พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว

บทที่ 451 ศัตรูของตระกูลลัดดาวัลย์



บทที่ 451 ศัตรูของตระกูลลัดดาวัลย์

ในตอนที่คำว่าคุณปู่นี้ปรากฏที่ข้างหูของรพีพงษ์นั้น เขาถึงกับชะงักงัน ทันใดนั้นความงุนงงไม่น้อยภายในใจ ก็พลันคลายออก

รพีพงษ์นั้นไม่เคยเจอคุณปู่คุณย่าของตัวเองมาก่อน เลย ในตอนที่เขาจำได้นั้น ในบ้านก็มีแค่คุณพ่อ

นนทภูกับคุณแม่วีธราสองคนเท่านั้น ในตอนนั้น ตระกูลลัดดาวัลย์ก็อยู่ที่เกียวโตแล้วเพียงมือเดียวก็ สามารถปิดกั้นสวรรค์ แต่ว่ารพีพงษ์ก็เข้าใจดีว่า ความ สําเร็จของตระกูลลัดดาวัลย์นั้น ไม่ได้มาจากการรับช่วง ต่อของนนทภู แต่เป็นการที่เขาค่อยๆนำพาคนในตระกูล ลัดดาวัลย์ไปถึงโดยผ่านความขยันตั้งใจ

ตอนที่ยังเล็ก ๆ รพีพงษ์เคยถามนนทภูเกี่ยวกับเรื่อง ราวของคุณปู่คุณย่า ในตอนนั้นคำตอบที่นนทภูมิให้รพี พงษ์นั้นมีเพียงความเงียบไม่พูดไม่จา

ถามอยู่หลายครั้ง นนทภูล้วนมีปฏิกิริยาเช่นนี้ นี่ ทำให้รพีพงษ์ตระหนักรู้ได้ว่าเรื่องของคุณปู่คุณย่านั้น อาจจะทําเป็นความทรงจําที่เจ็บปวดบางส่วนของนนทภู ดังนั้นหลังจากนั้นรพีพงษ์ก็ไม่เคยถามถึงอีกเลย

นี่ก็เป็นตั้งแต่เด็กจนโต เป็นครั้งแรกที่นนทภูพูดถึง เรื่องราวของคุณปู่กับรพีพงษ์ รพีพงษ์จะอย่างไรก็คิดไม่ ถึง คุณปู่ของตัวเอง จะถูกบรรพบุรุษของหัวหน้ากิสนา สังหาร

ดังนั้นรพีพงษ์ถึงได้รู้ว่าการมีอยู่ของกิสนานั้นอัน ตรายอย่างไม่มีที่สิ้นสุด มีที่หลังจากที่เข้าไปได้ก็อาจจะ ไม่มีวิธีออกมา ก็ยืนกรานที่จะเข้ามา และยังเป็นเพราะว่า ความอาฆาตแค้นที่ถูกเก็บกดไว้ภายในใจ หลังจากที่เข้า มาที่นี่ได้แล้ว ก็เริ่มต้นทําการสังหาร ระบายความโกรธ อย่างรุนแรงที่มีอยู่ภายในใจของตัวเอง

ในความประทับใจของรพีพงษ์นั้น นนทภูเป็นคนที่ ไม่ค่อยพูดค่อยจา เมื่อตอนที่เขาอยู่ต่อหน้ารพีพงษ์นั้น ใจเย็น เก็บตัวมาโดยตลอด เป็นคนที่ทำให้คนนั้นรู้สึกว่า น่าเชื่อถือเป็นอย่างมาก

มีเพียงตอนที่สอบถามเรื่องราวของคุณปู่คุณย่า เท่านั้น นนทภูจะเงียบไม่พูดจา รพีพงษ์สามารถรับรู้สึก ถึงปัจจัยความไม่มั่นคงบางอย่างในตัวของนนทภู เขา สามารถรับรู้ได้ถึงแววตาที่แฝงไปด้วยความโกรธชังของ นนทภู

นี่อาจจะเป็นหลังจากที่นนทภูเข้าร่วมกับกิสนา ไม่รู้

ว่าจะทำอย่างไรที่จะควบคุมอารมณ์ของตัวเอง จึงเป็น สาเหตุหนึ่งที่เปลี่ยนไปสังหารอย่างโหดร้าย รพีพงษ์มีหลายที่ที่คล้ายกับนนทภูเป็นอย่างมาก ถ้า เกิดว่าเปลี่ยนเป็นเขา หลังจากที่นนทภูถูกคนที่กิสนาฆ่า

เกรงว่าเขาก็คงระเบิดการสังหารหมู่ มาสงบความโกรธ

อย่างรุนแรงในจิตใจของตัวเอง

“ดังนั้นปีนั้นที่อยู่ ๆ พ่อก็หายสาบสูญไป เข้าไปในกิ สนา ก็เพื่อที่จะแก้แค้นให้คุณปู่ใช่ไหม? ถาม ” รพีพงษ์เอ่ยปาก

นนทภูพยักหน้า หายใจเข้าลึก ๆ บอก: “ไม่ผิด นี่ถือ เป็นสาเหตุที่สำคัญที่สุดส่วนหนึ่งจริง ๆ แล้วก็ยังมีปัจจัย อื่น ๆ อีกอย่างแน่นอน”

” ปัจจัยอะไร?” รพีพงษ์เอ่ยปากถาม

ลูกไม่ได้อยากรู้หรือว่าทำไมพ่อถึงได้เป็นหัวหน้า ของกิสนา? นี่ก็นับอีกเป็นปัจจัยหนึ่ง พ่อมาที่นี่ ไม่เพียง เพื่อแก้แค้นให้คุณปู่ของลูก และก็เพื่อที่จะสามารถควบ คุมกิสนาไว้ในมือ” นนทภูตอบ “ในปีนั้นที่พ่ออยู่ ๆ ก็จาก มา เป็นเพราะว่าได้รับโอกาสดี ๆ บางอย่าง ได้รับความ ช่วยเหลือจากคนบางส่วน หลังจากที่เข้าสู่กิสนา พ่อก็ จัดการสังหารหมู่ ด้านหนึ่งเป็นเพราะว่าพ่อไม่สามารถ ควบคุมความเคียดแค้นในจิตใจได้ อีกด้าน ก็เพื่อที่จะ ตัดกำลังของกิสนาในเวลานั้นให้อ่อนลง”

“ดังนั้นทุกครั้งที่พ่อขึ้นเวทีประลอง ก็จะรวบรวม กําลังทั้งหมดเพื่อที่จะสังหารอีกฝ่ายให้ตาย สุดท้ายปีน บันไดสูง พ่อก็ยิ่งสังหารคนที่มีฝีมือสูงที่สุดในกิสนา ทําให้กำลังของกิสนาอ่อนแอลงที่สุดในเวลานั้น ดังนั้น พ่อก็เลยฉวยโอกาสสังหารหัวหน้าของกิสนาทิ้ง ภายใต้ การช่วยเหลือจากคนที่สมัครใจช่วยเหลือพ่อพวกนั้น ก็ กลายเป็นหัวหน้าของกิสนา”

ฟังจนถึงตรงนี้ รพีพงษ์ก็ไตร่ตรอง คิดไม่ถึงว่าในปี นั้นนนทภูยังมีคนคอยช่วยเหลือ เขาคิดมาตลอดว่านนท ภูต่อสู้เพียงลำพัง ตอนนี้มาคิด ๆ ดูแล้ว ก็เป็นเรื่องที่ไม่ น่าจะเกิดขึ้นได้ ถึงอย่างไรก็ตามแม้ว่าศักยภาพของน นทภูจะแข็งแกร่งกว่านี้ สังหารคนมีฝีมือระดับสูงของกิ สนา ก็ไม่รู้จะทำอย่างไรด้วยเหตุนี้จึงได้ควบคุมกิสนา

กิสนาเลี้ยงดูคนมีฝีมือไว้เป็นจำนวนมากจนนับไม่ ถ้วน ไม่ใช่เป็นเพราะว่าหัวหน้าโดนสังหาร ก็จะยอมก้ม หัวให้ง่าย ๆ ดังนั้นในตอนแรกนนทกูจะต้องมีคนอื่นคอย ช่วยเหลืออย่างแน่นอน

“คนที่ช่วยพ่อพวกนั้นคือใคร? ” รพีพงษ์ในใจนั้นเต็ม ไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น เอ่ยปากถามประโยคหนึ่ง

นนทภูหัวเราะ เอ่ยปากบอก: “ตอนนี้ลูกยังไม่ได้ไป สัมผัสด้านนั้นของพวกเขา พวกเขาน่ากลัวกว่าใคร ทั้งหมดที่ลูกเคยพบเจอมา ถ้าหากไม่มีความจำเป็นจริง ๆ ล่ะก็ ทางที่ดีที่สุดคือลูกไม่ต้องไปติดต่อกับพวกเขาเหล่า นั้น”

รพีพงษ์พยักหน้ารับ รู้ว่าที่นนทภูไม่บอกตัวเองนั้น ก็ เป็นการปกป้องรูปแบบหนึ่ง ในโลกใบนี้เขายังเข้าใจไกล ไม่พอ มีบางเรื่อง ยังมีด้านที่เขาไม่สามารถเข้าใจได้จริง

พ่อคิดว่าลูกก็ยังคงสงสัยว่าทำไมหลังจากที่พอได้ เป็นหัวหน้าของกิสนาแล้ว ไม่ได้กลับไปหาลูก ใช่ไหม? ” นนทภูถาม

รพีพงษ์รีบพยักหน้า นี่ก็เป็นเรื่องที่เขาสงสัยอยู่ เหมือนกัน ถ้าหาหว่าหลังจากที่นนทภูได้เป็นหัวหน้าแล้ว กลับมาที่เกียวโต ตระกูลลัดดาวัลย์น่าจะเบียดตัวขึ้นเป็น ตระกูลระดับสูงในโลก แถมโยษิตากับวีธราสองพี่น้อง ก็ จะต้องได้รับการลงโทษที่เด็ดขาดกว่านี้

นนทภูถอนหายใจออกมาอย่างจนใจ เอ่ยปากบอก: “ไม่ใช่ว่าพ่อไม่อยากกลับไป แต่ทว่าหลังจากที่ได้เป็น หัวหน้าของที่นี่แล้ว พ่อก็ไม่มีวิธีที่จะไปจากกิสนาอีกแล้ว นี่คือของแลกเปลี่ยนที่พวกเขาเหล่านั้นช่วยเหลือพ่อ พ่อ จะต้องเฝ้าอยู่ที่นี่ตลอด นี่เกี่ยวข้องกับความลับของกิ สนา พ่อไม่สามารถบอกลูกได้ในตอนนี้ แต่ว่าพ่อเชื่อว่า ในสักวันหนึ่ง ลูกจะเติบโตจนสามารถรับรู้สถานการณ์ อีกด้านหนึ่งของเรื่องนี้”

รพีพงษ์คิดไม่ถึงว่านนทภูจะไม่กลับมาหาเขา คาด ไม่ถึงว่าสาเหตุนั้นจะมาจากที่นี่ ในเวลาเดียวกันก็รู้สึกว่า แบบนี้ถึงจะสมเหตุสมผล ถึงอย่างไรก็คงไม่มีใครช่วยเห ลือนนทภูอย่างไร้เหตุไร้ผล ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรก็ตาม จําเป็นต้องจ่ายค่าตอบแทน

“ตอนนี้คุณพ่อไม่ามารถออกไปจากที่นี่ได้หรือ? พงษ์ถาม ” รพี

นนทภูพยักหน้า : “ใช่แล้ว จากสถานการณ์ของกิ สนาในตอนนี้ พ่อไม่มีความเป็นไปได้ใด ๆ ที่ไปจากที่นี่ อย่างสิ้นเชิง ก็ไม่รู้ว่าสถานการณ์จะคงอยู่แบบนี้ต่อไป อีกนานเท่าไหร่”

ในระหว่างที่พูด บนสีหน้าของนนทภูก็มีปรากฏ ความผิดหวัง เกี่ยวกับที่จะกลับไปยังโลกภายนอก ก็ยัง คงเฝ้าปรารถนาอย่างแท้จริง

แต่ทว่าไม่นานเขาก็รีบกดความรู้สึกนี้ลงไป ยิ้ม พร้อมกับบอกว่า: “เพียงแค่พักอยู่ที่นี่ก็ไม่มีอะไรไม่ดี ปี นั้นกิสนาเป็นเพียงแค่สถานที่ที่กลุ่มนายทุนชั้นสูงของ โลกพวกนั้นร่วมกันจัดให้เป็นสถานบันเทิงโดยเฉพาะ เทียบกับวงศ์ตระกูลชั้นสูงของโลกแล้วไม่สามารถนำมา เปรียบเทียบกันได้ แต่ไม่กี่ปีมานี้ภายใต้ความทุ่มเทของ พ่อ ศักยภาพของกิสนาเปลี่ยนเป็นแข็งแกร่งยิ่งขึ้น สะสม ทรัพยากรมากมาย พละกำลังที่มากมายนับไม่ถ้วน ขณะนี้การจัดอันดับเทพเจ้าแห่งสงครามก็เป็นเพียงแค่ พละกำลังชั้นนอกสุดบางส่วนของกิสนา จะพูดอย่างนี้ ก็ได้ สภาพแวดล้อมในตอนนี้ แม้ว่าจะเป็นวงศ์ตระกูลชั้น สูงของโลกพวกนั้น ก็สามารถไปถึงระดับแนวหน้าได้”

นี่ก็เป็นเหตุว่าทำไมธนเทพถึงได้รู้สึกว่ากิสนาไม่

ควรค่าแก่การกล่าวถึง แต่ฝนสุดากลับเคารพำเกรงกิ

สนาอยู่ลึก ๆ เป็นสาเหตุที่ถึงกับรู้สึกว่าลูกชายของหัว หน้ากิสนานั้นน่าสนใจมาก ขณะนี้ความน่ากลัวของกิสนานั้น ก็เหลือเพียงแค่ คนจํานวนน้อยเท่านั้นที่รู้ ก็เหมือนกับตระกูลของธนเทพ ที่ไม่ได้เข้าใจเกี่ยวกับสถานการณ์ทั้งหมด และพวกคนที่

ไม่ได้รับข่าวสารที่ใหม่ที่สุด มักจะเป็นเพราะเหตุนี้ถึงได้

เสียหายอย่างหนัก

รพีพงษ์ถอนหายใจออกมายาว ๆ รู้สึกว่าความสงสัย งงงวยภายในใจของตัวเองได้รับคำตอบแล้ว ในใจก็รู้สึก ผ่อนคลายลงไปไม่น้อย

ในเวลานั้นเอง รพีพงษ์ก็นึกขึ้นมาได้ว่านนทภูนั้นพูด ถึงแต่เรื่องของคุณปู่ แต่ไม่ได้พูดถึงเรื่องของคุณย่า ใน ใจก็รู้สึกแปลก เลยถามไปประโยคหนึ่ง”คุณพ่อ ท่าน แค่พูดถึงเรื่องที่คุณปู่ถูกหัวหน้าคนก่อนของกิสนา ทำร้าย แล้วคุณย่าล่ะ ตอนนี้เธอยังมีชีวิตอยู่ไหม? ”

นนทกูถอยหายใจออกมา ส่ายหัวบอก: “คุณย่าของ ลูกเสียตั้งแต่ก่อนที่คุณปู่จะจากโลกนี้ไปเสียอีก แต่ทว่า การตายของเธอนั้น ไม่ได้ปกติ นี่เกี่ยวข้องกับความลับ ของตระกูลลัดดาวัลย์ของเรา รวมไปถึงศัตรูตัวฉกาจ ของเรา นี่ก็คือสิ่งที่พ่ออยากบอกลูกมากที่สุด”

รพีพงษ์ปลุกจิตใจทันที ตั้งใจฟังนนทภูเล่า ” การตายของคุณปู่ลูกนั้น ล้วนเกิดจากหัวหน้าของกิ สนารุ่นก่อน แต่ว่าหัวหน้ากิสนาคนก่อนนั้น ก็เป็นแค่ งานตตามค่าจ้างเท่านั้น ตอนนั้นที่ร่วมมือกันกับหัวหน้า ของกิสนา ก็คือศัตรูตัวฉกาจของพวกเรา ตระกูลนิธิวรส กุล”

“ตระกูลนิธิวรสกุลนั้นอยู่ในสามอันดับแรกของวงศ์ ตระกูลชั้นสูงในโลก ตระกูลนี้นั้นควบคุมหนึ่งในห้าเส้น ทางหลักทางเศรษกิจของโลก ล้อมไปด้วยพละกำลังที่ คนทั่วไปคิดไม่ถึง”

” เพราะความเจริญก้าวหน้าของวงศ์ตระกูลนั้นมี ปัญหา เวลานี้การเคลื่อนไหวที่สำคัญของตระกูลนิธิวรส กุลนั้นอยู่ที่เขตคนจีนในอเมริกา พพวกเขาคือตระกูล ที่มาจากประเทศจีน หลังจากที่บรรลุไปถึงระดับโลก กับ ไม่ยอมกลับมาในประเทศ ถึงกับดูถูกการพัฒนาภายใน ประเทศ นี่ก็คือเป็นสาเหตุของโอกาสที่ดีในการจัดตั้ง ตระกูลลัดดาวัลย์”

คุณย่าของลูกนั้นเนื่องจากเรื่องของตระกูลนิธิวรส ” กุลถึงได้เจ็บป่วยอย่างหนัก กังวลมากเกิดไปจนตาย เธอ จากไปได้ไม่นาน ตระกูลนิธิวรสกุลก็ร่วมมือกับหัวหน้า คนก่อนของกิสนา จัดการกับคณปู่ของลูก เคราะห์ดีที่ พ่อหนีรอดมาได้ กล้ำกลืนความอัปยศเพื่อทำสิ่งที่สำคัญ ให้สำเร็จ โดยอาศัยความสัมพันธ์ของคุณปู่ในปีนั้นและ ของตกทอดบางส่วน จัดตั้งตระกูลลัดดาวัลลย์ขึ้นมา”

ในปีนั้นตระกูลนิธิวรสกุลนั้นไม่เห็นพ่ออยู่ในสายตา คิดว่าพ่อก็แค่มดที่ไม่มีอะไรมาโดยตลอด ไม่มีความ จำเป็นที่จะต้องสนใจ แต่ว่าก่อนหน้านี้พวกเขาได้สืบรู้ ความสัมพันธ์ระหว่างพ่อกับตระกูลลัดดาวัลย์เกียวโต จากท่าทางของคนในตระกูลนิธิวรสกุล เกรงว่าอีกไม่ นาน ก็คงจะลงมือกับตระกูลลัดดาวัลย์ พวกเขายินดี อย่างมากที่จะจับเล่นพวกเราในกำมือ ”

พูดจบ นนทภูก็ถอนหายใจอีกครั้ง

รพีพงษ์ย่นหัวคิ้ว ไม่เข้าใจว่าทำไมตระกูลลัดดา วัลย์ถึงไปแหย่ศัตรูระดับนี้ได้

“ทำไมตระกูลนิธิวรสกุลถึงได้ต้องการเป็นศัตรูกับ

พวกเรา?” รพีพงษ์เอ่ยปากถาม

” เพราะว่านามสกุลลัดดาวัลย์นั้นไม่ใช่นามสกุล บรรพบุรุษของพวกเรา ในรุ่นของคุณปู่ลูกตอนนั้น พวก เราก็นามสกุลนิธิวรสกุล”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ