พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว

บทที่ 339 ความกลุ้มใจของวรมัน



บทที่ 339 ความกลุ้มใจของวรมัน

ลูกศิษย์ทั้งสองคนมองรพีพงษ์ด้วยแววตาหงุดหงิด สำหรับ พวกเขาแล้วรพีพงษ์จงใจมาหาเรื่องชัดๆ

“นายจงใจมาหาเรื่องสินะฉันอยู่ในสำนักบูโดวงแสงมา นาน นี่เป็นครั้งแรกที่เห็นคนบ้าแบบนาย ถ้าวันนี้ฉันไม่ได้สั่ง สอนแกสักหน่อย แกก็คงไม่เจียมตัวสินะ” ลูกศิษย์คนหนึ่ง เอ่ยขึ้น

“ฉันไม่ได้มาหาเรื่อง ฉันมาหาจันทร์ไชยจริงๆ พวกนาย เข้าใจเจตนาฉันผิดเอง” รพีพงษ์เอ่ยขึ้น

“ทื อย่ามาพูดเล่นลิ้น ที่นายพูดเมื่อกี้แสดงเจตนาของนาย หมดแล้ว เจ้าของสำนักของเราไม่ใช่คนที่นายอยากจะเจอก็ เจอได้ แถมนายยังบอกว่าเจ้าของสำนักยังไม่กล้าสั่งสอน นายด้วย น่าขำสิ้นดี อย่างนายอะนะ แค่เราสองคนก็ทำให้ นายเสียใจที่มาอวดดีที่นี่ได้แล้ว” ลูกศิษย์อีกคนพูดด้วยน้ำ เสียงหงุดหงิด

รพีพงษ์ถอนหายใจอย่างเหนื่อยใจ วันนี้เขาคงจะอธิบาย ไม่จบไม่สิ้น แต่ว่าเขาต้องเจอจันทร์ไชย ไม่งั้นอาจจะต้อง ลำบาก

เขาคิดไปคิดมา จู่ๆ คนคนหนึ่งก็แวบเข้ามาในหัว เขาจึง ยิ้มแล้วถามว่า “ในเมื่อพวกนายไม่ยอมไปบอกจันทร์ไชย งั้น ก็ให้ถิรมันออกมาได้ใช่ไหมล่ะ”

“นายต้องการอะไรกันแน่! นายยังรู้จักรุ่นพี่ถิรมันด้วย อย่า บอกนะว่านายจะมาเป็นศัตรูกับอาจารย์ ฉันจะบอกให้นะช่วง นี้รุ่นพี่วรมันอารมณ์ไม่ดี ถ้าเขาออกมา นายจบไม่สวยแน่!” ลูกศิษย์คนหนึ่งขมวดคิ้ว คิดไม่ถึงว่าเมื่อเขาไม่ได้เจอเจ้าของ สำนัก กลับอยากจะเจอรุ่นพี่ถิรมันอีก เขาไม่ได้มาตีแน่ๆ

“นายเรียกเขาออกมาก่อนเถอะ เดี๋ยวนายก็รู้เองว่าฉันมา ทำอะไร” รพีพงษ์เอ่ยขึ้น

ลูกศิษย์ทั้งสองคนมองหน้ากัน จากนั้นหนึ่งในนั้นก็วิ่ง เข้าไปในสำนัก

ส่วนอีกคนก็ยืนมองรพีพงษ์แล้วพูดว่า “ถึงแม้พละกำลัง ของรุ่นพี่ถิรมันจะไม่ได้แข็งแกร่งที่สุดในบรรดาพวกเรา แต่ คนอย่างนายก็ไม่ควรไปหาเรื่องเขา ช่วงนี้อารมณ์ของเขาไม่ ค่อยดี ฉันเตือนนายไว้เลยนะ รีบเตรียมตัวหนีเถอะ ไม่งั้นถ้า รอให้เขาออกมา นายคิดอยากจะหนีก็หนีไม่รอด”

รพีพงษ์ยิ้มแล้วพูดว่า “วางใจเถอะ เขาไม่กล้าหงุดหงิดต่อ หน้าฉันหรอก”

ลูกศิษย์คนนั้นแบะปาก คิดในใจว่าไอ้หมอนี่อวดดีจริงๆ รอให้รุ่นพี่ถิรมันออกมา เขาจะให้รุ่นพี่ถิรมันจัดการมันให้เละ ลูกศิษย์พวกนี้นอกจากจะฝึกการป้องกันตัว ก็ไม่ได้ทำ เรื่องอะไรอีก ในบรรดาพวกเขาฝีมือไม่ห่างกันเท่าไร แต่ เทียบไม่ได้กับรุ่นพี่ที่อยู่มานาน เพราะฉะนั้นพวกเด็กใหม่ ชอบคนที่มาหาเรื่องนักล่ะ

ถ้าคนที่มาหาเรื่องฝีมือไม่เท่าไร พวกเขาก็มีโอกาสฝึก ฝีมือของตัวเอง

แต่ถึงอยากจะลองฝีมือตัวเอง ลูกศิษย์คนนี้ไม่รู้ว่าฝีมือ ของรพีพงษ์แข็งแกร่งแค่ไหน เขาจึงไม่กล้าผลีผลามและรอ ให้รุ่นพี่ถิรมันออกมาแล้วค่อยว่ากัน

ถ้าดูจากฝีมือของรุ่นพี่ถิรมัน คงจะทำให้ทายได้ว่าไอ้หมอ นี่มีฝีมือแค่ไหน ไม่แน่อาจจะเป็นแค่คนไม่เอาไหนที่เข้ามาทำ อวดดีเฉยๆ เท่านั้น เมื่อถึงตอนนั้นพวกเขาจะได้มีโอกาสโชว์ ฝีมือ

ผ่านไปไม่นาน เสียงดังโวยวายดังออกมาจากข้างในสำ นักบูโดวงแสง “ใครกล้ามาทำตามอำเภอใจในสำนักบูโด วงแสง บ้าไปแล้วหรือไง วันนี้ฉันต้องสั่งสอนมันเพื่อระบาย ความหงุดหงิดใจของฉันเสียหน่อยแล้ว”

คนที่กำลังเดินมาคือถิรมัน ครั้งก่อนเขาไปให้คำแนะนำ สำนักบูโดตระกูลวรโชติธีรธรรมที่เมืองกรีนโคล ตอนแรกกะ ว่าจะไปเที่ยวผ่อนคลาย ที่ไหนได้กลับเจอรพีพงษ์ แถมยัง โดนทำให้ตกใจจนหัวหด หลังจากที่เขากลับมาจึงกลุ้มใจมาก ไม่ว่ายังไงเขาก็เป็น คนมีฝีมือของสำนักบูโดวงแสง เขากลัวจนแค่เจอหน้ารพี พงษ์ก็วิ่งจนหางจุกตูด ถ้าพวกน้องๆ ในสำนักรู้เรื่องนี้ คงจะ หัวเราะจนฟันหลุด

ดังนั้นช่วงนี้เขาจึงอารมณ์ไม่ค่อยดี อยากให้ที่ระบายเสีย หน่อย เขาคิดว่ารพีพงษ์แค่แข็งแกร่งเกินไปเท่านั้น เขาไม่ได้ อ่อนแอ จริงๆ แล้วเขาเป็นคนที่ฝีมือสูงคนหนึ่งเลยล่ะ

เมื่อลูกศิษย์ที่ยืนอยู่หน้ารพีพงษ์ได้ยินเสียงของถิรมัน เขา ก็แสยะยิ้มออกมาแล้วพูดกับรพีพงษ์ว่า “นายตายแน่ เตรียม รับความเกรี้ยวกราดของรุ่นพี่ถิรมันได้เลย”

ลูกศิษย์ที่ไปเรียกถิรมันวิ่งเข้ามา แล้วขี้ไปที่รพีพงษ์ “รุ่นพี่ ไอ้หมอนี่ครับ เดี๋ยวพี่จัดการมันด้วยพละกำลังที่พี่มีเลยนะ ครับ ให้เราได้เห็นพละกำลังของพี่ด้วย!”

ถิรมันเดินมาถึงหน้าประตู เมื่อเขาเห็นรพีพงษ์ จู่ๆ ความ หงุดหงิดและไม่พอใจก็หายไปทันที ความรู้สึกตกใจและ หวาดกลัวเข้ามาแทนที่

ทำไมถึงเป็นไอ้หมอนี่ ทำไมรพีพงษ์ถึงตามเขามาถึงเกียว โต อย่าบอกนะว่ารพีพงษ์ตั้งใจมาจัดการเขาที่นี่

ลูกศิษย์ทั้งสองคนรอให้ถิรมันลงมือจัดการรพีพงษ์ แต่เมื่อ เห็นว่าถิรมันยืนอยู่ที่เดิมไม่ยอมขยับไปไหน ท่าทางเกรี้ยว กราดเมื่อครู่ก็หายไปหมดแล้ว ต่างก็พากันทำหน้าแปลกใจ ครุ่นพี่ อึ้งอะไรครับ ไอ้นีมาหาเรื่องสำนักของเรามันไม่เห็น สำนักเราอยู่ในสายตาด้วย พี่รีบลงมือจัดการมันเลยครับ” ลูกศิษย์ทั้งสองพูดเชียร์

ถิรมันกลืนน้ำลายลงคอ เขานึกย้อนไปถึงเรื่องที่เจ้าของ สำนักบอกเกี่ยวกับรพีพงษ์ แววตาของเขาฉายแววแห่ง ความหวาดกลัว เขาคิดในใจว่าการที่รพีพงษ์ไม่เห็นสำนักบู โดวงแสงอยู่ในสายตา มันต้องมีเหตุผลแน่ๆ

รพีพงษ์จ้องถิรมันแล้วยิ้มออกมา “ไม่เจอกันนาน”

ถิรมันกลืนน้ำลายลงคอ เขาฝืนใจเดินเข้าไปหารพีพงษ์ จากนั้นจึงพูดขึ้นว่า “มะ ไม่เจอกัน แค่ก แค่ก แต่ก็ไม่ถือว่า นานนะ นะ นายมาทำอะไรที่นี่เหรอ”

ลูกศิษย์ทั้งสองได้ยินน้ำเสียงที่ไม่มีความโกรธจนเกือบ อ่อนโยนของถิรมัน ถึงกับอ้าปากค้าง นี่ใช่รุ่นพี่ถิรมันของ พวกเขาหรือเปล่า ทำไมพออยู่ต่อหน้าของไอ้หมอนี่ถึงมี ท่าทางหวาดกลัวแบบนี้

กลัวจน…พูดติดอ่าง

“รุ่นพี่จะเกรงใจอะไรมัน ไอนี่มันมาหาเรื่องนะครับ” ลูก ศิษย์คนหนึ่งพูดขึ้น

ถิรมันรีบหันไปจ้องเขม็งแล้วตวาดออกมาว่า “แกจะรู้อะไร ทุบปากเดี่ยวนี้ ถ้าแกพูดอีกฉันจะหักขาแก!” ลูกศิษย์ทั้งสองคนตกใจจนสะดุ้งโหยง จากนั้นจึงไม่กล้า พูดอะไรอีก

“ฉันมาหาจันทร์ไชย ถ้าเป็นไปได้ นายช่วยพาฉันเข้าไป เจอเขาหน่อย” รพีพงษ์เอ่ยขึ้น

เมื่อได้ยินรพีพงษ์พูดดังนั้น เขาจึงโล่งอก ที่แท้ไม่ได้มาหา เขา งั้นแสดงว่าเขารอดแล้ว

“ตอนนี้เจ้าของสำนักไม่อยู่ เขาจะกลับมาตอนบ่าย” ถิร

มันพูดตอบ

รพีพงษ์อึ้งไป คิดไม่ถึงว่าจะโชคร้ายขนาดนี้ จันทร์ไชยไม่

อยู่

“งั้นเดี๋ยวฉันค่อยมาตอนบ่าย ฉันหิวพอดี ขอไปหาอะไร ทานก่อน” รพีพงษ์เอ่ยขึ้น

ถิรมันไม่กล้าบอกให้เขาอยู่กินข้าวที่นี่ เพราะพวกเขาไม่ ได้เป็นเพื่อนกัน เรียกได้ว่าเป็นศัตรูกันก็ว่าได้ แถมเขาก็ยัง ไม่รู้ว่ารพีพงษ์มาหาเจ้าของสำนักเพื่ออะไร

“ใครกล้ามาหาเรื่องสำนักของฉัน ได้ยินมาว่าไม่เห็น สำนักของเราอยู่ในสายตาด้วย ฉันอยากเห็นจริงๆ ว่าใครที่ มันกล้าขนาดนี้!” ขณะนั้นเองมีเสียงดังกังวานออกมาจาก ข้างในสำนัก ทุกคนพากันหันไปตามเสียงนั้น คนหนุ่มรูปร่าง สูงใหญ่เดินมาทางพวกเขา เมื่อลูกศิษย์สองคนเห็นคนหนุ่มคนนั้น ดวงตาของพวกเขา เป็นประกาย คนคนนั้นก็คือเกรียงชัยรุ่นพี่ใหญ่ของสำนัก เขามีพละกำลังมากที่สุด

พวกเขาไม่รู้ว่าทำไมถิรมันถึงกลัวรพีพงษ์ขนาดนั้น แต่ สำหรับเกรียงชัยแล้ว คงไม่กลัวอะไรแน่นอน

ฝีมือของเกรียงชัยที่แสดงให้เห็น ทำให้บรรดาลูกศิษย์ใน สำนักต่างก็หวังอยากเป็นเหมือนเขา และเหล่ารุ่นพี่ก็อยาก ชนะเกรียงชัยด้วยเหมือนกัน

“รุ่นพี่ใหญ่ ไอ้หมอนี่ครับ พี่รีบสั่งสอนมันเลยครับ” ลูก ศิษย์ทั้งสองคนเรียกเกรียงชัยด้วยความกระตือรือร้น ถิรมันคิดไม่ถึงว่าเกรียงชัยจะตามมาด้วย เขารู้สึก

กระอักกระอ่วน

เกรียงชัยเดินเข้ามา เมื่อกี้เขาได้ยินเสียงโวยวายของถิร มัน ถึงได้รู้ว่ามีเรื่องเกิดขึ้น จึงรีบตามมาดู แต่ทว่าเมื่อเห็นถิร มันทำตัวนอบน้อมกับคนที่มา นี่มันไม่เข้ากับนิสัยของถิรมัน เลยสักนิด นี่จึงทำให้เขาแปลกใจ

“พี่ถิรมันเพิ่งพูดไปไม่ใช่เหรอว่าจะจัดการคนที่มาหาเรื่อง สำนัก ทำไมยังไม่ลงมือล่ะ” เกรียงชัยมองถิรมันแล้วเอ่ยถาม ด้วยสีหน้าอยากรู้

โรมันกระแอมออกมา เขาปกปิดความกระอักกระอ่วนของ ตัวเอง จากนั้นจึงพูดกับเกรียงชัยว่า “รุ่นพี่คนที่มา ไม่ใช่คนธรรมดา อีกอย่างเขามาหาเจ้าของสำนัก ผมว่าให้ เจ้าของสำนักกลับมาแล้วค่อยว่ากันเถอะ”

เกรียงชัยมองรพีพงษ์ตั้งแต่หัวเท้า เขาพบว่ารพีพงษ์ก็ แค่คนธรรมดา ดูแล้วไม่เห็นมีอะไร เขาจึงพูดกับถิรมันอย่าง ไม่พอใจว่า “เจ้าของสำนักไม่ใช่คนที่ใครอยากเจอก็เจอได้ และฉันไม่เคยได้เห็นคนแบบนี้อยู่ในเกียวโต คนที่ไม่มีอะไร สักอย่าง กล้ามาหาเรื่องสำนักบูโดวงแสง ถ้าไม่สั่งสอนมัน สักหน่อย ถ้าคนอื่นรู้คงจะขายหน้า!”

ถิรมัน โดนพูดใส่จนอายจนจะแทรกแผ่นดินหนี เขาก็อยาก สั่งสอนรพีพงษ์เหมือนกัน แต่ว่าเขามีฝีมือไม่พอนะสิ ถ้าเขาสู้ รพีพงษ์ได้ คงไม่ต้องมาหงุดหงิดอยู่แบบนี้

เกรียงชัยเห็นถิรมันไม่พูดอะไร เขาส่งเสียงที่ออกมาในลำ คอ จากนั้นจึงเดินเข้าไปใช้มือจับตัวของรพีพงษ์

“ในเมื่อมาแล้ว งั้นก็เข้าไปคิดทบทวนกับฉันข้างในหน่อย สิ สำนักบูโดวงแสง ไม่ใช่ใครจะมาหาเรื่องก็ได้!”

รพีพงษ์เห็นว่าเกรียงชัยเริ่มใช้กำลัง เขาไม่ได้ตื่นตระหนก แม้แต่น้อย ตอนที่เกรียงชัยยื่นมือเข้ามาหาเขา เขาเอี้ยวตัว หลบ จากนั้นจึงใช้มือจับข้อมือของเกรียงชัยเอาไว้

เกรียงชัยคิดไม่ถึงว่าปฏิกิริยาของรพีพงษ์จะรวดเร็วเช่นนี้ เขารู้สึกตกใจ แต่เขาก็เปลี่ยนกลวิธีทันที เขาเปลี่ยนเป็น หมัดกระแทกไปที่หน้าอกของรพีพงษ์

รพีพงษ์กันหมัดของเกรียงชัยเอาไว้ เมื่อเขาทำให้มือของ เกรียงชัยหมดแรง จากนั้นเขาจึงใช้แรงผลักเกรียงชัยกลับไป

จากการที่ได้ต่อสู้กันในระยะเวลาอันสั้น ถึงแม้จะไม่รู้ว่า ใครชนะหรือแพ้ แต่เห็นได้ชัดว่าเกรียงชัยเป็นฝ่ายเสีย เปรียบ

“เดี๋ยวตอนเย็นผมกลับมาอีก คุณไม่ต้องลำบากพาผม เข้าไปหรอก” รพีพงษ์ยิ้มให้เกรียงชัย จากนั้นเขาจึงเดินออก ไป ดูเหมือนว่าเขาเดินอย่างเชื่องช้า แต่เพียงพริบตาเดียว เขาก็เดินออกไปประมาณสิบกว่าเมตรแล้ว

เกรียงชัยไม่พอใจ เขาอยากตามรพีพงษ์ออกไป แต่ทว่า ตอนนี้เขารู้สึกเจ็บตรงข้อมือ จนทำให้เขาขมวดคิ้ว

” ให้ตายเหอะ แพ้ทางให้ไอ้หมอนั่นเสียแล้ว” เกรียงชัยก่น ด่าในใจ เขาไม่พอใจมาก แต่ตอนนี้เขาไม่สามารถตามรพี พงษ์ไปได้

โรมันมองรพีพงษ์ที่เดินออกไปด้วยความตกตะลึง ถึงแม้ จะเดาได้ว่ารพีพงษ์ไม่ใช่คนที่รับมือได้ง่ายๆ แต่ว่าหลังจากที่ เห็นรพีพงษ์กับเกรียงชัยสู้กัน จนทำให้เกรียงชัยเสียเปรียบ เขารู้สึกหดหูใจ

ดูเหมือนว่าเจ้าของสำนักจะพูดไม่ผิด ถ้าอยากอยู่รอด อย่าไปหาเรื่องรพีพงษ์จะดีที่สุด

ลูกศิษย์ทั้งสองคนก็มองรพีพงษ์อย่างตกตะลึง คิดไม่ถึงว่า จะรอดจากเงื้อมมือของรุ่นพี่ไหญ่ได้อย่างง่ายได้ขนาดนี้

เขาต้องแข็งแกร่งแค่ไหนกัน?


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ