พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว

บทที่ 593 ญาติห่างๆ



บทที่ 593 ญาติห่างๆ

“ว้าว เรือสำราญลำนี้ใหญ่มาก อายากะพริบตามองไปที่เรือ สำราญที่อยู่ตรงหน้า และส่งเสียงชื่นชม

รพีพงษ์เห็นรูปลักษณ์ที่สวยงามของเรือสำราญ แล้วก็อดไม่ ได้ที่จะชื่นชมความยิ่งใหญ่ของคนที่เป็นวิศวกร

เรือสำราญล่านี้มีชื่อว่าไข่มุก ซึ่งได้รับทุนการสร้างจากเกาะ พระจันทร์ ใช้ในการรับส่งนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลก โดย เฉพาะ

ซึ่งเป็นเพราะการมีอยู่ของเรือสำราญลำนี้ ที่ทำให้ตัวสำหรับ เกาะพระจันทร์มีราคาแพงมาก แม้แต่ตั๋วราคาถูกที่สุด ก็มีราคา สองแสนต่อคน ผู้คนที่ซื้อตั๋วประเภทนี้ มักจะอยู่ชั้นล่างสุดของ เรือสำราญเท่านั้น ไม่มีสิทธิ์ที่จะเข้าสู่สถานที่ชั้นบนสุด

ไข่มุกมีทั้งหมดสิบสองชั้น ราคาชั้นล่างสุดคือสองแสนต่อคน แต่ละชั้น จะเพิ่มราคาขึ้นห้าหมื่น ชั้นบนสุดของเรือสำราญ เป็น สถานที่ที่หรูหราที่สุดบนเรือสำราญ ที่นี่มีการตกแต่งที่หรูที่สุด สิ่งอำนวยความสะดวกบนชั้นบนสุด และบริการชั้นยอด ในขณะ เดียวกันที่นี่ยังเป็นสถานที่ที่มีทัศนียภาพที่ดีที่สุดของเรือสำราญ ทั้งลำ ทำให้ได้เห็นวิวทะเล สามารถมองเห็นได้ทั่วทุกทิศ

ชั้นบนสุดมีตั๋วขายเพียงสิบใบ ใบละหนึ่งล้านห้าแสน ตัวที่เธียรวิชญ์ซื้อให้รพีพงษ์และอารียา เป็นตัวอันดับชั้นบนสุด

“สามี ครั้งนี้เราจะอยู่ชั้นไหนของบนเรือสำราญเหรอ?”อารียา ถามรพีพงษ์

รพีพงษ์ยกมือขึ้น ยกมือขึ้นไปที่เสากระโดงที่ชั้นบนสุด แล้ว

พูดว่า: “ก็อยู่ที่ที่นั่น”

“หือ? นี่อารียาไม่ใช่เหรอ? ทำไมพวกเธอถึงมาอยู่ที่นี่ได้ล่ะ?” ในขณะนี้ มีเสียงของชายคนหนึ่งดังขึ้นมา

อารียาหันหน้าไปมองด้านข้างของตัวเอง เห็นชายหนุ่มคน หนึ่งที่สวมสูท ไว้ทรงวินเทจเปิดข้าง และอายุมากกว่าเธอไม่กี่ปี ด้านข้างชายหนุ่ม มีหญิงสาวในชุดที่สวยสดงดงาม และเป็น

สาวสวยที่มีรูปร่างสัดส่วนที่โค้งเว้า

หลังจากได้เห็นชายหนุ่มคนนี้ อารียากแสดงสีหน้าท่าทางที่ สงสัย แล้วถามว่า: “คุณคือ?”

ชายหนุ่มหัวเราะทันที และกล่าวว่า “คาดไม่ถึงว่าเธอจะจำฉัน ไม่ได้ แต่ก็ถูก เธออาศัยอยู่ในพื้นที่ทุรกันดารของเมืองริเวอร์ ตลอด พวกเราสองคนเคยเจอกันก็แค่ไม่ถึงสามครั้ง เธอจำไม่ได้ เป็นเรื่องปกติ”

“ฉันคือประวีร์ไง ลูกพี่ลูกน้องห่างๆของเธอในเมืองยอง ตอน นั้นของเธอเคยพาเธอที่บ้านของเรา ตอนนั้นเธอยังเป็นแค่ผู้ หญิงบ้านนอกคนหนึ่งอยู่เลย คาดไม่ถึงว่าตอนนี้จะมีตารูปร่างที่ ดขน”
เมื่อได้ยินคําพูดของประวีร์ อารียาก็นึกออกทันทีว่าคนตรง หน้าคือใคร จากนั้น ใบหน้าที่แสดงท่าทางขมวดคิ้วออกมา ประวีร์เป็นลูกพี่ลูกน้องต่างๆของเธอจริงๆ เป็นสมาชิกของคน

ตระกูลฉัตรมงคลในเมืองยอง ตระกูลฉัตรมงคล ในเมืองริเวอร์

และตระกูลฉัตรมงคล ในเมืองของมีความสัมพันธ์เป็นญาติกัน

จริงๆ แต่ต้องสืบย้อนกลับไปถึงรุ่นพ่อของนาที เนื่องจากทั้งสองครอบครัวไม่ได้ติดต่อกันมากนัก ดังนั้นความ สัมพันธ์จึงจางลง ตอนนั้นนาทีปพาอารียาไปที่เมืองของหนึ่งครั้ง

อารียายังคงมีความทรงจำที่ลึกซึ้งเกี่ยวกับการเยี่ยมเยียน ตระกูลฉัตรมงคลที่เมืองของเมื่อยังเป็นเด็ก เนื่องจากเมืองยอง เป็นเมืองใหญ่ที่เทียบได้กับเกียวโต เครือญาติตระกูลของตระกูล ฉัตรมงคลสามารถดำรงชีวิตอยู่ที่เมืองของได้ จะให้ความสำคัญ กับตระกูลฉัตรมงคล ในพื้นที่ทุรกันดารของเมืองริเวอร์ได้อย่างไร

ดังนั้นตอนนั้นนาที พาอารียาไป เผชิญหน้ากับสายตาที่เย็น ชาและการเยาะเย้ยมากมาย ในหมู่พวกคนที่ดูถูกเธอ ก็คือประ วีร์คนนี้ เขามักจะพูดว่าอารียามาจากบ้านนอก และเปรียบเทียบ ตระกูลฉัตรมงคล ในเมืองยองกับตระกูลฉัตรมงคล ในเมืองริเวอร์ มีครั้งหนึ่งว่าอารียาจนร้องไห้

ดังนั้นหลังจากที่นึกออกได้ว่าประวีร์เป็นใคร อารียาถึงได้ ขมวดคิ้ว จากน้ำเสียงคำพูดของประวีร์ สังเกตเห็นได้ว่า ผู้ชาย คนนี้ ไม่แตกต่างจากเมื่อก่อน

“ฉันคิดออกแล้ว คาดไม่ถึงว่าจะเป็นที่ประวีร์ บังเอิญจริงๆ”แม้ว่าจะมีความทรงจำที่ไม่ดีต่อประวีร์ แต่ว่าเธอยังตอบกลับ อย่างสุภาพ

ประวีร์กล่าวด้วยรอยยิ้ม: “คาดไม่ถึงจริงๆ ว่าเธอจะมีปัญญา มาเกาะพระจันทร์ สำหรับพวกเธอแล้ว ไปเกาะพระจันทร์ครั้ง เดียว เกรงว่าจะใช้เวลาครึ่งหนึ่งของชีวิตเลยใช่มั้ย?”

ทันใดนั้นอารียาพูดไม่ออก และกล่าวว่า “เรื่องนี้พี่ไม่ต้องเป็น ห่วงหรอก”

ประวีร์หัวเราะเสียงดัง และพูดกับผู้หญิงที่อยู่ข้างๆว่า “นีร คน นี้คืออารียาที่ฉันเคยพูดกับคุณก่อนหน้านั้นไง ก็คือสาวบ้านนอก คนนั้น คาดไม่ถึงว่าเมื่อโตมาแล้วจะดูเหมือนผู้เหมือนคน

หญิงสาวที่ชื่อนีรมองอารียาตั้งแต่หัวจรดเท้า และพบว่าสาว บ้านนอกที่ปากของประวีร์พูดนั้นยังสวยกว่าหล่อน ก็รู้สึกไม่ พอใจ

“ก็คือคนที่แต่งงานกับคนเศษสวะนั้นนะเหรอ? ดูแล้วก็สวยดี นะ ไม่รู้ว่าทำไมถึงแต่งงานกับเศษสวะนี้ได้ หรือว่าด้านใดด้าน หนึ่งจะมีปัญหาเหรอ?”นีรถามพึมพำ

รพีพงษ์อยู่ด้านข้างได้ยินเสียงทั้งสองคนพูดบีบบังคับให้อารี ยายอมรับอย่างคลุมเครือ ทันใดนั้นก็รู้สึกไม่พอใจ และจะพูดตัก เตือนพวกเขาทันที แต่ก็ถูกอารียาห้ามไว้

“อารียา นี่สามีเศษสวะของเธอเหรอ? ดูไปแล้วก็ธรรมดาจริงๆ จุ๊จุ๊จุ๊ แม้ว่าฐานะครอบครัวของเธอจะไม่ค่อยดีนัก แต่คู่กับเศษ สวะแบบนี้ น่าเสียดายจริงๆ ได้ยินมาว่าเขาทำอะไรไม่เป็นสักอย่าง ต้องพึ่งพาเธอเลี้ยงดูเหรอประวีร์มองรพีพงษ์ แล้วพูด

นีรมองรพีพงษ์รังเกียจ

อะไรไม่ยังสามารถไปเที่ยวเล่นเกาะพระจันทร์ ผู้ชายเกาะผู้หญิงกินนี้ ไม่ตะขิดตะขวงใจเลยจริงๆนีรเบะ แล้วพูด

“พวกคุณคนพูดไป ถ้าอารียาไม่อยู่ข้างๆ เขาคงจะโยนทั้ง สองลงในทะเลให้อาหารฉลามไปแล้ว

โธโธ่ มีความสามารถ แต่อารมณ์ไม่ใช่น้อยดูเธอเลี้ยงพระพุทธในบ้าน ช่างเถอะ ไม่กับพวกเธอ แล้ว พวกเรากำลังขึ้นแล้ว ถ้าคิดผิด ตัวพวกเธอซื้อจะแสน จุ๊จุ๊ ถ้าพวกต้องการดูคนรวยชั้นแปดเป็นอย่างไร สามารถมาหาฉันแค่บอกฉัน”ประวีร์พูดอวด

นีรดึงแขนประวีร์ แล้วว่า เสียเวลากับพวกจนสองนี้เลย

จากทั้งคนเรือ

อารียาถอนหายใจ และพูดพวกเราพวกเขามากนัก พวกเขาไม่รู้การเปลี่ยนแปลงในเมืองนายอย่าโกรธพวกไม่คุ้มค่า”
รพีพงษ์ลูบหัวอารียา แล้วพูดว่า “ฉันกลัวเธอจะลำบาก

“ผ่านประสบการณ์มามากมายขนาดนี้แล้ว ฉันเปิดใจกว้างตั้ง นานแล้ว คนอื่นจะมองพวกเรายังไงฉันไม่สนใจ ฉันรู้ความดีของ นายก็พอแล้ว”อารียาพูด

รพีพงษ์พยักหน้าด้วยความโล่งใจ และกล่าวว่า: “พวกเราก็ ขึ้นไปกันเถอะ”

ทั้งสองคนเดินไปที่ประตูตรวจตั๋วพร้อมกัน หลังจากที่คนที่ขึ้น เรือตรวจตั๋วเสร็จ ก็ต้องรอเข้าแถวเพื่อขึ้นเรือ ประวีร์และนีรทั้ง สองคนยืมอยู่ที่หางแถว แสยะยิ้มมองไปที่รพีพงษ์และอารียา

“ดูเหมือนว่าการพัฒนาของบ้านเกิดจะดีมาก แม้แต่คนบ้าน นอกแบบนี้ก็ไปที่เกาะพระจันทร์ได้ แปลกประหลาดจริงๆ ประ

รพีพงษ์ส่งตั๋วเรือสองใบไปให้คนที่ตรวจตัวมองเห็น ก็ยืนตรง ทันที และพูดด้วยน้ำเสียงที่เคารพว่า “ทั้งสองท่านกรุณารอสัก ครู ฉันจะจัดคนให้พาพวกคุณสองท่านไปทางเดินวีไอพี ไม่ต้อง เข้าแถว”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ