พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว

บทที่591ความเชื่องมงายของศศินัดดา



บทที่591ความเชื่องมงายของศศินัดดา

หน้าประตูสำนักที่ว่าการอำเภอ

ศศินัดดาและศักดาทั้งสองคนเดินออกมาจากด้านใน สีหน้า เคร่งเครียด รพีพงษ์เดินตามทั้งสองคนอยู่ด้านหลัง ทั้งสามคน ตลบอบอวลไปด้วยความอึมครึม

ศศินัดดาโวยวายอยู่ที่ชุมชนคำแหงตั้งนาน ให้ตายยังไงก็ไม่ ยอมหย่ากับศักดา ในตอนแรก หล่อนยังเต็มไปด้วยความเสียใจ คุกเข่าลงเพื่อยอมรับความผิดกับศักดา

แต่ศักดามีความมุ่งมั่น ไม่ว่าศศินัดดาจะวิงวอนขอร้อง อย่างไร ก็ไม่ใจอ่อนแม้แต่น้อย

เมื่อเห็นว่าวิงวอนขอร้องไม่มีประโยชน์ ศศินัดดาก็ใช้ความ สามารถในการตีโพยตีพายโวยวายหาเรื่อง ข่มขู่ศักดาถ้า หากว่าหย่ากับหล่อน หล่อนจะไม่มีชีวิตอยู่ต่อไปแล้ว

ศักดาพูดออกมาโดยไม่คิดบอกว่าให้ศศินัดดาไปตายให้เขา ดูก่อน ศศินัดดาก็ตกตะลึงไปชั่วครู่ หล่อนแค่ใช้วิธีนี้เพื่อข่มขู่ให้ ศักดาเชื่อฟังหล่อนเท่านั้นเอง แล้วจะไปตายจริงๆได้อย่างไร

รพีพงษ์รู้สึกว่าศศินัดดายังโวยวายต่อไป จะส่งผลกระทบต่อ

อารมณ์ของอารียาได้ ดังนั้นจึงบอกศศินัดดาอย่างเย็นชาว่าให้ หล่อนรีบไปหย่ากับศักดาซะ

ศศินัดดากลัวรพีพงษ์อยู่ในใจอยู่แล้ว ก็เชื่อฟังทันที ท้ายที่สุดแล้วก็ต้องตามกตาไปที่สำนักงานเขตอำเภอ เพื่อหย่าร้างกัน

“รพีพงษ์ พวกเรากลับกันเถอะ”ศักดาเหลือบไปมองรพีพงษ์ แล้วพูด

รพีพงษ์พยักหน้า เดินตามศักดาไปที่รถ

ศศินัดดาหยุดลง ในเวลานี้หล่อนรู้สึกถูกทอดทิ้งจริงๆ มกร เป็นสิบแปดมงกุฎ ศักดาหย่ากับหล่อน อารียาก็เข้าข้างศักดา ลูกเขยอย่างรพีพงษ์ก็เป็นปีศาจอีกตัวหนึ่งที่ตบตีหล่อน โดยไม่มี ความเมตตาเลย

เมื่อนึกถึงเรื่องนี้ ศศินัดดารู้สึกว่ากลายเป็นคนที่อนาถาที่สุด ในโลก และยังคิดฆ่าตัวตายอยู่ในใจ

หล่อนนั่งลงบนพื้นทันที และอดไม่ได้ที่จะร้องไห้ขึ้นมา ดึงดูด

ความสนใจของผู้คนที่เดินผ่านไปมา

“รพีพงษ์! แกนี่มันดาบพันเล่ม! ฉันกลายเป็นอนาถาขนาดนี้ เป็นเพราะตัวซวยอย่างแกทั้งนั้น แกลักพาตัวลูกสาวฉันไปแล้ว แล้วหลอกล่อให้ศักดาหย่ากับฉัน แกเป็นปีศาจที่เลวร้ายที่สุดใน โลก!”

ศศินัดดาสิ้นหวัง ไม่สนใจแล้วว่ารพีพงษ์ทำร้ายเขายังไง และ ประณามรพีพงษ์ขึ้นมาอีกครั้ง

“แกจะต้องได้รับผลกรรมอย่างแน่นอน แกทําร้ายฉันอย่าง สาหัส พระเจ้าไม่ปล่อยแกไว้แน่ แกค่อยดูเถอะ ใช้เวลาไม่นาน แกก็ต้องฉิบหาย!”
รพีพงษ์หันไปมองศศินัดดา ศศินัตตาคิดว่ารพีพงษ์จะเข้ามา ทําร้ายหล่อนอีก ตกใจจนลุกขึ้นจากบนพื้น วิ่งหนีไป

“แกฉิบหายแน่!”ศศินัดดาตะโกนขณะที่วิ่ง รพีพงษ์ส่ายหัวอย่างเอือมระอา ไม่สนใจศศินัดดา จากนั้นขึ้น

รถไปกับศักดา ก็รีบกลับไปที่บ้านชุมชนคำแหง

ในบ้าน

“รพีพงษ์ นายว่าพวกเราทำแบบนี้ ไร้ความรู้สึกเกินไปหรือ เปล่า แม่ฉันตัวคนเดียว ถ้าหากคิดไม่ตก จะทำเรื่องอะไรที่ รุนแรงหรือเปล่า?”อารียาถามอย่างเป็นห่วง

รพีพงษ์ยิ้มขึ้นมา แล้วพูดว่า “เรื่องนี้เธอสบายใจได้บนโลก ใบนี้ ใครก็ไม่สามารถห้ามมันไว้ได้ เลือกวิธีบางอย่างที่รุนแรง แต่ว่าหล่อนเป็นเพียงคนเดียวที่ไม่มีทาง หล่อนเห็นชีวิตสำคัญ กว่าทุกสิ่งทุกอย่าง”

ครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง และรู้สึกว่าที่รพีพงษ์พูดมามีเหตุผล จากที่ เธอรู้จักศศินัดดา คิดเช่นนี้ ก็รู้สึกคิดมากไปบ้าง

“เรื่องเหล่านี้เธอก็ไม่ต้องคิดมากแล้ว เธอควรจะรีบคิดว่าเรา ไปฮันนีมูนครั้งนี้ต้องเอาอะไรไปบ้างดีกว่า ฉันได้จัดแผนการเดิน ทางสําหรับเกาะพระจันทร์ไว้แล้ว เราจะออกเดินทางในอีกสอง วันรพีพงษ์กล่าวด้วยรอยยิ้ม

บนใบหน้าของอารียาก็แสดงออกมีความสุข ช่วงนี้เรื่อง ยุ่งเหยิงและการเผชิญหน้าทำให้จิตใจของเธอสับสนวุ่นวาย เธอก็อยากเดินทางไปเที่ยว เพื่อผ่อนคลายอารมณ์

ในตอนเย็น รพีพงษ์โทรศัพท์หานนทภู บอกนนทภูว่า เขา กำลังจะได้เป็นปู่แล้ว

หลังจากนนทภูทราบข่าว ก็รู้สึกยินดีปรีดา และตื่นเต้นจน

กระโดดโลดเต้น เกือบแทบจะทำลายห้องหนังสือของตัวเอง

ตั้งแต่ฐานะตัวตนของนนทภู เปลี่ยนไปเป็นเทพสังหาร นนทภู ก็ไม่เคยมีความสุขอีกเลย บนตัวของเขาแบกรับความลับ มากมายเกินไป เวลาทั้งหมดของเขา ก็เต็มไปด้วยเรื่องเล็กเรื่อง ใหญ่ของเทือกเขากิสนา

และข่าวที่รพีพงษ์บอกเขานั้น ช่างเหมือนกับแสงอันอบอุ่นที่ ปรากฏในโลกของเขาที่เต็มไปด้วยความมืดและการสังหาร ซึ่ง ทำให้เขารู้สึกว่าโลกนี้ไม่น่าเบื่ออีกต่อไป

เขาก็จะเป็นปูคนแล้ว!

เพื่อความปลอดภัยของหลานสาวที่ยังไม่เกิดของตัวเอง นนท ภูตัดสินใจทันที จะส่งยอดฝีมืออันดับเทพเจ้าแห่งสงครามสาม อันดับแรกมาเมืองริเวอร์ คอยปกป้องอารียาอย่างลับๆ

รพีพงษ์ไม่คาดคิดมาก่อนว่านนทภูจะใจกว้างขนาดนี้ จะส่ง อันดับเทพเจ้าแห่งสงครามสามอันดับแรกมา ตอนนั้นเขาบอ กกับนนทภูว่าไม่จําเป็น ตัวเองก็สามารถปกป้องความปลอดภัย ของอารียาได้

อย่างไรก็ตามนนทภูยืนยันที่จะส่งดัมพ์รงค์ทั้งสามคนมา บอกว่านี่คือน้ำใจของความเป็นปู่ของเขา รพีพงษ์ไม่ควรที่จะห้าม

รพีพงษ์ไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากตกลงกับนนทภู โดยคิดว่า เป็นการเพิ่มความปลอดภัยขึ้นมาอีกชั้น ในใจของเขาสบายใจ ขึ้นมาบ้าง

วันรุ่งขึ้น รพีพงษ์ให้เธียรวิชญ์ไปช่วยตัวล่องเรือไปยังเกาะ พระจันทร์ เขาและอารียาตัดสินใจในอีกสองวันข้างหน้า ออก เดินทางไปยังเกาะพระจันทร์ เริ่มต้นทริปสุดโรแมนติก

เธียรวิชญ์ซื้อห้องที่หรูหราที่สุดบนเรือสำราญ ถือว่าเป็นการ แสดงออกถึงความมีน้ำใจของตัวเอง ทำให้การเดินทางของพ พงษ์และอารียาสะดวกสบายยิ่งขึ้น

ชุมชนดอนแก้ว คฤหาสน์ของศศินัดดา

เนื่องจากนักรถูกหักแขนหักขาโยนให้ไปเป็นขอทานที่ข้าง ถนน คฤหาสน์หลังนี้จึงกลายเป็นที่อยู่อาศัยเพียงแห่งเดียวของ ศศินัดดา รพีพงษ์ไม่ได้ยึดคฤหาสน์หลังนี้คืน ให้หล่อนอยู่ใน บ้านหลังใหญ่เช่นนี้ตามลำพัง ปล่อยให้หล่อนยิ่งรู้สึกถึงความ ทรมานของความเย็นชาต่อจิตวิญญาณคน

ขณะนี้ในห้องนั่งเล่นของคฤหาสน์ ตรงกลางบนผนัง แขวน ภาพของกวนอู ด้านหน้าของภาพ มีโต๊ะธูปเทียน พร้อมผลไม้ที่ อยู่ด้านบน และจุดธูปไว้ไม่กี่ดอก

ศศินัดดากำลังคุกเข่าตรงหน้าภาพ สองมือประสานกัน หลับตา และใบหน้าเต็มไปด้วยคำอธิษฐานอย่างเคร่งเครียด
“กวนอู วายร้ายอย่างรพีพงษ์ได้ทำสิ่งชั่วร้ายมากมาย เขา ทําให้ครอบครัวของฉันต้องย่อยยับ และทำให้ฉันต้องอยู่ใน คฤหาสน์พักอันหนาวเย็นเพียงคนเดียว มันน่ารังเกียจมากที่สุด เลยจริงๆ ถ้ากวนอูยังมีชีวิตอยู่บนท้องฟ้า ได้โปรดลงโทษร พงษ์สักครั้ง ทางที่ดีที่สุดสามารถทำให้เขาตายได้เลย แบบนี้ก็ สามารถบรรเทาความเกลียดชังในใจของฉันได้ ฉันจะจุดธูปให้ กวนอูตรงเวลาทุกๆเดือน

พูดจบ ศศินัดดามคำนับกราบไหว้สองสามที่ต่อหน้าภาพ กวนอู

บนประเทศที่เป็นเกาะ หน้าสำนักศิลปะการต่อสู้ที่มีพื้นที่กว้าง

ขวาง

ร่างสูงยืนอยู่ที่นี่ จ้องมองไปที่แผ่นป้ายด้านบนสำนักศิลปะ การต่อสู้ ใบหน้าที่เยาะเย้ยปรากฏขึ้น

“คาเมดะอิจิโร่ คนเป็นพันยากที่จะเอาชนะ ประเทศที่เป็นเกาะ อยู่ยงคงกระพัน ในโลกแห่งการต่อสู้ เหอะๆ จำไว้ว่าตอนนั้นที่ฉัน มาหาเขาที่นี่ขอร้องให้เขาสอน เขาให้คนขับไล่ฉันออกไปทันที ตอนนั้นความแข็งแกร่งของฉันด้อยกว่าเขา ก็อดทนฝืนกล้ำกลืน ความโกรธไว้”

“ตอนนี้ฉันกลับมาจากเรียนกับอาจารย์มาแล้ว ก็ถึงเวลาที่จะ ต้องระบายโกรธแค้นนี้แล้ว ฆ่าคาเมดะอิจิโร่ ค่อยกลับไปที่ ประเทศตัดหัวรพีพงษ์”
อนันยชพึมพำกับตัวเองได้ไม่กี่ประโยค จากนั้นก็ก้าวเข้าไป ในสํานักศิลปะการต่อสู้

ทันในนั้นมีผู้เฝ้าประตูสองคนขวางอนันยชไว้ ใช้ภาษาญี่ปุ่น ด่า: “ทำอะไรนะ ที่นี่เป็นสำนักของอาจารย์คาเมดะอิจิโร่ คนนอก

ห้ามเข้า!”

อนันยาไม่พูด เตะออกไปตรงๆ ทั้งสองคนบินออกไป ลงกับพื้น อาเจียนเป็นเลือด และหยุดเคลื่อนไหว กระแทก

“ให้หลานชายคาเมดะอิจิโร่ไสหัวออกมาเจอฉันเดี๋ยวนี้


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ