พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว

บทที่888 สิ่งแวดล้อมดี



บทที่888 สิ่งแวดล้อมดี

รพีพงษ์นั่งอยู่บนหินอยู่นาน จนรอรัชธรรมไม่ได้ จึงทำได้แค่จาก ไป

ขณะที่เขากำลังจะจากไปนั้น มีความรู้สึกเบาๆผ่านตัวเขาไป รพีพงษ์ที่เซ็นซิทีฟกับบรรยากาศรอบข้างก็มองไปรอบๆ แต่กลับ

ไม่พบอะไร

เขาสงสัย เขามั่นใจว่าเมื่อเขาไม่ได้เข้าใจผิดไปเอง แต่ที่นี่มี เพียงเขาแค่คนเดียว แม้แต่ผมก็ไม่มี นี่ทำให้เขารู้สึกแปลกใจ อย่างมาก ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น

ความรู้สึกนั้นเหมือนมีอะไรบางอย่างผ่านตัวเขาไป รพีพงษ์รับ รู้ได้ถึงความเปลี่ยนไป

“หรือ ในกลุ่มสิงโตมีพลังงานบางอย่างที่เล่าขานกันมาช้านาน

จริงๆ?” รพีพงษ์พูดกับตัวเอง

จากการที่ดูเว็บไซต์ของกลุ่มสิงโต รพีพงษ์ได้เข้าใจในโลกนี้มี สิ่งที่เรียกว่าพลังควบคุมคนได้ ดังนั้นจึงเกิดความสงสัยนี้ขึ้นมา

แต่เขาไม่ได้ใส่ใจมากนัก โดยตัวของเทือกเขาคุนหลุนเองก็

เต็มไปด้วยความลี้ลับอยู่แล้ว เกิดเรื่องที่อธิบายไม่ได้สักครั้งสอง ครั้งก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร

ไม่ได้คิดอะไรต่อ รพีพงษ์ก็เดินลงจากเขาไป ที่เขามาหารัช ธรรมก็เพียงแค่จะกล่าวลาเท่านั้น ไม่เจอก็ไม่เป็นไร ยังไงตอนนี้เขาก็ถือว่าเข้าร่วมกลุ่มสิงโตแล้ว วันข้างหน้าถ้าอยากเจอกับธีร ธรรม ก็ยังมีโอกาสอีกเยอะ

หลังจากที่รพีพงษ์ลงจากเขาไปแล้วไม่นาน ในถ้ำ บริพันธ์ที่ได้ ใช้ไม้เทพแดงฟื้นฟูพลังของตัวเองก็ยิ้มอย่างมีเลศนัย

“คิดไม่ถึงว่าเด็กคนนี้จะมีจิตวิญญาณเทพโดยกำเนิด นี่หาได้ ยากนะ ฉันก็แค่ใช้จิตสัมผัสเขาเท่านั้น ก็ถูกเขาจับได้แล้ว วิญญาณของเขายังคงหลับใหลอยู่ ถ้าวิญญาณตื่นขึ้นเมื่อไหร่ เด็กคนนี้จะเป็นคนที่มีพรสวรรค์ที่สุดในโลก” บริพันธ์พิมพ์

ธัชธรรมได้ยินบริพันธ์พูดกับตัวเอง จึงมองเขา แล้วถาม “อาจารย์ เมื่อกี้พูดว่าอะไรนะ?”

บริพันธ์ยิ้ม ไม่ตอบอะไรธัชธรรม แต่ในกำแพงหิน ปรากฏ ลักษณะคล้ายคน นั่นคือรพีพงษ์

“คนนี้เป็นคนที่แกหามาเพื่อเป็นผู้สืบทอดใช่มั้ย?” บริพันธ์

ถาม

ธัชธรรมพยักหน้า ถามอย่างสงสัยว่า “อาจารย์รู้ได้ยังไงว่า เป็นเขา?”

“เมื่อกี้เขามาหาแกแล้ว แต่ไม่เจอแก จึงได้ลงเขาไป” บริพันธ์ ตอบ

ธัชธรรมพยักหน้า กล่าว “แสดงว่าเขาคุ้นเคยกับกลุ่มสิงโต แล้ว ที่มาหาผมน่าจะเป็นเพราะมาบอกลา พรสวรรค์ของศิษย์คน นี้ดีเลิศ และมีความสามารถ ไม่จำเป็นต้องให้ผมแนะนำอะไร สิ่งที่ผมให้เขาได้ ก็มีเพียงการสนับสนุน แต่เขาเพียงเข้ากลุ่ม ผมไม่ สามารถทําอะไรออกหน้าออกตาได้ รอให้เขาทำภารกิจสำเร็จ ก่อน แล้วผมค่อยให้ของพัฒนาความสามารถเขา

“แม้พรสวรรค์ของเด็กคนนี้ใครก็เทียบไม่ได้ แต่แดนเทพ ยากอยู่ดี ไม่รู้ว่าก่อนที่อาจารย์จะสลาย เด็กคนนี้จะเป็นแดนเทพ ได้หรือไม่

พูดจบ ธัชธรรมก็ถอนหายใจ

บริพันธ์ยิ้ม แล้วกล่าว ไว้ใจได้ เด็กคนนี้เก่งกว่าที่แกคิดไว้ เขามีสิ่งแวดล้อมที่ดี ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด อยากเป็นแดนเทพ ไม่ยากเลย”

ธัชธรรมชะงัก คิดไม่ถึงว่าอาจารย์ของตัวเองจะชมรพีพงษ์ได้ ขนาดนี้ พรสวรรค์ของเขาในตอนนั้นก็ไม่ต่างอะไรกับรพีพงษ์ มาก ก็ยี่สิบกว่าปีเป็นแดนดั่งเทพเช่นกัน แต่เมื่อผ่านไปร้อยปี ก็ ยังคงหยุดไว้ที่แดนเทพ

ไม่รู้ว่าทำไมอาจารย์ถึงได้มีความหวังกับรพีพงษ์มากขนาดนี้

บริพันธ์ยิ้มแต่ไม่ตอบ การเป็นแดนเทพถือเป็นข้อเรียกร้อง หลัก ในการถอดวิญญาณ แต่รพีพงษ์มีจิตวิญญาณเทพ โดย กำเนิด เพียงแค่เจอกับอุปสรรค วิญญาณจะตื่น แค่นี้ก็ได้แล้ว

ดังนั้นเขาจึงได้บอกว่ารพีพงษ์มีสิ่งแวดล้อมที่ดี

แต่เขาก็ไม่กล้าพูดเกินไป เพราะการถอดวิญญาณถือเป็นข้อ เรียกร้องหลักที่จะเป็นแดนดั่งเทพ นอกจากข้อนี้ ยังต้องเจอกับอุปสรรคอีกมาก มีจิตวิญญาณเทพโดยกำเนิด ไม่ได้หมายถึงร พงษ์จะเป็นแดนเทพได้แน่นอน

แต่ก็ยังมีโอกาส สำหรับบริพันธ์ นี่ก็พอแล้ว ที่เขายืนหยัดมาหลายปี จะได้ไม่เสียเปล่า

หลังจากที่กลับเข้าห้องแล้ว รพีพงษ์หยิบของของตัวเองขึ้นมา จากนั้นก็ออกไปที่จุดลงทะเบียนของกลุ่มสิงโต เขาต้องลง ทะเบียนก่อน จึงจะออกจากที่นี่ได้

ระหว่างทางเขานึกถึงความรู้สึกตอนที่อยู่บนเขาเมื่อกี้ ในเว็บ ของกลุ่มสิงโต รพีพงษ์รู้ว่ามีคนใช้พลังจิต ท่าเรื่องที่คนทั่วไปคิด ไม่ถึงได้ เช่น ขยับของผ่านจิต ควบคุมจิตใจเป็นต้น

คนปกติมักเรียกสิ่งนี้ว่าความสามารถเฉพาะตัว เมื่อก่อนรพี พงษ์คิดว่าเรื่องแบบนี้มีแค่ในละครเท่านั้น หลังจากที่เห็นข้อมูล พวกนี้บนเว็บไซต์ของกลุ่มสิงโต จึงได้รู้ว่ามีคนแบบนี้อยู่บนโลก นี้ด้วย

เขาคิดมาตลอดว่าจิตของเขาต่างจากคนปกติ แม้จะไม่ สามารถขยับของผ่านจิตได้ แต่สมองเขาแล่นอย่างรวดเร็ว และ เซ็นซิทีฟ แล้วยังความจำดี ดังนั้นเขาจึงสามารถทำอะไรที่คน ทั่วไปทำไม่ได้ตั้งแต่ยังวัยรุ่น

“บางทีตัวเองก็มีความสามารถเฉพาะตัว แต่ความสามารถ เฉพาะตัวนี้มันค่อนข้างธรรมดา เพียงแค่ทำให้การเรียนรู้ของเขาดีขึ้น” เมื่อนึกถึงเรื่องนี้ รพีพงษ์ก็อดยิ้มไม่ได้

ผ่านไปไม่นาน รพีพงษ์เดินมาถึงจุดลงทะเบียน เคาะประตู เบาๆ แล้วเดินเข้าไปด้านใน

ตอนที่เข้าไปในห้อง รพีพงษ์ได้สบตากับคนที่อยู่ด้านใน รู้สึก อุณหภูมิห้องเริ่มลดลง

คนนั้นที่รับผิดชอบเรื่องลงทะเบียน ก็คือหงส์ที่เกือบถูกรุ่นพี่ทั้ง

สามบังคับให้นัดดูตัวกับรพีพงษ์ หลังจากที่หงส์เห็นรพีพงษ์แล้วนั้น ก็อึดอัด ดังนั้นตอนนี้คนที่

เธอไม่อยากเจอมากที่สุด ก็คือรพีพงษ์

“แก…….แกมาทำอะไร?” หงส์ถาม

“อ๋อ ผมจะไปจากที่นี่ ดังนั้นจึงมาลงทะเบียน” รพีพงษ์ตอบ หงส์ถอนหายใจ ตอนแรกคิดว่าตั้งใจมาหาเธอ “แกจะไปไหน?” หงส์ถาม

“เกียวโต”

“โอเคฉันรู้แล้ว ฉันจะลงทะเบียนให้แกไปเถอะ” หงส์รีบกล่าว ตอนนี้ถ้าเธอไม่คุยกับรพีพงษ์ได้ ก็จะไม่คุย มิเช่นนั้นรุ่นพี่ทั้งสาม ของเธออาจจะพูดคุยกันเรื่องของเธอได้

รพีพงษ์เห็นหงส์มีความสุข ก็ประหลาดใจ แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร หันหลังแล้วจากไป

เห็นรพีพงษ์จากไป หงส์ก็โล่งอก
“สุดท้ายมันก็ไปเสียที ต่อไปไม่ต้องอึดอัดอีกแล้ว รุ่นพี่ทั้งสาม คิดว่าฉันวัวแก่กินหญ้าอ่อน น่าเบื่อจริงๆ” หงส์พึมพำกับตัวเอง

เพิ่งพูดจบ เธอก็ได้รับข้อความหนึ่งฉบับ เป็นคำสั่งจากกลุ่ม

สิงโต

“ข้างๆเมืองเกียวโตปรากฏเรื่องการก่ออาชญากรรมทางจิต กรุณารีบไปเกียวโต โดยด่วน จัดการกับเรื่องนี้

เห็นเกียวโต” สองคำนี้ ก็ครุ่นคิดอยู่นาน


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ