พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว

บทที่ 536 โอเพ่นคลาส



บทที่ 536 โอเพ่นคลาส

วันจันทร์ มหาวิทยาลัยฟูตัน คณะประวัติศาสตร์

เรื่องที่ศาสตราจารย์ได้รับเชิญจากผู้อำนวยการให้มาที่ได้ คณะประวัติศาสตร์ เผยแพร่ไปทั่ว คณะประวัติศาสตร์ หากเรื่อง นี้อยู่ที่คณะอื่น นี่อาจเป็นแค่เรื่องธรรมดา แต่ใน คณะ ประวัติศาสตร์ การมาถึงของ ศาสตราจารย์รับเชิญนั้น เป็นเรื่อง ที่ทุกคนให้ความสนใจอย่างมาก

เป็นเพราะผดุงสิทธิ์ ผู้อำนวยการของคณะประวัติศาสตร์ ไม่ เคยเชิญใครมาเป็นอาจารย์รับเชิญในช่วงหลายปีที่ผ่านมา อีก อย่างตอนที่เขาบรรยายในชั้นเรียน ก็มักจะบอกกับนักศึกษาว่า บุคคลสำคัญทางประวัติศาสตร์ที่มีชื่อเสียงในสังคมนั้น ไม่มีใคร มีคุณสมบัติ มากพอที่จะมาเป็นศาสตราจารย์รับเชิญใน มหาวิทยาลัย

คนเดียวที่สามารถทำให้ผดุงสิทธิ์รู้สึกว่ามีความสามารถจริง มีเพียงปรมัตถ์ ท่านอาจารย์ปรมัตถ์ ผู้ที่พิสูจน์วัตถุโบราณที่โด่ง ดังในแวดวงพิสูจน์วัตถุโบราณ

ดังนั้น ผดุงสิทธิ์เชิญคนจากสังคมมาที่คณะประวัติศาสตร์เพื่อ เป็นศาสตราจารย์รับเชิญ ซึ่งทำให้ทุกคนรู้สึกตกใจมาก บุคคลที่ ได้รับเชิญนั้นได้รับการยืนยันแล้วว่าไม่ใช่ปรมัตถ์ ดังนั้นทุกคน จึงเต็มไปด้วยความสงสัยต่อศาสตราจารย์รับเชิญคนนี้ และเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา มีข่าวถูกปล่อยออกมาจากทางเสียงนี้ อาจารย์คณะคุณสมบัติการความคน

เรื่องนี้เผยแพร่เป็นพิเศษในหมู่อาจารย์ หลายคนบอกศาสตราจารย์คนเป็นเพียงชายหนุ่มกว่าไม่ ว่ายังไงเขาไม่มีคุณสมบัติเพียงพอเป็นศาสตราจารย์รับ เชิญในมหาวิทยาลัยฟูตัน

บรรดาพวกเขา คนปฏิกิริยาศาสตราจารย์รับเชิญคือสันต์ ข่าวลือมากกว่าครึ่งเกี่ยวกับ ศาสตราจารย์รับเชิญมาจากเขา

เนื่องจากการถกเถียงมาก ดังนั้นหลายคนในคณะ ประวัติศาสตร์จึงให้ความสนใจกับเรียนโอเพ่นคลาสกำลัง จะของเวลาอยู่ห้องเรียนแล้วและอาจารย์หลายฟังด้วย

เยาวเรศกับนิษฐาก็เข้ามานั่งในห้องเรียนตั้งนานแล้ว อีก อย่าง

ในใจเยาวเรศยังคงเชื่อคำพูดของรพีพงษ์ ก่อนที่จะ เห็นที่มาสอน เธอไม่สามารถแน่ใจว่ารพีพงษ์เป็น ศาสตราจารย์รับทางมหาวิทยาลัยเชิญมาจริงไหม ส่วนนิษฐาไม่เชื่อเลยว่ารพีพงษ์จะเป็นมาบรรยายที่เธอนั่งแถวหน้าสุด ก็เพื่อบันทึก “หลักฐาน” ด้วยโทรศัพท์มือถือ เพื่อที่พวกเธอจะได้เอาหลักฐานนี้ไปถามรพีพงษ์และทำให้เขา อับอาย

“จิมมี่ คุณรอดูเถอะ เดี๋ยวศาสตราจารย์รับเชิญมา คุณก็จะรู้ว่า รพีพงษ์เป็นคนเจ้าเล่ห์หรือไม่” นิษฐาพูดกับเยาวเรศ

เยาวเรศเม้มริมฝีปากของเธอ ไม่รู้ว่าจะตอบคำพูดของนิษฐา อย่างไร

ขณะนี้ ในห้องทำงานของรพีพงษ์ รพีพงษ์กำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะ ทำงานของเขา กำลังครุ่นคิดเกี่ยวกับสิ่งที่ตนเองจะพูดในชั้น เรียน เมื่อก่อนเขาไม่เคยเตรียมการสอนมาก่อน ในความคิดของ เขา เขาแค่หยิบบางอย่างออกมาแล้วสอนได้เลย ก็สามารถให้ ความรู้แก่นักศึกษาที่ไม่มีความรู้เกี่ยวกับวัตถุอารยธรรมทาง ประวัติศาสตร์ได้รับความรู้มากมาย

ชั้นเรียน โอเพ่นคลาสของเขาคือเพื่อเปิดมุมมองที่กว้างขึ้น ดัง นั้นจึงไม่มีข้อกำหนดที่เข้มงวดเกินไป เพียงแค่สิ่งที่บรรยายไม่น่า เบื่อเกินไปก็พอแล้ว

มโนซากำลังยืนอยู่ข้างๆของรพีพงษ์ เมื่อเห็นว่าไม่มีแม้แต่ หนังสือบนโต๊ะของรพีพงษ์ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเอกสารประกอบคำ บรรยาย เธอก็อดไม่ได้ที่จะกังวลแทนรพีพงษ์เล็กน้อย

ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา เธอได้ยินเรื่องซุบซิบนินทามากมาย เกี่ยวกับรพีพงษ์ หลายคนบอกว่ารพีพงษ์จ่ายเงินเข้ามาเพื่อหา ชื่อเสียง ไม่มีความรู้ประวัติศาสตร์เลย สิ่งที่ทำให้มโนชา โกรธมาก

เธอรู้ว่ารพีพงษ์เก่งการตรวจสอบโบราณ แต่ ปรมัตถ์ อย่างไร

ดังเธอจึงรอชั้นเรียน โอเพ่นคลาสของขอบรรยายบนเวที ที่กล่าวหารพีพงษ์ก็จะต้องปาก อย่าง

เหมือนว่าตอนนี้รพีพงษ์ไม่เตรียมตัว ซึ่งทำให้มโนชา กังวลเล็กน้อย หากรพีพงษ์ไม่สามารถบรรยายอะไรออกมาข่าวเหล่าก็จะเป็นดังนั้นว่ารพีพงษ์จะแค่ไหน เกรงว่าทางมหาลัยไม่เชื่อเขาแล้ว

ผ่านไปนาน รพีพงษ์ดูเวลา ลุกขึ้นจากโต๊ะและมโน พวกกันเถอะ ถึงเวลา

มโนชาและพูด”คุณรพี คุณแน่ใจหรือว่าจะเข้าชั้น เรียนแบบนี้ เห็นคุณยังอะไรไม่ฉันไปหา อาจารย์เพื่อช่วยคุณในเอกสารก่อน ค่อยบรรยายของคุณ

รพีพงษ์ยิ้มมโนชาพูดว่าไม่มีเอกสารการสอน สามารถสอนได้ไปเถอะ ทุกอยาก”

เมื่อเห็นรพีพงษ์พูดอย่างนั้น มโนซาก็ไม่สามารถพูดอะไรไป มากนี้ พยักหน้าตาม รพีพงษ์ออกห้องงาน
ที่ทางเดิน ทั้งสองได้เจอกับไผทสันต์ที่กำลังเตรียมตัวเข้าชั้น เรียน

ไผทสันต์จ้องไปที่รพีพงษ์ พบว่าเขาไม่ได้ถืออะไรอยู่ในมือ ความเยาะเย้ยปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา เขาพูดด้วยน้ำเสียง ประหลาดว่า “การบรรยายไม่มีเอกสารประกอบคำบรรยาย ผม เคยเห็นเป็นครั้งแรก ดร.รพี่ไม่ใช่ว่าเป็นเพราะก่อนหน้านี้คุณไม่ เคยสอน จึงไม่รู้ว่าจะต้องเตรียมเอกสารประกอบคำบรรยายใช้ ไหม ?”

รพีพงษ์มองไปที่ไผทสันต์และพูดว่า “การบรรยายเป็นเรื่อง เกี่ยวกับคําพูด ขอแค่สิ่งที่ผมพูดมีประโยชน์ต่อนักศึกษาก็เพียง พอแล้ว ไม่มีความแตกต่างไม่ว่าจะมีเอกสารประกอบการ บรรยายหรือไม่ก็ตาม”

“เหอะๆ งั้นผมก็ขออวยพรให้ดร.รที่ประสบความสำเร็จใน คลาสแรกนี้ละกัน ขึ้นไปบนเวทีอย่าทำเรื่องตลกละกัน นักศึกษา ในมหาวิทยาลัยของเรา มีความรู้ของมัธยมศึกษาตอนต้นและ ตอนปลายเป็นอย่างดี ตอนที่ดร.รจะพูดอะไรก็ระวังหน่อยละกัน “ไผทสันต์หัวเราะเยาะอย่างเย็นชา จากนั้นก็หันกลับมาและออก จากที่นี่อย่างรวดเร็ว

ใบหน้ามโนซาเต็มไปด้วยความโกรธ รู้สึกว่าสิ่งที่ไผทสันต์พูด มันมากเกินไปจริงๆ เขากลับคิดว่าคุณรพี่จะพูดถึงความรู้ของ มัธยมต้นและมัธยมปลายได้เท่านั้น การเยาะเย้ยแบบนี้ไม่เคารพ คุณรพีเลย
“คุณรพี การมาถึงของคุณอาจจะแย่งซีนของอาจารย์ไผทสันต์ ดังนั้น อาจารย์ไผทสันต์จึงรู้สึกอารมณ์ไม่ดีเล็กน้อยหวังว่าคุณจะ ไม่ถือสานะ” มโนชาปลอบ

“ไม่เป็นไร เดี๋ยวก็จะเริ่มเรียนแล้ว เขาก็จะรู้ว่าผมพูดถึงความรู้ ระดับมัธยมหรือไม่” รพีพงษ์กล่าว

ทั้งสองคนเดินไปทางอาคารเรียน

ในห้องเรียน ทุกคนรอคอยและมองไปที่ประตู เกือบจะถึงเวลา เข้าเรียนแล้ว ศาสตราจารย์รับเชิญน่าจะมาที่นี่ในไม่ช้า

ไผทสันต์นั่งอยู่ในห้องเรียน จ้องมองไปที่กระดานดำด้วย สีหน้าเยาะเย้ย คิดว่าจะต้องถามคำถามที่ยากในภายหลังเพื่อ ทําให้รพีพงษ์เสียหน้า

“จะเริ่มเรียนเร็วๆนี้ ศาสตราจารย์น่าจะมาแล้ว จิมมี่ คุณจะได้ เห็นใบหน้าเจ้าเล่ห์ของ รพีพงษ์แล้ว” นิษฐาพูดกับเยาวเรศอย่าง มีหวัง

ในขณะนี้ รพีพงษ์เดินเข้ามาจากด้านนอกและยืนอยู่บนเวที


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ