พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว

บทที่780 งานศิลปะการต่อสู้



บทที่780 งานศิลปะการต่อสู้

ข่าวการจัดการประชุมใหญ่ของศิลปะการต่อสู้เกียวโต ได้แพร่ สะพัดไปทั่วประเทศจีน ไม่เพียงแค่คนของศิลปะการต่อสู้รู้เรื่องนี้ แม้แต่คนทั่วไปก็ได้ยินเรื่องนี้เช่นกัน

และบดีควรให้คนไปป่าวประกาศ เน้นย้ำให้รพีพงษ์เข้าร่วม ให้ได้ บอกว่าศิลปะการต่อสู้ทั่วประเทศจีน มีเกือบครึ่งที่อยาก ท้าทายกับเขา

เพื่อบีบให้รพีพงษ์เข้าร่วมการประชุมใหญ่ครั้งนี้ พวกเขายัง ตั้งใจป่าวประกาศว่าฝีมือของรพีพงษ์ไม่ได้เก่งกาจอย่างที่รู้กัน ที่ เขาสามารถฆ่าปรมาจารย์ทั้งสองของตระกูลภูธนได้นั้น เพราะ โชคดี

ตามความคิดของบดีศวร รพีพงษ์อายุเพียงแค่ยี่สิบกว่าปี และ ความสามารถก็เก่งกาจ ต้องยโสโอหังแน่นอน แต่ได้ยินคน สงสัยในฝีมือเขา เขาจะต้องออกมาพิสูจน์ฝีมือของตัวเองแน่นอน

และตระกูลลัดดาวัลย์เป็นตระกูลที่มีชื่อเสียงของเกียวโต ใน เกียวโตรพีพงษ์มีชื่อเสียงโด่งดังอย่างมาก ตอนนี้ทั้งเกียวโตล้วน รู้แล้วว่าผู้คนในโลกศิลปะการต่อสู้มีคนท้าทายรพีพงษ์ หากร พงษ์ไม่ออกมาต่อกร แสดงว่าเขากลัว แบบนี้ตำแหน่งของร พงษ์สายตาของคนทั่วไปก็จะลดลงไปอีก

ถ้ารพีพงษ์ไม่อยากมีฉายาใจปลาซิว ก็ต้องออกโรงมา
เพียงแค่รพีพงษ์มาร่วมงานประชุมศิลปะการต่อสู้นี้ได้ ที่เหลือ ก็ง่ายแล้ว นายใหญ่ของห้าตระกูลใหญ่ได้ปรึกษาแผนการที่จะ ต่อกรกับรพีพงษ์เรียบร้อยแล้ว

ในฐานะที่เป็นมาตรฐานของศิลปะการต่อสู้ของประเทศจีน ตระกูลทั้งห้าค่อนข้างต้องการเกียรติยศ ดังนั้นวิธีการที่จะต่อกร รพีพงษ์จึงออกมาดูดีสักหน่อย นอกเสียจากจัดการไม่ได้ พวกเขา จึงจะใช้วิธีสกปรก

ผู้คนของศิลปะการต่อสู้ทั้งประเทศได้บินมายังเกียวโต ผู้คน เหล่านี้ล้วนไม่ค่อยปรากฏตัวในสังคมทั่วไป ครั้งแรกที่จัดที่เกี่ยว โต ช่วงเวลานี้ทั้งเกียวโตมักจะเห็นผู้กล้าเดินอยู่ทั่วๆไป บ้างก็ สวมใส่ชุดโบราณ ทำเอาประชากรเกียวโตงงกันเป็นแถวๆ

รพีพงษ์และอารยาทั้งสองนั่งเครื่องจากเมืองเย็นหยางกลับมา เกียวโต เพิ่งออกจากเครื่องบิน ก็เห็นป้ายโฆษณาที่คนมุงดูอยู่ไม่ ไกล

อารียาค่อนข้างแปลกใจ จึงพารพีพงษ์เดินไปทางนั้น อยากรู้ ว่าพวกเขากำลังดูอะไรอยู่

มาถึงด้านหน้าของป้ายโฆษณา สิ่งที่สะท้อนเข้าไปนัยน์ตาของ รพีพงษ์และอารียา คือ งานประชุมศิลปะการต่อสู้” คำนี้

ด้านล่างเป็นการแนะนำเกี่ยวกับการประชุมศิลปะการต่อสู้ ห้า ตระกูลใหญ่ทำแบบนี้เพื่อให้คนทั่วไปเข้าใจการประชุมใหญ่ ศิลปะการต่อสู้นี้ได้ง่าย จึงได้พูดว่าเป็นการแข่งขันศิลปะการ ต่อสู้
ด้านล่างสุดของโฆษณา เขียนว่า “อยากเห็นนายใหญ่ของ ตระกูลลัดดาวัลย์ถูกต่อย ก็มาที่งานประชุมศิลปะการต่อสู้นี้! จากนั้นก็เป็นสถานที่จัดงาน ที่ยิมเนเซียมหอการค้าที่ใหญ่ที่สุด ของเกียวโต

แม้ตระกูลใหญ่ทั้งห้าจะตั้งหน้าตั้งตาในศิลปะการต่อสู้ แต่ ทรัพย์สินของพวกเขาก็มากไม่ใช่น้อย ดังนั้นเช่าสถานที่จัดการ แข่งขัน และทำโฆษณาถือว่าเป็นเรื่องที่ง่ายมาก

หลังจากที่รพีพงษ์เห็นประโยคสุดท้ายแล้วนั้น ก็ขมวดคิ้ว ไม่ เข้าใจว่าทำไมการประชุมศิลปะครั้งนี้ต้องลากตัวเองเข้ามา เกี่ยวข้อง

อารียาหันไปมองรพีพงษ์ กล่าว “การประชุมศิลปะการต่อสู้ที่ มันไร้ยางอายเกินไปแล้วปะ เพื่อดึงดูดสายตาคน จึงต้องโฆษณา ต่าช้าแบบ ”

รพีพงษ์นิ่งเงียบไปสักพัก แล้วหันมองวัยรุ่นที่อยู่ข้างๆ ถาม “สหาย คุณรู้ไหมว่างานประชุมศิลปะการต่อสู้ที่เป็นไง? ใครเป็น ผู้จัด?”

วัยรุ่นมองไปที่รพีพงษ์ แม้รพีพงษ์มีชื่อเสียงในเมืองเกียวโต แต่ไม่ใช่ทุกคนที่จะรู้ว่ารพีพงษ์หน้าตาเป็นไง

“งานประชุมศิลปะการต่อสู้ที่ดังมากเลยนะ คุณไม่รู้หรอ ได้ยิน มาว่าผู้จัดคือห้าตระกูลใหญ่ แล้วผู้คนของศิลปะการต่อสู้ทั้งหมด ก็จะมาเข้าร่วมในงานนี้ ค่อนข้างมีลึกลับอยู่นะ ศตวรรษที่ยี่สิบ เอ็ดเข้าไปแล้ว จะมีศิลปะการต่อสู้อะไรอีก แต่ฟังๆไปก็ดูน่าสนใจดีนะ ได้ยินมาว่านายใหญ่ของตระกูลลัดดาวัลย์ก็จะเข้าร่วม นาย ใหญ่ของตระกูลลัดดาวัลย์เป็นคนที่มีความสามารถ แต่งาน ศิลปะการต่อสู้นี้บอกว่าจะต่อยนายใหญ่ของตระกูลลัดดาวัลย์ ไม่รู้ว่าจริงเท็จแค่ไหน” วัยรุ่นกล่าว

ฟังวัยรุ่นพูดจบ รพีพงษ์ก็พยักหน้า ห้าตระกูลใหญ่นั้น น่าจะ เหมือนกับตระกูลภูธน เขาไม่คาดคิดว่าตระกูลที่เหมือนตระกูลภู ธน จะมีห้าตระกูล

และที่พวกเขาทั้งหมดมางานประชุมศิลปะการต่อสู้นี้ ตั้งใจเอา

ตัวเองทําโฆษณา น่าจะมาเพื่อตนเอง

“ปัญหาช่วงนี้เยอะจริงๆ แต่แบบนี้ก็ดี มีโอกาสได้ทดสอบพลัง ของตัวเอง ฝึกฝนฟรี ผมไม่รังเกียจอยู่แล้ว” รพีพงษ์ยิ้มพลาง กล่าว

วัยรุ่นคนนั้นจ้องรพีพงษ์อย่างสงสัย รู้สึกว่าคนที่อยู่ตรงหน้านี้

คุ้นๆ

“สหาย คุณทำงานอะไร ทำไมรู้สึกคุ้นหน้าคุณจัง?” วับรุ่นถาม รพีพงษ์ยิ้ม กล่าว “รับจ้างชกต่อย”

พูดจบ เขาก็จับมืออารียา แล้วเดินจากไป

วัยรุ่นคนนั้นจ้องไปที่แผ่นหลังของรพีพงษ์ รู้สึกเดาไม่ถูก ผ่าน ไปไม่นาน เขาก็เริ่มนึกออก แล้วรีบกล่าวอย่างตะลึงว่า “นาย ใหญ่….ตระกูลลัดดาวัลย์! รพีพงษ์! พระเจ้า เมื่อกี้ที่พูดกับผม คือนายใหญ่ของตระกูลลัดดาวัลย์!”
กลับมายังคฤหาสน์ใหญ่ตระกูลลัดดาวัลย์ ทุกคนของตระกูล ลัดดาวัลย์ล้วนอยู่ในห้องโถงทั้งหมด กำลังพูดคุยกันเรื่องงาน ศิลปะการต่อสู้

“คนพวกนี้ไม่จบไม่สิ้น หมดไปหนึ่ง กลับมาอีกห้า ผู้คนของ ศิลปะการต่อสู้ของพวกคุณใจแคบกว่านักธุรกิจอย่างเราๆอีก ถึง ขั้นต้นทำกันแบบนี้เลยหรอ” ชลาธิปกล่าวอย่างรำคาญ

ทุกคนก็เริ่มรำคาญ พวกเขาเห็นด้วยกับคำพูดของชลาธิป แต่

เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับใจแคบไม่แคบแล้ว

พูดได้แค่ว่าผู้คนของโลกศิลปะการต่อสู้ ให้ความสำคัญกับ การล้างแค้น

หลังจากที่รพีพงษ์กลับมาแล้วนั้น ก็ได้ทำความเข้าใจตระกูล ใหญ่ทั้งห้าจากเวทัสและดำเกิง รู้ถึงเป้าหมายที่พวกเขาได้จัด งานศิลปะการต่อสู้ในครั้งนี้แล้ว ดูจากสถานการณ์ ห้าตระกูล กลัวว่าตัวเองจะทำให้โลกของศิลปะการต่อสู้เป็นอันตราย จึงหา เรื่องกําจัดเขาเสีย

“รุ่นพี่รพีพงษ์ คุณร่วมงานศิลปะการต่อสู้นี้ไม่ได้นะ ห้าตระกูล ใหญ่ร่วมมือกัน นี่ไม่ใช่ตระกูลภูธนตระกูลเดียวเทียบได้นะ ถ้า คุณเข้าร่วมจริงๆ ก็ตกหลุมของพวกเขาแน่นอน แม้พวกเราจะ ขลาดไปหน่อย รีบติดต่ออาจารย์ ห้ามถูกพวกมันหลอกเด็ดขาด เลยนะ” ดำเกิงมองไปที่รพีพงษ์อย่างกังวล จึงขอร้อง

รพีพงษ์ยิ้ม กล่าว “เค้าเน้นย้ำให้ผมไปเข้าร่วม ถ้าผมไม่ไป ในสายตาของคนเกียวโต ก็ต้องมองผมเป็นตัวตลกนะสิ”

“แล้วไง เป็นตัวตลกก็ดีกว่าต้องเสียชีวิตนะ” ดำเกิงกล่าว

“สบายใจได้ แม้ผมเข้าร่วม ห้าตระกูลใหญ่นี้ ก็ทําอะไรผมไม่

ได้” รพีพงษ์กล่าว

ดำเกิงรู้สึกว่ารพีพงษ์ประมาทเกินไป กำลังจะขอร้องเขา ก็มี คนวิ่งมาจากด้านนอก แล้วตะโกน “นายใหญ่ ด้านนอกมีคน หนึ่งที่เป็นนายใหญ่ของตระกูลคืนกุลอยากพบท่าน


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ