พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว

บทที่392 เช่าบ้าน



บทที่392 เช่าบ้าน

เมืองเก่า บ้านเทพยางค์

รพีพงษ์แก้มัดบนตัวของเทพยางศ์ทั้งหมด เทพยางศ์ลูบ หน้าของตัวเอง พูดขึ้น: “คิดไม่ถึงนายต่อสู้เก่งจริงๆ คนของ พวกไอ้หัวล้านเยอะขนาดนั้น ก็ทำอะไรนายไม่ได้”

“เห็นแก่ที่นายช่วยฉันไว้ครั้งหนึ่ง ฉันไม่ไล่นายออกไปแล้ว แต่ฉันไม่รู้จักนาย และไม่รู้ว่านายมีจุดประสงค์อะไรกันแน่ ถ้านายต้องการอะไรบางอย่างจากฉันเล็กน้อย ก็ได้ ให้เงิน แค่ให้เงิน ฉันก็จะยอมพูดทุกอย่าง”

รพีพงษ์หัวเราะ คิดไม่ถึงเลยจริงๆ เถ้าแก่ที่มีหน้ามีตาเมื่อ ยี่สิบกว่าปีก่อนคนนี้ ค่อยๆ กลายเป็นที่ที่คดโกงแบบนี้ได้ยัง ไง

“คุณแน่ใจว่าให้เงินก็จะพูด? ” รพีพงษ์ถาม

“แน่นอนอยู่แล้ว ตอนนี้ฉันขาดสนเงินมาก เงินของดีแบบ นี้ ฉันจะรังเกียจได้ยังไง” ใบหน้าของเทพยางศ์เต็มไปด้วย ความเห็นแก่เงิน

“งั้นก็ได้ ผมต้องการรู้เกี่ยวกับเรื่องที่เทือกเขากิสนา แค่ คุณยอมพูด เงินไม่ใช่ปัญหา” รพีพงษ์พูด

เทพยางศ์ซึ่งแต่เดิมจ้องมองรพีพงษ์ด้วยใบหน้าที่เต็มไป บทที่392 เช่าบ้าน

เมืองเก่า บ้านเทพยางค์

รพีพงษ์แก้มัดบนตัวของเทพยางศ์ทั้งหมด เทพยางศ์ลูบ หน้าของตัวเอง พูดขึ้น: “คิดไม่ถึงนายต่อสู้เก่งจริงๆ คนของ พวกไอ้หัวล้านเยอะขนาดนั้น ก็ทำอะไรนายไม่ได้”

“เห็นแก่ที่นายช่วยฉันไว้ครั้งหนึ่ง ฉันไม่ไล่นายออกไปแล้ว แต่ฉันไม่รู้จักนาย และไม่รู้ว่านายมีจุดประสงค์อะไรกันแน่ ถ้านายต้องการอะไรบางอย่างจากฉันเล็กน้อย ก็ได้ ให้เงิน แค่ให้เงิน ฉันก็จะยอมพูดทุกอย่าง”

รพีพงษ์หัวเราะ คิดไม่ถึงเลยจริงๆ เถ้าแก่ที่มีหน้ามีตาเมื่อ ยี่สิบกว่าปีก่อนคนนี้ ค่อยๆ กลายเป็นที่ที่คดโกงแบบนี้ได้ยัง ไง

“คุณแน่ใจว่าให้เงินก็จะพูด? ” รพีพงษ์ถาม

“แน่นอนอยู่แล้ว ตอนนี้ฉันขาดสนเงินมาก เงินของดีแบบ นี้ ฉันจะรังเกียจได้ยังไง” ใบหน้าของเทพยางศ์เต็มไปด้วย ความเห็นแก่เงิน

“งั้นก็ได้ ผมต้องการรู้เกี่ยวกับเรื่องที่เทือกเขากิสนา แค่ คุณยอมพูด เงินไม่ใช่ปัญหา” รพีพงษ์พูด

เทพยางศ์ซึ่งแต่เดิมจ้องมองรพีพงษ์ด้วยใบหน้าที่เต็มไป ด้วยความเห็นแก่เงิน จู่ๆ ก็แข็งที่อ หลังจากได้ยินสิ่งที่รพี พงษ์พูด จากนั้นสีหน้าก็ย่ำแย่ลง คนทั้งคนก็มีความรู้สึก หนาวเหน็บที่ไม่สามารถบรรยายได้

เขามองรพีพงษ์อย่างไม่แยแส จากนั้นผลักที่ด้านหลังของ รพีพงษ์โดยตรง ผลักเขาออกไปข้างนอกประตู

รพีพงษ์มองเทพยางศ์ด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความ ประหลาดใจ พูดขึ้น : “ไหนบอกว่าให้เงินกับคุณจะยอมพูด ทุกเรื่องไม่ใช่เหรอ?”

เทพยางศ์มองรพีพงษ์อย่างเย็นชา ด่าทอขึ้น: “รีบไสหัวไป ฉันไม่รู้อะไรเทือกเขากิสนาอะไรนั่น ต่อไปไม่ต้องมาฉันอีก” พูดจบ เทพยางศ์ก็กระแทกประตูดังปัง ปิดเอาไว้ทันที

รพีพงษ์มองประตูที่ปิดสนิท แล้วเดินไปข้างหน้า เคาะ ประตูสองที แต่ที่นี่ไม่มีเสียงอะไรใดๆ ดังออกมาอีก

เขาส่ายหน้าอย่างทำอะไรไม่ได้ ดูเหมือนว่าการถามเกี่ยว กับเรื่องเทือกเขากิสนาจากปากของเทพยางศ์ ไม่ใช่เรื่อง ง่ายเลย

“ทำได้แค่รอผ่านไปสองวันค่อยมาลองใหม่” รพีพงษ์บ่น พีมพำ หลังจากนั้นก็หันหลังเดินไปยังสถานที่ต่างๆ ในเมือง เก่าที่มีการเขียนว่าบ้านเช่า

ช่วงนี้เขาต้องอาศัยอยู่ใกล้กับเทพยางศ์หน่อย เพื่อไม่ให้ ด้วยความเห็นแก่เงิน จู่ๆ ก็แข็งที่อ หลังจากได้ยินสิ่งที่รพี พงษ์พูด จากนั้นสีหน้าก็ย่ำแย่ลง คนทั้งคนก็มีความรู้สึก หนาวเหน็บที่ไม่สามารถบรรยายได้

เขามองรพีพงษ์อย่างไม่แยแส จากนั้นผลักที่ด้านหลังของ รพีพงษ์โดยตรง ผลักเขาออกไปข้างนอกประตู

รพีพงษ์มองเทพยางศ์ด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความ ประหลาดใจ พูดขึ้น : “ไหนบอกว่าให้เงินกับคุณจะยอมพูด ทุกเรื่องไม่ใช่เหรอ?”

เทพยางศ์มองรพีพงษ์อย่างเย็นชา ด่าทอขึ้น: “รีบไสหัวไป ฉันไม่รู้อะไรเทือกเขากิสนาอะไรนั่น ต่อไปไม่ต้องมาฉันอีก” พูดจบ เทพยางศ์ก็กระแทกประตูดังปัง ปิดเอาไว้ทันที

รพีพงษ์มองประตูที่ปิดสนิท แล้วเดินไปข้างหน้า เคาะ ประตูสองที แต่ที่นี่ไม่มีเสียงอะไรใดๆ ดังออกมาอีก

เขาส่ายหน้าอย่างทำอะไรไม่ได้ ดูเหมือนว่าการถามเกี่ยว กับเรื่องเทือกเขากิสนาจากปากของเทพยางศ์ ไม่ใช่เรื่อง ง่ายเลย

“ทำได้แค่รอผ่านไปสองวันค่อยมาลองใหม่” รพีพงษ์บ่น พีมพำ หลังจากนั้นก็หันหลังเดินไปยังสถานที่ต่างๆ ในเมือง เก่าที่มีการเขียนว่าบ้านเช่า

ช่วงนี้เขาต้องอาศัยอยู่ใกล้กับเทพยางศ์หน่อย เพื่อไม่ให้ ถึงเวลานั้นเทพยางค์หนีไปเพราะเขามาถามเรื่องเทือกเขาก็ สนา ตัวเองจะหาเขาก็หาตัวไม่เจอ

คราวที่แล้วที่เขามาก็เห็นที่หน้าบ้านของเทพยางศ์บ้าน สองชั้นมีเขียนคำว่าให้เช่าชั้นสอง ฉะนั้นจึงอยากไปถามดู

แม้ว่าบ้านในเมืองเก่านี้จะทรุดโทรมไปหน่อย และบ้าน หลายหลังก็มีลักษณะคล้ายกันกับอาคารในหมู่บ้าน แต่รพี พงษ์ไม่สนใจสภาพความเป็นอยู่ สิ่งสำคัญสำหรับเขาใน ตอนนี้คือถามเกี่ยวกับเรื่องเทือกเขากิสนาจากปากเทพยางศ์ ต่อให้ต้องอาศัยในที่สภาพแบบนี้ไม่หลายวัน ก็ไม่เป็นไร

ขณะที่เดินไปทางด้านหน้า มือถือของรพีพงษ์ดังขึ้น เป็น สายเรียกเข้าจากอารียา

“ที่รัก มีอะไรเหรอ? ” รพีพงษ์ถาม

“ไม่มีเรื่องฉันโทรหาคุณไม่ได้หรือไง? ” อารียาเหมือนกิน

ดินปืนเข้าไป อ้าปากปุ๊บก็มีอาการหงุดหงิดอย่างแรง “ได้ๆๆ ได้อยู่แล้ว แต่ตอนนี้ผมยุ่งอยู่หน่อยๆ คุณดู…” รพีพงษ์พูดด้วยรอยยิ้ม ไม่รู้ว่าภรรยาของตัวเองเป็นอะไรอีก

แล้ว

“คุณกำลังบอกเป็นนัยๆ กับฉันว่าเรื่องของคุณนั้นสำคัญ มาก มีฉันเพียงคนเดียวที่ว่างไม่มีอะไรทำ ใช่ไหม? ” อารียา ก็พูดอย่างไม่สบอารมณ์อีก ถึงเวลานั้นเทพยางค์หนีไปเพราะเขามาถามเรื่องเทือกเขาก็ สนา ตัวเองจะหาเขาก็หาตัวไม่เจอ

คราวที่แล้วที่เขามาก็เห็นที่หน้าบ้านของเทพยางศ์บ้าน สองชั้นมีเขียนคำว่าให้เช่าชั้นสอง ฉะนั้นจึงอยากไปถามดู

แม้ว่าบ้านในเมืองเก่านี้จะทรุดโทรมไปหน่อย และบ้าน หลายหลังก็มีลักษณะคล้ายกันกับอาคารในหมู่บ้าน แต่รพี พงษ์ไม่สนใจสภาพความเป็นอยู่ สิ่งสำคัญสำหรับเขาใน ตอนนี้คือถามเกี่ยวกับเรื่องเทือกเขากิสนาจากปากเทพยางศ์ ต่อให้ต้องอาศัยในที่สภาพแบบนี้ไม่หลายวัน ก็ไม่เป็นไร

ขณะที่เดินไปทางด้านหน้า มือถือของรพีพงษ์ดังขึ้น เป็น สายเรียกเข้าจากอารียา

“ที่รัก มีอะไรเหรอ? ” รพีพงษ์ถาม

“ไม่มีเรื่องฉันโทรหาคุณไม่ได้หรือไง? ” อารียาเหมือนกิน

ดินปืนเข้าไป อ้าปากปุ๊บก็มีอาการหงุดหงิดอย่างแรง “ได้ๆๆ ได้อยู่แล้ว แต่ตอนนี้ผมยุ่งอยู่หน่อยๆ คุณดู…” รพีพงษ์พูดด้วยรอยยิ้ม ไม่รู้ว่าภรรยาของตัวเองเป็นอะไรอีก

แล้ว

“คุณกำลังบอกเป็นนัยๆ กับฉันว่าเรื่องของคุณนั้นสำคัญ มาก มีฉันเพียงคนเดียวที่ว่างไม่มีอะไรทำ ใช่ไหม? ” อารียา ก็พูดอย่างไม่สบอารมณ์อีก คำพูดของผู้หญิงในบาร์คนนั้นส่งผลกระทบอย่างมากกับ อารียา และหลังจากที่ออกจากบาร์ อารียามักจะได้ยินคนพูด คุยกันในสถานที่ต่างๆ ว่าเธอไม่คู่ควรกับรพีพงษ์

ในตอนแรกเธอยังคงมั่นใจในความรู้สึกที่แท้จริงของตัว เอง แต่หลังจากฟังคำพูดของคนอื่นมากๆ แล้ว แม้แต่ตัวเธอ เองก็เริ่มสงสัยว่าตัวเองคู่ควรกับรพีพงษ์หรือเปล่า

รพีพงษ์รู้สึกว่าอารมณ์ของอารียาไม่คงที่อย่างมาก จึง ถามอย่างระมัดระวัง: “ที่รัก คุณมีปัญญาหาอะไรบางอย่าง ใช่ไหม? ถ้าหากว่ามี ผมจะโทรหาธฤตญาณเดี๋ยวนี้ ให้เขา ไปช่วยคุณ”

อารียาแทบจะระเบิดอยู่แล้ว ดูเหมือนว่าเธอ ไม่ว่ารพีพงษ์ จะพูดอะไร ล้วนบ่งบอกว่าเธอไร้ประโยชน์ อะไรก็ต้องให้คน อื่นคอยช่วย

“ฉันไม่เป็นไร ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร! คุณได้ยินไหม! ฉัน ไม่ใช่คนที่ต้องการให้คุณดูแลทุกอย่าง ฉันมีปัญญาจัดการ ปัญหาที่ตัวเองเจอด้วยตัวเองได้!” อารียาตะโกนใส่รพีพงษ์ โดยตรง

“งั้น….คุณเป็นอะไร?” รพีพงษ์สับสนเล็กน้อย ฉันไม่ เข้าใจว่าตัวเองตกเป็นคนที่ควรดุได้ยังไง

“ไม่มีอะไร เมนมา” คำพูดของผู้หญิงในบาร์คนนั้นส่งผลกระทบอย่างมากกับ อารียา และหลังจากที่ออกจากบาร์ อารียามักจะได้ยินคนพูด คุยกันในสถานที่ต่างๆ ว่าเธอไม่คู่ควรกับรพีพงษ์

ในตอนแรกเธอยังคงมั่นใจในความรู้สึกที่แท้จริงของตัว เอง แต่หลังจากฟังคำพูดของคนอื่นมากๆ แล้ว แม้แต่ตัวเธอ เองก็เริ่มสงสัยว่าตัวเองคู่ควรกับรพีพงษ์หรือเปล่า

รพีพงษ์รู้สึกว่าอารมณ์ของอารียาไม่คงที่อย่างมาก จึง ถามอย่างระมัดระวัง: “ที่รัก คุณมีปัญญาหาอะไรบางอย่าง ใช่ไหม? ถ้าหากว่ามี ผมจะโทรหาธฤตญาณเดี๋ยวนี้ ให้เขา ไปช่วยคุณ”

อารียาแทบจะระเบิดอยู่แล้ว ดูเหมือนว่าเธอ ไม่ว่ารพีพงษ์ จะพูดอะไร ล้วนบ่งบอกว่าเธอไร้ประโยชน์ อะไรก็ต้องให้คน อื่นคอยช่วย

“ฉันไม่เป็นไร ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร! คุณได้ยินไหม! ฉัน ไม่ใช่คนที่ต้องการให้คุณดูแลทุกอย่าง ฉันมีปัญญาจัดการ ปัญหาที่ตัวเองเจอด้วยตัวเองได้!” อารียาตะโกนใส่รพีพงษ์ โดยตรง

“งั้น….คุณเป็นอะไร?” รพีพงษ์สับสนเล็กน้อย ฉันไม่ เข้าใจว่าตัวเองตกเป็นคนที่ควรดุได้ยังไง

“ไม่มีอะไร เมนมา” พูดจบอารียาก็วางสายโดยตรง

ทันใดนั้นรพีพงษ์ถึงว่าอยู่ๆ ก็โมโหร้ายอย่างไม่มีเหตุผล จริงๆ แล้วเป็นเพราะเมนมา เรื่องนี้เขาก็เข้าใจ ตอนนี้เขารู้ แล้วว่าผู้หญิงที่เมนมามักจะเสียอารมณ์อย่างไม่มีเหตุผล

ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง รพีพงษ์ไม่ได้โทรกลับไปหาอารียา เวลานี้โทรไปหาเธอ น่าจะยิ่งทำให้เธอหงุดหงิด

ฉะนั้นเขาจึงโทรไปหาชนิสรา ให้ชนิสราทำอาหารที่ทำให้ ร่างกายอบอุ่น ให้อารียากิน แล้วบรรเทาอารมณ์ของเธอด้วย

หลังจากโทรเสร็จรพีพงษ์ก็เดินตรงไปข้างหน้าที่บ้านหลัง นั้นต่อ

เขาเดินไปถึงหน้าประตู ยื่นมือไปเคาะประตู ไม่นาน หญิง สาวหน้าตาธรรมดาคนหนึ่ง อายุประมาณยี่สิบปีเดินออกมา

“ชั้นสองที่นี่ของพวกคุณยังปล่อยให้เช่าไหม? ผมคิดว่า จะอาศัยอยู่ที่นี่สองวัน” รพีพงษ์เอ่ยถามขึ้น

หญิงสาวคนนั้นยิ่งพยักหน้า พูด: “ยังให้เช่า แต่ปกติเราจะ ปล่อยเช่าในระยะยาว ถ้าคุณพักแค่ไม่กี่วัน ราคาก็จะแพง” รพีพงษ์หัวเราะ พูดขึ้น: “ไม่เป็นไร ตอนนี้ผมเข้าไปดูได้

ไหม?”

หญิงสาวพยักหน้า จากนั้นก็พารพีพงษ์เข้าไปในบ้าน ไปดู ที่ชั้นสอง พูดจบอารียาก็วางสายโดยตรง

ทันใดนั้นรพีพงษ์ถึงว่าอยู่ๆ ก็โมโหร้ายอย่างไม่มีเหตุผล จริงๆ แล้วเป็นเพราะเมนมา เรื่องนี้เขาก็เข้าใจ ตอนนี้เขารู้ แล้วว่าผู้หญิงที่เมนมามักจะเสียอารมณ์อย่างไม่มีเหตุผล

ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง รพีพงษ์ไม่ได้โทรกลับไปหาอารียา เวลานี้โทรไปหาเธอ น่าจะยิ่งทำให้เธอหงุดหงิด

ฉะนั้นเขาจึงโทรไปหาชนิสรา ให้ชนิสราทำอาหารที่ทำให้ ร่างกายอบอุ่น ให้อารียากิน แล้วบรรเทาอารมณ์ของเธอด้วย

หลังจากโทรเสร็จรพีพงษ์ก็เดินตรงไปข้างหน้าที่บ้านหลัง นั้นต่อ

เขาเดินไปถึงหน้าประตู ยื่นมือไปเคาะประตู ไม่นาน หญิง สาวหน้าตาธรรมดาคนหนึ่ง อายุประมาณยี่สิบปีเดินออกมา

“ชั้นสองที่นี่ของพวกคุณยังปล่อยให้เช่าไหม? ผมคิดว่า จะอาศัยอยู่ที่นี่สองวัน” รพีพงษ์เอ่ยถามขึ้น

หญิงสาวคนนั้นยิ่งพยักหน้า พูด: “ยังให้เช่า แต่ปกติเราจะ ปล่อยเช่าในระยะยาว ถ้าคุณพักแค่ไม่กี่วัน ราคาก็จะแพง” รพีพงษ์หัวเราะ พูดขึ้น: “ไม่เป็นไร ตอนนี้ผมเข้าไปดูได้

ไหม?”

หญิงสาวพยักหน้า จากนั้นก็พารพีพงษ์เข้าไปในบ้าน ไปดู ที่ชั้นสอง มีห้องบนชั้นสองห้องหนึ่งหันหน้าไปทางบ้านของเทพยาง ศ์โดยตรง ทางนั้นเปิดหน้าต่างบานหนึ่ง สามารถมองเห็น ประตูบ้านของเทพยางศ์ได้ในทันทีรพีพงษ์อาศัยอยู่ที่นี่ สามารถสังเกตความเคลื่อนไหวของเทพยางค์ได้เป็นอย่างดี

หลังจากดูห้องเสร็จรพีพงษ์ไปเซ็นสัญญาง่ายๆ กับหญิง สาวคนนั้น จ่ายเงิน จากนั้นก็ซื้อของใช้ในชีวิตประจำวัน ทั่วไปจากหญิงสาว

ตอนเซนต์สัญญาข้อตกลงรพีพงษ์รู้ว่าหญิงสาวคนนี้ชื่อ บุณณดามีบ้านหลายหลังในเมืองเก่า ปล่อยเช่าโดยเฉพาะ งทำการปล่อยเช่า ในระยะสั้น ขายของใช้ในชีวิตประจำวัน ด้วย

หลังจากทำเรื่องเสร็จ บุณณดาเหลือบมองรพีพงษ์ เอ่ย ถามขึ้น: “คุณทำอาชีพอะไร?

รพีพงษ์ครุ่นคิด พูด: “ผมทำงานขนอิฐในสถานที่ไซต์งาน ก่อนสร้างใกล้เคียง ตอนนี้ที่ไซต์งานหยุดงาน ผมไม่มีที่อยู่ ดังนั้นจึงมาเช้าบ้านที่นี่วันสองวัน”

บุณณดาพยักหน้า เธอไม่กังวลว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับการ เช่าห้องชั้นบนให้กับผู้ชาย ถัดจากบ้านหลังนี้ไปสิบเมตรก็ เป็นสถานีตำรวจเมืองเก่า เธอไม่คิดว่าจะมีใครก่อ อาชญากรรมในสถานที่แบบนี้

แน่นอน เธอคิดว่ารพีพงษ์ดูแล้วน่าพึงพอใจ ไม่น่าเป็นคน มีห้องบนชั้นสองห้องหนึ่งหันหน้าไปทางบ้านของเทพยาง ศ์โดยตรง ทางนั้นเปิดหน้าต่างบานหนึ่ง สามารถมองเห็น ประตูบ้านของเทพยางศ์ได้ในทันทีรพีพงษ์อาศัยอยู่ที่นี่ สามารถสังเกตความเคลื่อนไหวของเทพยางค์ได้เป็นอย่างดี

หลังจากดูห้องเสร็จรพีพงษ์ไปเซ็นสัญญาง่ายๆ กับหญิง สาวคนนั้น จ่ายเงิน จากนั้นก็ซื้อของใช้ในชีวิตประจำวัน ทั่วไปจากหญิงสาว

ตอนเซนต์สัญญาข้อตกลงรพีพงษ์รู้ว่าหญิงสาวคนนี้ชื่อ บุณณดามีบ้านหลายหลังในเมืองเก่า ปล่อยเช่าโดยเฉพาะ งทำการปล่อยเช่า ในระยะสั้น ขายของใช้ในชีวิตประจำวัน ด้วย

หลังจากทำเรื่องเสร็จ บุณณดาเหลือบมองรพีพงษ์ เอ่ย ถามขึ้น: “คุณทำอาชีพอะไร?

รพีพงษ์ครุ่นคิด พูด: “ผมทำงานขนอิฐในสถานที่ไซต์งาน ก่อนสร้างใกล้เคียง ตอนนี้ที่ไซต์งานหยุดงาน ผมไม่มีที่อยู่ ดังนั้นจึงมาเช้าบ้านที่นี่วันสองวัน”

บุณณดาพยักหน้า เธอไม่กังวลว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับการ เช่าห้องชั้นบนให้กับผู้ชาย ถัดจากบ้านหลังนี้ไปสิบเมตรก็ เป็นสถานีตำรวจเมืองเก่า เธอไม่คิดว่าจะมีใครก่อ อาชญากรรมในสถานที่แบบนี้

แน่นอน เธอคิดว่ารพีพงษ์ดูแล้วน่าพึงพอใจ ไม่น่าเป็นคน เลวอะไร

จากนั้นทั้งบ่าย รพีพงษ์ก็สังเกตฝั่งทางบ้านของเทพยางค์ ในห้องอยู่ตลอดเวลา เทพยางศ์ทั้งบ่ายก็ไม่ออกมา ทำให้รพี พงษ์รู้สึกเบื่อเล็กน้อย

เมื่อเวลาพลบค่ำ เขาลงไปเข้าห้องน้ำข้างล่าง บ้านหลังนี้มี เพียงชั้นหนึ่งที่มีห้องน้ำ เชื่อมต่อกับห้อง อาบน้ำ เขาอยาก เข้าห้องน้ำก็ต้องไปข้างล่าง

เดินไปถึงหน้าห้องน้ำ รพีพงษ์ผลักประตูออกโดยตรง ใน เวลานี้ เขาก็สังเกตเห็นว่ามีหญิงสาวที่ไม่ได้ใส่เสื้อผ้าอาบน้ำ อยู่ข้างใน

ผู้หญิงคนนั้นไม่ใช่บุณณดา สวยกว่าบุณณดามาก เมื่อ เห็นประตูถูกผลักออก หญิงสาวก็ตะลึง จากนั้นก็กรีดร้อง ตะโกนเสียงดัง: “โรคจิต! จับตัวโรคจิต!” เลวอะไร

จากนั้นทั้งบ่าย รพีพงษ์ก็สังเกตฝั่งทางบ้านของเทพยางค์ ในห้องอยู่ตลอดเวลา เทพยางศ์ทั้งบ่ายก็ไม่ออกมา ทำให้รพี พงษ์รู้สึกเบื่อเล็กน้อย

เมื่อเวลาพลบค่ำ เขาลงไปเข้าห้องน้ำข้างล่าง บ้านหลังนี้มี เพียงชั้นหนึ่งที่มีห้องน้ำ เชื่อมต่อกับห้อง อาบน้ำ เขาอยาก เข้าห้องน้ำก็ต้องไปข้างล่าง

เดินไปถึงหน้าห้องน้ำ รพีพงษ์ผลักประตูออกโดยตรง ใน เวลานี้ เขาก็สังเกตเห็นว่ามีหญิงสาวที่ไม่ได้ใส่เสื้อผ้าอาบน้ำ อยู่ข้างใน

ผู้หญิงคนนั้นไม่ใช่บุณณดา สวยกว่าบุณณดามาก เมื่อ เห็นประตูถูกผลักออก หญิงสาวก็ตะลึง จากนั้นก็กรีดร้อง ตะโกนเสียงดัง: “โรคจิต! จับตัวโรคจิต!”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ