พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว

บทที่ 675 เธอคือศศินัดดา



บทที่ 675 เธอคือศศินัดดา

เมื่อได้ยินคำพูดของศศินัตตา ชลาธิปก็นิ่งไป

ตอนแรกเขาคิดว่าถ้าหญิงคนนี้เป็นแม่ยายของรพีพงษ์จริงๆ ล่ะก็ ในฐานะที่เป็นพ่อแท้ๆของอารียา เขาก็ไม่สามารถทนค นัดดาถูกรังแกแบบนี้ต่อไปได้ ไม่ว่าจะยังไงก็ต้องเอาแค้นแทน เธอ

แต่ตอนนี้หญิงที่อยู่ตรงหน้าเขากลับบอกว่าตัวเองปลอมตัว ดังนั้นชลาธิปจึงไม่จำเป็นต้องช่วยเธอ

แล้วยังมีคนกล้าปลอมตัวเป็นแม่เลี้ยงของอารียาอีก ในฐานะ ที่เป็นพ่อของอารียา ชลาธิปจะต้องลงโทษคนแบบนี้

เพราะเขาติดหนีอารียาอยู่มาก ดังนั้นเขาจึงรู้สึกซาบซึ้งต่อแม่

เลี้ยงของอารียามาก ดังนั้นเมื่อเห็นคนปลอมเป็นแม่เลี้ยงของ

อารียา เขาต้องสั่งสอนคนที่ไม่รู้จักผิดชอบชั่วดีให้หนักๆ

“คุณปลอมเป็นเธอจริง?” ชลาธิปจ้องศศินัดดาแล้วถาม

ศศินัดดาถูกพวกชลาธิปตีจนกลัวแล้ว แล้วจะกล้าพูดว่าตัวเอง เป็นแม่ยายของรพีพงษ์ได้ไง ไม่งั้นถ้าโดนอีกครั้ง กระดูกของเธอ ต้องสลายจริงๆ

เธอรีบพยักหน้า แล้วกล่าว “จริง ฉันปลอมตัว ฉันไม่มีปัญญา ที่จะเป็นแม่ยายของรพีพงษ์ได้ ความแค้นระหว่างคุณกับเขา ไม่ เกี่ยวข้องอะไรกับฉันจริงๆนะ ได้โปรดปล่อยฉันไปเถอะ
ชลาธิปดูแคลน แล้วกล่าว “ปล่อยคุณไป? คุณกล้าอ้างเป็น แม่ยายของรพีพงษ์ ตัวตนแบบนี้ คุณอ้างได้อย่างง่ายดายหรือ ไง? มาน ตบหน้าเธอสิบฉาด ดูสิว่าต่อไปเธอยังกล้าทำแบบนี้อีก ไหม!”

ศศินัดดางงงวย นี่ทำไมไม่เหมือนที่เธอคิดไว้? ทำไมเมื่อพูดว่า เธออ้าง แล้วคนเหล่านี้ยังจะตีเธอล่ะ?

แต่ทว่าเธอยังไม่ทันได้อธิบาย คนหนึ่งเดินมาถึงหน้าเธอ ตบ เธอลงไปที่หน้าอย่างไม่ลังเล

เสียงตบหน้าตบแล้วตบอีกดังไปทั่วร้านอาหาร เจ้าของร้าน และพนักงานล้วนดูอยู่ไกลๆ ไม่กล้ายั่วโมโหคนที่ดูๆแล้วไม่ ธรรมดา

“หยุด……” ศศินัดดาอยากอธิบายว่าตนเองคือแม่ยายของร พงษ์จนใจจะขาด แต่คนนั้นไม่ให้โอกาสเธอเลยแม้แต่น้อย ตบ แล้วตบเล่า ไม่นาน หน้าของศศินัดดาก็บวมขึ้นมาเหมือนกับ ขนมปัง

สุดท้าย การตบสิบฉาดก็จบลง ชลาธิปมองศศินัดดาอย่าง เยือกเย็น แล้วถาม “ต่อไปยังกล้าอ้างตัวเป็นแม่ยายของรพีพงษ์ อีกไหม?”

ศศินัดดาร้องคร่ำครวญ นับรู้ได้ถึงความเจ็บปวดที่ใบหน้า แล้วกล่าว “ความจริงแล้วฉันคือแม่ยายของรพีพงษ์จริงๆ เมื่อกี้ เป็นเพราะ……

เธอยังไม่ทันพูดจบ ชลาธิปก็ตบโต๊ะ แล้วกล่าว “ยังไม่เปลี่ยนอีก ตบมันอีกสิบฉาด!

“ครับ!” คนนั้นรีบยกมือขึ้นมา ตบไปที่หน้าของศศินัดดา

ขณะนี้ศศินัดดามีความคิดอยากจะตายให้ได้ ถ้าสามารถย้อน กลับไปได้ แม้เธอจะหิวตาย แต่ก็ไม่มีทางมากินข้าวที่ร้านอาหาร

สิบฉาดตบลงมาอีกครั้ง ศศินัดดาเริ่มพร่ามัว ร่างกายของเธอ เริ่มเอนไปมา แล้วล้มลงกับพื้นโดยตรง

ชลาธิปจ้องไปที่ศศินัดดาที่ล้มลงกับพื้น แล้วกล่าว “เอาเธอกับ คนที่อยู่ในห้องรับรองนั้นทั้งหมดไปตระกูลลัดดาวัลย์ ให้รพีพงษ์ จัดการ โดยเฉพาะคนที่อ้างเป็นแม่ยายของรพีพงษ์ต้องดูดีๆ รอ ให้ถึงตระกูลลัดดาวัลย์ ฉันต้องพูดเรื่องที่เกิดขึ้นให้นายใหญ่ฟัง คาดไม่ถึงว่าจะมีคนกล้าอ้างเป็นเธอ เรื่องนี้ยอมไม่ได้

ณ คฤหาสน์ใหญ่ตระกูลลัดดาวัลย์

รพีพงษ์กำลังดูแลอารียาและขวัญนลินอยู่ในห้อง ตอนนี้ท่าน คทาเดินเข้ามาในห้อง แล้วกล่าว “รพีพงษ์ คนของตระกูลพงศ์ ธนธดามาถึงแล้ว แล้วยังพาเศษเดนที่เหลือของตระกูลนวัต ปกรณ์และตระกูลวรโชติธีรธรรม ตอนนี้พวกเขาอยู่ที่ห้องรับแขก คุณไปดูหน่อยล่ะกัน”

“หรอ?” รพีพงษ์ค่อนข้างแปลกใจ ไม่คาดคิดว่าชลาธิปจะเอา พวกเศษเดนของตระกูลนฤวัตปกรณ์และตระกูลวรโชติธีรธรรมมาด้วย ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น

เขาให้อารียาพักผ่อน จากนั้นก็เดินไปห้องรับแขกกับท่านคทา

ถึงห้องรับแขก รพีพงษ์ทักทายกับชลาธิป จากนั้นก็เห็นพวก ชลาคมคุกเข่าอยู่กับพื้น เลยถามอย่างสงสัยว่า “เกิดอะไรขึ้นกับ พวกเขา?”

ชลาธิปอธิบายเรื่องที่ตัวเองเจอที่ร้านอาหาร ตอนนั้นฟังชลาธิ ปอธิบาย ถึงได้รู้ว่าเหลือเดนพวกนี้ของตระกูลนวัตปกรณ์กับ ตระกูลวรโชติธีรธรรม จึงได้ช่วยจัดการปัญหาให้รพีพงษ์

รพีพงษ์สอดส่องสายตาไปที่พวกชลาคม สุดท้ายก็เห็นศ นัดดาที่หน้าบวม ก็รู้สึกสงสัย รู้สึกว่าคนนี้ คุ้นหน้าคุ้นตาจัง

เดินไปด้านหน้าของศศินัดดา แล้วถาม “คนนี้เป็นอะไร? ทำไม ถึงโดนตีขนาดนี้?”

ชลาธิปยิ้ม แล้วกล่าว “คนนี้เป็นคนที่อ้างว่าเป็นแม่ยายของ แกเพื่อหลอกกิน ฉันให้คนสั่งสอนเธอไป เออใช่ แม่ยายของแก ล่ะ รีบเรียกมา ฉันจะขอบคุณที่หลายปีมานี้เธอได้เลี้ยงอารียา มา”

รพีพงษ์จ้องไปที่ศศินัดดาที่อยู่ด้านหน้า จากนั้นก็ตาโตขึ้น ออกในทันใดว่าคนนี้ก็คือศศินัดดา เสื้อผ้าที่เธอใส่ในครั้งที่แล้ว ที่มานั้นเหมือนกัน

“รพีพงษ์ อย่าจ้องสิบแปดมงกุฎนี้นะ รีบไปเรียกแม่ยายของแกมาสิ” ชลาธิปเร่ง
รพีพงษ์หันหน้าไปหาชลาธิป ชี้ไปที่ศศินัดดาอย่างพูดไม่ออก แล้วกล่าว “ก็เธอนั่นแหละ”

“หา?” ชลาธิปงงเป็นไก่ตาแตก “รพีพงษ์ อย่ามาตลกหน่อย เลย มันพูดออกมาเองว่ามันนะอ้างว่าเป็นแม่ยายแก แล้วมันจะ เป็นแม่ยายแกได้ไงกัน

“ผมไม่ตลก เป็นเธอจริงๆ เพียงแค่เธอโดนตีจนดูสภาพเมื่อ ก่อนไม่ออกแล้ว แต่ดูจากเสื้อผ้า เป็นเธอแน่ๆไม่ผิด” รพีพงษ์ ตอบ

ชลาธิปทำอะไรไม่ถูก ยังไงก็ไม่คาดคิดว่าคนที่ตัวเองนั้น จะ เป็นแม่ยายของรพีพงษ์ งั้นเรื่องนี้ เขาทำเกินไปแล้วจริงๆ

รพีพงษ์ถามชลาธิปถึงรายละเอียด ชลาธิปเล่าให้รพีพงษ์ฟัง ตั้งแต่ต้นจนจบ รพีพงษ์เดาออกที่ศศินัดดาอ้างว่าตัวเองเป็น แม่ยายนั้น เพราะคิดว่าชลาธิปคือศัตรูของรพีพงษ์

เมื่อนึกถึงศศินัดดาถูกคนสองพวกตีสองครั้ง รพีพงษ์ก็อดไม่ ได้ที่จะยิ้ม เขาไม่รู้สึกสงสารศศินัดดาแต่อย่างใด แต่กลับคิดว่า นี่เป็นบทลงโทษที่พระเจ้ามอบให้เธอ แล้วเธอก็ไม่รู้จักประหยัด ยังจะไปกินแล้วหนี โดยอ้างชื่อเขาอีก สั่งสอนเธอสักหน่อยถือว่า ไม่เลว

ชลาธิปร้อนรนขึ้นมา ตนเพิ่งจะถึง ก็ตีแม่เลี้ยงของอารียาเสีย แล้ว แล้วยังตีไปสองครั้งอีก ซึ่งน่าอับอายเสียจริงๆ แม้ตอนนี้ อยากชดใช้ ก็ไม่รู้จะชดใช้ยังไงดี

รพีพงษ์ให้ชลาธิปเลิกกังวล จากนั้นก็เล่าเรื่องพฤติกรรมทั้งหมดของศศินัดดาให้ขลา ปฟัง เมื่อชลาธิปได้ยินก็พยักหน้า รู้สึกว่าที่ตัวเองตีศศินัดดานั้น ไม่จำเป็นต้องกังวลอีกต่อไป

รพีพงษ์ให้ท่านคทาจัดการกับพวกชลาคม แล้วจัดห้องให้กับ

ศศินัดดา ให้เธอรักษาบาดแผล

ช่วงกลางดึก ศศินัดดาเริ่มรู้สึกตัว คฤหาสน์ตระกูลลัดดาวัลย์ ที่เงียบกลับมีเสียงตะโกนดังกึกก้องขึ้นมา

“รพีพงษ์ กูอยู่ร่วมกับมึงไม่ได้!!!


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ