พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว

บทที่ 371 ไม่มีใครให้ของขวัญ



บทที่ 371 ไม่มีใครให้ของขวัญ

เสียงเพลงอันครึกครื้นสนุกสนานดังขึ้น ตามมาติดๆด้วยทาง ด้านประตูใหญ่คฤหาสน์ก็มีผู้คนหลั่งไหลเข้ามาด้านในอย่าง ไม่ขาดสาย

ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลและเหล่าเพื่อนร่วมชั้นของอารี ยาต่างก็พากันมองไปทางประตูด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วย ความสงสัย ชลิดารู้สึกกลืนไม่เข้าคายไม่ออก เดิมที่ไม่ใช่ว่า คนเขาไม่ได้เชิญคนมา เพียงแต่พวกเขาเองเข้ามาเร็วเกินไป ก็เท่านั้น

ในเวลานี้ผู้ที่เข้ามาในคฤหาสน์คริสทัลล้วนแต่สวมเสื้อผ้า ที่ดูดีมีระดับ ออร่าดูไม่ธรรมดา เพียงแค่มองก็รู้ว่เลยเป็น คนที่มีฐานะพอสมควร

หลังจากคนเหล่านั้นเข้าไปในคฤหาสน์คริสทัล เห็นงดงาม โอ่อ่าด้านในแล้วต่างก็พากันส่งเสียงชื่นชมออกมา

คนเหล่านี้ล้วนเป็นคนที่มีหน้ามีตาในเมืองริเวอร์ได้ ประสบความสำเร็จอย่างมากในทุกสาขาอาชีพ ในหมู่คน เหล่านี้ส่วนใหญ่ต่างก็เป็นผู้บริหารระดับสูงของบริษัทต่างๆ ภายใต้ชื่อบริษัทซันบับเบิล กรุ๊ป

พวกเขามาที่คฤหาสน์คริสทัล เพราะรู้ว่างานที่จะจัดที่นี่ในคืนนี้เป็นงานแต่งงานของรพีพงษ์กับอารียา ดังนั้นหลังจาก เห็นรูปปั้นบนกำแพงกลางคฤหาสน์คริสทัล จึงไม่ได้ ประหลาดใจ แต่กลับอุทานด้วยความชื่นชม

เมื่อเห็นได้ชัดถึงความงดงามวิจิตรตระการตาของคฤหา สน์คริสทัลและความเจิดจ้าสว่างไสวของรูปปั้น จึงได้ทำให้ พวกเขารู้สึกเลื่อมใสอย่างสมบูรณ์

เหล่าคนในตระกูลฉัตรมงคลและเพื่อนร่วมชั้นของอารี ยามองคนเหล่านี้ซึ่งกำลังเข้ามา ทุกคนล้วนแต่เปล่งประกาย ยิ่งกว่าพวกเขา จึงต่างพากันอดไม่ได้ที่จะแสดงความอิจฉา อันล้นเปี่ยมออกมาให้เห็นบนใบหน้า

“ฮี คนพวกนี้ท่าทางดูดีนะ แต่ฉันไม่เห็นจะเคยได้ยินชื่อมา ก่อนเลย แสดงได้แค่ว่าคนพวกนี้ไม่ใช่คนที่ยิ่งใหญ่อะไร รพี พงษ์เชิญกลุ่มคนแบบนี้มาก็ไม่เท่าไหร่หรอก” กันตา พยายามอย่างเต็มที่เพื่อจะทำให้ภายในใจของตนสงบลง

“ถูกต้องแล้ว ไม่มีใครคุ้นหน้าคุ้นตาสักคน ถ้ารพีพงษ์มี เงินสองร้อยล้านจริงๆล่ะก็ เขาจะรู้จักแต่กลุ่มคนที่ไม่เคยมี ใครได้ยินชื่อมาก่อนแบบนี้ได้ยังไง ฉันว่ามันต้องมีเล่ห์กล อะไรแน่ๆ แล้วยังไงฉันก็ไม่เชื่อด้วยว่าคฤหาสน์คริสทัลหลังนี้ จะเป็นรพีพงษ์จ่ายเงินสร้างขึ้นมา” ชลิดาพูดคล้อยตาม

คนที่เหลือต่างก็ยังไม่เต็มใจที่จะเชื่อว่ารพีพงษ์จะมีเงิน มากมายขนาดนี้ เศษขยะไร้ค่าที่โดนพวกเขาดูถูกมาตลอดจะมีเงินมากมายขนาดนี้ได้ยังไงกัน นี่เป็นเรื่องที่ไม่สมเหตุ สมผลสำหรับพวกเขา

หลังจากศศินัตตาได้ยินสิ่งที่พวกเขาพูด ปรากฎร่องรอย ของการดูถูกริ้วหนึ่งออกมาบนใบหน้า หลังจากผ่านเรื่องราว ต่างๆมามากมายหลายครั้ง ศศินัดดาจึงเต็มใจที่จะเชื่อว่ารพี พงษ์มีเงินมากมายขนาดนี้จริงๆ ยิ่งไปกว่านั้นรพีพงษ์ยังเป็น คนของตระกูลลัดดาวัลย์อีก คราวนี้เขากลับมาได้โดย สวัสดิภาพ บางทีอาจจะได้รับประโยชน์มากมายจากตระกูล ลัดดาวัลย์

แต่ตอนนี้เธออึดอัดกับรพีพงษ์มาก จึงไม่อยากที่จะอธิบาย แทนรพีพงษ์ หลังจากรับช่วงต่อโรงแรมบลูสกายอินเตอร์เน ชั้นเนล การมองโลกของเธอได้เลื่อนระดับขึ้นมาบ้างแล้ว อย่างน้อยที่สุดหลายๆครั้งเธอก็ไม่สนใจที่จะไปโต้เถียงกับ ญาติๆ ในตระกูลฉัตรมงคลพวกนี้แล้ว

“เธอดูคนพวกนั้นที่มาร่วมงานแต่งงานของรพีพงษ์สิ คิด ไม่ถึงว่าจะไม่มีใครพกของขวัญมาเลยสักคน บางทีคนพวกนี้ อาจมาที่นี่เพื่อดูคฤหาสน์คริสทัลนี้กันทั้งนั้นเลยก็ได้ ที่จริง พวกเขาก็ไม่ได้เจาะจงมาเพื่อดูงานแต่งงาน” นทีนาถเปิด ปากกล่าวออกมา

“งานแต่งงานของรพีพงษ์มีอะไรน่ามอง ไม่รู้จริงๆว่าในหัว ของรพีพงษ์คิดยังไงกันแน่ งานแต่งเมื่อไม่กี่ปีก่อนครั้งนั้นก็ น่าอับอายมากพอแล้ว ถ้าครั้งนี้ทำพังอีก หลังจากนี้เขาก็ไม่ต้องคิดจะทำตัวเอ้อระเหยไปวันๆ ในเมืองริเวอร์อีกต่อไป แล้ว” ชลิดากล่าว

ขณะนี้สีหน้าของธายุกรหม่นลงเล็กน้อย เพราะตอนนั้นเขา เห็นผู้จัดการที่เขาอยากคุยธุรกิจในครั้งนี้ด้วยอยู่ในหมู่คนที่ เพิ่งเข้ามา เขายังกล่าวทักทายคนคนนั้นอีกด้วย เสียดายที่ ฝ่ายนั้นไม่สนใจเขา

คนเหล่านี้ที่เข้ามาในตอนนี้ โศรวิทย์อาจไม่รู้จักผู้อาวุโส เลยสักคน แต่ธายุกรพอรู้จักอยู่บ้าง ดีร้ายอย่างไรเขาก็เคย เป็นประธานคณะกรรมการบริหารอยู่ช่วงหนึ่งมาก่อน พอจะ รู้จักพวกผู้ดีชั้นสูงเหล่านั้นของเมืองริเวอร์อยู่บ้าง

ในหมู่คนที่เข้ามาเหล่านี้ หลายคนเป็นผู้มีอำนาจใน วงการธุรกิจ ในเมืองริเวอร์ธายุกรไม่เคยได้ยินมาก่อนว่า งานแต่งงานของใครจะสามารถเชิญชนชั้นสูงมาได้มากมาย ขนาดนี้

หลังจากผู้ที่ได้รับเชิญเหล่านั้นเข้ามา พวกเขาก็ถูกจัดให้ ไปยังบริเวณที่กำหนด ทั่วทั้งห้องโถงใหญ่ของคฤหาสน์ก็ ศึกรักขึ้นมาจากการมาถึงของคนเหล่านี้ ส่วนเหล่าญาติพี่ น้องตระกูลฉัตรมงคลและเพื่อนร่วมชั้นของอารียากลับดู เหมือนจะไม่ค่อยอยู่ในสายตาแล้ว

หลังจากนั้นไม่นาน ก็มีคนอีกกลุ่มเข้ามาจากด้านนอก คฤหาสน์อีก คนเหล่านี้ โชคดีถูกพรพนิดเลือกมา เหตุผลที่รพีพงษ์อนุญาตให้คนเหล่านี้เข้ามานั้น แน่นอนเพราะหวังว่าจะ มีคนสามารถไปเล่าเรื่องงานแต่งครั้งนี้ให้ทุกคนในเมืองริ เวอร์ฟังได้

ในหมู่คนเหล่านี้ที่ต่อให้ต้องเบียดเสียดแย่งชิงกันก็ยัง ต้องการจะเข้าไปในคฤหาสน์ให้ได้แน่นอนว่าเป็นวิธีการป่าว ประกาศที่ดีที่สุด เชื่อได้เลยว่าวันนี้หลังจากพวกเขาเห็นงาน แต่งของรพีพงษ์กับอารียาแล้ว จะทำให้เรื่องนี้แพร่กระจาย ไปทั่วเมืองได้อย่างรวดเร็ว

แต่หลังจากคนเหล่านี้เข้ามาและพบว่าที่กำลังจัดขึ้นในนี้ เป็นงานแต่งของรพีพงษ์กับอารียา ก็ต่างพากันตกตะลึงไป ชั่วขณะ

“รพีพงษ์ไม่ใช่เจ้าเศษขยะชื่อดังแห่งเมืองริเวอร์ของเรา หรอกเหรอ? ทำไมที่จัดขึ้นที่นี่ถึงเป็นงานแต่งของเขาไปได้?”

“โอ้พระเจ้า คาดไม่ถึงเลยว่ารพีพงษ์จะสามารถจัดงาน แต่งในสถานที่แบบนี้ได้ นี่มันจะโรแมนติกเกินไปแล้ว!”

“ก่อนหน้านี้ไม่ใช่ว่ารพีพงษ์เคยแต่งงานมาแล้วหรอกเห รอ? ทำไมจัดงานแต่งอีกแล้วล่ะ? เป็นไปได้ไหมว่าเขาจะ แต่งงานใหม่?”

“แต่งงานใหม่อะไรกัน คุณไม่เห็นรูปปั้นด้านบนนั่นหรือไง เห็นได้ชัดว่าเจ้าสาวยังเป็นอารียาอยู่นะ คาดว่าเพราะงาน แต่งปีนั้นจัดออกมาไม่ดีเลยวางแผนจัดใหม่อีกครั้ง”
ในเวลานี้ทั้งคฤหาสน์เต็มไปด้วยผู้คน แต่บริเวณด้านหน้า สุดบริเวณหนึ่งยังคงว่างอยู่ ไม่มีใครรู้ว่าพื้นที่บริเวณนั้น เหลือไว้ทำอะไร

ชลิดาเห็นกลุ่มคนด้านหลังที่ถูกนำเข้ามาร่วมงานแต่ง เหล่านั้น หลังจากได้ยินการวิพากษ์วิจารณ์ของพวกเขา ราวกับจะเจอคนที่พึ่งพาได้ จึงรีบเข้าไปใกล้คนเหล่านั้นทันที

“พวกคุณไม่รู้ว่าในนี้คืองานแต่งของรพีพงษ์สินะ พวกคุณ รู้ไหมว่าทำไมถึงไม่บอกก่อนที่พวกคุณจะเข้ามา? นั่นเป็น เพราะเขากลัวว่าถ้าบอกพวกคุณล่วงหน้าแล้วจะไม่มีใครมา ร่วมงานนะสิ” ชลิดาพูดอย่างจริงจัง

คนเหล่านั้นฟังคำพูดของชลิดา ต่างพากันประหลาดใจ นิดๆ แต่พวกเขาคิดว่าถ้ารพีพงษ์ประกาศล่วงหน้าว่า ในนี้คือ งานแต่งของเขาล่ะก็คนมีแต่จะมามากขึ้นต่างหาก ท้ายที่สุด แล้วทุกคนล้วนแต่อยากจะเห็นว่าเจ้าเศษขยะในสายตาของ ทุกคนนั้น จัดงานแต่งอีกครั้ง สุดท้ายแล้วมันจะเป็นยังไงกัน แน่

นทีนาถเห็นชลิดาเข้าไปคุยกับคนพวกนั้นก็รีบเข้าร่วม ขบวนกับเธอทันที เข้าไปใกล้แล้วกล่าว “ยิ่งไปกว่านั้นคน ที่มาเข้าร่วมงานแต่งในวันนี้ ไม่มีใครให้ของขวัญเลยสักคน คนพวกนั้นต่างก็เข้ามาดูความครึกครื้นกันทั้งนั้น ที่จริงไม่มีใครมาเพื่อร่วมงานแต่งของรพีพงษ์จริงๆเลยสักคน”

“ใช่ๆๆ คุณดูสิว่าในหมู่คนตรงนี้ไม่มีคนใหญ่คนโตอยู่ เลยสักคน สถานที่ระดับสูงขนาดนี้ ไม่นึกเลยว่ารพีพงษ์ กระทั่งผู้ยิ่งใหญ่สักคนก็ยังเชิญมาไม่ได้ น่าฆ่าจริงๆ” ชลิดา พูดต่อไปอีก

คนที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวเหล่านั้นได้ยินคำพูดของทั้งสอง ทันใด นั้นก็เกิดร่องรอยแห่งความดูถูกรพีพงษ์ริ้วหนึ่งขึ้นมา

เมื่อเห็นทุกคนเริ่มดูแคลนรพีพงษ์ ชลิดาและนทีนาถบน ใบหน้าของทั้งสองต่างก็แสดงความพอใจออกมา

ในเวลานี้เอง ทันใดนั้นวงดนตรีที่ยืนอยู่ตรงประตูก็เล่น ดนตรีเสียงสุดยิ่งใหญ่อลังการดังขึ้นมาอย่างฉับพลัน

ตามมาติดๆด้วย เสียงหนึ่งซึ่งดังก้องกังวานขึ้นมากลาง ห้องโถงใหญ่ของคฤหาสน์

“หมอเทวดาชุติเทพ มาร่วมแสดงความยินดี มอบโสม สองพันปีสองต้น เห็ดหลินจือชั้นยอดหนึ่งดอก และดอกบัว หิมะเทียนซานหนึ่งดอก ขออวยพรให้คู่บ่าวสาวมีบุตรโดย เร็วไว มีความสุขสุขภาพแข็งแรงยืนนาน!”

ชลิดาและนทีนาถเมื่อครูทั้งสองยังบอกว่าไม่มีใครให้ของ ขวัญแก่รพีพงษ์อยู่เลย แต่คราวนี้ กลับมีคนให้ทั้งโสมพันปี และเห็ดหลินจือชั้นยอดซึ่งเป็นยาครอบจักรวาลอันล้ำค่าหาซื้อไม่ได้เช่นนี้ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเป็นการตีแสกหน้าพวก เธออย่างแรง

ชุติเทพและเจสสิก้าเดินไปทางบริเวณด้านหน้าสุดของ ห้องโถง เห็นได้เลยว่าเจสสิก้ามีความเศร้าอยู่บ้าง

“ซิ ก็แค่หมอคนหนึ่ง รู้ว่าคนแบบนี้ก็ไม่เห็นจะมีอะไร” นที นาถพิมพา

เธอเพิ่งจะพูดจบคำ เสียงอันทะลุทะลวงของคนที่ยืนอยู่ ตรงประตูดังก็ขึ้นอีกครั้ง

“กุนลโรจน์ผู้นำตระกูลกุลสวัสดิ์ มาร่วมแสดงความยินดี มอบเครื่องลายครามสมัยราชวงศ์ถังห้าชิ้น ผลงานชิ้นเอกส มัยราชวงศ์ซ่งสามภาพ และเงินขวัญถุงแปดแสนแปดหมื่น!”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ