พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว

บทที่771 ชาติชายห้ามพูดว่าไม่ไหว



บทที่771 ชาติชายห้ามพูดว่าไม่ไหว

“สามี คุณรีบมาสิ ทำไมยืนถอนหายใจอยู่ที่หน้าต่าง คุณไม่รัก ฉันแล้วหรือไง?”

ณ โรงแรมหรูในเมืองเย็นหยาง อารียากำลังนอนอยู่บนเตียง สวมชุดนอนผ้าไหมบางๆ เว้าๆนูนๆบนร่างกาย

ขณะนี้อารียาแลดูกระปรี้กระเปร่า หน้ามีเลือดฝาด มองไปที่ รพีพงษ์อย่างมีเลศนัย

รพีพงษ์หันกลับไปอย่างเบื่อหน่าย มองไปที่อารียาที่อยู่บน เตียง อ้อนวอนว่า “เมียจำ วันนี้สามครั้งแล้วนะ ปล่อยผมไปเถอะ ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป แม้แต่พระเจ้าก็เอาไม่อยู่นะ

อารียาเขินอาย กล่าว “ไอ้หยา เค้าก็ไม่รู้ว่าทำไม ก็แค่อยาก

ใกล้ชิดกับคุณ กว่าจะมีความอยากขนาดนี้ยากนะ ทำหลายครั้ง

แล้วไง”

รพีพงษ์ตัวสั่น รู้สึกว่าอารียาคนก่อนกับตอนนี้ต่างกันโดยสิ้น เชิง ก่อนหน้านี้เธอรักนวลสงวนตัว ไม่เคยปล่อยตัวปล่อยใจ ขนาดนี้ ที่เธอเปลี่ยนเป็นแบบนี้ ก็เพราะไม้สีดำของอาจารย์โอบ

สังเกตอยู่หลายวัน ไม้ดำนี้มีผลต่อจิตใจคนจริงๆ เก็บไว้ข้าง กายนานๆ ช่วยในการนอนหลับ แล้วยังทำให้ความรู้สึกที่ หม่นหมองเปลี่ยนเป็นผ่อนคลายอีกด้วย
ดังนั้นช่วงหลายวันมานีรพีพงษ์ได้เอาไม้ วางไว้ใต้หมอน การนอนหลับพักผ่อนของเขาและอารียานั้นดีขึ้นมาก

อารียาถึงขั้นรู้สึกว่าเพราะไม้อันนี้จึงทำให้ผิวพรรณของเธอดี

ขึ้น

แต่เมื่อคืน ตอนเธอนอนเธอได้ฝัน ฝันเห็นตัวเองกินน่องไก่ และเป็นน่องไก่ที่เมื่อเห็นแล้วต้องน้ำลายไหล ตามที่อารียาพูด นั้น เธอได้น้ำลายไหลตอนกลางคืนจริงๆ

ตอนตื่นเช้าขึ้นมา รพีพงษ์พบว่าบนไม้นั้น มีชิ้นเล็กที่หายไป ด้านบนยังมีรอบฟันกัด ไม่ต้องคิดก็รู้ว่าเป็นตอนที่อารียาฝันใน ตอนกลางคืนเอาไม้นี้มากัดเป็นน่องไก่แทน

รพีพงษ์คิดว่าไม้นี้แม้ดูลึกลับ แต่ไม่ว่าจะยังไงก็เป็นแค่ไม้ กิน ชิ้นเล็กไปก็ไม่เห็นจะมีอะไรเกิดขึ้น

แต่ผ่านไปไม่นาน อารียาก็ไม่ปกติ เริ่มพูดกับตนว่าชื่นชอบใน

เรื่องเพศ” ไม่ออกไปเที่ยวแล้ว เล่นในโรงแรมก็พอแล้ว

ตอนเริ่มแรกรพีพงษ์รู้สึกว่าปกติ จึงได้เปิดศึกใหญ่กับอารียา แต่หลังจากสามครั้งแล้ว รพีพงษ์เริ่มรู้สึกไม่ปกติ พลังของเธอใน วันนี้ มันบ้าคลั่งชัดๆ

รพีพงษ์คิดไปเองว่าร่างกายเขาดีมาก แล้วเขายังฝึกฝนพลัง วิเศษเสน ไม่ว่าจะยังไง เรื่องประเภทนี้ เขาก็ไม่มีทางแพ้ให้กับ อารียาสาวผู้บอบบางนี้ได้หรอก

แต่ทว่าตอนนี้เขาเริ่มจะทนไม่ไหวแล้ว สามครั้ง เริ่มรู้สึกกล้ามเนื้อเมื่อยล้า ถ้าเป็นเมื่อก่อน อารียาอ้อนวอนไปนานแล้ว แต่วันนี้ กลับมีความรู้สึกแบบนี้ นี่มันไม่ธรรมดา

เหตุผลเดียวที่รพีพงษ์สามารถคิดได้ นั่นคือไม้ที่ไม่มีที่มาที่ แน่ชัดอันนั้น เพราะหลังจากที่อารียาได้กินไม้นั้นไปแล้วก็เปลี่ยน เป็นแบบนี้

“สามี รีบมาส วันนี้ไม่ออกไปไหนแล้ว คุณกลัวอะไร คงไม่ใช่

ไม่ไหวแล้วนะ” อารียาพูดต่อรพีพงษ์อีกครั้ง

รพีพงษ์ด่าในใจ ตนเองเพียงยี่สิบกว่าปี จะขี้ขลาดแบบนี้ไม่ได้ ก็แค่หลายๆครั้ง ไม่เห็นจะแปลก อยู่ต่อหน้าภรรยา จะพูดว่าตัว เองไม่ไหวได้ไงกัน

“กูไม่เชื่อ วันนี้จะต้องทำให้ถึงขึ้นสวรรค์ให้ได้ กล้าพูดว่ากูไม่ ไหว กูจะให้มึงเห็นความแข็งแกร่งของกู!”

พูดจบ รพีพงษ์ก็เดินไปที่เตียง

ในขณะเดียวกันเขาก็ตัดสินใจ แม้ไม้นั้นจะมีผลอย่างมากต่อ สุขภาพจิต ต่อไปห้ามวางไว้ที่ใต้หมอนเด็ดขาด เกิดวันดีคืนดี อารียากินเข้าไปทั้งหมด เกรงว่าเขาไม่ต้องมีชีวิตอยู่ต่อไปล่ะ

ในขณะที่รพีพงษ์กำลังเหน็ดเหนื่อยอยู่นั้น ใจกลางเมืองเย็น หยาง ณ คฤหาสน์หรูหลังหนึ่ง

ชายที่สวมชุดสูทยืนอยู่ข้างหน้าต่าง ในมือถือเอกสาร บน โซฟาหลังเขา มีคนนั่งสิบกว่าคน ใบหน้าของทุกคนเคร่งเครียด บรรยากาศโดยรอบของคฤหาสน์เต็มไปด้วยความเคร่งเครียดไม่มีใครกล้าเอ่ยปาก

ทุกคนของเมืองเย็นหยางล้วนรู้ดี ว่าคฤหาสน์หลังนี้ เป็นของ ตระกูลจนกวี ก่อนหน้านี้ในคฤหาสน์ตระกูลจนกวีเต็มไปด้วย ความครึกครื้น มักจะมีคนมากหน้าหลายตาเดินทางมามอบของ แล้วก็มาขอความช่วยเหลือ แต่ช่วงนี้ ตระกูลจนกวีเริ่มเงียบลง

ตระกูลจนกวี เป็นตระกูลอันดับหนึ่งของเมืองเย็นหยาง ควบคุมเศรษฐกิจทั้งหมดของเมืองเย็นหยาง แม้เมืองเย็นหยาง ไม่ได้เป็นเมืองเศรษฐกิจเหมือนเกียวโต แต่ตามความเจริญ ก้าวหน้าของประเทศ เมืองเย็นหยางถือว่าเป็นเมืองระดับสามที่ เจริญก้าวหน้าค่อนข้างมาก เขายุผิง ตระกูลจนกวีเป็นผู้พัฒนา

ช่วงนี้เรื่องของอาจารย์โอบนิธิดังกระฉ่อนไปทั่ว เขายุยิงก็ถูก ปิดตัวลง ผู้ที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด คือตระกูลจนกวี

แม้ตระกูลจนกวีจะมีธุรกิจมากมายในเมืองเย็นหยาง แต่เขต การท่องเที่ยวเขายุผิง เป็นที่มาของกำไรครึ่งของตระกูลจนกวี

ตอนนี้เขายุผิงถูกปิด แม้ตระกูลจนกวีจะตัดขาดความสัมพันธ์ กับอาจารย์โอบนิธิตั้งแต่นาทีแรก แต่เรื่องนี้กระทบตระกูลจนกวี อย่างมาก ดังนั้นระดับสูงและทั่วไปของตระกูลจนกวีต้องตกอยู่ ในสภาพเดียวกันหมด

ขณะนี้คนที่ยืนอยู่ด้านหน้าของหน้าต่าง คือผู้ดูแลตระกูลจนกวี คนปัจจุบัน ในมือเขาได้ถือเอกสารขาดทุนของตระกูลจนกวีใน ช่วงเวลานี้ เห็นตัวเลขด้านบน ก็เกิดอยากฆ่าคนขึ้นมา
สักพัก ค่ารนโยนเอกสารในมือทิ้ง จากนั้นก็ตะโกนอย่างทน

ไม่ไหวว่า “เย็ดแม่ง ธุรกิจที่กลำบากยากเข็นสร้างมันมาหลายปี

ถูกทำลายแบบเนี่ย ไอ้อาจารย์โอบนิธิเฮงซวย อยากเอาผู้หญิงก็

บอกได้นี่หว่า ทําไมต้องทำเรื่องอะไรที่งามหน้าแบบนี้ด้วยวะ ไง

ล่ะ มันตายไปล่ะ แล้วยังสร้างความลำบากให้พวกเราอีก กูล่ะ

อยากจะขุดมันขึ้นมาจากใต้ดินละฟาดมันด้วยแซ่ให้หนักๆ!

ครนที่อยู่ในคฤหาสน์เกรี้ยวกราด ไม่มีใครกล้าพูดอะไร ขณะ นี้มีคนๆหนึ่งเดินเข้ามาใน เห็นครนกำลังเกรี้ยวกราด ก็รีบ กล่าวว่า “ลูกพี่ คุณอย่าเพิ่งโมโห คนที่ชนะอาจารย์โอบนิธิ แล้ว ทำให้อาจารย์นิธิฉาวโฉ่ขึ้นมา พวกเราหามันเจอแล้ว อยู่ที่เมือง เย็นหยาง”

พูดจบ คนนั้นรีบเดินไปด้านหน้าของครน หยิบมือถือตัวเอง ขึ้นมา หารูป แล้วให้เขาดู

ในรูป เป็นรูปของรพีพงษ์และอารยาทั้งสองกำลังเดินเที่ยวอยู่

ที่เมืองเย็นหยาง

“แม้ไม่รู้ว่าทำไมวิดีโอเหล่านั้นที่ถูกอัพโหลดลงบน อินเตอร์เน็ตไม่มีเหลือแล้ว แต่คนของเราได้เซฟเอาไว้ จากการ เปรียบเทียบ พวกเรามั่นใจได้ว่าคนที่ชนะอาจารย์โอบนิธิ คือ ผู้ชายที่อยู่ในรูปนี้ แล้วเรายังหาคนที่เห็นอาจารย์โอบนิธิแพ้กับ ตาตัวเองเจอแล้วด้วย พวกเขาบอกว่ารู้จักคนนั้น

พูดไป คนนั้นก็เลื่อนมือถือไปเรื่อย ปรากฏรูปอีกรูปหนึ่ง เป็น รูปของผลอุทัยและอรรจยาสองคน
“เราได้ทําการล็อคตัวสองคนนี้ไว้แล้ว ช่วงนี้จะไม่มีทางออกไป จากเมืองเย็นหยาง ลูกพี่ เราจะลงมือกับคนร้ายเลยไหม? เขา เป็นคนที่แม้แต่อาจารย์โอบนิธิกู้เอาชนะมาได้” คนนั้นกล่าว อย่างเป็นกังวล

คำรนดูแคลน แล้วกล่าว “ฝีมือดีแล้วไง ถ้าไม่ใช่เพราะมัน ตระกูลจนกวีของกูจะเสียหายขนาดนี้ได้ไงกัน แค้นนี้ ต้องชำระ

“เอาชนะมันไม่ได้ แต่เราก็สามารถใช้เงินฟาดหัวมันได้หนิ ก ไม่เชื่อว่าถ้าจะให้เงิน แล้วจะไม่ชนะเด็กยี่สิบกว่าปีอย่างมัน


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ