พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว

บทที่ 468 เรียกไอ้ธาตุกรออกมาหาฉัน



บทที่ 468 เรียกไอ้ธาตุกรออกมาหาฉัน

รพีพงษ์หรี่ตาลง รังสีอาฆาตแผ่ออกมาจากตัวของเขา

เขาคิดไม่ถึงว่าธายุกรจะเหิมเกริมเช่นนี้ ไม่เพียงแต่จะทำให้ บริษัทล้มละลาย ทำให้อารียาหายตัวไป ตอนนี้มันยังจับชนิสรา ไปอีก รพีพงษ์คิดว่าสิ่งที่มันทำทุกอย่าง เป็นการรนหาที่ตายชัดๆ

“ติดต่อเธียรวิชญ์ เดี่ยวให้เขาตามเราไปที่W H กรุ๊ป ฉันอยาก รู้จริงๆ ว่าตอนนี้ธาตุกรมันจะเก่งขนาดไหน ถึงได้กล้าเหิมเกริม ขนาดนี้” รพีพงษ์เอ่ยขึ้น

ธฤตญาณพยักหน้าแล้วรีบติดต่อเธียรวิชญ์

รพีพงษ์ก้มลงมองศศินัดดาที่นอนหายใจรวยรินอยู่บนพื้น เขา พูดด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือกว่า “วันนี้ผมจะไม่ฆ่าคุณก่อน แต่นี่ไม่ ได้หมายความว่าชีวิตเป็นของคุณ ถ้าคุณยังเอาแต่ไม่ยอมรับ ความผิดของตัวเอง หลังจากที่ผมหาอาเจอ ผมจะให้คุณได้รับ ผลกรรมที่คุณสมควรได้รับ

พูดจบ รพีพงษ์ก็หันหลังเดินออกไปโดยไม่หันมาแลศศินัดดา

อีก

ศศินัดดาได้ยินคำพูดของรพีพงษ์ ตัวของเธอสั่นไม่หยุด และ

ไม่กล้าพูดเถียงออกมาอีก

จนกระทั่งทั้งสามคนออกไป ศศินัดดาจึงนอนแผ่หลาแล้วถอน หายใจออกมาอย่างโล่งอก
WH กรุ๊ป

ในห้องนั่งพัก ธายุกรกับบอดี้การ์ดสองสามคนแสยะยิ้มมอง คนที่กําลังจนมุมอย่างชนิสรา

ตอนนี้ชนิสราดูตื่นตระหนก หน้าของเธอมีรอยฟกช้ำ หลังจาก ที่ธาตุกรพาเธอกลับมา เขาลงมือกับเธออย่างไม่มีความเกรงใจ โดยไม่คิดว่าเธอผู้หญิงที่อายุไม่ต่างจากแม่ของเขาสักเท่าไร

“ฉันขอเตือนให้เธอรีบบอกตำแหน่งของรพีพงษ์มา เธอมันก็ แค่แม่บ้านในบ้านของมัน ไม่จําเป็นต้องคิดแทนมัน เธอก็รู้ฝีมือ ของฉันคืน ไม่ต้องใช้เวลามาก ไอ้สวะนั่นมันก็ตายคามือฉัน แน่นอน เธอช่วยมันไปก็ไร้ประโยชน์เปล่าๆ” ธายุกรจ้องชนิสรา แล้วเอ่ยขึ้น

ชนิสราต้องธายุกร แววตาของเธอเต็มไปด้วยความเกลียดชัง “ฉันไม่รู้ว่ารพีพงษ์ไปที่ไหน แต่ถึงฉันจะรู้ ฉันก็ไม่บอกนายหรอก รพีพงษ์เก่งกว่านายเยอะ ฉันเคยได้ยินเรื่องของนายมาบ้าง ถ้า เทียบกับรพีพงษ์แล้ว นายนั่นแหละที่เป็นสวะ!”

จู่ๆ สีหน้าของธาตุกรถมึงทึง สิ่งที่เขาไม่อยากได้ยินที่สุดก็คือ เขาสู้รพีพงษ์ไม่ได้ สิ่งนี้เป็นข้อต้องห้ามที่อยู่ในใจเขา โดยเฉพาะ อย่างยิ่งหลังจากที่เขาได้รับช่วงต่อในการบริหาร W H กรุ๊ป

โยษิตาเคยบอกกับเขาว่าอย่าไปสนใจตระกูลลัดดาวัลย์ จะได้ เป็นศัตรูกับรพีพงษ์ได้อย่างเปิดเผย แถมตอนนี้เขายังมีW H กรุ๊ป เพราะฉะนั้นในเมืองริเวอร์ เขาไม่จำเป็นต้องกลัวธายุกร แม้แต่น้อย
ตอนชนิสแน่นอนว่ามันทำให้เขาไม่พอใจ เดินไปหาชนิสราแล้วลงไปหน้าของเธอ

ชนิสราเอากุมตัวเอง แล้วพูดอย่างโมโหว่า ถึงจะ ตบฉัน ในสายตาของนายก็เทียบกับรพีพงษ์ไม่ได้ จาก นายจะเอาเรื่องทำร้ายร่างกายมาข่มขู่คนอื่นแล้ว นายส่วนเทียบกับรพีพงษ์ได้บ้าง!

ธาตุกร หมัดแน่นแล้วก่นด่าออกมา ให้ตายเหอะ ฉัน อุตส่าห์ไว้หน้าเธอแล้วนะ ฉันเทียบมันไม่ได้ตรงไหน มันแค่โชค เท่านั้น ไม่งั้นมันคงใช้ชีวิตอยู่เมืองริเวอร์ไม่ได้หรอก”

พูดจบ ประตูเข้ามา ลูกพี่ รพีพงษ์พี่ตามหามันคนบริษัท ดูเหมือนมันมาหาเรื่องครับ”

ธายุกรได้ยินดังจึงอึ้งจากนั้นเธอปล่อยที่กำลังจะ ทำร้ายชนิสรา จากเขาแสยะยิ้มออกมา

“คิดไม่ถึงว่าโง่นั่นมาฉันถึงหึหึ ในมันมาหาที่ ตาย ฉันไม่เกรงใจแล้วละกันธายุกรหันหาชนิสรา เดี๋ยวเธอก็รู้ว่าใครคือสวะกันแน่ เธอรอดูรพีพงษ์คุกเข่า ร้องขอฉันเลย”

พูดจบ เขาหันหลังเดินออกแล้วกับบอดี้การ์ดว่า เธอด้วย เห็นสภาพน่าอนาถของรพีพงษ์จะยังพูด แบบออก
ในห้องโถง W H กรุ๊ป ทุกคนต่างพากันมองมาที่พวกเขามี พนักงานไม่น้อยที่เคยทำงานที่บริษัทของตระกูลฉัตรมงคล

ในช่วงนี้ธาตุกรเอาแต่ตามหารพีพงษ์ เพื่อที่จะสั่งสอนเขา พนักงานตำแหน่งเล็กใหญ่ต่างก็รู้เรื่องนี้ ตอนที่ก่อตั้งบริษัทนี้ก็ เพื่อจะเป็นปฏิปักษ์กับรพีพงษ์ วัฒนธรรมในองค์กรหล่อหลอมให้ พนักงาน ใน W H กรุ๊ป จำนวนไม่น้อยรู้สึกเป็นอริกับรพีพงษ์

พนักงานที่เคยทำงานอยู่ที่บริษัทของตระกูลฉัตรมงคล ตอน มาที่นี่พวกเขารู้สึกไม่ดีกับ WH กรุ๊ป แต่หลังจากที่รู้ถึงอิทธิพล ของ W H กรุ๊ป พวกเขาจึงยอมรับเงื่อนไขของที่นี่ คนพวกนั้นคิด ว่าบริษัทของตระกูลฉัตรมงคลไม่มีทางเทียบกับ WH กรุ๊ปได้ ถึง จะเป็นรพีพงษ์ก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของ W H กรุ๊ป

“นั่นรพีพงษ์ไม่ใช่เหรอ ช่วงนี้ที่ประธานไม่อยู่เพราะเอาแต่ตาม หาเขา คิดไม่ถึงว่าเขาจะมาที่นี่เอง

“ได้ยินว่าประธานจะสั่งสอนรพีพงษ์น่ะสิ รพีพงษ์มาถึงที่นี่ หา เรื่องใส่ตัวชัดๆ”

“ได้ยินมาว่าประธานไม่ได้กลัวรพีพงษ์ที่มีเบื้องหลังคือตระกูล ลัดดาวัลย์ ว่ากันว่า WH กรุ๊ป มีผู้มีอิทธิพลหนุนหลังอยู่ ถึงจะ เป็นตระกูลลัดดาวัลย์ก็ไม่สามารถเทียบอิทธพลนี้ได้ ครั้งนี้ถึงร พงษ์จะเก่งแค่ไหน กลัวว่าเขาจะสู้ประธานของพวกเราไม่ได้น่ะสิ”

“เหรอ งั้นเราก็คิดถูกสิที่มา WH กรุ๊ป สวัสดิการที่นี่ดีกว่า บริษัทของตระกูลฉัตรมงคลตั้งเยอะ ฉันล่ะดีใจจริงๆที่บริษัทของ ตระกูลฉัตรมงคลปิดตัวลงแล้ว”
หลังจากที่พวกรพีพงษ์เดินเข้ามากลางห้องโถง เขาหยุดเดิน กวาดตามองไปรอบๆ แล้วพูดด้วยน้ำเสียงก้องกังวานว่า “เรียก ไอ้ธาตุกรออกมาหาฉัน!”

เสียงของรพีพงษ์แข็งแกร่งและก้องกังวานจนดังเข้าไปในหู ของทุกคน

“เหอะ เหอะ คิดไม่ถึงว่าแกจะมาถึงที่นี่ แถมยังกล้าเหิมเกริม ขนาดนี้ แกไม่เห็นฉันอยู่ในสายตาจริงๆ สินะ น่าเสียดายที่ตอนนี้ ฉันไม่เหมือนก่อนแล้ว ถึงแกคือรพีพงษ์ ฉันก็ไม่กลัวแกเหมือน เดิม!” เสียงของธายุกรดังขึ้น ฟังออกว่าเขาจงใจพูดเสียงดัง แต่ ทว่าเสียงของเขายังต่างกับรพีพงษ์นัก

รพีพงษ์หันไปมองธายุกร แล้วพูดด้วยน้ำเสียงเย็นซาว่า “เอา ตัวชนิสรามาให้ฉัน

“ที่แท้มาช่วยแม่บ้านนี่เอง คิดไม่ถึงว่าแกจะพาพวกมาเพื่อ

ช่วยแม่บ้านคน

เดี๋ยว อย่าบอกนะว่าแกเป็นชู้กับมัน พอมันหายตัวไปเลย กระวนกระวายใจ?” ธายุกรพูดกับรพีพงษ์อย่างไม่เป็นมิตร

คนที่อยู่ในห้องโถงต่างพากันหัวเราะออกมา

รพีพงษ์หรี่ตาลง แววตาของเขาอาฆาตเป็นอย่างมาก “แกรน หาที่ตาย!”

“ฉันรนหาที่ตาย? ตอนนี้แกไม่มีสิทธิ์พูดแบบนี้กับฉัน พาตัวแม่บ้านนั่นมา ดูมันกระวนกระวายใจแล้ว เราไม่ควรขัดขวางการ เจอกันของคนที่รักกัน” ธายุกรแสยะยิ้ม

ไม่นาน บอดี้การ์ดพาตัวของชนิสราออกมา

รพีพงษ์เห็นหน้าของชนิสราบวม เขากำหมัดแน่น แล้วพุ่ง เข้าไปหาบอดี้การ์ดพวกนั้น

เมื่อทุกคนเห็นดังนั้น ต่างกันยิ้มอย่างเย้ยหยัน

“รพีพงษ์นี่มีความกล้ามากจริงๆ ไม่พูดพร่ำทำเพลงก็ใช้กำลัง แล้ว เขานึกว่าบอดี้การ์ดของประธานไม่ได้เรื่องเหรอ”

แต่ทว่าคนพวกนั้นยังไม่ทันได้ยิ้มกว้าง จู่ๆ สีหน้าก็แปรเปลี่ยน เป็นความตกตะลึง

หลังจากที่รพีพงษ์พุ่งเข้าไปหาบอดี้การ์ดพวกนั้น เขาเตะต่อย จนบอดี้การ์ดสองคนกระเด็นออกไป จากนั้นเขาจึงหมุนตัวกลับ มาใช้หมดจัดการกับบอดี้การ์ดที่เหลืออีกสองคน

บอดี้การ์ดทั้งสองคนอ่อนปวกเปียกเหมือนกระดาษ เพียงพริบ ตาเดียวพวกเขาก็ลงไปนอนกองกับพื้น


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ