พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว

บทที่ 467 ซัดหน้าศศินัดดา



บทที่ 467 ซัดหน้าศศินัดดา

ชุมชนคําแหง

ศศินัดดานั่งอยู่บนโซฟา เขาคิดถึงตอนที่รพีพงษ์อยู่ที่หน้า บ้านเมื่อครู่ ก็รู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาในใจ

แต่หลังจากที่รพีพงษ์ไป เธอกลับมานั่งตั้งสติบนโซฟา จู่ๆ กลับรู้สึกกลัวขึ้นมา

ถึงแม้ว่าเธอจะเกลียดและดูถูกรพีพงษ์มาตลอด แต่สิ่งที่เธอไม่ สามารถละเลยได้ก็คือ ตอนนี้รพีพงษ์มีหน้ามีตาในเมืองริเวอร์ แถมยังมีความสัมพันธ์แน่นแฟ้นกับตระกูลลัดดาวัลย์ คน ธรรมดาอย่างเธอไม่สามารถต้านทานได้อย่างแน่นอน

ขนาดโรงแรม โรงแรมบลูสกายอินเตอร์เนชั่นเนลที่เป็นชื่อเธอ รพีพงษ์ก็เป็นคนให้

ตอนนี้ที่บริษัทตระกูลฉัตรมงคลล้มละลาย อารียาหายตัวไป เธอเป็นคนทำให้เรื่องมันเลยเถิด ถ้ารพีพงษ์กลับมาแล้วรู้เรื่องนี้ เขาคงไม่ปล่อยเธอไว้แน่

เพราะฉะนั้นตอนนี้เธอถึงกับนั่งไม่ติด คิดว่าถ้าอีกเดี๋ยวรพีพงษ์ มาหาเรื่องเธอ จะทำยังไงดี

“ไอ้คนไม่ได้เรื่องสักอย่าง ทำไมไม่ตายๆ ไปซะ จะกลับมา ทำไม เดิมฉันก็วุ่นวายจะตายแล้ว ยังมาสร้างเรื่องวุ่นวายให้ฉัน อีก” ศศินัดดาบ่นพึมพำ
ขณะนั้นเอง มีเสียงเคาะประตูดังขึ้นจากข้างนอก ศศินัดดา ตกใจจนสะดุ้งโหยง

เธอรีบลุกขึ้นแล้วเดินมาที่ประตู เธอมองออกไปข้างนอกผ่าน ตาแมวที่ประตู พบว่าคนที่ยืนอยู่ข้างนอกคือรพีพงษ์ อีกทั้งยังมีธ ฤตญาณกับไตรทศด้วย หัวใจของเธอเต้นตึกตัก

ดูเหมือนว่ารพีพงษ์จะรู้เรื่องของอารียาแล้ว ดูก็รู้ว่าเขากลับ จัดการเธอ

ศศินัดดารู้สึกเครียด เธอไม่รู้จะทำอย่างไรดี หรือจะทําเป็นว่า ไม่มีใครอยู่ที่บ้าน รอจนรพีพงษ์ออกไป แล้วเธอค่อยเก็บของหนี ออกจากที่นี่

“ผมรู้ว่าคุณอยู่ข้างใน เปิดประตู ไม่งั้นผมจะลงมือทันที” เสียง ของรพีพงษ์ดังขึ้น ศศินัดดาเบิกตาโพลง คิดไม่ถึงว่ารพีพงษ์จะรู้ ว่าเธออยู่ข้างใน เธอรู้สึกขนลุกขึ้นมาทันที ไอ้หมอนี่เป็นปีศาจ ชัดๆ มันขึ้นมาจากนรกแน่ๆ มิน่าล่ะถึงหาเรื่องซวยมาให้ ครอบครัวเธอตลอด

“ไม่แน่ไอ้หมอนี่อาจจะแค่ทำกร่าง เมื่อกี้ฉันไม่ได้ทำอะไรเสียง ดังนี้ มันรู้ได้ยังไงว่าฉันอยู่ข้างใน ถึงจะรู้แล้วจะทำอะไรได้ ถ้าฉัน ไม่เปิดประตูซะอย่าง หรือมันจะพังประตูเข้ามางั้นเหรอ ประตู บานนี้ทนทานมาก ฉันไม่เชื่อหรอกว่ามันจะพึงเข้ามาได้” ศศิ นัดดาพูดพิมพ์ในใจ

“ผมให้เวลาคุณสามวินาที ความอดทนของผมมีขีดจำกัด” รพี พงษ์พูดขึ้นอีกครั้ง
ศศินัดดาแสยะยิ้ม แล้วบ่นพึมพำในใจ “ถึงจะให้ฉันสาม วินาที ฉันก็ไม่เปิดประตูให้แกหรอก ฉันว่าสมองมันมีปัญหา ถ้า แกมีไหวพริบจริงๆ แกไม่ต้องมายุ่งอะไรทั้งนั้น แล้วรีบไสหัวออก ไปบ้านฉันซะ”

รพีพงษ์นับเวลาอยู่ในใจ เมื่อเห็นว่าศศินัดดาไม่ยอมเปิด ประตู เขาจึงไม่อยากเสียเวลาต่อไป เขาถอยหลังไปสองก้าว จากนั้นยกเท้าขึ้นมาถีบไปที่ประตู

เสียงดังปัง

ประตูถูกถีบจนเปิดออก คนที่กำลังดูผ่านตาแมวอย่างศศิ นัดดา ก็โดนประตูกระแทกจนล้มลงกับพื้น เธอร้องออกมาอย่าง เจ็บปวด

“โอ๊ย หน้าฉัน แกจะให้ฉันตายหรือไง แกนี่มันสมควรตาย จริงๆ ประตูบ้านฉันโดนแกถีบจนพังแล้ว ที่นี่ไม่ต้อนรับแก รีบ ใสหัวไปซะ” ศศินัดดาเอามือกุมหน้าตัวเอง แล้วพูดครวญคราง ออกมา

รพีพงษ์พาธฤตญาณกับไตรทศเดินเข้ามา เขามองศศินัดดาที่ นั่งอยู่บนพื้นด้วยสีหน้าไร้ความรู้สึก แววตาของเขาเต็มไปด้วย ความเย็นยะเยือก

“ทําไมคุณต้องช่วยธาตุกรทำให้บริษัทล้มละลาย อย่าบอกนะ ว่าคุณไม่รู้ว่าบริษัทเป็นเลือดเนื้อของอารี? ถ้าคุณไม่ทำเรื่องนี้ อารีก็คงจะไม่โกรธจนออกจากบ้านไป และก็คงไม่เกิดเรื่องขึ้น คุณรู้หรือเปล่าว่าตัวเองทำผิดพลาดแค่ไหน” รพีพงษ์พูดด้วยน้ำเสียงเยื่อใย

ศศินัดดาได้ยินสิ่งรพีพงษ์พูด ดวงตาของแดงด้วย ความโกรธ ความผิดของฉันงั้นเหรอ แกเลิกไร้สาระเสียที ทั้งหมดมันเป็นเลือดเนื้อของอารี แต่ลูกฉันทำงานเพื่อแก แกใช้ประโยชน์ จากสาวฉันหาเงินแก การฉันอย่างนี้ เพราะจะลูกฉันหลุดพ้นจากการควบคุมของ

การที่อารความซวยมาให้ครอบครัวของเรา เรื่องแบบมันเกิดขึ้นฉันยังไม่คิดบัญชีแก แกมาสั่งสอนฉันแล้ว แกมีสิทธิ์ อะไร

แววของรพีพงษ์ฉายแววเย็นยะเยือก เขาพูดด้วยเสียง เย็นชาว่า แล้วคุณเคยคิดหรือเปล่าว่าคุณไม่เรื่องแบบถ้าคุณไม่คิดอคติกับผม เรื่องพวกคงหรอก ตอนคุณยังผิดอีกหรือเปล่า

นัดดาคิดหนึ่ง เธอว่าเธอไม่เข้าไปผสมโรงกับ เรื่องทั้งหมด มันคงไม่เกิดเรื่องวุ่นวายแบบจู่เธอก็รู้สึกกลัว กับของ

“กะ อย่านึกว่าพูดโยนความผิดนะ ว่าเรื่องฉัน จะมีส่วนผิด แต่สาเหตุสำคัญก็เพราะแก แกคิดว่าแกจะหนีได้รอศศินัดดาทําเป็นอ้างเหตุผล

“คุณควรบอกว่าเรื่องทั้งหมดมีส่วนต้องรับผิดชอบตรงไหน” รพีพงษ์เอ่ยขึ้น

จู่ๆ ศศินัดดาก็พูดไม่ออก เธอไม่รู้ว่าจะพูดอย่างไรดี

“อารีเป็นลูกสาวของคุณ แต่คุณกลับทำให้เธอลำบากใจ

ทำให้เธอตกอยู่ในสถานการณ์อันตรายไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง คุณ ทําถึงขนาดทําลายเลือดเนื้อของเธอ แถมยังร่วมมือกับคนอื่นมา ทําร้ายเธอ คุณสมควรเป็นแม่คนไหม” รพีพงษ์เดินมาหยุดตรงหน้าของศศินัดดา เขาย่อตัวลง

สายตาของเขาเต็มไปด้วยคำถาม

ศศินัดดารู้สึกเหมือนว่าถูกกระชากวิญญาณออกมาอย่างไร อย่างนั้น จู่ๆ เธอก็ไม่กล้าสบตารพีพงษ์

ผ่านไปครู่หนึ่ง เธออดกลั้นความไม่สบายใจ ท่าทางของเธอ เหมือนไม่มีทางเลือกอีกแล้ว เธอจ้องรพีพงษ์แล้วตะโกนออกมา ว่า “ทำไมฉันจะไม่คู่ควร ลูกสาวของฉันโดนแกล้างสมอง ศักดา ชนิสราก็โดนแกล้างสมองเหมือนกัน แกนั่นแหละคือตัวการ แก อย่าคิดจะโยนความผิดให้คนอื่น!

รพีพงษ์ยกมือขึ้นแล้วตบไปที่หน้าของศศินัดดาอย่างไร้เยื่อใย

“ผมยอมรับกับสิ่งที่ผมต้องรับผิดชอบ แล้วคุณล่ะ” รพีพงษ์

จ้องศศินัดดาเขม็ง

เขาไม่เคยคิดว่าจะเกิดเรื่องขึ้นกับอารียา เขาจึงสามารถทำ เรื่องให้กระจ่างได้ เขาคิดว่าการที่เธอเจอเรื่องแบบนี้ เพราะว่า เขาปกป้องเธอได้ไม่ดี โยษิตาทำร้ายเธอก็เพราะรพีพงษ์
ทำให้รพีพงษ์รู้สึกผิดและโทษตัวเองอยู่ในใจ เขารู้ถึงสิ่งที่ต้อง รับผิดชอบดี และไม่เคยคิดที่จะหนีมันเลยด้วยซ้ำ

แต่ทว่าศศินัดดาที่เป็นตัวการใหญ่ของเรื่องนี้กลับไม่ยอม ความผิดของตัวเอง แถมยังโยนความผิดทั้งหมดมาให้รพีพงษ์

พูดว่ารพีพงษ์คือตัวซวย จนกลายเป็นข้ออ้างที่เธอชอบพูด

นี่มันทำให้เขาไม่สามารถอ่อนข้อให้ได้

“ฉันต้องยอมรับอะไร นี่มันเป็นความผิดของแกทั้งหมด” ศศิ นัดดายังคงไม่ยอมรับความผิดของตัวเอง

รพีพงษ์ตบลงไปที่หน้าของเธออีกครั้ง

“แกยังกล้าตบฉันอีกเหรอ บ้าไปแล้วหรือไง ถ้าคนอื่นรู้ต้อง เป็นเรื่องใหญ่แน่!” ศศินัดดาพูดด้วยน้ำเสียงแสบแก้วหู

“คนอื่นรู้แล้วยังไง คุณทำผิดก็ต้องได้รับการลงโทษ!

รพีพงษ์ คอเสื้อของศศินัดดา แล้วดึงเธอขึ้นมาจากพื้น จาก นั้นก็ตบเธอต่อไปเรื่อยๆ

ศศินัดดาขัดขืนไม่หยุด เธอใช้มือทั้งสองข้างตะกายไปข้าง หน้ารพีพงษ์ แต่เขาไม่ได้สนใจ และตบศศินัดดาเพื่อระบาย ความโกรธต่อไป

ผ่านไปไม่นาน ศศินัดดาถูกตบจนเกือบจะไม่มีสติ มือของเธอ ตกอยู่ข้างลำตัว มุมปากมีเลือดไหลออกมาไม่หยุด เธอหน้าซีด และไร้เรี่ยวแรง
ถ้าปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไป รพีพงษ์ต้องตบเธอจนตายอย่าง แน่นอน

ธฤตญาณที่ยืนอยู่ด้านหลังเห็นเช่นนั้น จึงรีบก้าวเข้าไปแล้ว พูดว่า “คงจะพอแล้วมั้งครับ ถ้าคุณตบต่อไป เธออาจจะสิ้นใจ ก็ได้นะครับ”

“เธอทําผิดร้ายแรงขนาดนี้ แถมยังไม่ยอมรับ ฆ่าเธอแล้วมัน ผิดตรงไหน” รพีพงษ์กำลังโกรธ ถ้าศศินัดดาไม่ใช่แม่ของอารียา ตอนนี้เธอคงกลายเป็นศพไปแล้ว

เมื่อรพีพงษ์พูดออกมาเช่นนั้น ศศินัดดาตัวสั่นอย่างเห็นได้ชัด

รพีพงษ์ตบไปอีกสองสามครั้ง จากนั้นจึงโยนเธอลงบนพื้น ธฤตญาณส่ายหน้าไม่หยุด เรื่องนี้เป็นเรื่องภายในครอบครัว ของรพีพงษ์ เขาไม่ควรไปก้าวก่าย และทำได้เพียงยืนดูเท่านั้น

รพีพงษ์จ้องศศินัดดาที่หายใจรวยริน แล้วพูดด้วยน้ำเสียงเย็น ชาว่า “สำนึกผิดแล้วหรือยัง?”

ศศินัดดามองรพีพงษ์อย่างหวาดกลัว เธอรู้ดีว่าถ้ายังดึงดัน ไม่ แนรพีพงษ์อาจจะฆ่าเธอจริงๆ ก็ได้

แต่ในใจของเธอก็ยังไม่ยอมรับ เธอยังคงคิดว่าตัวเองไม่ผิด รพีพงษ์เป็นคนก่อเรื่องทั้งหมดขึ้นมา

สําหรับเธอแล้ว เธอเป็นแม่ของอารียา ไม่ว่ายังไงรพีพงษ์ก็ไม่ สามารถฆ่าเธอได้
ความคิดนี้แวบเข้ามาในหัวของเธอ ศศินัดดาเหลือบมองพ พงษ์ แล้วพูดออกมาแบบไม่ชัดถ้อยชัดคำ “ปะ เป็นความผิดของ แก!”

รพีพงษ์กำหมัดแน่น เขาจะเข้าไปต่อยศศินัดดา

ในเวลานั้นเอง ธฤตญาณรีบรั้งเขาไว้แล้วพูดว่า “เราเพิ่งได้รับ ข่าวมาว่า ธายุกรจับตัวแม่บ้านไป ตอนนี้อยู่ที่ WH กรุ๊ป ไม่รู้ว่า มันคิดจะทําอะไร


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ