พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว

บทที่ 375 ฮือฮาไปทั่วทั้งเมือง



บทที่ 375 ฮือฮาไปทั่วทั้งเมือง

ชั้นสองคฤหาสน์คริสตัล

รพีพงษ์ดึงอารียาที่ใบหน้าแดงซ่านเดินขึ้นมา

หลังจากจูบอย่างดูดดื่ม รพีพงษ์ก็ปฏิบัติตามขั้นตอนของ พิธี ภายใต้การจับจ้องของทุกคน เข้าสู่บรรยากาศตามปกติ ที่งานแต่งควรจะมีอีกครั้ง

ต่อมาเป็นการดื่มสุรามงคล รพีพงษ์และอารียาทั้งสองคน ดื่มไปจำนวนมาก เมื่อถึงตอนที่งานแต่งสิ้นสุดลง ต่างก็รู้สึก เมากันไปบ้างแล้ว

อารียาไม่ถูกกับแอลกอฮอล์ แต่เพราะวันนี้ตื่นเต้นยินดี มากเกิน จึงไม่เมาพับไป

รพีพงษ์ที่ดื่มไปมากเป็นธรรมดาที่จะไม่สนใจว่าใครจะไป ที่ไหนต่อหลังจากงานแต่งจบแล้ว เขาคุยกับพรพนิดครู่หนึ่ง หลังจากนั้นก็ดึงอารียาขึ้นไปที่ชั้นสองเมื่อรพีพงษ์มาถึงห้อง ที่จัดเตรียมไว้เพื่ออารียาเป็นพิเศษ เขายังมีเรื่องสำคัญที่กว่า จะต้องทำอยู่

ไม่มีเสียงจอแจข้างหู ทั้งสองคนรู้สึกร่างกายร้อนผ่าวแผ่ ออกมา สมองเองก็เริ่มหมุนเคว้งขึ้นมา

อารียาหน้าแดงเขินอายมองรพีพงษ์ ริมฝีปากนุ่มนิ่มน่าดึงดูด นั่งลงด้านข้างของเตียงนอนอย่างว่าง่าย

รพีพงษ์ถอดเสื้อสูทของตัวเองออก ก้มมองอารียาที่ยังอยู่ ข้างเตียงนอน พูดอย่างหยอกล้อ: “ภรรยา คุณนั่งตรงนี้ทำไม กัน ทำไมไม่นอนล่ะ?”

อารียาอึ้งไปสักพัก บนใบหน้าแสดงความไม่พอใจออกมา เล็กน้อยโดยอัตโนมัติและกล่าว “จะนอนแล้วเหรอ คุณลืม อะไรไปหรือเปล่า?”

“ลืมอะไร? งานแต่งจบลงแล้ว ไม่ใช่ว่าสมควรนอนแล้วเห รอ?” รพีพงษ์แกล้งถามอย่างไม่เข้าใจ

อารียาลุกขึ้นมาทันใด ตาจ้องมองรพีพงษ์ โอบรอบเอว ของเขาไว้แล้วกล่าว “ฮี วันนี้คุณยังทำการบ้านไม่เสร็จ ต้อง ทำการบ้านก่อนถึงจะนอนได้ ไม่อย่างนั้นคืนนี้คุณก็อย่าคิด ว่าจะได้นอนเลย”

“การบ้าน? การบ้านอะไรเหรอ?”

อารียายิ้มร้าย เอ่ยปากพูดว่า “อยากให้ฉันช่วยคุณ ทำการบ้านจนเสร็จไหม”

หลังจากนั้นเธอก็หมุนตัว ผลักรพีพงษ์ให้ล้มลงบนเตียง นอน ด้วยสีหน้าอ่อนหวานและท่าทางยั่วยวน

“คืนนี้คุณให้ความร่วมมือกับฉันก็พอ ฉันต้องทำให้ การบ้านของคุณเสร็จได้แน่นอน”
พูดจบ อารียาก็โถมเข้าไปหาร่างของรพีพงษ์

วันต่อมา

งานแต่งของรพีพงษ์และอารียาที่คฤหาสน์คริสตัลถูกแพร่ กระจายอย่างรวดเร็วราวกับบินได้จากปากต่อปากของผู้คน ภายในระยะเวลาเพียงวันเดียว เกือบทั่วทั้งเมืองริเวอร์ก็รับรู้ เรื่องที่เกิดขึ้นภายในคฤหาสน์คริสทัลเมื่อคืนนี้แล้ว

ผู้คนที่เข้าไปในคฤหาสน์วันนั้นถ่ายคลิปวิดีโอไว้มากมาย คลิปวิดีโอเหล่านี้ถูกอัพบนแอพโม่วอิน ไม่นานก็ได้รับความ นิยมไปทั้งเมือง

ในขณะเดียวกัน ทุกคนก็เริ่มพูดถึงรพีพงษ์กับอารียาขึ้น มาอีกครั้ง เหมือนกันกับในปีนั้น

เพียงแต่ในครั้งนี้ผู้คนไม่ได้พูดว่ารพีพงษ์เป็นเศษขยะอีก แล้ว อารียาก็ไม่ใช่คนโชคร้ายแสนน่าสงสารที่ต้องแต่งงาน กับคนไร้ค่าอีกต่อไป

พวกเขากลายเป็นคู่รักที่ทุกคนในเมืองริเวอร์ต่างอิจฉา เหล่านักเขียนนิยายใช้คฤหาสน์คริสทัลมาเป็นหัวข้อผลงาน หรือถึงกับเริ่มนำชื่อของรพีพงษ์และอารียามาใช้เป็นตัว ละครโดยตรง บรรยายเรื่องราวเกี่ยวกับความรักแสนโรแมน ติกของคฤหาสน์คริสทัลภายในหัวของพวกเขาออกมา
และของขวัญอวยพรกับเงินขวัญถุงที่ได้จากบรรดาคน ที่มาร่วมงานเหล่านั้น ก็กลายเป็นหัวข้อการพูดคุยที่ร้อนแรง ที่สุดเรื่องหนึ่งอย่างไม่ต้องสงสัย

เรื่องเงินขวัญถุงมูลค่าร้อยล้านได้ปรับความเข้าเกี่ยวกับ เงินขวัญถุงใหม่ของทุกคนซะใหม่ นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขา ได้ยินว่ามีคนมอบเงินขวัญถุงหนึ่งร้อยล้านให้โต้งๆเลย

แต่เมื่อพวกเขารู้ว่าเงินหนึ่งร้อยล้านมาจากตระกูลลัดดา วัลย์แห่งโตเกียว ก็รู้สึกปลงตกได้หน่อยแล้ว อาศัยแต่เงินทุน ของตระกูลลัดดาวัลย์ ก็สามารถมอบเงินขวัญถุงได้มาก ขนาดนี้จริงๆ

หลังจากนั้นเรื่องที่ตระกูลลัดดาวัลย์แห่งโตเกียวให้ของ ขวัญกับรพีพงษ์ก็กลายมาเป็นประเด็นร้อนแรงขึ้นมาทันที และยังคาดคะเนถึงความสัมพันธ์ของรพีพงษ์กับตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งโตเกียวไปต่างๆ นานา แต่เพราะผู้คนต่างเคารพ ย่าเกรงต่อตระกูลลัดดาวัลย์มาก ดังนั้นจึงไม่มีใครกล้าที่จะ เดาในเรื่องที่ว่ารพีพงษ์เป็นผู้นำของตระกูลลัดดาวัลย์เลย

งานแต่งในครั้งนี้ก็เปิดเผยเครือข่ายผู้คนของรพีพงษ์ให้ ทุกคนได้รับรู้เช่นกัน รายชื่อที่ทำให้ผู้คนยำเกรงคนแล้วคน เล่า ตัวตนที่ในชีวิตปกติของพวกเขาไม่มีทางที่จะได้สัมผัส แต่ในงานแต่งของรพีพงษ์กลับมากันมากมายขนาดนี้ นี่ก็ เพียงพอที่จะแสดงให้เห็นว่ารพีพงษ์ยิ่งใหญ่มากขนาดไหน ได้แล้ว
เรื่องนี้ส่งผลต่อบรรดาญาติพี่น้องของตระกูลฉัตรมงคล อย่างมาก หลังจากที่ได้ว่ารพีพงษ์ยิ่งใหญ่ขนาดนี้แล้ว ทุก คนในตระกูลฉัตรมงคลต่างรู้สึกเสียใจที่หลังเป็นอย่างมาก ในตอนนี้มีคนไม่น้อยที่อยากจะไปขอโทษต่อรพีพงษ์ น่า เสียดายที่พวกเขาแม้แต่ตัวของรพีพงษ์ก็ยังไม่ได้เจอเลย

ธายุกรรู้สึกได้รับความพ่ายแพ้อย่างถึงที่สุด ตั้งแต่งาน แต่งก็ไม่สามารถกลับมาตั้งหลักได้ ธุรกิจที่เจรจาไว้ด้วยดี ก่อนหน้านี้ก็ล้มเหลว ผนวกกับที่เขาถูกการแต่งงานครั้งนี้ โจมตี ครอบครัวเขาอยากจะลุกขึ้นมาอีกตลอดชีวิตนี้ก็คง เป็นไปไม่ได้แล้ว

ในขณะที่ทุกคนพูดถึงงานแต่งในคฤหาสน์คริสทัล รพี พงษ์กับอารียาในฐานะคนในประเด็นกลับกำลังผ่อนคลาย อยู่ในคฤหาสน์คริสทัลมาสองสามวันแล้ว

พวกเขาไม่สนใจการวิพากษ์วิจารณ์ของคนภายนอกเหล่า นั้นเลยแม้แต่น้อย ในเวลานี้พวกเขาเพียงแค่อยากอยู่ใน โลกของพวกเขากันเองสองคน เพลิดเพลินไปกับช่วงเวลาอัน หวานชื่นของพวกเขา

อารียาสามารถพูดได้เลยว่าหลายวันมานี้เธอตัวติดกับรพี พงษ์เป็นอย่างมาก เป็นเพราะเธอรู้ว่าหลังจากงานแต่งงาน รพีพงษ์ก็ยังมีเรื่องสำคัญที่กว่าให้ต้องไปจัดการ เขายังต้อง จากไปอีก ดังนั้นถือโอกาสในขณะที่รพีพงษ์ยังอยู่ในเมืองริ เวอร์ เธอต้องการดื่มต่ำกับช่วงเวลาทั้งหมดที่ได้ครอบครองรพีพงษ์เอาไว้ให้ดีๆ

รพีพงษ์เองก็ปฏิเสธบรรดาคนที่มาตามหาเขาหลังจาก งานแต่งอย่างรู้สถานการณ์ได้เป็นอย่างดี อยู่เป็นเพื่อนอารี ยาอย่างตั้งใจ

แต่ช่วงเวลาแห่งความสุขนั้นมักจะสั้นเสมอ เวลาสองสาม วันผ่านไปอย่างรวดเร็ว รพีพงษ์มีเรื่องส่วนตัวที่จะต้องจัดการ บริษัทของอารียาก็ต้องการการบริหารเช่นกัน ดังนั้นหลังจาก ใช้เวลาในคฤหาสน์คริสทัลมาสองสามวัน ทั้งสองคนก็ได้ ย้ายตัวจากด้านในออกมาด้านนอก

“รอผมจัดการเรื่องราวในครั้งนี้ให้เรียบร้อย จะต้องมอบท ริปฮันนีมูนที่น่าพอใจให้คุณอย่างแน่นอน” รพีพงษ์ให้คำมั่น สัญญากับอารียาอย่างจริงจัง

ถึงแม้ว่างานแต่งงานครั้งนี้จะทำให้เป็นที่ฮือฮาไปทั่วทั้ง

เมืองริเวอร์ แต่ว่าศศินัดดาก็ยังคงไม่เปลี่ยนความคิดของตัว เอง เธอยังปฏิเสธรพีพงษ์อยู่ เพียงแต่ว่าหลังจากที่ได้เห็นคน ตระกูลลัดดาวัลย์ที่มางานแต่งงาน ท่าทีของเธอก็อ่อนลง อย่างเห็นได้ชัดประมาณหนึ่ง

รพีพงษ์วางแผนไว้ว่าจะไปเมืองบาสแตร์ก่อนเพื่อตามหา คนคนนั้นที่จันทร์ไซยบอกไว้สักหน่อย ไปขอถามเกี่ยวกับ เทือกเขากิสนา ดังนั้นเขาจึงให้อารียากลับไปอยู่ที่บ้านใน ช่วงที่ตัวเองไม่อยู่ และยังเป็นโอกาสดีที่จะโน้มน้าวศศินัดดาอีกด้วย

เชื่อว่าหลังจากที่ทุกคนเปลี่ยนความคิดที่มีต่อรพีพงษ์แล้ว ความต้องการที่จะเปลี่ยนทัศนคติของศตินัดดาที่มีต่อรพี พงษ์ก็พอมีความหวังขึ้นมาบ้างแล้ว

สตาร์กาย

รพีพงษ์และจันทร์ไชยนั่งอยู่ข้างหน้าเคาน์เตอร์บาร์ ด้าน หน้าของทั้งสองคนมีเหล้าวางอยู่ ในตอนนี้ที่นี่ยังไม่ถึงเวลา เปิดทำการ ทั้งห้องโถงใหญ่จึงมีเพียงพวกเขาแค่สองคน เท่านั้น

“แน่ใจแล้วเหรอว่าจะตามหาคนคนนั้นน่ะ? เทือกเขากิ สนาไม่ได้ง่ายอย่างที่นายคิดหรอกนะ ทุกอย่างที่มีความ เกี่ยวข้องกับเทือกเขากิสนา ท้ายที่สุดแล้วล้วนไม่ได้มีจุดจบ ที่ดีเลย นายแน่ใจว่าจะไปจริงเหรอ?” จันทร์ไชยเอ่ยประโยค โน้มน้าวรพีพงษ์อีกครั้ง

รพีพงษ์ยิ้มพร้อมยกแก้วเหล้าขึ้นดื่ม เอ่ยปากว่า “นายก็รู้ นิสัยของฉันดี เรื่องที่ตัดสินใจไปแล้วไหนเลยจะมีเหตุผลให้ ต้องเปลี่ยน”

จันทร์ไชยสายหน้าอย่างจนปัญญา พูดว่า “เอาเถอะ รู้ว่า โน้มน้าวนายไม่ได้ ฉันเองก็ไม่อยากคุยเรื่องนี้กับนายให้ เปลืองน้ำลายอีกแล้ว”
“บอกหน่อยได้ไหมทำไมนายถึงรั้งให้ฉันอยู่ในเมืองริเวอร์ อีกล่ะ นายอยากไปเมืองบาสแตร์ตามหาคนคนนั้นที่ฉันบอก นาย นายคงไม่ได้รั้งให้ฉันอยู่ต่อเพื่อที่จะปกป้องภรรยาของ นายใช่ไหม”

“ถ้าเป็นไปได้ แน่นอนว่ามันย่อมดีกว่า แต่ที่ฉันให้นายอยู่ ต่อไป สิ่งที่สำคัญที่สุดคือต้องการให้นายสำแดงฤทธิ์ของ หัวหน้าสำนักบูโดวงแสงนี้สักหน่อย” รพีพงษ์พูดออกมา

“อ้อ? การสำแดงฤทธิ์ของฉันมีประโยชน์ด้วยเหรอ?” จันทร์ไชยเอ่ยถามอย่างสงสัย

“ช่วยพวกของธฤตญาณพัฒนาศักยภาพ” รพีพงษ์ยิ้ม กล่าวอย่างเย็นชา


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ