พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว

บทที่ 560 ใช้เป็นเครื่องมือ



บทที่ 560 ใช้เป็นเครื่องมือ

อาคารลานคอน

รพีพงษ์เดินอยู่ในอาคาร มีคนยิ้มทักทายเขา ตลอดเวลา แล้ว ตะโกน “สวัสดีคุณรพี”

เพราะช่วงนี้รพีพงษ์อยู่ในอาคารลานคอนตลอด มักจะเดินอยู่ กับวิไลพร คนของบริษัทลานคอนกรุ๊ปล้วนรู้ว่าตัวตนของเขาไม่ ธรรมดา

แล้วก่อนหน้านี้วิไลพรยังเปิดประชุมระดับสุดยอดประกาศตัว ตนของรพีพงษ์ บอกกับทุกคน ว่ารพีพงษ์เป็นเจ้าของเบื้องหลัง ของบริษัทลานคอนกรุ๊ป

ความจริงรพีพงษ์ไม่อยากให้วิไลพรทำแบบนี้ แต่ช่วงนี้วิไลพร ได้ยินคำพูดประชดประชันในบริษัท ว่ารพีพงษ์เป็นเด็กที่เธอ เลี้ยงไว้ ดังนั้นเธอจึงรู้สึกว่าจะต้องประชุมเพื่อเปิดเผยตัวตนของ คุณชายของตร

รพีพงษ์เห็นวิไลพรตั้งใจ จึงไม่ห้าม

เรื่องที่รพีเป็นเจ้าของเบื้องหลังของบริษัทลานคอนกรุ๊ป สำหรับคนของบริษัทลานคอนกรุ๊ปแล้วรู้สึกว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ น่าตกใจความจริงมีคนจํานวนไม่น้อยเหยียดหยามรพีพงษ์ แต่ เมื่อได้ยินเรื่องนี้แล้ว ก็เปลี่ยนท่าทีทันที ถึงขั้นวิ่งไปหารพีพงษ์ เพื่อขอโทษโดยเฉพาะ
เมื่อนึกถึงวิธีการต่อกลอนกับตระกูลชาดาวรวงศ์ โน้มน้าวคน ของบริษัทลานคอนกรุ๊ป ก็ถือว่าสำคัญ เขาจําเป็นต้องให้ทุกคน ของเทือกเขาสนาในเมืองเซี่ยงไฮ้รับรู้ว่าคุณชายของตน ได้มา ถึงแล้ว ต้องการความร่วมมือจากพวกเขา

การประชุมระดับสุดยอดของวิไลพรได้ผล แต่สิ่งที่ทำให้ร พงษไม่เชื่อก็คือ หลังจากที่ตนได้ประกาศตัวตนของตัวเองแล้ว นั้น หัวข้อที่ว่าเขาถูกเลี้ยงดูในบริษัทลานคอนกรุ๊ปจะไม่พูดถึงกัน แล้ว แต่กลับมีคนพูดว่าวิไลพรและรพีพงษ์เป็นคู่สร้างคู่สมกัน ที่ วิไลพรไม่มีแฟนนานขนาดนี้นั้น เป็นเพราะรอรพีพงษ์

รพีพงษ์ค่อนข้างปวดหัว กับการนินทาของผู้คน แต่เขาก็ไม่ สามารถปิดปากของทุกคนไว้ได้ เพียงแค่ทำเป็นไม่รู้ ก็ไม่มีอะไร แล้ว

วิไลพรเต็มใจที่ทุกคนพูดถึงพวกเขา ถึงขั้นวิ่งไปอวดตรงหน้า ของรพีพงษ์ ตั้งใจพูดกับรพีพงษ์ว่าคำพูดเหล่านั้นเป็นความจริง เธอห่วงหน้าตาตัวเอง จึงไม่กล้าพูดตรงๆ

รพีพงษ์ชักตาไปที่เธอ พูดออกมาไม่ได้ ถ้าเป็นคนอื่น เขาอาจ จะเชื่อ แต่เมื่อเป็นวิไลพร ให้ตายเขาก็ไม่เชื่อ

แต่เขาก็รู้ว่าวิไลพรล้อเล่น สาวสังคมที่ขึ้นชื่อ หลังจากครั้งที่ แล้วที่รพีพงษ์เกือบจะโมโหเธอไป ก็ได้เปลี่ยนพฤติกรรมในการ พูดอย่างเร็ว ทุกครั้งที่ล้อเล่นกับรพีพงษ์ ไม่ให้รพีพงษ์โกรธ แล้ว ยังโปรยเสน่ห์ของตัวเองให้รพีพงษ์เห็นอีกด้วย

เมื่อเวลาผ่านไปนาน รพีพงษ์เริ่มนับถือวิไลพร เขาเคยคิดถึงขั้น ถ้าเขายังไม่แต่งงาน และไม่ได้มอบความรู้สึกทั้งหมดให้กับ อารียาล่ะก็ เขาจะต้องหลงใหลในตัวของวิไลพรอย่างแน่นอน

รพีพงษ์เป็นเบื้องบนของวิไลพร แต่เธอไม่เคยคิดกับรพีพงษ์ว่า เป็นเจ้านายเลย ถึงขั้น มองรพีพงษ์เป็นเด็กวิ่งงาน

ตามคำพูดของวิไลพร ยังไงรพีพงษ์ก็ไม่มีอะไรทำในบริษัทอยู่ แล้ว ต้องอยู่ดีกินดี ให้เขาทำงานนิดหน่อย ก็เป็นเรื่องที่ต้องทำ อยู่แล้ว

ดังเช่นวันนี้ บริษัทมีกลุ่มเด็กฝึกงานมาสัมภาษณ์ จะต้องรับส่ง รพีพงษ์ไอ้ถูกรับเกียรติให้มาเป็นคนขับรถรับส่ง

รพีพงษ์ไม่ปฏิเสธ เพราะนอกจากต้องกังวลเรื่องของอารียา แล้ว ตอนนี้ เขาก็ไม่มีอะไรทำ

ถึงลานจอดรถชั้นใต้ดิน รพีพงษ์เดินไปถึงด้านหน้ารถตู้สิบสี่ที่

นั่ง หลังจากนั่งลงไปแล้ว ก็ขับออกจากอาคารลานคอน

ที่ๆเขาจะไปห่างจากมหาวิทยาลัยฟูตันไม่มาก วันนี้ที่มา สัมภาษณ์ได้ยินมาว่ากว่าครึ่งของนักเรียนมาจากมหาวิทยาลัย ตัน ในฐานะที่เป็นบริษัทเครื่องสำอางที่ใหญ่ที่สุดใน ตลาดหลักทรัพย์เมืองเซี่ยงไฮ้ คนที่มาสัมภาษณ์ จึงเป็นคนที่มี ความสามารถระดับต้นๆทั้งนั้น

ตอนนี้อาคารลานคอนเป็นสถานที่รวมตัวกันของนักศึกษา ฝึกงาน หนึ่งในนั้นจำนวนสิบกว่าคนได้รออยู่แล้ว ผู้ที่รอ สัมภาษณ์ในครั้งนี้ เกินขึ้น เป็นผู้หญิง เพราะมีเพียงผู้หญิงที่ เข้าใจผู้หญิง ต้องการบริหารบริษัทเครื่องสําอาง ถ้าขาดผู้หญิงก็คงไม่ได้

แล้วในสิบกว่าคนสัมภาษณ์ มีผู้หญิงสองคน ตาประกาย สองคนคือนิษฐาและเยาวเรศที่เรียนอยู่มหาวิทยาลัย ฟูตัน วันพวกเธอแต่งอย่างสดใส ผู้ชายหลายที่ดูไปพวกเธอสอง

เยาวเรศมองไปนิษฐาอย่างเคร่งเครียด กล่าวว่า “นิษฐา คิดว่าเป็นบริษัทที่มีของเมืองเซี่ยงไฮ้อย่างมากเลยได้ยินมา การแข่งขันมาก พวกเราเป็นนักศึกษาฟูตัน ผ่าน

นิษฐายิ้มให้เยาวเรศ แล้วกล่าว ไม่ต้องกังวล สัมภาษณ์ ไม่น่าจะยาก อย่าง ชนุดมอยู่ที่เขามีญาติ ทำงานบริษัทลานคอนกรุ๊ป ต้องช่วยเราพูดแล้ว

ผู้ชายรูปร่างสูงยาวข้างนิษฐาและเยาวเรศยิ้ม

สะใจมา แล้วตบไปอก พวกเธอสองคนสบายใจเถอะ

ได้บอกคนในไว้รอถึงตอนสัมภาษณ์ ไม่ทาง

เราคําถามยากคนรอบข้างได้ยินพูดของชนุดม ก็

แสดงหน้าอิจฉาออกมา พวก

สัมภาษณ์กัน แต่ทว่าเป็นใช้ความสามารถ

แล้วกัน

ผ่านไม่นาน รพีพงษ์รถตู้ดำมายังจุดนัดพบ แล้วหยุดลง

เขาลงมาจากรถ มองไปที่สิบกว่าคนนั้น แล้วกล่าว “พวกคุณ ไปสัมภาษณ์ที่บริษัทลานคอนกรุ๊ปทั้งหมดเลยหรอ? ขึ้นรถเถอะ”

ทุกคนล้วนมองมาที่รพีพงษ์ หลังจากที่นิษฐาและเยาวเรศเห็น คนที่ลงมาจากรถคือรพีพงษ์แล้วนั้น ก็ชะงัก

รพีพงษ์? ทําไมเป็นแกได้?” นิษฐาอดไม่ได้ จึงถามออกมา

รพีพงษ์ก็คาดไม่ถึงว่าคนที่จะไปสัมภาษณ์นั้นมีนิษฐาและ เยาวเรศรวมอยู่ด้วย แต่เขาก็ไม่ค่อยตกใจเท่าไหร่ รู้สึกว่าการ พวกเธอไปสัมภาษณ์ที่บริษัทลานคอนกรุ๊ป ไม่ได้มีผลกระทบ อะไร

“เอ๋อ ผมมารับคนที่จะสัมภาษณ์ไปบริษัท” รพีพงษ์ตอบไปงั้นๆ

“แกไปเป็นคนขับรถของบริษัทลานคอนกรุ๊ปแล้ว? นิษฐาตาโต เธอคิดว่า รพีพงษ์ทําผิดต่อตระกูลพงศ์ธนธดา ควรจะหนี้สิถึงจะ ถูก

รพีพงษ์ไม่ได้พูดกับนิษฐามากมาย แล้วกล่าว “รีบขึ้นรถเถอะ เดี๋ยวจะกระทบเวลาสัมภาษณ์” นิษฐาปืนปาก คิดในใจว่าร พงษ์จะต้องไปเป็นคนขับรถให้กับบริษัทลานคอนกรุ๊ปแน่นอน เพราะรู้สึกผิด ถึงได้ไม่กล้าตอบคำถามของเธอ

ดูออกว่าเยาวเรศที่มากับนิษฐาก็คิดเช่นนั้น แต่ท่าทีของเธอไม่ เหมือนกับนิษฐา

ในใจของเยาวเรศ ความจริงรพีพงษ์ก็ยังคงเป็นคนดีคนหนึ่งแล้วยังเก่งมากอีกด้วย ยังไงเธอก็คิดไม่ตก ว่าคนแบบนี้ ทำไม ต้องเป็นศัตรูกับตระกูลพงศ์ธนธิดา จนทำให้ตัวเองตกอยู่ใน สภาพแบบนี้


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ