เขาไปสั่งสอนไอ้หัวล้านยกหนึ่ง ไอ้หัวล้านจึงมา จ่ายค่าค้างเช่าให้เธอ”

บุณณดาฟังแล้วก็รู้สึกว่ามีเหตุผล แต่ท่าทางในวันนี้ไอ้หัว ล้าน เห็นได้ชัดว่าเปลี่ยนไปเพราะรพีพงษ์ ไม่อย่างงั้นสายตา ที่เขามองไปที่รพีพงษ์จะแสดงออกถึงความกลัวอย่างชัดเจนขนาดนั้นได้ยังไง

ช่างเถอะ ไม่คิดมากแล้ว ยังไงซะขอแค่ไม่เป็นไรก็พอ

“บุณณตา อย่าคิดถึงผู้ชายธรรมดาชั้นบนเลย เขาไม่มี อะไรพิเศษ เธอคิดมากเกินไปเท่านั้น” พีรดานั่งลงข้างๆ บุณณดา พูดด้วยสีหน้าที่ตื่นเต้น: “โรงพยาบาลของเรา เปลี่ยนผู้อำนวยการใหม่ แม้ว่าอายุจะสี่สิบกว่าแล้ว แต่มี ความเป็นผู้ชายมาก ฉันรู้สึกว่าตอนที่เขาเป็นหนุ่มต้องหล่อ มากแน่ๆ ฉันจะบอกให้ ฉันตัดสินใจจะลงมือกับเขาแล้ว ดู ท่าทีเขา เหมือนว่าจะสนใจฉันด้วยแหละ”

“ฉันว่าอาจเป็นเหตุผลเพราะเธอรู้สึกว่าผู้อำนวยการคน นั้นตำแหน่งสูงมีอำนาจสินะ ในความคิดของฉัน คนเหล่านั้น ที่โรงพยาบาล ทุกคนที่มีระดับตำแหน่งสูงกว่า ไม่มีสักคนที่ ไม่หัวล้าน ผู้อำนวยการของเธอคนนี้ก็ไม่น่ายกเว้น” ดายิ้ม บุณณ

พีรตาหีที่หนึ่ง พูด พูด: “เซอะ หัวล้านแล้วทำไม นี่สิถึงจะมี ความเป็นผู้ชาย ฉันไม่สนอยู่แล้ว ที่สำคัญคือเขามีเงินมี ตำแหน่ง”

ใบหน้าบุณณดาเต็มไปด้วยความเหนื่อยหน่าย กับเพื่อน รักของเธอคนนี้ เธอหมดหนทางแล้วจริงๆ

รพีพงษ์เฝ้าสังเกตดูบ้านของเทพยางค์ไปอีกสองวันไป เคาะประตูทุกวัน ตอนที่เทพยางค์ออกไปก็ตามเขาไป แต่เทพยางศ์ไม่ได้สนใจเขาด้วยซ้ำ และยังด่าทุกครั้งอีกด้วย

วันนี้ช่วงเช้า รพีพงษ์นั่งอยู่ตรงหน้าหน้าต่าง จ้องมองบ้าน ของเทพยางศ์ ในใจคิดลงไปก็ทำอะไรไม่ได้ ต้องถาม ตำแหน่งของเทือกเขากิสนาจากปากของเทพยางศ์โดยเร็ว ที่สุด

ในเวลานี้ เทพยางคศ์เดินออกมา รพีพงษ์สังเกตเห็นว่าเขา เปลี่ยนเป็นเสื้อผ้าที่สะอาด จัดทรงผมด้วย หนวดเคราที่ ยุ่งเหยิงบนใบหน้าของเขาก็ถูกโกนจนเกลี้ยงเกลาเช่นกัน

เมื่อเห็นการเปลี่ยนแปลงแบบนี้ของเทพยางศ์ ในใจรพี พงษ์ตื่นตระหนก รีบลุกขึ้นลงไปข้างล่าง

เทพยางศ์คนที่มอมแมมแบบนี้ รู้จักจัดการกับตัวเองด้วย

นั่นหมายความว่าที่ที่เขาจะไปในวันนี้สำคัญมาก และไม่รู้ว่าเทพยางศ์จะไปทำอะไร บางทีอาจจะหาโอกาส จากที่นี่ ทำให้เทพยางศ์พูดเรื่องเทือกเขากิสนาออกมา


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ