พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว

บทที่ 612 เขาก็แค่ผู้ชายแย่ๆ



บทที่ 612 เขาก็แค่ผู้ชายแย่ๆ

เมื่อกลับเข้ามาในห้องอาหาร รพีพงษ์นั่งลงข้าง อารียา อารียามองรพีพงษ์อย่างเคืองๆ “นายพูดว่ามี แค่ฉันคนเดียวไม่ใช่เหรอ ทำไมพอเห็นสุดาสายตา ของนายก็เปลี่ยนไป

รพีพงษ์อธิบายขึ้นมาว่า “ตอนที่ผมเห็นเธอ ผม รู้สึกว่าเหมือนคนที่ผมรู้จัก เลยอึ้งไป อีกอย่างเธอก็ สวยขนาดนั้น ถ้าผมไม่รู้สึกอะไร มันจะไม่แปลกไป หน่อยเหรอ”

อารียาคิดไปคิดมาก็รู้สึกว่ารพีพงษ์พูดมีเหตุผล ถึงแม้ว่าตอนนี้ในหัวของเธอจะมีแค่รพีพงษ์ แต่เมื่อ เจอหนุ่มหล่อตาของเธอก็เป็นประกายเหมือนกัน อีก อย่างมนุษย์ก็เป็นสัตว์ที่มีความรู้สึก เมื่อเห็นสิ่ง สวยงามก็ต้องให้ความสนใจเป็นธรรมดา

ผ่านไปครู่หนึ่ง ฝนสุดาก็เดินเข้ามา สีหน้าของ เธอเคร่งขรึมกว่าเก่าไม่น้อย

อารียาสังเกตเห็นความผิดปกติของฝนสุดา เธอจึงถามอย่างห่วงใยว่า “สุดา เธอเป็นอะไรไป ดู เหมือนเธอจะหงุดหงิดนะ”

หลังจากที่ฝนสุดานั่งลง เธอก็ถอนหายใจออก มา “อย่าไปพูดถึงมันเลย เมื่อกี้ฉันเจอคนที่ชอบอยู่ ข้างนอก จู่ๆ ฉันก็ห้ามใจตัวเองไม่ได้ จึงสารภาพกับ เขาไป แต่เขาปฏิเสธฉัน”

อารียาสีหน้าตกใจและพูดว่า “คนที่เธอชอบก็ มาเที่ยวที่นี่เหรอ”

“ใครจะไปรู้ว่าเขามาทำอะไรที่นี่ สงสัยคงจะมาพลอดรักกันล่ะมั้ง ฉันเห็นเขาอยู่กับผู้หญิงสวยคน หนึ่ง” ฝนสุดาพูดด้วยสีหน้ากลัดกลุ้ม

“ต๊ะ ก่อนหน้านี้เธอบอกว่าตระกูลเธอมีข้อ ปฏิบัติว่าถ้าผู้ชายคนไหนมาโดนเท้า จะต้องแต่งงาน กับผู้ชายคนนั้นไม่ใช่เหรอ คนที่เธอชอบตั้งใจโดนเท้า เธอไม่ใช่หรือไง” อารียากะพริบตาปริบๆ

“ใช่ ใครจะไปรู้ล่ะว่าเขาจะใจร้ายแบบนี้ เขายัง บอกฉันอีกนะว่าจะไม่ให้โอกาสฉันทั้งชีวิต อารี เธอว่า ฉันควรจะทำยังไงดี” ฝนสุดามองอารียาด้วยสีหน้า น้อยใจ

อารียามีสีหน้าเจ็บช้ำและโกรธแค้นเหมือนกับ เพื่อน “ผู้ชายคนนี้น่ารังเกียจจริงๆ ทำไมเขาถึงเป็น แบบนี้ สุดา เธออย่าเสียใจไปเลยนะ เธอไม่ควรจะทำ อะไรเพื่อผู้ชายแย่ๆ แบบนั้น ต่อไปเธอต้องเจอคนที่ดี กว่าเขาแน่นอน”

“แต่ว่าฉันชอบเขา ฉันจะทำยังไงดีล่ะ” ฝนสุดา ทำท่าน่าสงสาร ขนาดที่ว่าใครมาเห็นก็อดสงสารไม่ ได้

อารียาทำอะไรไม่ถูก เธอไม่รู้จะปลอบฝนสุดา ยังไง

ขณะนั้นเอง ฝนสุดามองรพีพงษ์แล้วพูดว่า “อารี สามีของเธอเป็นผู้ชาย ผู้ชายด้วยกันน่าจะ เข้าใจกันดี ให้สามีเธอช่วยวิเคราะห์หน่อยได้ไหม ว่า ผู้ชายแย่ๆ คนนั้นคิดยังไง”

มุมปากของรพีพงษ์ถึงกับกระตุก เขาคิดไม่ ถึงว่าฝนสุดาจะพูดเรื่องนี้ต่อหน้าอารียา แถมยังพูดให้ อารียาร่วมผสมโรงด่าเขาอีกด้วย เขาไม่มีทางโต้แย้งแม้แต่น้อย

อารียาหันไปหารพีพงษ์แล้วพูดว่า “นายช่วย วิเคราะห์หน่อยสิ ว่าทำไมถึงมีผู้ชายแย่ๆ แบบนี้ รู้อยู่ แท้ๆ ว่าตระกูลของสุดามีข้อปฏิบัติ ยังจะจงใจไปโดน เท้าของเธออีก แถมยังไม่มีความรับผิดชอบอีก น่ารัง เกียจจริงๆ”

รพีพงษ์กระแอมออกมาเบาๆ แล้วพูดด้วยสีหน้า กระอักกระอ่วนว่า “น่าจะมีอะไรเข้าใจผิดกันล่ะมั้ง”

เขาคิดในใจว่าถ้าอารียารู้ว่าผู้ชายแย่ๆ ที่ฝน สุดาพูดถึงคือเขา เธอจะมีท่าทีอย่างไร

ฝนสุดาเห็นสีหน้ากลุ้มใจของรพีพงษ์ แววตา ของเธอดูมีเลศนัย

“เข้าใจผิดอะไรกัน นี่นายช่วยพูดแทนผู้ชาย แย่ๆ คนนั้นเหรอ” อารียาเบิกตาโตใส่รพีพงษ์ “ต๊ะ ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน ผมไม่ค่อยรู้เรื่องพวกนี้

คุณก็รู้นิ” รพีพงษ์รีบอธิบาย

อารียาถอนหายใจแล้วพูดกับฝนสุดาว่า “สุดา รพีพงษ์เขาซื่อบื้อกับเรื่องพวกนี้จริงๆ เธออย่าเศร้าไป เลยนะ ผู้ชายคนนั้นก็แค่ผู้ชายแย่ๆ เธอจะต้องเจอคน ที่ดีกว่าแน่นอน”

ฝนสุดาพยักหน้า แล้วยิ้มออกมา “โอเค ฉันจะ ไม่คิดถึงไอ้คนน่ารังเกียจคนนั้นอีก พวกเราทานข้าว กันเถอะ”

อารียาพยักหน้า รพีพงษ์เห็นว่าฝนสุดาไม่พูด เรื่องนี้ต่อ เขาก็รู้สึกโล่งอก

เมื่อทั้งสามทานข้าวเสร็จ ก็ลงมาจากตึก และเดินออกมาจากอ่าวจันทร์จนมาถึงข้างนอก

ตอนนี้ที่ลานกว้างมีคนเยอะแยะไปหมด คน ส่วนใหญ่กำลังรวมตัวกันที่กลางลาน ที่หน้าเวทีเขียน ไว้ว่าการแข่งขันงัดข้อ

พิธีกรที่อยู่บนเวที กำลังพูดคุยกับทุกคน ดู เหมือนว่าตอนนี้กำลังเป็นช่วงพัก อีกสักพักน่าจะมี การแข่งขันเกิดขึ้น

“สุดา เราไปดูแข่งงัดข้อกันเถอะ” อารียาเอ่ย ขึ้น

ฝนสุดาพยักหน้า โดยไม่ได้พูดค้านอะไรออก ไป รพีพงษ์เดินตามหลังหญิงสาวทั้งสองคนเข้าไปข้าง หน้า

เพราะว่าหน้าตาของอารียากับฝนสุดาค่อนข้าง จะโดดเด่น เมื่อทั้งสามคนปรากฏตัวขึ้นที่นี่ ทำให้เป็น ที่ดึงดูดสายตาของคนจำนวนมาก

คนที่เป็นผู้ชายเหมือนกันกับรพีพงษ์ ต่างก็มอง

รพีพงษ์ด้วยสายตาอิจฉา การที่เดินมาพร้อมสาวสวย

ทั้งสองคน มันช่างน่าอิจฉาเหลือเกิน

ทั้งสามคนยืนอยู่ไม่ห่างจากเวทีเท่าไรนัก จาก นั้นก็พากันมองไปบนเวที ตอนนี้บนเวทีมีชายแปดคน ที่มีร่างกายกำยำ กล้ามเนื้อเป็นมัดๆ ทั้งแปดคนเป็นผู้ ชนะจากการแข่งก่อนหน้านี้ อีกสักพักพวกเขาจะเริ่ม การแข่งรอบตัดสิน เพื่อหาผู้ชนะ

ตอนนี้พิธีกรกำลังบรรยายรางวัลที่ผู้ชนะจะได้ รับจากการแข่งขันครั้งนี้

“ทุกท่าน นอกจากรางวัลที่ผมได้พูดไปแล้ว ผู้ชนะในวันนี้ยังจะได้รางวัลแห่งความโชคดี รางวัลจะ เป็นอะไรนั้นผมขออุบไว้ก่อน เรามาเลือกผู้โชคดีจาก ผู้ชมในที่นี้กันก่อนดีกว่า”

เมื่อพิธีกรพูดจบ ไฟสปอตไลท์บนเวทีก็ขยับไป มา สุดท้ายมันก็ส่องลงมาที่ฝนสุดา

“ยินดีกับคุณผู้หญิงท่านนี้ด้วยนะครับ คุณได้

เป็นผู้โชคดีในค่ำคืนนี้

พิธีกรตะโกนออกมาอย่างตื่นเต้น ฝนสุดาจับ ต้นชนปลายไม่ถูก ไม่รู้ว่าตัวเองไปเป็นผู้โชคดีได้ อย่างไร

จากนั้นพิธีกรก็เชิญฝนสุดาขึ้นไปบนเวที แล้ว พูดกับฝนสุดาว่าแค่เธอเป่ายิ้งฉุบชนะพิธีกร เธอก็จะ ได้ของขวัญ แต่ถ้าเธอแพ้ เธอก็จะเป็นรางวัลแห่ง ความโชคดีของผู้ชนะการแข่งขันงัดข้อ

แน่นอนว่าผู้ชนะจะทำได้เพียงแค่ร่วมทานข้าว กับฝนสุดา

ก่อนหน้านี้ฝนสุดาไม่เคยเล่นเกมแบบนี้มาก่อน คุณหนูแห่งตระกูลก้องวณิชกุลจะเคยสัมผัสอะไร แบบนี้ได้อย่างไรกัน เธอรู้สึกว่ามันเป็นเรื่องแปลกใหม่ จึงตอบตกลงพิธีกร

ฝีมือการเป่ายิ้งฉุบของฝนสุดาไม่ได้ดีเลย เธอ จึงแพ้ให้กับพิธีกร เธอจึงต้องร่วมทานข้าวกับผู้ชนะ การแข่งขันงัดข้อตามข้อตกลง

การแข่งขันงัดข้อได้เริ่มต่อไป ฝนสุดาเดินลง จากเวที แล้วเดินมาหยุดอยู่ข้างอารียา เธอพูดกับอารี ยาเหมือนเด็กน้อยว่า “ฉันนี่โง่จริงๆ แพ้ซะแล้ว”
อารียายิ้มแล้วพูดกับฝนสุดาว่า “ไม่เป็นไร หรอก ก็แค่ทานข้าวกับผู้ชนะเอง ไม่แน่ผู้ชนะในวันนี้

อาจจะเป็นคนในอุดมคติของเธอก็ได้นะ” ขณะที่พวกเธอกำลังคุยกันอยู่ ก็มีเสียง

โหวกเหวกดังขึ้น ทุกคนพากันหันไปมองอีกด้านหนึ่ง ของลานกว้าง มีบอดี้การ์ดในชุดสูทกำลังคุ้มกันหนุ่ม หล่อคนหนึ่งเดินเข้ามาทางนี้

“ดูนั่นสิ บริวัตรคุณชายใหญ่แห่งตระกูลเชาวก รกุล!”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ