พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว

บทที่638 เอามาอย่างละหนึ่ง



บทที่638 เอามาอย่างละหนึ่ง

รพีพงษ์ทั้งสามหันไปมอง เห็นว่าเป็นวัยรุ่นชายหญิงสองคนแต่ง ตัวตามเทรนด์ อายุเท่าๆกับดามา

หลังจากที่ดามาเห็นสองคนนี้แล้วนั้น ตอนแรกอยากลองชุด แต่กลายเป็นหน้าตาบูดบึงขึ้นมาทันที จากนั้นก็หยิบชุดไปวางไว้ ที่เดิม พุดกับรพีพงษ์และฝนสุดาว่า “พวกเราไปกันเถอะ

“เหอะเหอะ มีอารมณ์ด้วยหรอ พูดนิดหน่อยก็ไม่กล้าลองล่ะ ที่แท้ก็แค่ไอ้ยากจน” หญิงคนนั้นกล่าวอย่างอารมณ์แปรปรวน

ชายหญิงคู่นี้คือเพื่อนของดาณิมา เมื่อวานเขาทำให้คนอื่นหัว เราะดา มา ทําเอาดามาไร้ซึ่งเกียรติ จนโมโหกลับบ้าน ผู้ชายชื่อเทพกวัน พ่อแม่คือระดับสูงของบริษัทหนึ่งในเมือง

ปาก ฐานะทางครอบครัวเทียบกับรุ่นเดียวกันถือว่าร่ำรวย ผู้

หญิงชื่อญาณิศา เป็นครอบครัวที่ร่ำรวยเช่นกัน

เกรดการเรียนของดามาถือว่ายอดเยี่ยม ได้ที่หนึ่งทุกครั้ง แม้ญาณิศาจะใช้สุดกำลังความสามารถ แต่ก็ทำคะแนนได้เพียง กลางห้อง ทำให้เธอรู้สึกไม่พอใจอย่างมาก

ดังนั้นเมื่อว่างๆ ญาณิศาจึงชอบนินทาถึงฐานะครอบครัวขอ งดามาต่อหน้าเพื่อนๆ ต้องดูถูกดูแคลนเธอ ถึงจะทำให้ตัวเอง รู้สึกดีขึ้นมาหน่อย

เทพภวันเป็นแฟนหนุ่มของญาณิศา คนที่แฟนสาวของตนไม่ชอบ เขาก็จะไม่เกรงใจ ดังนั้นจึงมักจะประชดประชันดามาอยู่ บ่อยๆ

ความสัมพันธ์ระหว่างดาเมาและพวกเขาทั้งสองค่อนข้างไม่ดี เป็นเพราะฐานะทางบ้านของพวกเขาทั้งสองดี ถ้าเกิดทะเลาะกัน ขึ้นมาจริงๆ ทางโรงเรียนจะต้องช่วยพวกเขา ดังนั้นเธอจึงทำได้ แค่อดทน

ความจริงวันนี้เธอกับรพีพงษ์และฝนสุดาจะมาเดินเล่นกัน ใคร จะรู้ว่าจะเจอเทพภวันและญาณิศาสองคนนี้ นี่ทำให้เธอรู้สึกโชค ร้ายเหลือเกิน

รพีพงษ์และฝนสุดามองตากัน และไม่คิดที่จะถอยห่าง

ฝนสุดาลากดามากลับมา แล้วกล่าว “ยังไม่ได้ลองชุดเลย จะไปไหน ถ้าชอบล่ะก็ พวกเราจะซื้อให้

ญาณิศาเยาะเย้ย แล้วกล่าว “ถ้าเดาไม่ผิด พวกคุณทั้งสองน่า จะเป็นญาติของเธอสินะ ฐานะที่บ้านของดามาเป็นยังไงพวก เรารู้ดี และไม่เคยได้ยินว่าญาติคนไหนของเธอมีเงิน คุณรู้หรือ เปล่าว่าชุดที่พวกคุณดูกันหนะราคาเท่าไหร่? สี่พันกว่านะ! พวก คุณมีปัญญาซื้อหรอ!”

เทพกวันจ้องไปที่ฝนสุดา แต่เขาหลงในความสวยของฝนสุดา เข้าแล้ว จนลืมเยาะเย้ยดา มาไปเลย

หลังจากที่ดา มาได้ยินราคา ก็สีหน้าถอดสี รายได้ของ ครอบครัวเธอต่อเดือนไม่เกินสี่พัน ไม่คาดคิดว่าชุดๆนี้จะแพงได้ ขนาดนี้ ยิ่งทำให้เธอไม่กล้าลองเข้าไปอีก อยากเพียงออกไปให้เร็วที่สุด

“พี่สุดา ไม่งั้นพวกเรารีบไปเถอะ ชุดนี้แพงไป ฉันไม่ลองแล้ว” ดาฌิมาเริ่มลนลาน

ญาณิศาเห็นท่าทีคับใจของดามา ก็รู้สึกสะใจ แล้วกล่าว “อย่างว่าแหละเด็กจนๆอย่างแกจะมีปัญญาซื้อชุดสี่พันกว่าได้ไง กัน สถานที่แบบนี้ คราวหลังไม่ต้องมาก็ดีนะ เพราะแต่ก็ไม่มี ปัญญาซื้อ”

รพีพงษ์จ้องไปที่ญาณิศา จากนั้นก็พูดกับดามาว่า “ก็แค่ พันกว่า แพงกว่าชุดธรรมดานิดหน่อย ไม่ถึงกับดี ลองใส่ดู เดี่ยว ผมไปจ่ายเงิน

เทพกวันและญาณิศามองไปที่รพีพงษ์ เพราะพีพงษ์ดูธรรมดา เกิน ดังนั้นทั้งคู่จึงมองข้ามไป

เทพภวันรู้สึกว่ารพีพงษ์ใกล้ชิดกับฝนสุดามากไป เขารู้สึกไม่ พอใจ คนนี้ดูๆไปแล้วธรรมดา แต่อยู่กับคนสวยขนาดนี้ได้ มันชั่ง เป็นอะไรที่ยากเกินกว่าจะรับได้จริงๆ

เขาพูดขึ้นมาทันที “โหโหโห ฟังน้ำเสียง ก็แค่สี่พันกว่าเอง ไม่ดูตัวเองเลยว่าใส่ชุดอะไรอยู่ ดูก็รู้ว่าเป็นชุดข้างทางสิบกว่า หยวนก็เท่านั้น แม้คุณอยากอวดเก่ง แต่ก็ต้องมีพื้นฐานบ้างนะ ไอ้พวกคุยโวโอ้อวดอย่างคุณ ผมเพิ่งจะเคยเจอเป็นครั้งแรกนี่ แหละ”

ญาณิศาพูดตาม “ดาฌิมา ดูญาติของแกสิ ใส่ชุดแบบนี้ยัง กล้าโอ้อวดอีก กาเข้าฝูงกาจริงๆ ครอบครัวแก ล้วนเจอแล้วยังโอ้อวดอีก”

ดามารู้สึกอับอาย แล้วมองไปที่รพีพงษ์อย่างไม่พอใจว่า “เฮ้อ ยังจะสร้างปัญหาอีก ฉันรู้ว่าคุณอยากจะช่วยฉัน แต่เงินของ คุณเป็นของพี่สุดา ฉันไม่อยากเป็นเพราะเรื่องนี้ แล้วทำให้คุณ กับพี่สุดาต้องจ่ายเงินสุรุ่ยสุร่าย

รพีพงษ์รู้สึกเบื่อหน่าย ไม่รู้ว่าควรจะอธิบายตามายังไง เลย

ส่งสายตาขอความช่วยเหลือไปที่ฝนสุดา

ฝนสุดายิ้มแล้วพูดต่อดามาว่า “ดา เชื่อเขาเถอะ รพีพงษ์มี เงินเยอะ ไม่ต้องพูดถึงแค่ชุด แม้จะซื้อร้านนี้ยังถือว่าน้อยไป

ดามาตาลุกโตอย่างไม่กล้าเชื่อ ไม่ใช่เพราะเธอไม่เชื่อ แต่นี่ เป็นสิ่งที่เหนือความคาดหมายของเธอ ดังนั้นเธอจึงไม่กล้าที่จะ เชื่อ

เทพภวันและญาณิศาบนปาด รู้สึกว่ารพีพงษ์และฝนสุดากำลัง

เล่นละครตามน้ำอยู่ ซึ่งตลกจริงๆ

“พวกคุณรีบไปเสียเถอะ ถ้ายังคุยโวต่อไป เค้าจะไล่พวกคุณ ออกไปแล้วนะ” เทพภวันประชดประชัน

รพีพงษ์ไม่สนใจพวกเขา เรียกพนักงานร้านมา แล้วชี้ไปที่ดาณิ มา ถาม “เธอใส่ชุดนี้ จะใส่ได้ไหม?”

“น่าจะได้ ดูๆแล้วก็เหมาะสมอยู่นะ” พนักงานกล่าว

“โอเค เอาชุดทุกแบบที่มีในร้านของพวกคุณ ตามไซส์นี้ มา อย่างละหนึ่ง แล้วใส่กล่อง ให้ผม” รพีพงษ์กล่าว
พนักงานคิดว่าตัวเองได้ยินผิด จึงตาโตอย่างตะลึง “เหมือน กันมาอย่างละหนึ่ง ฉันไม่ได้ฟังผิดใช่ไหม?”

“ไม่ผิด” รพีพงษ์กล่าว

สีหน้าของพนักงานดีใจ วันนี้เสื้อผ้าของร้านยังไม่ถูกขายออก ไม่คาดคิดว่าจะมีลูกค้าพิเศษขนาดนี้ “โอเค กรุณารอสักครู่ ฉันจะไปใส่กล่องให้คุณเดี๋ยวนี้

พนักงานหันกลับไปอย่างตื่นเต้น

ขณะเดียวกันนี้เทพภวันที่อยู่ข้างๆกำลังดูอยู่ได้กล่าวขึ้นมาว่า “คุณอย่าไปฟังมันขี้โม้นะ นี่คือญาติของเพื่อนจนๆของฉัน ไม่มี เงิน มันก็แค่อยากคุยโวต่อหน้าพวกเราก็เท่านั้น เดี๋ยวพอคุณจัด เตรียมเสร็จ มันก็ไม่มีปัญญาจ่ายเงิน แบบนี้คุณก็ทำฟรีๆเลยอะ

เมื่อพนักงานร้านได้ยินคำพูดของเทพกวัน ก็เริ่มลังเล มองไป ที่รพีพงษ์ตั้งแต่หัวจรดเท้า พบว่าเขาแต่งตัวธรรมดาจริงๆ จึงได้ ถามเขาไปว่า “คุณผู้ชาย ไม่งั้นคุณจ่ายเงินก่อนดีไหม แบบนี้ฉัน จะได้เตรียมของให้คุณได้

รพีพงษ์ไม่ใส่ใจ หันไปมองฝนสุดา แล้วถาม “บัตรทองนั่นล่ะ เอาออกมา”

ฝนสุดารู้สึกอาย แล้วกล่าว “ฉัน…..เมื่อวานคุณไม่เป็นเพื่อน ฉันเดินห้าง ฉันโมโห จึงได้ทิ้งบัตรนั่นไปหมดแล้ว”

รพีพงษ์กลืนไม่เข้าคายไม่ออก เขานึกถึงฝนสุดามีบัตรนั้น ก็สามารถจะเอาอะไรก็ได้ตามใจชอบ

บรรยากาศรอบๆเริ่มอึดอัดขึ้น ดามาเริ่มอยากที่จะหมุดดิน หนีแล้ว

เทพภวันและญาณิศาหัวเราะเสียงดัง รู้สึกว่านี่มันเป็นเรื่องตล กชัดๆ

“เห็นหรือยัง พวกเขากำลังแสดงละครอยู่ อะไรทิ้งบัตรทองไป แล้ว ฉันว่าไม่มีตั้งแต่แรกต่างหาก ต่อไปก็จะพูดว่าไม่มีบัตรไว้ ค่อยซื้อวันหลังแล้วหัน?” เทพกวันหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง

แววตาของพนักงานที่มองรพีพงษ์เปลี่ยนเป็นรำคาญขึ้นมา แล้ว แล้วกล่าว “คุณจะซื้อหรือไม่ซื้อกันแน่?

รพีพงษ์หันหน้า แล้วเอาบัตรธนาคารของตัวเองขึ้นไปให้

“รูดบัตรล่ะกัน”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ