พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว

บทที่498 สามแสนล้าน



บทที่498 สามแสนล้าน

ทุกคนต่างตกตะลึงกับเสียงของจิรเวช ต่างก็ทยอยหันมามอง ใบหน้าเต็มไปด้วยความ ชื่นชมในอิจฉา

ทุกคนต่างรู้ดีว่า มาตรฐานเดียวของการคัดเลือกในโครงการ นี้ คือศักยภาพทางเศรษฐกิจ ทุกคนที่อยู่ในงาน คนที่มีศักยภาพ ทางเศรษฐกิจเหนือกรุ๊ปKINแทบจะเรียกได้ว่าไม่มี ดังนั้นทุกคน จึงเข้าใจเป็นอย่างดีว่าการร่วมมือกันในครั้งนี้ต้องตกเป็นของ กรุ๊ปKINแน่นอน

ตอนนี้จิรเวชเป็นคนแนะนำตัวออกมาเองแบบนี้ จึงทำให้คน อื่นๆดับความปรารถนาของตนไปอย่างสิ้นเชิง

ถ้าพวกเขาเป็นผู้รับผิดชอบ ก็คงจะเลือกกรุ๊ปKINเหมือนกัน

แหละ

จิรเวชสัมผัสได้ถึงสายตาของคนรอบข้างที่มองมาทางตนเอง เขาจึงส่งยิ้มด้วยความมั่นใจออกมา เขาเชื่อว่าไกรเดชไม่ใช่คนที่ ไร้วิสัยทัศน์ ในที่นี้ใครๆก็รู้ว่ากรุ๊ปKINเป็นกลุ่มที่มีศักยภาพที่สุด ละ

ไกรเดชจ้องมองไปที่จิรเวช จากนั้นจึงยิ้มให้คุณอย่าเพิ่งรีบ แนะนำตัวไปครับ ไม่กี่วันมานี้ผมมีความคิดใหม่ๆผุดขึ้นมา และ ก็มีตัวเลือกในความร่วมมือที่ดีกว่าเดิม อาจจะต่างจากที่เคย กำหนดไว้ก่อนหน้านิดหน่อย รอผมพูดจบ คุณค่อยแนะนำตัวก็ ยังไม่สาย”
เดิมทีจากที่คิดว่าไกรเดชจะประกาศออกมาว่าผู้ร่วมมือคือ กรุ๊ปKINสีหน้าของจิรเวชจึงแข็งทื่อขึ้นมา บรรยากาศจึงรู้สึก อึดอัดขึ้นมาเล็กน้อย

ก็เหมือนกับงานประกาศรางวัลที่ทุกคนคิดว่าตัวเองคงจะเป็น คนที่ได้ แล้วตนเองก็กล่าวประกาศขอบคุณความคาดหวังต่อ หน้าทุกๆคน แต่ปรากฏว่าพิธีกรดันขึ้นมาบอกว่ายังไม่ได้มีการ คัดเลือกต้องพิจารณาอีกครั้ง

ความรู้สึกของจิรเวชในตอนนี้ก็เป็นแบบนี้นั่นแหละ แม้ว่าไกร เดชจะบอกว่าไม่ได้มีปัญหาอะไรสมเหตุสมผล แต่เขามักจะมี ความรู้สึกราวกับว่าลงจากเวทีไม่ได้แบบนั้น

ไกรเดชเองก็ไม่ได้ใส่ใจกับปฏิกิริยาของจิรเวชนัก พูดต่อกับ ทุกคนว่า ก่อนหน้าผมคิดว่าโครงการบูรณะนี้ต้องใช้เงินทุนหนา ก็เลยประกาศมาตรฐานของผู้ร่วมมือไป ยิ่งใครมีเงินทุนสูง ก็จะ ยิ่งเข้ามาตรฐาน”

“ทิศทางนี้นะไม่ผิดหรอก อย่างไรเสีย โครงการบูรณะก็ต้องใช้ เงินทุนจำนวนมหาศาล แต่ผมพลาดไปเล็กน้อยด้านความรู้ขั้น พื้นฐาน ที่ผมไม่ยอมรับในตั้งแต่แรก ที่ว่าผู้ร่วมมือได้คนเดียว เท่านั้น”

“ความคิดแบบนี้มันผิดถนัด ในเมื่อทุกคนต่างอยากมีส่วนร่วม ทำไมเราไม่หาผู้ร่วมมือให้มากขึ้นหน่อยเล่า ทุกคนมาพยายาม ร่วมกัน แบบนี้งานไม่ยิ่งสำเร็จง่ายขึ้นหรอกหรือ

เมื่อได้ฟังคำพูดของไกรเดช ทุกคนต่างรีบถูกกันขึ้นมา คิดไม่ถึงว่าไกรเดชอยากจะหาผู้ร่วมมือให้มากขึ้นหน่อย หรือว่าพวก เขาก็คนที่อยู่ในงานต่างก็มีสิทธิ์ที่จะร่วมโครงการนี้ด้วย

“แน่นอนว่า ผมก็ไม่สามารถร่วมมือกับทุกคนที่อยู่ในที่นี้ได้ ผมจึงคิดอย่างละเอียดว่า ครั้งนี้ผมต้องการผู้ร่วมมือสามคน ซึ่ง ผมจะกระจายงานในโครงการให้ทั้งสามคนตามกำลังทรัพย์ที่นำ เสนอออกมา และสำหรับผู้ที่ควักเงินลงทุนสูง ก็จะได้ผลตอบแทน มากกว่า”ไกรเดชพูดต่อ

ทุกคนจึงเข้าใจความหมายของไกรเดชขึ้นมาในทันที พวกเขา อยากจะให้ทุกคนที่อยู่ในที่นี้ประชันกัน เหมือนกับการแข่งขัน การประมูล ยิ่งควักเงินลงทุนมาก โอกาสที่จะได้ร่วมก็จะยิ่งสูง และก็จะมีสิทธิ์ในโครงการมากขึ้น

การประชันกันแบบนี้ ไกรเดชก็จะคัดสรรผู้ร่วมมือกับตนได้ดี ขึ้น และก็เป็นการหลีกเลี่ยงอิทธิพลจากกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง ทั้งสาม เจ้าจะได้สมดุล แบบนี้ไกรเดชก็จะควบคุมได้ง่าย

เปลือกนอก ไกรเดชทำแบบนี้ ดูเหมือนว่าคิดแบบนี้จริงๆ แต่ที่

เขาทำแบบนี้ ไม่ใช่เพราะเขาอยากจะได้เงินทุนเพิ่มขึ้น และก็ไม่ ได้เพื่อให้ทั้งสามฝ่ายสมดุลกัน ที่เขาทำแบบนี้ เพียงเพราะต้องการให้กรุ๊ปKINเป็นผู้ที่ควัก

เงินแต่เพียงผู้เดียว

จิรเวชเองก็รู้จุดประสงค์ที่ไกรเดชทำแบบนี้โดยทันที แม้ว่าผู้ ร่วมมือจะกลายเป็นสามคนเกินความคาดหมายของเขา แต่ตาม ความหมายของไกรเดช ขอแค่เขาออกเงินมากที่สุดตามหลักการร่วมหุ้นสามคนแล้วเขาจะมีสิทธิ์มีเสียงมากที่สุด

ไม่ว่าจะเป็นอย่างไร สุดท้ายผลลัพธ์ก็เหมือนกัน คราวที่แล้ว ตอนที่บ้านลัดดาวัลย์รับมือกับการทดสอบ ก็น่าจะเอาเงิน ทั้งหมดไปลงไว้ที่หุ้นตลาดหลักทรัพย์แล้วล่ะ เกรงว่าตอนนี้พวก เขาอาจจะไม่สามารถควักเงินลงทุนออกมาได้”จิรเวชพูดพึมพำ

“แบบนี้ พวกที่พอจะต่อกรกับเราได้ คงจะเป็นหอการค้า สมน.เท่านั้น แต่ว่าคราวที่แล้วที่พวกเขาจะจัดการกับ กรุ๊ปKINของพวกเรา ก็โดนพวกเราตอกกลับไปง่ายๆ จากนั้นก็ ไม่เห็นความเคลื่อนไหวใดๆอีก ดูท่าคงไม่มีปัญญาสู้พวกเรา หรอก”

“รพีพงษ์ ไม่ว่ายังไง ตระกูลลัดดาวัลย์ของแกหนีไปไม่รอด หรอก”จิรเวชหัวเราะขึ้นมาอย่างเย็นชา

“ทุกท่านครับ งั้นผมจะไม่เสียเวลาต่อไป ถ้ามีท่านใดที่อยาก จะร่วมโครงการ ตอนนี้สามารถแจ้งเงินทุนที่ให้ได้นะครับ ผมจะ คัดเลือกสามท่านที่เงินทุนสูงที่สุดมาร่วมมือ โครงการบูรณะครั้ง นี้นั้นใหญ่มาก แน่นอนว่าผลประโยชน์ไม่ต้องบอกก็รู้ การลงทุน ในตอนนี้ ผลประโยชน์ในวันหน้ามากมายมหาศาล หวังว่าทุก ท่านจะรับพิจารณา”ไกรเดชกล่าวขึ้นอีกครั้ง

ในตอนนี้มีคนเดินขึ้นหน้า พูดขึ้น ผม อสังหาริมทรัพย์พันธา ลงสองหมื่นล้าน! ”

“ผมกลุ่มบริษัทสิรินลงทุนสามหมื่นล้าน! ”

“ผมตระกูลวรเพชรสกุลลงสามหมื่นสองร้อยล้าน! ”
คำว่าเงินทุนของไกรเดชหมายถึง กระแสเงินสดที่สามารถ ควักออกมาได้ตลอดเวลา หมายความว่ามูลค่าทรัพย์สินของ บริษัทหนึ่งอาจจะมีค่าถึงหมื่นล้านก็จริง แต่มันถือว่าเป็นมูลค่า ทรัพย์สินทั้งหมด ส่วนกระแสเงินสดที่พวกเขานำออกมาใช้ได้ จะ เป็นเพียงหนึ่งส่วนสิบของทรัพย์สินบริษัท บางแห่งไม่ถึงด้วยซ้ำ

ดังนั้นบริษัทที่สามารถควักเงินสดออกมาหลักพันล้าน ถือว่า เป็นกลุ่มที่มีศักยภาพสูงเลยทีเดียว

ผู้คนต่างทยอยกันให้ราคา ต่างก็อยากมีส่วนร่วมในโครงการ บูรณะนี้ด้วยกันทั้งนั้น

เพียงแต่เนื่องจากเงื่อนไขและทุกคนก็มีขีดจำกัดในกระแส เงินสด พวกที่ตะโกนออกมา นั้นอย่างมากก็ลงทุนได้แค่ห้าพัน ล้าน ซึ่งก็น่าจะเป็นตัวเลขที่มีความหวังแล้ว

ในตอนที่ทุกคนต่างทยอยเสนอราคาเงินลงทุน ธีรศานต์แอบ มองไปทางรพีพงษ์ ยิ้มให้เขา รพีพงษ์พยักหน้า ธีรศานต์เดินขึ้น หน้า ตะโกนออกไปว่า “ผมหอการค้าสมน.ออกหนึ่งแสนล้าน

ทุกคนต่างถูกดึงดูดด้วยคำพูดของธีรศานติ์ คนที่ควักเงินสด ออกมาได้หนึ่งแสนล้านในเกียวโตมีนับหัวได้

หลังจากที่จิรเวชได้ยินที่ธีรศานต์ตะโกนออกไปจึงขมวดคิ้ว เขาคิดไม่ถึงว่าหอการค้าสมน.จะลงเงินเยอะขนาดนี้ เหนือความ คาดหมายจริงๆ
แต่หนึ่งแสนล้านเขายังพอรับได้ ในงานนี้คงไม่มีใครลงเกิน หนึ่งแสนล้านแล้วล่ะมั้ง

หลังจากที่ธีรศานติ์เสนอเงินลงทุนออกไป ห้องทั้งห้องจึงเงียบ

ลง ไม่มีใครกล้าเสนอราคาต่อ

จิรเวชรู้สึกควรแก่เวลา ใบหน้าปรากฏรอยยิ้มแล้วตะโกนออก ไป พูดกับมวลชนว่า “ผมกรุ๊ปKIN ลงสองแสนล้าน! ”

ทุกคนต่างสูดลมหายใจเย็นวาบ มองไปที่จิรเวชด้วยความ ศรัทธา

“สุดยอดไปเลย พออ้าปากก็สองแสนล้าน ดูท่ากรุ๊ปKINจะ แกร่งกว่าที่เราคิด

“แหมๆ การร่วมทุนครั้งนี้ กรุ๊ปKINคงจะมีอำนาจมากที่สุดสินะ

ต่อไปต้องหาทางผูกมิตรด้วยแล้ว จะล้าหลังไม่ได้

นิรมทกับญาดาต่างแสดงสีหน้าลำพองใจออกมา ราวกับว่า เงินสองแสนล้านเป็นของพวกเขาเองอย่างไรอย่างนั้น

นิรมทกรอกตา จากนั้นจึงพาญาดาเดินไปทางรพีพงษ์

“แหมๆ สองแสนล้านเชียว ใหญ่ที่สุดในการร่วมมือครั้งนี้เลย ต้องตกเป็นของพวกเรา กรุ๊ปKINแน่นอน ไม่เหมือนใครบางคน หรอกนะ ตอนนี้จะควักออกมาสักร้อยล้าน

ลําบาก”นิรมัทพูดเยอะเย้ย

ญาดาจ้องมองรพีพงษ์แล้วพูดขึ้น ตอนนั้นถ้าแกสละตำแหน่งประมุข ตระกูลลัดดาวัลย์ก็คงไม่ต้องมาเป็นแบบนี้ ตอนนี้สาแก่ ใจแล้วสินะ ในการร่วมมือสามฝ่ายนี้ ตำแหน่งที่ตั้งท้ายที่สุดแก ยังไม่ได้เลย”

รพีพงษ์มองไปยังทั้งคู่ ยิ้มให้แล้วพูดขึ้นพวกแกแน่ใจได้ไงล่ะ ว่าฉันจะไม่ได้ร่วมมือ ฉันยังไม่ได้เสนอราคาเลย ไม่ได้ หมายความว่าจะไม่เสนอ

นิรมัทยิ้มเย้ยหยันพูดขึ้นแกไม่ต้องมาเสแสร้งอีกแล้วละน่า กลัวว่าเงินบ้านลัดดาวัลย์คงโดนแกเล่นหมดแล้ว ถ้าแกอยาก ร่วมมือต้องมีห้าพันล้านขึ้นไป แกมีเงินมากขนาดนี้หรือไง”

รพีพงษ์ไม่ตอบคําถาม หากแต่มองไปทางนิรมท จิรเวชเองก็ มองมาทางรพีพงษ์ ด้วยแววตาเย้ยหยัน

“ไม่ต้องแข่งแล้วล่ะ แกไม่มีทางได้แน่นอน บ้านลัดดาวัลย์

โดนแกทําฉิบหายหมดแล้ว! “ญาดาพูดขึงขัง

“งั้นพวกแกคงผิดหวังแล้วล่ะ”รพีพงษ์พูดแล้วยิ้มให้ญาดา จากนั้นเขาจึงมองไปทางไกรเดช เดินขึ้นหน้า ตะโกนออกมา อย่างมั่นใจ

“ตะกูลลัดดาวัลย์ สามแสนล้าน!


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ