พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว

บทที่791 อานุภาพของกลวิธีลึกลับ



บทที่791 อานุภาพของกลวิธีลึกลับ

รพีพงษ์ไม่ได้ใช้กลวิธีลึกลับในช่วงแรก เขาต้องการเห็นพลัง วิเศษเสนชั้นสูงของตนเองก่อนว่า ในสภาพตามความเป็นจริง แล้วนั้นมีขีดความสามารถสูงสุดอยู่ที่ตรงไหน

หลังจากพวกของบดีศวรทั้งสี่คนกินยาเสร็จแล้วก็ได้เร่งรีบพุ่ง

ตรงเข้ามาหารพีพงษ์โดยไม่ยอมสิ้นเปลืองเวลา

ชายทั้งสี่คนอยู่ในท่าล้อมรพีพงษ์ไว้ตรงกลาง รพีพงษ์เดินพลัง วิเศษเสนทันที เขาใช้พลังที่ปกคลุมผิวหนังทั่วทั้งตัว ก่อตัว เป็นการป้องกันแบบง่ายๆ

ด้วยศัตรูต่อหนึ่ง สิ่งสำคัญที่สุดคือการต้านทานการโจมตี ของทุกคน รพีพงษ์ไม่ใช่ยอดมนุษย์ ดังนั้นจึงต้องพึ่งพาวิธีนี้ใน การลดความเสียหายที่ตนเองจะได้รับเท่านั้น

ความจริงพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า วิธีการป้องกันที่บันทึกไว้ใน หนังสือกลยุทธ์ยังคงมีประสิทธิภาพอย่างมาก อย่างน้อยที่สุด การโจมตีทั่วไปก็จะไม่สามารถสร้างความเสียหายต่อรพีพงษ์ มากเกินไปนัก กลุ่มชายหนุ่มที่น่ารำคาญได้ลงมือต่อรพีพงษ์ รพี พงษ์ใช้พลังของตนเองในระดับสูงสุดอย่างรวดเร็ว โดยปิดกั้น การโจมตีของทุกคนในชั่วพริบตา หลังจากนั้นก็ออกหมัดต่อยลง ไปบนตัวของบดีศวรอย่างรวดเร็ว

บดีศวรที่กินยาเม็ดนั้นมีปฏิกิริยาตอบสนองไม่ช้าไปกว่าร พงษ์ ตรงที่ที่เขาออกหมัด ใส่โดยตรง ในเวลานี้การโจมตีของชเยศได้มาถึงบนหลังของรพีพงษ์แล้ว แต่รพีพงษ์ไม่ได้สนใจเลย

“ไอ้หนู ข้อบกพร่องร้ายแรง โผล่ออกมาตั้งแต่เริ่มต้นเลยนะ ดู เหมือนว่านี่จะเป็นขีดจํากัดของแกแล้ว รับความตายไปซะเถอะ! ชเยศร้องตะโกนแล้วต่อยหมัดนั้นลงบนหลังของรพีพงษ์

ผลลัพธ์ที่ชเยศคิดเอาไว้ไม่ได้ปรากฏออกมาเลย เดิมทีเขาคิด ว่าหลังจากที่รพีพงษ์ได้รับหมัดของเขาแล้วอย่างน้อยที่สุดต้องได้ รับบาดเจ็บเล็กๆน้อยๆพอที่จะขัดแข้งขัดขาได้บ้าง แต่หลังจากที่ รพีพงษ์ได้รับหมัดของเขาไปแล้วก็ดูเหมือนกับว่าไม่มีอะไรเกิด ขึ้นเลย

“เป็นไปไม่ได้!” ชเยศร้องอุทานอย่างประหลาดใจ

ถึงแม้ว่าหมัดเมื่อกี้นี้ของเขาจะไม่ได้ใช้พลังทั้งหมด แต่ว่าหลัง จากกินยาแล้วหมัดที่เขาสุ่มต่อยออกไปล้วนแต่มีพลังมหาศาล เป็นไปไม่ได้ที่จะไม่มีผลกระทบต่อรพีพงษ์แม้แต่นิดเดียว

รพีพงษ์หันหน้าไปมองเขา ฉีกยิ้มแล้วพูดว่า : “จั๊กจี้ชะมัด คุณ

ยังไม่ได้กินข้าวหรือไง?

ชเยศหัวเสียอย่างมาก คิดไม่ถึงว่ารพีพงษ์จะกล้าทำให้เขา อับอายขนาดนี้ สิ่งนี้มันทำให้เขาโกรธมาก

“ฉันไม่เชื่อว่าแกจะฝืนทนอย่างนี้ได้ตลอด ยังไงก็จะต้องถึง ตอนที่แกยิ้มไม่ออก!”

ทั้งสี่คนโจมตีรพีพงษ์ทุกด้าน รพีพงษ์ที่อยู่ตรงกลางกำลังถูก รุมอย่างชัดเจน หน่พวกเขายังกินยาอีกครั้ง ด้วยพลังที่ไม่อาจหยุดยั้งไว้ได้ เป็นครั้งแรกที่รพีพงษ์ได้เข้าใจอย่างลึกซึ้งถึง รสชาติของสถานการณ์ที่ยากลำบาก

ผู้ชมทุกคนด้านล่างเวทีต่างพากันรู้สึกระทึกแทนรพีพงษ์ที่ กำลังถอยหลังไปเรื่อยๆและทัศนคติในใจไม่ใช่แง่ดีมากนัก

“สี่รุมหนึ่ง ตาแก่พวกนี้ช่างไร้ยางอายจริงๆ น่ากลัวว่าครั้งนี้ร พงษ์จะได้แขวนนวมแล้วจริงๆ

“เขาไม่ได้ทำตัวเองรึไง เห็นได้ชัดว่าเป็นเขาที่ยืนกรานจะเอา ทั้งสี่คนมารวมกัน ตอนนี้ไม่ได้แล้วก็ทำได้แค่โทษตัวเองนั่น แหละ”

“จุ๊ๆๆ รพีพงษ์เป็นคนที่มีพรสวรรค์ขนาดนี้ คาดไม่ถึงเลยว่า สมองจะบ้าๆบอๆไปแล้ว น่าเสียดายจริงๆ ถึงจะเก่งกาจแค่ไหน คนก็จะจดจําเขาได้แค่ตอนที่มีชีวิตอยู่เท่านั้น เมื่อตายไป คนก็จะ ลืมเขาไปอย่างรวดเร็ว”

เวกัส ดำเกิงและคนอื่นๆเห็นว่ารพีพงษ์รพีพงษ์จะไม่สามารถ ต้านทานได้อีกในไม่ช้าอย่างเห็นได้ชัด สีหน้าของทุกคนก็เต็มไป ด้วยความวิตกกังวล

“ไม่ได้การเป็นอย่างนี้ต่อไป รุ่นพี่จะต้องถูกซัดจนตายอย่าง แน่นอน พวกเราจะต้องขึ้นเวทีไปช่วยเขา ในเมื่อพวกเขาทำตัว หมาหมู่ได้ พวกเราก็ขึ้นเวทีไปช่วยเถอะ” ดำเกิงลุกขึ้นยืน โดยตรง
เวทีสรีบขวางเขาเอาไว้แล้วเอ่ยว่า “นายเป็นบ้าเหรอไง ผู้ที่อยู่ บนสังเวียนล้วนแต่เป็นระดับปรมาจารย์ นายขึ้นไปก็มีแต่ไปตาย เท่านั้น”

“แต่พวกเราก็ไม่สามารถมองดูรุ่นพี่ถูกตีจนตายแบบนี้ได้

หรอกนะ” ใบหน้าของดำเกิงเต็มไปด้วยความกังวล

“พวกเราแจ้งให้อาจารย์ทราบแล้ว ถ้าฉันคำนวณเวลาไม่ผิด เขาน่าจะรีบมาที่นี่ในวันนี้ ตอนนี้พวกเราทำได้เพียงแค่ฝากความ หวังไว้ที่อาจารย์เท่านั้น เรื่องอื่นๆ เราทำอะไรไม่ได้แล้ว” เวทีส เอ่ยปาก

ดำเกิงได้แต่กัดฟันเพราะสถานะของตัวเองแล้วทุบลงไปบน ต้นขาอย่างหนัก เขาเกลียดที่พละกำลังของเขาอ่อนแอเกินไป ไม่มีทางที่จะช่วยรพีพงษ์ที่อยู่บนเวทีได้

“เจ้าหนูนี่น่าจะถึงขีดสุดแล้ว ถัดจากนี้ไปเขาน่าจะถูก ปรมาจารย์ทั้งสี่ท่านนี้ร่วมมือกันฆ่าตาย เหอะๆ ไม่ว่าคุณจะมี ความสามารถชนิดไร้คู่ต่อกร แต่ท้ายที่สุดแล้วก็ไม่สามารถหลบ หนีจากความตายไปได้” ชายในเสื้อคลุมดำมองดูการต่อสู้บน เวทีประลอง ในใจรู้สึกเต็มไปด้วยความภาคภูมิ

หลังจากที่รพีพงษ์ถูกบดีศวรและชเยศทุบตีสองรอบตามลำดับ เขาก็ถอยหลังไปสองสามก้าวอย่างรวดเร็วแล้วเอื้อมมือมาเช็ด เลือดที่มุมปาก ในใจมีเสียงถูกรุมกลั่นแกล้ง

ในระหว่างการต่อสู้เมื่อกี้นี้ เขาได้รับบาดเจ็บแล้วเล็กน้อย แน่นอนว่าเขาการที่เขาใช้พลังวิเศษเสนชั้นสูงในสภาวะปกติเพื่อจัดการกับคนทั้งสี่เป็นเรื่องที่ฝันบังคับตนเองเกินไป

“รพีพงษ์ วันนี้นายไม่สามารถเอาชนะได้หรอก ยอมจํานวน แต่โดยดีเถอะ นี่เป็นทางเลือกเดียวของนาย” บดีศวรจ้องไปที่ร พงษ์แล้วพูดคำนี้ เขารู้สึกว่าเรื่องวันนี้ปลอดภัยเรียบร้อยแล้ว

มุมปากของรพีพงษ์ยกขึ้นจนเป็นองศาที่ดูยั่วเย้าแล้วเอ่ยปาก ว่า : “หรือพวกคุณคิดว่านี่คือขีดจำกัดของผมแล้วใช่ไหม? อย่า คิดว่ามีแต่พวกคุณเท่านั้นที่มีวิธีพัฒนาความแข็งแกร่ง!

พูดจบ รพีพงษ์ก็ใช้กลวิธีลึกลับเพิ่มพละกำลังที่หมุนเวียนอยู่ ภายในร่างกายโดยตรง เขารู้สึกว่าพลังวิเศษเสนทั่วทั้งตัวของ เขาทุกอย่างเริ่มเดือดพล่านขึ้นมา กล้ามเนื้อทั่วร่างกายของเขา เริ่มดูดซับสิ่งที่ระเบิดออกมาจากพลังวิเศษเสน ในเวลานั้นเอง ผิวหนังของรพีพงษ์ก็เปลี่ยนเป็นสีแดง ราวกับเขาผ่านการลวกใน น้ำเดือดมายังไงยังงั้น

พลังงานได้พุ่งตรงขึ้นไปปกคลุมทั่วทั้งโรงยิมในชั่วพริบตา โครงสร้างตัวอาคารภายในโรงยิมนั้นไม่มีลมพัดเข้ามาเลย แต่ อย่างไรก็ตามเสื้อผ้าของทุกคนในเวลานี้ล้วนพัดปลิวไปตาม กระแสลม นี่คือพลังงานบนตัวของรพีพงษ์ที่ควบแน่นจนกลาย เป็นพายุหมุน!

พลังของรพีพงษ์คนเดียวปกคลุมอยู่สูงกว่าพลังของพวกบดีศว รสี่คนรวมกันทั้งหมดโดยสิ้นเชิง บังคับให้พวกของบดีศวรลืมตา ไม่ขึ้น

รพีพงษ์รู้สึกเหมือนกับว่ามีเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์อยู่ในร่างกายของตนเอง มีพลังงานอันไร้ขอบเขตวิ่งวนร่างกายของเขา

รพีพงษ์ว่ากลวิธีลึกลับนี้สามารถเพิ่มระดับความแข็งแรงของ เขาอย่างยิ่งใหญ่ แต่เขาไม่ถึงเลยว่ากลลึกลับน่าขนาดนี้ รู้สึกว่าร่างกายของเขาใกล้จะระเบิดด้วยพลังเพิ่ม ขึ้น

พวกของบดีศวรทั้งต่างมองไปรพีพงษ์อย่างตะลึง การเปลี่ยนแปลงบนของรพีพงษ์ช่างกลัวเกินแล้ว

ยังไงตามเขาคิดไม่ถึงเลยจะการเปลี่ยนแปลงเช่น

เกิดขึ้นกับรพีพงษ์ในเวลาได้

“เป็น…เป็นไปได้ยังไงเจ้าหนูยังเป็นคนอยู่หรือเปล่า” นิร ภาพจ้องมองไปที่รพีพงษ์กับตัวเอง

หรือจะทะลุนั้นแล้ว การ เปลี่ยนแปลงของร่างกายเพียงแค่คนดินแดนสามารถทําได้ไหม?บดีศวรเองก็มองตรงไปยังรพีพงษ์ด้วย เช่นกัน

ชายดำในมองเห็นการเปลี่ยนแปลงรพีพงษ์ เขาลุกขึ้นยืนโดยตรง

“ตายเถอะเป็นไปได้ยังไงหรือเจ้าหนูแตะที่ธรณีประตู นั้นแล้วตะลึงเมื่อมองเห็นการเปลี่ยนแปลงตัวรพีพงษ์
ต๋าเก็งมองไปที่รพีพงษ์เป็นเวลานานแล้วพึมพำกับตัวเอง : “ลูก…ลูกพี่จะระเบิดตัวเองงั้นเหรอ?”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ