พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว

บทที่544 รพีพงษ์ผู้เมตตา



บทที่544 รพีพงษ์ผู้เมตตา

พรรธนยศที่สีหน้าบูดบึงเมื่อได้ยินคำพูดนั้นของอาจารย์ผู้หญิง แล้ว ก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้โดยตรง เพ่งตาทั้งคู่ แล้วถาม “คุณพูดว่า อะไรนะ? มีคนโอนเงินเข้ามหาลัยพันล้าน”

สีหน้าของอาจารย์ผู้หญิงคนนั้นดูซีเรียส เห็นท่าทีของ อธิการบดี ก็เริ่มเครียดมากขึ้นไปอีก แล้วกล่าว “คือ…..คืองี้ค่ะ พันล้านนั้นอยู่ในใบรับบริจาคเงินภายนอกของบัญชีมหาลัย ฉัน คอนเฟิร์มกับธนาคารแล้ว ธนาคารบอกว่าไม่ผิดพลาด พันล้าน เป็นของจริง ฉันสงสัยว่าน่าจะมีพวกมิจฉาชีพตั้งใจลงมือกับมหา ลัยของเรา โอนเงินให้เราก่อนพันล้าน จากนั้น………………..

พูดไปพูดมา อาจารย์ผู้หญิงท่านนี้ก็เริ่มไม่เข้าใจว่ามิจฉาชีพ คนไหนจะโอนเงินพันล้านให้ก่อน ดังนั้นจึงได้แต่ยืนเหงื่อตก

รพีพงษ์กับคำพูดของอาจารย์ผู้หญิงอย่างมาก ถ้ามีพันล้าน จริงๆล่ะก็ ใครจะเป็นมิจฉาชีพ และไม่เคยได้ยินมาก่อนว่า มิจฉาชีพจะโอนเงินให้อีกฝั่งก่อน

พรรธน์ยศรู้สึกตัว มองไปที่รพีพงษ์ด้วยสายตาตะลึง เริ่ม หายใจแรงขึ้น

เขาคิดว่ารพีพงษ์ล้อเล่น กลับไม่คาดคิดว่าไม่ถึงสิบนาที พัน ล้านก็เข้าในบัญชีมหาลัย

เหล่าผู้บริหารที่เหลือที่อยู่ในห้องประชุมก็เริ่มรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นมองไปที่รพีพงษ์ด้วยสายตาเกรงใจมากขึ้น

พวกเขาถกเถียงกับผดุงสิทธิ์ ก็เพราะหลังจากที่ตระกูลพงศ์ ธนธดายกเลิกทุนการศึกษาแล้ว จะโปะเงินนี้ได้อย่างไร แต่เรื่อง ที่ทำผิดต่อตระกูลพงศ์ธนธดานั้น เรื่องนี้เป็นเรื่องของรพีพงษ์ ทั้งหมด ตระกูลพงศ์ธนธิดาแค่เอามหาลัยมาบีบรพีพงษ์ก็เท่านั้น ไม่ว่าจะยังไง ตระกูลพงศ์ธนธิดาก็ไม่มีทางมาหาเรื่อง มหาวิทยาลัยฟูตัน โดยเฉพาะอยู่แล้ว เพราะนี่จะเป็นการกระทำที่ เสื่อมเสียแก่วงตระกูล

ตอนนี้รพีพงษ์ให้มหาลัยโดยตรงร้อยล้าน มากกว่าที่ตระกูล พงศ์ธนธดา ให้ไว้กว่าสามเท่า ความกดดันของเหล่าผู้บริหารสิ้น สุดลงในทันที แล้วยังตื่นเต้นขึ้นมาอีกด้วย

บริจาคให้มหาลัยอย่างง่ายดายร้อยล้าน นี่เป็นครั้งแรก ใน

ชีวิตที่มีคนบริจาคแบบนี้

ผ่านไปสักพัก ผดุงสิทธิ์ยืนขึ้นอย่างปลื้มปิติ เขารู้ว่ารพีพงษ์ ไม่มีทางล้อเล่นอย่างแน่นอน ตอนนี้อาจารย์ผู้หญิงฝ่ายบัญชีก็ได้ มาพิสูจน์ให้เห็นแล้ว นั่นก็หมายความว่ารพีพงษ์ได้บริจาคเงิน พันล้านให้กับมหาลัยจริง

ถึงแม้จะตะลึงกับการใจกว้างของรพีพงษ์เช่นกัน แต่ความรู้สึก ในใจผดุงสิทธิ์ ที่มีต่อรพีพงษ์ทั้งชื่นชม และนับถือ

มีทุนการศึกษาพันล้านของรพีพงษ์ พรรธน์ยศก็ไม่จำเป็น

ต้องบีบบังคับเขาแล้ว จึงทำให้เขาสบายใจขึ้น ผดุงสิทธิ์ยืนขึ้น ยิ้มไปที่รพีพงษ์ พลางกล่าว “ที่แท้คุณรพีก็เป็นมหาเศรษฐี มีทุนการศึกษาของคุณ เชื่อว่ามหาลัยของเราจะ สามารถผลิตคนที่มีคุณภาพออกสู่สังคมได้มากมายแน่นอน

เมื่อพรรธนยศและทุกคนได้ยินคำพูดของผดุงสิทธิ์แล้วนั้น ก็ ยิ้มให้รพีพงษ์อย่างซาบซึ้งใจ

“ไม่คาดคิดว่าดร.รพีจะมีความเอื้ออาทรได้ขนาดนี้ เมื่อก่อน พวกเราเข้าใจดร.รพี่ผิดไป หวังว่าตร.รพี่จะยกโทษให้กับพวก เราที่ทำผิดไป ตอนนี้พวกเราขอเสนอ เพื่อเป็นการขอบคุณดร.รพี ขอมอบสถานะอาจารย์อย่างเป็นทางการให้ดร.รพี พวกคุณคิด ว่าไง?” พรรธน์ยศยิ้มพลางกล่าว

“ผมโอเค ดร.รพีทำเพื่อมหาลัยเราขนาดนี้ แน่นอนว่าต้องให้ ตำแหน่งอย่างเป็นทางการอยู่แล้ว”

“ไม่เลว แล้วดร.รพีก็ทำแค่สิ่งที่อาจารย์อันตุกะทำก็เพียง

พอแล้ว แม้ไม่อยากสอน ก็ไม่เป็นไร

ทุกคนพูดตามๆกัน ในห้องประชุมรวมเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน อาจารย์ผู้หญิงฝ่ายบัญชีมองเหตุการณ์นี้อย่างตะลึง จากนั้นก็ ถามอย่างกล้าๆกลัวๆว่า “นี่……..นี่ไม่ใช่มิจฉาชีพหรอกหรอ?”

พรรธนยศยิ้มให้กับอาจารย์ผู้หญิงคนนั้น แล้วกล่าว “นี่เป็น ยอดเงินบริจาคที่ดร.รพีมอบให้กับทางมหาลัยของเรา จะเป็น มิจฉาชีพได้ไงกัน”

อาจารย์ผู้หญิงมองรพีพงษ์อย่างตะลึง คิดไม่ถึงจริงๆ ว่าพัน ล้านนั้น จะเป็นวัยรุ่นที่ดูๆไปแล้วอายุยังไม่ถึงสามสิบปี บริจาคให้มหาลัย

จากนั้นเหล่าผู้บริหารทั้งหมดนำโดยผดุงสิทธิ์และพรรธนยศ ขอบคุณรพีพงษ์อย่างไม่หยุด ราวกับก่อนหน้านี้ไม่เคยตั้งข้อ ครหารพีพงษ์มาก่อนเลยอย่างไรอย่างนั้น

จากนั้นพรรธน์ยศก็ทำตามข้อเรียกร้องของรพีพงษ์ ประกาศ อย่างเป็นทางการว่ารพีพงษ์ให้พันล้าน ให้เป็นกองทุนของมหา ลัย ขั้นตอนทุกอย่าง ให้ทำเหมือนกับทุนการศึกษาของตระกูล พงศ์ธนธดา แต่จํานวนเงิน มากกว่าของตระกูลพงศ์ธนธดาเป็น สามเท่า

รอให้ทำเรื่องเหล่านี้เสร็จ พรรธนยศให้อาจารย์ที่อยู่ในมหา ลัยประกาศเรื่องนี้ให้นักศึกษารับทราบ และประชุมกับสมาคมนัก ศึกษา โดยเฉพาะอีกด้วย ให้พวกเขาประกาศเรื่องนี้ คนจํานวน ไม่น้อยสรรเสริญรพีพงษ์

คนเหล่านั้นที่โกรธรพีพงษ์เพราะทุนการศึกษาถูกยกเลิก เมื่อรู้ ว่าทุนการศึกษาไม่เพียงแต่ไม่ถูกยกเลิก แถมยังเพิ่มขึ้นอีกเท่า ตัวแล้วนั้น ก็ดีอกดีใจขึ้นมาทันใด จนลืมเรื่องที่ตัวเอง โมโหร พงษ์ไปเลย แต่กลับชื่นชมดร.รพีขึ้นมา

อารมณ์ช่วงสองสามวันนี้ของนิษฐาถือว่าไม่เลว ถึงแม้จะเคย โดนรพีพงษ์ตบหน้าจนอับอายมาแล้ว แต่ต่อมาท่าทีของรพีพงษ์ ที่มีต่อเธอทำให้เธอไม่รู้สึกผิดต่อรพีพงษ์ แต่ทว่าเรื่องของคุณหนู ตระกูลพงศ์ธนธดาทำให้เธอรู้สึกมีความสุขกับมัน

เธอเดินออกมาจากมหาลัย เมื่อเดินไปถึงบอร์ดประกาศ พบว่ามีคนล้อมรอบอยู่ กำลังถูกกันอย่างมีความสุข เธอรู้สึกแปลก

ใจ จึงได้เดินเข้าไปดู “ดร.รพีชั่งยิ่งใหญ่เสียจริงๆ ตอนนี้ฉันซาบซึ้งต่อเขาจากใจ

จริง เขาช่วยปลดพันธะทางการเงินให้กับฉัน

“พูดถูก ดร.รพีซึ่งเมตตาจริงๆ นี่ฉันก็ไม่ต้องกังวลว่าจะจ่ายหนี้ ในฮวาเปยแล้ว” “ตอนแรกคิดว่าทุนการศึกษาจะไม่มีแล้วเสียอีก ไม่คิดว่า

ดร.รพีจะเซอร์ไพร์สเราได้ขนาดนี้ ซึ่งซาบซึ้งใจเสียจริงๆ

นิษฐาได้ยินผู้คนพูดกัน ก็เกิดสงสัยขึ้นมา แล้วถาม “ดร.รพี พวกเธอพูดอยู่นั้น หมายถึงรพีพงษ์หรือเปล่า?” ผู้คนพยักหน้า หมายถึงแน่นอน

นิษฐาไม่เข้าใจ แล้วกล่าว “รพีพงษ์นั้นไม่ใช่ว่าทำจนพวกเรา ไม่ได้รับทุนการศึกษาของตระกูลพงศ์ธนธดาหรอกหรอ พวกเธอ ควรจะประณามเขาไม่ใช่หรอ ทำไมกลับเป็นชื่นชมเขาล่ะ?”

“เพื่อน เธอยังไม่รู้อีกหรอ? ว่ารพีพงษ์ใช้เงินตัวเอง บริจาคพัน ล้านให้กับมหาลัยของเรา ใครเมื่อก่อนที่ได้รับทุนการศึกษาของ ตระกูลพงศ์ธนธดา ให้มารับเงินที่รพีพงษ์บริจาคได้เลย แล้ว จำนวนก็ยังเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวด้วยนะ ดร.รพีดีขนาดนี้ ทำไมพวก เราต้องประฌามเขาด้วยล่ะ” นักศึกษาคนหนึ่งอธิบายให้นิษฐา ฟัง
นิษฐาตาโต ตะลึงแล้วกล่าว “เป็นไปไม่ได้! พวกเธอโดน หลอกมากกว่า ไอ้นั่นจะบริจาคให้มหาลัยเยอะขนาดนี้ได้ไงกัน?”

“เพื่อน พูดแบบนี้ไม่ค่อยเคารพดร.รพีเท่าไหร่เลยนะ เรื่องนี้ ทางมหาลัยเป็นคนประกาศเองนะ ติดอยู่บนบอร์ดนี่ไง พวกเรา จะโดนหลอกได้ไงกัน” นักศึกษาคนนั้นคัดค้าน

นิษฐารีบเบียดเข้าไปดูบอร์ดติดประกาศ ดูประกาศบนนั้น พบ ว่ามีการประกาศของทุนการศึกษาที่รพีพงษ์บริจาค และเพิ่มขึ้น เท่าตัวจริงๆ

เธองงงวยในทันที ยังไงก็คิดไม่ถึงว่ารพีพงษ์จะใช้วิธีนี้ ใน การแก้ไขเรื่องที่ตระกูลพงศ์ธนธดายกเลิกทุนการศึกษา มหาวิทยาลัยฟูตัน

เธอนึกว่ารพิพงษ์จะโดนไล่ออกจากมหาวิทยาลัยฟูตันเพราะ

เรื่องนี้ แม้ไม่ไล่ออก ก็ไม่มีนักศึกษาเข้าเรียนกับเขาแล้ว

แต่ทว่าความจริงในตอนนี้คือ ทุกคนกำลังซาบซึ้งต่อรพีพงษ์ ไม่มีใครสนใจเรื่องก่อนหน้านี้ของตระกูลพงศ์ธนธดา ตอนนี้ผู้คน เห็นเพียงความดีของรพีพงษ์เท่านั้น

และเรื่องที่ทำให้นิษฐารับไม่ได้ก็คือ รพีพงษ์บริจาคเงินพันล้าน ให้กับมหาลัยอย่างสบาย เขามีเงินเท่าไหร่กันแน่?

เขามีเงินมากขนาดนี้ ทำไมยังเช่าห้องร่วมกับพวกเธออยู่อีก ล่ะ?

ความรู้สึกแปลกๆผุดขึ้นในใจของนิษฐา ทำให้เธอพูดไม่ออก
ณ คอนโดห้องเช่าร่วม

นิษฐาเปิดประตูอย่างหมดอาลัยตายอยาก ในสมองเต็มไป ด้วยเรื่องที่รพีพงษ์บริจาคเงินให้มหาลัยเป็นจำนวนพันล้าน เธอเพิ่งเข้าไป ก็เห็นรพีพงษ์เดินลงมาจากชั้นบน

รพีพงษ์สาดสายตาไปที่เธอ แล้วหันกลับ ราวกับว่ามองคน แปลกหน้าอย่างไรอย่างนั้น

นิษฐารู้สึกไม่พอใจ โดยเฉพาะหลังจากที่รู้ว่ารพีพงษ์เก็บซ่อน ตัวตนมหาเศรษฐีเอาไว้ ทำให้มีความรู้สึกพลาดอะไรเป็นอย่างไร อย่างนั้น

เธอสูดหายใจเข้าลึกๆ เดินไปด้านหน้าของรพีพงษ์ แสร้งยิ้ม ออกมา แล้วถาม “รพีพงษ์ ได้ยินมาว่าคุณบริจาคเงินให้มหาลัย พันล้าน? จริงไหม? คุณเอาเงินมากมายนี้มาจากไหน? พวกเขา เข้าใจอะไรผิดไปหรือเปล่า หรือ เงินนี้เป็นเงินของคนที่เลี้ยงคุณ อยู่.…………….”

รพีพงษ์ไม่ได้สนใจนิษฐา และคำถามที่เธอถามนั้นก็ชั่งน่าเบื่อ หน่ายเสียเหลือเกิน ดังนั้นจึงได้เดินผ่านนิษฐา แล้วเดินไปที่ประตู

รอยยิ้มที่นิษฐาแสร้งยิ้มออกมาหุบไปในทันที เปลี่ยนเป็น ใบหน้าที่บูดบึง ไอ้นี่ชั่งน่ารังเกียจจริงๆ ไม่สนใจเธอแต่อย่างใด

มีเงินแล้วจะมองข้าม ใครก็ได้งั้นหรอ? ความโกรธทำให้นิษฐารู้สึกไม่ดีต่อรพีพงษ์อีกแล้ว
เธอไม่คิดเลยเสียด้วยซ้ำว่าเป็นเพราะตัวเธอเองมีปัญหาหรือ เปล่า

“รังแกคนอื่นเกินไป! มีเงินแล้ววิเศษวิโสหรือไง เหอะ คนแบบ นี้ แม้มีเงิน ฉันก็ไม่มีทางเห็นชอบด้วยหรอก” นิษฐาหันหลัง แล้ว ตะโกนไปที่รพีพงษ์

รพีพงษ์เดินไปถึงประตู ราวกับไม่ได้ยินเสียงของนิษฐา อย่างไรอย่างนั้น เปิดประตูออก

แต่เขาไม่ได้เดินออกไป แต่กลับยืนอยู่ที่เดิม เพราะนอกประตู ตอนนี้มีแขกที่ไม่ได้รับเชิญหลายคนยืนอยู่ ดูๆแล้วเป็นพวกไม่มี

ผู้ชายหลายคนที่สวมชุดสูทสีดำปิดทางประตูคอนโดไว้ แล้ว คนที่ยืนอยู่ด้านหน้าผู้ชายเหล่านั้น ก็คือสาวใช้ข้างกายของอารี ยา ขนมปัง

ขนมปังจ้องไปที่รพีพงษ์ ด้วยสายตาเหยียดหยาม แล้วกล่าว “ไม่คาดคิดว่าแกจะอยู่ในที่ๆคนขอทานอาศัยแบบนี้ ซึ่งหาง่าย จริงๆ แกคงจะรู้นะว่าฉันเป็นใคร วันนี้ฉันมาหาแก เพื่อคิดบัญชี แกทําผิดต่อคุณหนูของเรา แล้วยังกลัวหัวหดตดหาย ว่ามา เรื่อง นี้ แกจะจัดการยังไง!!


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ