พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว

บทที่ 52 เธอคิดว่าเขาเป็นเศษสวะจริงหรอ



บทที่ 52 เธอคิดว่าเขาเป็นเศษสวะจริงหรอ

ไตรทศและธฤตญาณรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยเมื่อ พวกเขาเห็นชุติเทพโกรธและแสดงความไม่พอใจออกมา แต่พวกเขารู้ดีว่าที่ชุติเทพมีท่าทีแบบนี้เป็นเพราะความ สามารถไม่ถึงจึงอายจนเกิดอาการโมโห

รพีพงษ์สามารถทำให้ปรมาจารย์ผู้มีชื่อเสียงท่านนี้เป็น แบบนี้ได้ เกรงว่าภายใต้ท้องฟ้าผืนนี้คงไม่มีใครกล้าทำ

เจสสิก้าทอดสายตาไปทางชุติเทพ เธอยังรอคอยให้

ชุติเทพแก้แค้นให้เธอ ไม่คิดเลยว่าเพิ่งผ่านไปครึ่งชั่วโมง

ชุติเทพก็ออกตัวยอมแพ้แล้ว

ผู้ชายคนนี้เก่งจริงหรือ?

“ตอนนี้อาจารย์ของเธอแพ้ฉันแล้ว เธอจะยอมทำตาม ข้อตกลงได้หรือยัง?” รพีพงษ์ยิ้ม

เจสสิก้ามองหน้ารพีพงษ์อย่างไม่เต็มใจ จากนั้นก็ ขอร้องให้ชุติเทพช่วย “อาจารย์..

ชุติเทพถลึงตามองเจสสิก้าแล้วพูด “เมื่อยอมเดิมพันก็ ต้องยอมรับเมื่อตัวเองพ่ายแพ้ อะไรที่ควรทำก็ทำซะ ไม่ ต้องมาเรียกฉัน”

เจสสิก้ารู้ตัวว่าเรื่องในวันนี้ที่เธอจะต้องยอมรับรพีพงษ์ เป็นอาจารย์เห็นทีจะหนีไม่ได้

“ได้….อาจารย์

เจสสิก้าหันไปมองทางรพีพงษ์ หลังจากนั้นก็ทำการโค้ง คำนับรพีพงษ์แล้วพูดว่า “อา…อาจารย์”
รพีพงษ์รู้สึกดีเมื่อได้ยินคำเรียกนี้ เขายิ้มและพูดว่า “ดี ในเมื่อเธอกลายเป็นลูกศิษย์ฉันแล้ว ต่อไปนี้เธอจะต้อง ปฏิบัติตามคำสั่งของฉันอย่างเคร่งครัด นับแต่นี้เป็นต้นไป ในฐานะที่เธอเป็นลูกศิษย์หญิงจะต้องพูดคุยกับคนอื่น อย่างมีมารยาทและเรียบร้อย เข้าใจไหม?”

เจสสิก้าซะงักไปสักพัก จากนั้นกำปั้นเล็กๆก็เริ่มกำแน่น

ไอ้บ้านกำลังจะบอกว่าเธอไม่มีความเป็นกุลสตรี ไม่ เรียบร้อยงั้นหรือ?

เธอแทบทนไม่ไหวที่จะพุ่งเข้าไปกัดรพีพงษ์ ทว่าตอนนี้ รพีพงษ์เป็นอาจารย์ของเธอ เธอต้องฟังคำสั่งของ อาจารย์

“ค่ะ..อาจารย์ ” เจสสิก้ากัดฟันพูด

ไตรทศและธฤตญาณอยากจะหัวเราะ แต่พอนึกเห็น แก่หน้าเจสสิก้าแล้วก็ได้แต่กลั้นเอาไว้

รพีพงษ์ลุกขึ้นยืนและเหลือบมองชุติเทพ เขายิ้มและ พูดว่า “ครั้งนี้ต้องขอบคุณนายมาก เอาไว้ฉันจะส่งเคล็ด ลับให้นายภายหลัง รับรองว่าจะทำให้นายชนะนนทภูนั่น”

แม้ว่าชุติเทพจะมีสีหน้าไม่สู้ดี แต่เพื่อเคล็ดลับของรพี พงษ์แล้ว เขาก็ได้แต่ตั้งตารอเพราะเขาต้องการเอาชนะน นทภูให้จงได้

“นายอย่าผิดสัญญาล่ะ ไม่อย่างนั้นมาตรวจอาการกับ ฉันคราวหน้า ฉันอาจจะเพิ่มบางอย่างลงไปในยาก็ได้” ชุติเทพพูดอย่างไม่พอใจ

ทางฝั่งธฤตญาณก็ตัวสั่นและมีอาการขนลุกขึ้นมาทันที โดยไม่รู้ตัว
เมื่อส่งพวกรพีพงษ์ออกไปแล้ว ชุติเทพจึงค่อยๆถอน หายใจ จากนั้นก็หันไปมองหน้าเจสสิก้าแล้วพูดว่า “วัน หลังจะยั่วยุใครก็ทำไป แต่อย่ายุ่งกับรพีพงษ์เข้าใจไหม?”

เจสสิก้าทำหน้าไม่เข้าใจพลางถาม “อาจารย์…รพีพงษ์ เป็นเศษสวะอันดับหนึ่งแห่งเมืองริเวอร์ไม่ใช่หรือ ทำไมจะ แหย่เขาไม่ได้?”

“เศษสวะงั้นหรือ? นั่นเป็นเพียงแค่เปลือกนอกเท่านั้น ตอนที่เธอเล่นหมากกับเขา เธอคิดว่าเขาเป็นเศษสวะจริง หรอ?” ชุติเทพหรี่ตาในขณะที่พูด

เจสสิก้าพยักหน้าทันที จากนั้นดูเหมือนว่าเธอจะเข้าใจ อะไรบางอย่าง และความรู้สึกประหลาดใจก็เกิดขึ้น ภายในใจ

“น่าเสียดายที่เจ้านั่นแต่งงานแล้ว ไม่อย่างนั้นล่ะก็ ฉัน จะให้เธอแต่งงานกับเขา ถือว่าเป็นตัวเลือกที่ไม่เลวเลยที เดียว” ชุติเทพเปลี่ยนน้ำเสียงกะทันหันพลางบ่นพึมพำ

“อาจารย์!”เจสสิก้าเบิกตาโพล่งให้ชุติเทพ

ชุติเทพหัวเราะชอบใจพลางแตะเคราของเขา จากนั้นก็ หันกลับเข้าไปในบ้าน

บริเวณหน้าประตูของ สถานบันเทิงสตาร์กาย

ธฤตญาณมองบรรยากาศโดยรอบด้วยความหดหู่ แม้ว่าจะมาเมืองริเวอร์ได้ไม่กี่ปี แต่เขาก็รู้สึกคุ้นเคยกับมัน แล้ว

ทว่าเมื่อมองเมืองแห่งนี้ในตอนนี้กลับแตกต่างไปจากเมื่อก่อนอย่างมาก

“ในอนาคตฉันธฤตญาณจะตั้งหลักปักฐานอยู่ที่นี่ ไม่ จำเป็นต้องรุ่งโรจน์ ขอแค่เพียงได้ตอบแทนบุญคุณรพี พงษ์ที่ช่วยชีวิตก็พอแล้ว”ธฤตญาณกล่าวด้วยสายตา แน่วแน่

รพีพงษ์ยิ้มและพูดว่า “ฉันตามแกมาไม่ได้ให้แกมา ตอบแทนบุญคุณ ฉันต้องการให้แกกุมโลกใต้ดินแห่ง เมืองริเวอร์ไว้ในมือให้อยู่หมัด”

ธฤตญาณพยักหน้าจริงจัง “นายวางใจได้ ฉันจะช่วย นายจัดการเรื่องนี้ให้สำเร็จ”

ไตรทศที่อยู่อีกด้านตบไปที่ไหล่ของธฤตญาณพลาง หัวเราะ “พวกเราจะสู้ไปด้วยกัน แม้ว่าตอนนี้เมืองริเวอร์จะ มีมังกรเพียงตัวเดียวที่บินลอยอยู่เหนือพื้นดิน แต่ก็ยังมี เรื่องที่น่าปวดหัวมากมายรอเราอยู่ กุมโลกใต้ดินเพื่อ ภารกิจอันหนักอึ้ง”

“มีนายกับรพีพงษ์อยู่ เรื่องนี้ก็เป็นไปได้ไม่ยาก” ธฤต ญาณพูด

ไตรทศและรพีพงษ์ต่างมองตากันแล้วหัวเราะออกมา

“นายอาจจะคิดมากเกินไป ภารกิจหลักของพี่รพีตอนนี้ คือการเป็นพ่อบ้าน เขาไม่สามารถช่วยนายได้”ไตรทศ กล่าว

ธฤตญาณมองอย่างตกตะลึงและถามว่า “ก็ยังมีนายอยู่ ด้วยไง?”

“ฉันเนี่ยนะ? ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปฉันจะรับผิดชอบเรื่อง การต่อสู้เท่านั้น ฉันจะไม่สนใจเรื่องอื่น ก่อนที่นายจะมาฉันโดนพี่รพี่บังคับให้ทำทุกอย่างแล้ว ในเมื่อตอนนี้นาย มาแล้ว เรื่องพวกนี้ก็ต้องยกให้เป็นภารกิจของนาย” ไตรทศพูดอย่างยิ้มๆ

ธฤตญาณรู้สึกเหมือนตกอยู่บนเรือโจร ไตรทศถือได้ ว่าเป็นหนึ่งในสามราชันฟ้าแห่งเมืองริเวอร์ จะไม่รู้สึกไม่ น่าไว้วางใจได้อย่าง

“พี่รพี วันนี้เป็นวันที่ดี เรามาดื่มด้วยกันเถอะ” ไตรทศ มองไปทางรพีพงษ์

“พวกนายดื่มกันเถอะ ฉันไม่ดื่มเพราะต้องกลับบ้านไป ซื้อของมาทำกับข้าว” รพีพงษ์ตอบ

ธฤตญาณเบิกตาโพล่งอีกครั้ง เขาไม่คิดว่าคนเก่งกาจ อย่างรพีพงษ์จะเต็มใจยอมเป็นพ่อบ้านจริงๆ

แต่พอคิดดูแล้ว ภรรยาของรพีพงษ์ออกจะสวยซะ ขนาดนั้น ถ้าเป็นเขาก็ต้องยอมไปเป็นพ่อบ้านเหมือนกัน

เมื่อนึกถึงสิ่งนี้ เหตุการณ์ในอดีตบางอย่างก็ผุดขึ้นใน ใจ ธฤตญาณส่ายหัวและบังคับตัวเองไม่ให้คิดถึงเรื่อง เหล่านั้น

ระหว่างทางกลับบ้านรพีพงษ์ก็แวะไปที่ตลาดสด หลัง จากที่ซื้อของเสร็จแล้วก็กลับบ้าน

พอเข้าประตูมาได้ไม่นานก็พบว่าศศินัดดานั่งอยู่บน โซฟาด้วยสีหน้าไม่พอใจ “นี่มันกี่โมงแล้ว ทำไมไม่รู้จัก กลับบ้าน? พวกเรากำลังรอแกทำอาหารอยู่นะ!”

“ผมก็กำลังจะไปทำแล้วนี่ไง” รพีพงษ์ไม่ได้ตอบโต้ เขา ถือถุงเข้าไปในห้องครัว
เวลาเข้านอนในตอนกลางคืนอารียาขอให้รพีพงษ์นวด ให้เธอ และข้อดีของรพีพงษ์ก็คือเขาสามารถนอนเตียง เดียวกับอารียาได้

สองวันต่อมาก็ถึงวันงานเลี้ยงรุ่นของอารียา

หลังจากที่อารียาเลิกงานกลับบ้าน เธอก็เลือกชุดที่ตัว เองชอบและแต่งหน้าบางๆอย่างสวยงาม

หลังจากที่เธอเก็บของเสร็จก็หันหน้าไปมองรพีพงษ์ แล้วพูดว่า “คุณมายืนทำอะไรตรงนี้ รีบไปเก็บของสิ เดี่ยว ก็ไปสายหรอก”

“คุณจะให้ผมไปด้วยจริงๆหรือ?”รพีพงษ์ถาม

“แน่นอน ถ้าคุณยังมัวชักช้าอยู่ล่ะก็ ฉันไม่พาคุณไป แล้วนะ”อารียาพูด

รพีพงษ์มีความสุขอยู่ในใจและรีบไปเก็บของทันที

รพีพงษ์มองว่าอารียาต้องการพาเขาไปพบเพื่อนๆเพื่อ เป็นการยอมรับในตัวเขา

แม้ว่าวันนั้นบุษบากรจะบอกแล้วว่าถ้าอารียาพารพีพงษ์ ไปร่วมงาน เธอจะต้องโดนเพื่อนๆหัวเราะเยาะเอาได้ แต่ อารียากลับไม่ได้ใช้เหตุผลนี้มาเป็นข้ออ้างเพื่อที่จะไม่พา รพีพงษ์ไป

เมื่ออารียาได้เริ่มเผชิญหน้ากับรพีพงษ์ในงานเลี้ยงรุ่น วันนี้ เขาจะต้องต่อสู้เพื่อเป็นการให้เกียรติอารียา

ในเรื่องการตบหน้า แน่นอนว่ารพีพงษ์ทำได้ดีกว่าคน

อื่นๆ


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ