พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว

บทที่570 คุณไม่เคยได้ยินเรื่องของผมเหรอ



บทที่570 คุณไม่เคยได้ยินเรื่องของผมเหรอ

รพีพงษ์ได้ยินคําพูดของอารียา แววตาจึงเป็นประกายขึ้นมาทันที จึงถามขึ้นมาอย่างตื่นเต้น แคลร์ คุณนึกออกแล้วจริงๆเหรอ มากเลย ผมคิดว่ายังต้องใช้เวลาอีกนานซะอีกกว่าคุณจะฟื้น ความจําได้”

พูดพลาง รพีพงษ์จึงโผเข้ากอดอารียา เขาคิดไม่ถึงว่าการ ฟื้นฟูความจำของอารียาจะ

ง่ายดายขนาดนี้ แค่ดูภาพถ่ายใบเดียว ก็นึกออกแล้ว สิ่งที่ทำให้รพีพงษ์คิดไม่ถึงคือ อารียายังคงมีสีหน้าหวาดกลัว และผงะถอยหลัง ในแววตาเต็มไปด้วยความระแวดระวัง

ตอนนั้นรพีพงษ์รู้สึกประหลาดใจ จึงถามขึ้นแคลร์ เป็นอะไร

คุณนึกออกแล้วไม่ใช่เหรอ ”

อารียาจ้องรพีพงษ์อย่างโกธรแค้น พูดขึ้น”ฉันนึกออกแล้วว่า ตอนเรียนมหาวิทยาลัย มีแอปที่ใช้ตัดต่อรูปได้ สามารถเอารูป สองรูปตัดต่อเข้าด้วยกันอย่างไร้ตำหนิ ฉันจำได้ว่าตอนนั้นฉันยัง เคยทำรูปตัวเองกับโจวเจี๋ยหลุนเลย รูปนี้ของคุณก็ต้องเป็นภาพ ตัดต่อแน่”

รพีพงษ์พูดไม่ออกไปชั่วขณะ เขาคิดว่าอารียาจะนึกออกเรื่องที่ ว่าเป็นเมียเขา คิดไม่ถึงว่าจะนึกออกเรื่องตัดต่อแอป

“คุณมันชั่วร้าย รีบปล่อยฉันนะ ฉันไม่ยอมแพ้ให้กับคนชั่วอย่างคุณหรอก ฉันจะไปหาพ่อฉัน ให้ท่านมาลงโทษคนชั่วอย่าง คุณ! “แววตาของอารียาแปรเปลี่ยนเป็นเหม่อลอย

รพีพงษ์มองอารียาอย่างอ่อนใจ จากนั้นจึงเก็บมือถือตัวเอง กลับมา พูดขึ้น คุณไม่ต้องไปหาพ่อคุณแล้วหรอก คุณมาอยู่ ท่านเป็นคนอนุญาตเอง

“เหลวไหล! คุณพ่อจะอนุญาตให้ฉันมาอยู่กับคุณได้ไง! อารียาแทบจะไม่เชื่อคำพูดของรพีพงษ์

รพีพงษ์หาคลิปเจอในมือถือ จึงให้อารียา ในคลิปเป็น เนื้อหาที่ว่าด้วยหลังจากที่คุยกับชลาธิปเสร็จแล้ว รพีพงษ์ให้ ชลาธิปเป็นคนอัด

ชลาธิปได้บรรยายถึงที่มาที่ไปของอารียา แล้วแถมยังอธิบาย ว่าหลอกเธอมาได้อย่างไรบอกเธอว่ารพีพงษ์เป็นสามีของเธอ จริงๆ ส่วนขนมปังเป็นสายลับที่คุณนายใหญ่ส่งมาให้อยู่ข้างเธอ

อารียาฟังชลาธิปพูดอธิบายคลิป แววตาสับสนขึ้นมาทันที เธอ รู้ดีอยู่แก่ใจ รูปนั้นตัดต่อได้ แต่ว่าคลิปทำไม่ได้ รพีพงษ์ไม่ได้ หลอกเธอ

จนกระทั่งดูคลิปจนจบ อารียารู้สึกสับสนและพลุ่งพล่านในใจ เธอคิดไม่ถึงว่าตัวเองถูกทอดทิ้งแต่เด็ก โดยมีพ่อแม่บุญธรรม เลี้ยงให้เติบใหญ่ ต่อมาเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ สูญเสียความ ทรงจํา จากนั้นชลาทิปจึงรับหล่อนมาเลี้ยงที่เซี่ยงไฮ้

ส่วนคนที่เธอคิดว่าคอยสร้างความวุ่นวายให้เธอ กลับกลาย เป็นสามีเธอเสียอย่างนั้น
ชื่อของเธอ ในช่วงยี่สิบปีที่ผ่านมานี้ ไม่ใช่ชื่อดารินทร์ แต่เป็น อารียา

สําหรับคนที่สูญเสียความทรงจำแล้ว จู่ๆต้องมารู้ข่าวที่น่าสะ พรึงแบบนี้ เจ็บปวดไม่น้อย เธอรู้สึกว่าในหัวสับสนวุ่นวายไป หมด เธอรู้สึกราวกับว่ามีอะไรอีกมากมายที่รอให้เธอรื้อฟื้นความ จำขึ้นมา แต่ไม่ว่าจะพยายามยังไง ก็นึกไม่ออกว่าตกลงเป็นยังไง กันแน่

ผ่านไปเนิ่นนาน อารียาจ้องมองรพีพงษ์เหม่อลอย ถาม ขึ้น “คุณ……เป็นสามีฉันจริงๆเหรอ

รพีพงษ์พยักหน้าอย่างจริงจัง จากนั้นจึงเดินไป โอบอารียาเข้า ไว้กับตัว พูดขึ้น “คุณสบายใจเถอะนะ ขอแค่มีผมอยู่ คุณจะไม่ ต้องรับความทุกข์ยากใดๆอีก ผมจะหาทางฟื้นฟูความทรงจำคุณ ให้ได้”

ครั้งนี้อารียาไม่ขัดขืน เขาสัมผัสได้ถึงแผ่นอกของรพีพงษ์ ความรู้สึกคุ้นเคยในความอบอุ่นและเสียงหัวใจเต้น ราวกับว่า เธอเคยอิงอยู่ตรงนี้บ่อยๆ

ในที่สุด อารียาก็เลิกกีดกัน ซบหัวลงบนอกของรพีพงษ์

เป็นเพราะได้รับข้อมูลข่าวสารมากเกินไปในเวลาเดียว อารียา จึงรู้สึกเวียนหัวขึ้น ไม่นานก็ซบหลับลงบนอกรพีพงษ์ รพีพงษ์ ช้อนอุ้มรพีพงษ์ขึ้นมาวางลงบนเตียง แล้วต้องเธออยู่ เป็นนาน สองนาน แล้วจึงค่อยๆออกจากห้องไป

ในห้องทํางานของวิไลพร
รพีพงษ์จ้องมองวิไลพร ถามขึ้น เตรียมไปถึงไหนแล้ว

“โดยรวมก็เกือบเรียบร้อยแล้วล่ะ ช่วงนี้ฉันวางกองกำลังของ เทือกเขาเสนารอบๆเมือง เซี่ยงไฮ้ ควบคุมธุรกิจของบ้านธาดา วรวงศ์ไว้หมดแล้ว ขอแค่คุณสั่งมา ก็สามารถทําลายบ้านธาดาว รวงศ์แหลกเป็นผุยผง ในขณะเดียวกันฉันอยากถามเถ้าแก่ว่า เถ้าแก่วางใจให้ฉันไปทำ ตระกูลธาดาวรวงศ์ เถ้าแก่ไม่เห็นอยู่ ในสายตาเลยสินะ”วิไลพรตอบ

รพีพงษ์พยักหน้า รู้สึกนึ่งในกองกำลังสนับสนุนของเทือกเขา สนา อย่างไรเสียตระกูลธาดาวรวงศ์ก็เป็นตระกูลระดับโลก แม้ว่าจะด้อยกว่าตระกูลนิธิวรสกุลไปหน่อย แต่ถ้าเทือกเขาสนา อยากกำจัดตระกูลธาดาวรวงศ์ ตระกูลนี้ก็ต้องไหม้เป็นจุลไม่มี ทางต่อกร

“หมู่นี้คุณชายบ้านธาดาวรวงศ์เกิดอะไรขึ้นบ้างไหม รพีพงษ์กาม

“คุณชายบ้านธาดาวรวงศ์บ้าคลั่งจริงๆ ช่วงที่กลับมานี้ หา เรื่องเกือบทั่วเมืองเซี่ยงไฮ้แล้ว แล้วก็ไม่มีใครสู้เขาได้ด้วยนะ สนามมวยที่โสธรดูแลสองสามแห่ง ก็โดนฉัตรพลถล่มมาหมด แล้วแหละ โสธรกำลังเซ็งอยู่เนี่ย”วิไลพรเปิดปากพูด

รพีพงษ์ยักคิ้ว คิดไม่ถึงว่าคุณชายบ้านธาดาวรวงศ์จะคลั่งไคล้ การต่อสู้ขนาดนี้ กลับมาไม่กี่วัน รบไปทั่วเมืองเซี่ยงไฮ้แล้ว

“ปล่อยให้มันยโสต่อไปอีกสองสามวัน รอวันงานเลี้ยง ฉันจะ ทำให้มันรู้ว่าอะไรคือเซ่อชนกำแพง”รพีพงษ์พูดพลางหัวเราะ
วิไลพรพินิจดูรพีพงษ์ ยิ้มแล้วพูด “เจ้าสำนักน้อย คุณยังไม่เคย เห็นการต่อสู้ของฉัตรพล เขามีความเชื่อมั่นมาก ถ้าคุณสู้เขาไม่ ได้ไม่อายไปทั่วแผ่นดินเหรอ”

รพีพงษ์ยิ้ม มองวิไลพร ถามขึ้น หรือว่าคุณไม่เคยได้ยินเรื่อง ของผมเหรอ”

ตามหลัก รู้แค่ว่ารพีพงษ์ฝึกวิทยายุทธ์สำเร็จแล้ว ไม่สงสัยใน ศักยภาพเขาแน่นอน อย่างไรเสียการมาถึงจุดนี้ ก็คือจุดสูงสุด แล้ว

วิไลพรถามอย่างตะลึงเรื่องอะไรคะ”

ไม่กี่ปีมานี้เธอพัฒนาตนอยู่ที่เซี่ยงไฮ้ตลอด สำหรับเรื่องที่เกิด ขึ้นในเทือกเขาสนา เธอ ไม่รู้เลย

รอยยิ้มรพีพงษ์หายไป พูดขึ้น”งั้นผมถามอย่างนี้ คุณคิดว่า

ฉัตรพลจะชนะดัมพ์รงค์ได้ไหม”

วิไลพรนิ่งงันครู่หนึ่ง พูดขึ้น ดัมพ์รงค์เก่งมาก แต่ว่าฉัตรพล เรียนวิชามาจากอาจารย์ที่ประเทศประเทศญี่ปุ่น ก็ไม่กระจอก เหมือนกัน ทั้งสองฝ่ายใครแข็งใครอ่อนยากที่จะพูด

“คุณถามแบบนี้ คงไม่ได้ต้องการจะบอกว่า คุณฝีมือเท่าดัมพ์ รงค์หรอกนะ เจ้าสำนักน้อย ฉันไม่ใช่ดูแคลนคุณ แต่วิชาสูง ขนาดดัมพ์รงค์ ร้อยปีมีครั้ง ไม่ได้จะเป็นกันง่ายๆ

รพีพงษ์มองวิไลพรอย่างนิ่งๆ พูดว่า “ดัมพ์รงค์เป็นเชลยแพ้ให้ กับผม”
วิไลพรตาค้าง จ้องมองรพีพงษ์อย่างตกใจ

“จริง…….จริงเหรอ เมื่อไหร่กัน”วิไลพรถาม “ก่อนหน้านี้เอง ที่เวทีท้าประลอง เขาเป็นคู่ปะทะคนสุดท้าย วิไลพรลมหายใจเย็นวาบ จนเกือบคุกเข่าให้รพีพงษ์


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ