พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว

บทที่516 ทําดีได้ดีทำชั่วได้ชั่ว



บทที่516 ทําดีได้ดีทำชั่วได้ชั่ว

เมื่อจิรเวชและโยษิตาได้ยินคำพูดของรพีพงษ์ ร่างกายก็แข็งที่อ และในใจเกิดลางสังหรณ์ที่ไม่ดี

“รพีพงษ์ คุณไว้ชีวิตผมเถอะ ผมสัญญาว่าจากนี้ไปจะไม่สร้าง

ปัญหาให้คุณอีก หลังจากที่ผมกลับไปที่ตระกูลนิธิวรสกุล ผมจะ

ขอร้องตระกูลแทนคุณอย่างแน่นอน ให้พวกเขาปล่อยวางเล็ก

สร้างปัญหาให้กับคุณ ที่สำคัญจากความแข็งแกร่งของเทือกเขา

กิสนา ในตระกูลยินดีที่จะยอมรับเครือญาติของพวกคุณใหม่อีก

ครั้ง”จิรเวชกล่าวอย่างกังวล

เดิมทีจากที่เขาก้าวร้าวโมโห แต่เพียงแค่ภายในเวลาห้านาที ก็เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง และท่าทีที่มีต่อรพีพงษ์ก็เป็นสองขั้ว จิร เวชในเวลานี้ อกสั่นขวัญหายแล้ว

เมื่อรพีพงษ์ได้ยินคำพูดของจิรเวช ก็เบะปากทันที แล้วพูดว่า “พวกแก่คู่ควรที่จะพูดว่ายินดีที่จะยอมรับพวกเราใหม่อีกครั้งเห รอ? แกคิดว่าตอนนี้ฉันยังเอาตระกูลนิธิวรสกุลของพวกแกไว้ใน สายตาอยู่อีกเหรอ?”

“ตอนนั้นตระกูลนิธิวรสกุลของพวกแกขับไล่คุณปู่ของฉันออก มา ตอนที่วางแผนจะฆ่า ทำไมไม่เคยคิดว่าจะมีวันนี้บ้าง ตอนนี้รู้ แล้วว่าพ่อของฉันเป็นเจ้านายของเทือกเขาสนา ดังนั้นก็อยาก จะกลับมาคืนดีกับพวกเราเหรอ? ฝันไปเถอะ!”

“วันนี้แกไม่มีทางที่จะได้เดินออกไปจากร้านอาหารนี้ได้ ตอนนี้เทือกเขาเสนา เป็นความลับที่ใหญ่ที่สุดของฉัน ในเมื่อแกรู้แล้ว ก็ไม่เคยคิดที่จะให้แกรอดพ้นกลับออกไปได้ ฉันต้องการสร้าง ความประหลาดใจที่ใหญ่ที่สุดให้กับตระกูลนิธิวรสกุล ต้องการ ทำให้พวกเขาเข้าใจว่า ความชั่วร้ายทั้งหมดที่พวกเขากระทํา จะ ถูกพิพากษาโดยฉัน คนของตระกูลนิธิวรสกุล ฉันจะไม่ปล่อยไว้ แม้แต่คนเดียว!”

เมื่อจิรเวชได้ยินคำพูดของรพีพงษ์ ร่างกายอดไม่ได้ที่จะสั่นขึ้น มา ใจเขารู้ดี สิ่งที่ตระกูลนิธิวรสกุลได้ทำนั้น เพื่อให้ทั้งตระกูล ปลูกฝังเมล็ดพันธุ์หนึ่งเม็ด ตอนนี้เมล็ดพันธุ์ต้นเม็ดนี้เติบโตขึ้น กลายเป็นต้นไม้สูงใหญ่

เป็นที่น่าเสียดายที่ ต้นไม้สูงใหญ่นี้ก็ไม่ได้ค่อยเป็นที่พักพิง ค่อยเป็นร่มเงาให้ตระกูลนิธิวรสกุลเลย แต่มันกลับจะทำลายคน ของตระกูลนิธิวรสกุลอย่างรุนแรง เป็นที่คาดการณ์ได้ว่า ตราบ ใดที่เทือกเขากิสนาต้องการจะลงมือกับตระกูลนิธิวรสกุล และ ตระกูลนิธิวรสกุลก็ไม่มีทางที่จะรอดพ้นได้

เขามองไปที่รพีพงษ์อย่างสั้นๆ ริมฝีปากก็ซีดเซียวมาก และ เขายังต้องการขอความเมตตาจากรพีพงษ์อีกครั้ง แต่ในใจกลับ รู้สึกไร้เรี่ยวแรง พูดอะไรออกมาไม่ได้สักคำ

“ยังมีคำสั่งเสียอะไรฝากฝังอีกมั้ย เมื่อฉันไปหาคนของตระกู ลนิธิวรสกุลล้างแค้น สามารถนำมันไปให้นายได้ รพีพงษ์กล่าว อีกครั้ง

ทันใดนั้นสีหน้าของจิรเวชก็กลายเป็นโหดเหี้ยมขึ้นมา และตะโกนใส่รพีพงษ์. “ต่อให้แกจะเป็นนายน้อยของเทือกเขากิสนา แล้วยังไง แต่ตระกูลนิธิวรสกุลก็ไม่กลัว พวกแกสองคนพ่อลูก ก็ ไม่มีทางมีจุดจบที่ดี!”

สัญชาตญาณการเอาตัวรอดทำให้จิรเวชหยิบโทรศัพท์มือถือ ของตัวเองออกจากเสื้อผ้า ต้องการส่งข้อความเร่งด่วนกลับไปที่ ตระกูลนิธิวรสกุล ให้พวกเขารู้ฐานะตัวตนของรพีพงษ์ตอนนี้และ แผนการที่มีต่อตระกูลนิธิวรสกุล

ถึงยังไงวันนี้ก็ไม่มีทางที่จะรอดพ้น ดังนั้นเขาจึงทำได้เพียงให้

คนของตระกูลนิธิวรสกุลเสียเปรียบน้อยที่สุด

แต่ทันทีที่เขาหยิบโทรศัพท์ออก รพีพงษ์ก็เตะเท้าไป และมือที่ ใช้ถือโทรศัพท์ก็ดังแกร๊ก โทรศัพท์ก็บินออกไป

ในตอนนี้รพีพงษ์บีบคอของจิรเวช และค่อยๆยกเขาขึ้นจากบน

พื้น ใบหน้าของจิรเวชแดงทันที ดวงตาทั้งสองปลิ้นออกมาด้าน

นอก และร่างกายก็ดิ้นรนขึ้นมา

โยษิตาอยู่ด้านข้างมองไปที่ฉากนี้ด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วย ความกลัว เพียงแต่ขาของเธอไม่สามารถใช้แรงได้ แม้ว่าจะ อยากวิ่งแต่ก็วิ่งไม่ได้

ธีรศานติ์และกัญญาวีร์ทั้งคู่มองไปที่รพีพงษ์อย่างเคร่งขรึม เป็นเพราะหายใจไม่ค่อยออกจากรัศมีบนตัวที่รพีพงษ์แสดงออก มา

ก่อนหน้านี้พวกเขาเป็นเพราะว่ารัศมีความแข็งแกร่งที่ดัมพ์ รงค์แสดงออกมาให้เห็น ดังนั้นเลยคิดว่ารพีพงษ์ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของดัมพ์รงค์ แต่เมื่อรู้สึกถึงความน่ากลัวของรพีพงษ์ พวกเขาถึง ค่อยรู้ รัศมีที่ซ่อนอยู่แบบนี้ น่ากลัวยิ่งกว่า

คนที่เคยมีประสบการณ์การแสดงความแข็งแกร่งออกมาให้ เท่านั้น ถึงสามารถระงับได้ รัศมีของรพีพงษ์ไม่ได้ด้อยไปกว่า ดัมพ์รงค์ แต่ได้เหนือกว่าดัมพ์รงค์ไปตั้งนานแล้ว เขาสามารถ ระงับรัศมีบนตัวได้ ดัมพ์รงค์จากระดับนี้ ห่างไกลยังไปไม่ถึง

ธีรศานติ์หรี่ตาลงมองไปที่รพีพงษ์ เขารู้สึกว่ารพีพงษ์อยู่ใน สายตาของเขากลายเป็นคนที่ไม่สามารถคาดเดาได้ ตอนแรกร พงษ์ในสายตาของเขา ก็เพียงแค่คนรุ่นหลัง ต่อมาคนรุ่นหลังคน คนนี้ได้เข้ามาควบคุมยึดอำนาจของตระกูลลัดดาวัลย์ ธีรศานติ์ เชื่อว่ารพีพงษ์มีคุณสมบัติที่เท่าเทียมกับเขา

แต่ตอนนี้พลังที่รพีพงษ์แสดงออกมาให้เห็น ทำให้ธีรศานต์ยัง เทียบไม่ได้เลย เขาสามารถสังหารสมาชิกในตระกูลชั้นนำของ โลกได้อย่างง่ายดายโดยไม่ต้องกังวลใดๆ นี่เป็นสิ่งที่ธีรศานติ์ ไม่สามารถทำได้

ผ่านไปไม่นาน จิรเวชที่ถูกรพีพงษ์บีบคออยู่ก็หยุดดิ้น และไม่มี การเคลื่อนไหวใดๆอีก

รพีพงษ์โยนจิรเวชลงกับพื้น ทำให้โยษิตาหวาดกลัวจนตัวสั่น

รพีพงษ์หันไปมองโยษิตา เดินไปตรงหน้าเธอ และพูดอย่าง เยือกเย็น: “ถึงคุณแล้ว

โยษิตาร้องไห้ขึ้นมาทันที และรีบก้มหัวกราบลงกับพื้นให้เพี พงษ์หลายครั้ง แล้วพูดว่า “รพีพงษ์ ฉันรู้ตัวว่าผิดแล้ว ตอนนั้นฉันไม่ควรขับไล่นายออกจากตระกูลลัดดาวัลย์ ไม่ควรมุ่งเป้า หมายไปยันเรื่องของนาย และก็ไม่ควรที่จะลงมือกับภรรยาของ นาย นายให้โอกาสฉันได้แก้ไขข้อผิดพลาดแล้วเริ่มต้นชีวิตใหม่ ฉันเต็มใจทำทุกอย่างเพื่อนาย เพียงแค่นายไว้ชีวิตฉัน ฉันไม่ อยากตาย ได้โปรดเถอะ”

รพีพงษ์ยิ้มเล็กน้อย แล้วพูดว่า “สิ่งที่ฉันอยากให้คุณทำ ก็คือ ไปตายซะ คุณทําร้ายภรรยาฉันจนหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยถึง ตอนนี้ น้องสาวของฉันก็เพิ่งฟื้นขึ้นมาไม่กี่วันที่ผ่านมา คุณคิดว่า คุณก้มหัวกราบไม่กี่ครั้ง ฉันก็ให้อภัยคุณได้เหรอ?”

“รพีพงษ์ ก่อนหน้านี้ฉันโง่มาก หัวสมองของฉันโง่ เพียงแค่ นายไม่ฆ่าฉัน จะให้ฉันเป็นวัวเป็นม้าก็ได้ ถ้านายคิดว่าฉันก้ม กราบให้นายไม่พอ ฉันสามารถก้มกราบต่อไปได้ จนกว่านายจะ พอใจ” โยษิตากล่าวอย่างเสียใจ

“ฮ่าฮ่า ขอโทษด้วยจริงๆ ตอนนี้อยากที่จะระงับความโกรธข องฉันได้ มีวิธีเดียวคือให้คุณตายรพีพงษ์กล่าวพร้อมกับ บีบคอ โยษิตา

โยษิตาเริ่มไออย่างรุนแรงขึ้นมา และมองดูรพีพงษ์ค่อยๆยก ร่างกายของตัวเองขึ้นมา กลับไม่มีกำลังพอที่จะทำอะไรได้

ในใจของเธอรู้ดี ครั้งนี้ตัวเองจะตายจริงๆ เธอทำหลายสิ่ง หลายอย่างขนาดนี้ และวางแผนมานาน แต่สุดท้ายมันก็ไม่ได้ อะไรเลย

ความทรงจําในอดีตของเธอปรากฏขึ้นต่อหน้าต่อตา เมื่อนึกถึงสิ่งที่ตัวเองเคยทำมาก่อน ในใจเธอก็รู้สึกตลกสิ้นดีเลย สิ่ง ที่เธอไม่ควรทำที่สุดในชาตินี้ ก็คือการขับไล่รพีพงษ์ออกจาก ตระกูลลัดดาวัลย์ น่าเสียดายเสียใจในเวลานี้ ก็สายไปแล้ว

รพีพงษ์รอจนกระทั่งโยษิตาสูญเสียอุณหภูมิร่างกาย ก่อนที่จะ โยนเธอลงกับพื้น คราวนี้ เขาจะไม่ปล่อยให้โยษิตามีโอกาส “รอดชีวิตมาได้ อีก

ในโลกใบนี้ จะไม่มีโยษิตาคนนี้อีกไปตลอดกาลแล้ว

หลังจากจัดการกับจิรเวชและโยษิตาทั้งสองคนแล้ว รพีพงษ์ก็ ถอนหายใจยาวอย่างโล่งอก รู้สึกว่า ในที่สุดปัญหาที่ค้างอยู่ใน ใจของตัวเองก็หายไป และก็รู้สึกโล่งใจในทันใด

เขาหันไปมองที่ธีรศานติ์และกัญญาวีร์ทั้งสองคน รอยยิ้มตาม ปกติปรากฏบนใบหน้า รัศมีบนตัวก็ระงับ

“พวกเราสามารถไปได้แล้ว เรื่องราวที่เกิดขึ้นวันนี้ อย่าบอก กับคนอื่น ไม่ปล่อยตระกูลนิธิวรสกุลไปอย่างแน่นอน คนของ พวกเขามาหนึ่งคน ฉันฆ่าหนึ่งคน เมื่อพวกเขาตอบสนองคืนมา ก็เป็นเวลาที่ตระกูลนิธิวรสกุลหายไปจากในโลกนี้


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ