พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว

บทที่893 สถานการณ์พลิก



บทที่893 สถานการณ์พลิก

เด็กน้อย แกไม่ชนะฉันหรอก ตายซะเถอะ!” ปรินทรฟาดลำแสง ในมือเอาไปด้วยพลังที่ไม่มีใครต้านทานได้ใส่รพีพงษ์

ขณะนี้รพีพงษ์ได้ไหลเวียนวิธีลับ พลังของเขาก็เพิ่มขึ้นไปอีก ขั้น เห็นปรินทรฟาดลำแสงมาที่ตน รพีพงษ์ก็ยกมุรามาสะในมือ ขึ้น พลังมา รอบๆมุรามาสะเต็มไปด้วยกลลวงตามีดยาว ชนกับ นําแสงยาว น

พลังทั้งสองมากระทบกัน แตกออก สลายไปในอากาศ

ปรินทรมองเหตุการณ์ด้วยความประหลาดใจ การโจมตีของ เขาเมื่อกี้นั้นค่อนข้างที่จะตั้งใจ รพีพงษ์ที่เหมือนจะแพ้ไม่มีทาง ต้านทานได้ แต่ตอนนี้การโจมตีครั้งนี้กลับแตกสลาย เกินคาดที่ ปรินทรคิดไว้จริงๆ

และปรินทรก็รับรู้ได้ถึงความเปลี่ยนแปลงของรพีพงษ์ เทียบ กับเมื่อกี้ อย่างน้อยพลังของรพีพงษ์ก็เพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว แม้จะ เทียบกับแดนดั่งเทพขั้นต้นของเขา ไม่แย่ไปกว่าใคร

“พลังของแกทำไมแข็งแกร่งกว่าเมื่อกี้เยอะขนาดนี้? จากท่าที ของแกก่อนหน้านี้ ไม่มีทางต่อต้านการโจมตีเมื่อกี้ของฉันได้!” ปรินทรจองรพีพงษ์แล้วถาม

รพีพงษ์ยิ้มให้กับปรินทร กล่าว “ถามแบบนี้ คิดดีกว่าว่าถ้า ไปหาพญายมแล้วจะอธิบายความชั่วของแกยังไง!
พูดจบ มุรามาสะที่อยู่ในมือของรพีพงษ์ก็ประกายแสงอร่าม จากนั้นรพีพงษ์ก็ปรากฏตัวอยู่ด้านหน้าของปรินทร ปรินทรไป แล้วรีบรับมือ ทั้งคู่เริ่มต่อสู้กันอีกครั้ง แต่ครั้งนี้รพีพงษ์ไม่เสีย เปรียบแล้ว ถึงขั้นรู้สึกว่าสามารถกดดันปรินทรได้

แม้รพีพงษ์จะไม่พูดว่าทำไมตัวเองถึงได้แข็งแกร่งกะทันหัน แต่ ในใจปรินทรก็เดาว่า รพีพงษ์จะต้องกินยาชั้นเลิศ ดังนั้นพลังจึง ได้ระเบิดเพิ่มขึ้นมา

ยาชั้นเลิศเทียบได้กับของล้ำค่า แม้จะเป็นแดนดั่งเทพ อยาก จะได้มันก็ยากเหลือเกิน ตอนนั้นที่อาจารย์โอบนิธิสามารถเอายา ชั้นเลิศได้นั้น ก็เพราะพบโครงกระดูกลึกลับในถ้ำ

ไม่งั้นด้วยฝีมือของอาจารย์โอบนิธิ ไม่มีทางได้เจอกับของพวก นี้หรอก รพีพงษ์โชคดี กำจัดอาจารย์โอบนิธิ ดังนั้นจึงได้ยาชั้น เลิศมาสองเม็ด

ปรินทรก็อยากได้ยาชั้นเลิศแบบนี้เช่นกัน แต่เพราะหนีตาย และยานี้ก็มีจำนวนน้อย ดังนั้นเขาก็ได้แต่ฟังคนอื่นเรื่อง ประโยชน์ของยาชั้นเลิศ

และกลุ่มสิงโตในฐานะที่เป็นกลุ่มที่ใหญ่ที่สุดของประเทศจีน อยากได้ยาชั้นเลิศมานั้นก็ไม่ได้เป็นเรื่องที่ยากอะไร ดังนั้นปรินท รจึงคิดว่ารพีพงษ์ต้องกินยาชั้นเลิศนี้แล้วอย่างแน่นอน

“แม่งเอ้ย กลุ่มสิงโตให้เกียรติไอ้เด็กเหลือเกิน ให้ยาชั้นเลิศ มันอีก ยุ่งยากล่ะทีนี้”

ปรินทรด่า
ถ้าเขารู้ว่าสิ่งที่รพีพงษ์ใช้เป็นวิธีลับในการเพิ่มพลังและกินยา ชั้นเลิศล่ะก็ เกรงว่าจะตะลึงจนพูดไม่ออกเลยล่ะ

ผู้คนด้านล่างเห็นสถานการณ์พลิก ก็ล้วนนึกไม่ถึงกัน เมื่อกร พงษ์ยังเสียเปรียบอยู่เลย ไม่นาน รพีพงษ์ก็เริ่มได้เปรียบปรินทร แล้วเสียอย่างนั้น

อารียาเห็นรพีพงษ์ไม่เสียเปรียบแล้ว ก็โล่งใจขึ้น ภาวนาให้

รพีพงษ์กำจัดปรินทรตัวปัญหานี้เร็วขึ้นหน่อย

ตอนแรกประวีร์และดิลวิลทั้งคู่คิดว่าการต่อสู้ครั้งนี้หปรินทรจะ ต้องชนะรพีพงษ์แน่นอน แต่เหตุการณ์ในตอนนี้แล้วเปลี่ยนไป พวกเขายังรับกับเหตุการณ์ไม่ทัน

“ลูกชาย ทำไมพ่อรู้สึกว่าพลังของรพีพงษ์มากกว่าผู้ยิ่งใหญ่ แล้วล่ะ นี่มันเกิดอะไรขึ้น? ผู้ยิ่งใหญ่คงไม่แพ้รพีพงษ์หรอกนะ? ดิลวิลกล่าวอย่างกังวล

ประวีร์ก็เริ่มกระวนกระวาย แล้วกล่าว “น่าจะ…..ไม่หรอกมั้ง แต่รพีพงษ์มันไม่เหมือนกับเมื่อกี้จริงๆ ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป การ ต่อสู้ครั้งนี้ใครแพ้ใครชนะ ไม่แน่ใจเลยจริงๆ”

“งั้นพวกเราจะฉวยโอกาสนี้หนีดีมั้ย ยังไงแพ้หรือชนะก็ไม่ เกี่ยวอะไรกับเรา ถ้าแพ้ เราทั้งสองจะโชคร้ายนะ” ดิลวิลกล่าว

ประวีร์รู้สึกว่าที่เขาพูดนั้นมีเหตุผล หลังจากที่จ้องไปที่การต่อสู้ ของทั้งสองแล้วนั้น แล้วพูดเบาๆว่า “ไป”

จากนั้นเขาก็หันหลัง แล้วเดินออกไปด้านนอก
ติลวิลรีบตามไปติดๆ ถ้าตอนนี้ไม่ไป รอให้เหตุการณ์แย่ลง พวกเขาจะหนีไม่ได้แล้ว

แต่พวกเขาเพิ่งจะเดินได้ไม่กี่ก้าว ก็ถูกครองภพขวางไว้ แม้ตอนนั้นพวกเขาเจ็บได้รับบาดเจ็บ แต่ถ้าต่อกรกับคน ธรรมดานั้นสบายมาก

“พวกแกจะไปไหน?” ครองภพมองไปที่พวกเขาแล้วถาม

ประวีร์กล่าว “พวกเราไปเข้าห้องน้ำ ทำไม พวกแกมีปัญหา หรือไง จะบอกให้นะ เดี๋ยวผู้ยิ่งใหญ่ก็ชนะแล้ว พวกแกก็ต้องแบก รับกับสิ่งที่จะตามมาแล้ว ไสหัวไปซะ

ครองภพถีบไปที่ประวีร์ แล้วด่า “ชนะเชี้ยไรล่ะ ถึงอยู่นิ่งๆตรง นี้แหละ พวกมึงทั้งคู่ อย่าคิดจะได้ไปจากเกียวโต”

บนหลังคา รพีพงษ์กับปรินทรจู่โจมกันไม่หยุด ขณะนี้ปรินทร

เริ่มหายใจไม่ทัน บนหัวเต็มไปด้วยเหงื่อ

เขาหลับตาแล้วมองไปที่รพีพงษ์ รู้ว่าถ้าไม่รีบจัดการรพีพงษ์ ต่อไปจะไม่มีโอกาสอีกแล้ว

รพีพงษ์ก็จ้องปรินทรอย่างเคร่งเครียด แม้วิธีลับจะทำให้พลัง

ของเขาไปถึงขั้นแดนดั่งเทพขั้นต้นแล้วก็ตาม แต่วิธีลับก็มีเวลา จํากัดของมัน ผ่านช่วงนี้ไป ถ้าเขายังไม่จัดการปรินทร ให้ได้ ปัญหาก็จะยิ่งยุ่งยากขึ้น

ดังนั้นรพีพงษ์ไม่ลังเลอีกต่อไป พลังรอบตัวเดือดพล่าน ไปรวม กันที่มุรามาสะที่อยู่ในมือ
ปรินทร ความคิดเช่นเดียวกับรพีพงษ์ ดังนั้นจึงรีบไหลเวียน กำลังภายใน รวมกันไว้ที่ลำแสง กัดฟันแล้วสาดไปที่รพีพงษ์

ลำแสงกลลวงตาที่ใหญ่มากมาจากบนท้องฟ้า สาดไปที่บนหัว

ของรพีพงษ์ พลังทั้งหมดทำเอาคฤหาสน์สั่นไหวทั้งหลัง

ในตัวรพีพงษ์ก็ปรากฏมีดยาวกลลวงตาอย่างใหญ่โตเช่นกัน เป็นสายฟ้ามาจากบนท้องฟ้า แล้วผ่าไปที่ตัวของปรินทร

“ทาธันเดอร์!”

กลลวงตาทั้งสองท่าปะทะเข้าด้วยกัน พลังอันมหาศาลแพร่ กระจายไปรอบๆ มีเสียงระเบิดดังสนั่นหวั่นไหว

แม้พื้นที่ของคฤหาสน์ใหญ่ตระกูลลัดดาวัลย์จะเยอะ แต่ว่าการ ปะทะกันครั้งนี้มันน่ากลัวจริงๆ คนรอบๆข้างก็ได้ยินเสียงสนั่น หวั่นไหว จากนั้นก็มองมาที่คฤหาสน์ใหญ่ของตระกูลลัดดาวัลย์ เห็นลำแสงกลลวงตาและดาบยาวกลลวงตาปะทะเข้าด้วยกัน ก็ ตะลึง

“คุณพระ ตระกูลลัดดาวัลย์กำลังแสดงแสงสีหรือเปล่าเนี่ย?”

ผู้ชายส่งอาหารเดินผ่านมาที่คฤหาสน์ใหญ่ตระกูลลัดดาวัลย์ เห็นเหตุการณ์นี้ ก็อ้าปากค้าง

แต่ไม่นานเขาก็รับรู้ได้ว่านี่ไม่ใช่งานแสดงแสงสี เมื่อกี้เป็นกล ลวงตาทั้งสอง แล้วยังมีพลังที่น่ากลัวอีกด้วย

เพราะสิ่งที่เขาเห็น คฤหาสน์ใหญ่ตระกูลลัดดาวัลย์ที่สูงที่สุด หลังจากที่ปรากฏกลลวงตาทั้งสองแล้ว ก็พังลงทันใด


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ