พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว

บทที่900 ตื่นภวังค์จิตวิญญาณเทพ



บทที่900 ตื่นภวังค์จิตวิญญาณเทพ

“นี่มันเกิดอะไรขึ้น? ฉันหลับตาลงแล้วแท้ๆ ทำไมถึงได้เห็นทุก อย่างในห้อง แม้แต่ภาพที่อยู่ด้านหลังของฉัน ฉันก็ยังเห็นได้ อย่างชัดเจน?”

รพีพงษ์บ่นกับตัวเองจากนั้นก็ลืมตาขึ้น มองในห้อง แม้สายตา ของเขาจะมองเห็นเพียงแค่ด้านหน้า แต่พลังวิเศษนั้นยังคงอยู่ ดังนั้นเขายังคงรับรู้ได้ถึงสถานการณ์สามร้อยหกสิบห้าองศาทั่ว ห้องนั่นเอง

และรพีพงษ์ก็ยังรับรู้ได้ พลังวิเศษนี้ ออกมาจากคนจิต วิญญาณที่มีสีเขียวน้ำเงิน

เขาและคนสีเขียวอมน้ำเงินรู้สึกใกล้ชิดกันมาก พูดได้ว่า จิต

วิญญาณนั้นคืออีกส่วนหนึ่งของเขา

รพีพงษ์ลองขยับก้นลึกของจิตใจ ควบคุมจิตวิญญาณนั้นให้ เก็บพลังวิเศษนี้กลับไป การรับรู้สัมผัสรอบๆนั้นก็หายไปทันที เปลี่ยนเป็นการมองเห็นธรรมดา

จากนั้นรพีพงษ์ก็ได้ควบคุมการปล่อยพลังของจิตวิญญาณนั้น สถานการณ์ในห้องเริ่มกลับมาอยู่ในการรับรู้สัมผัสของเขาอีก ครั้ง

รพีพงษ์รู้แล้วว่าพลังแบบนี้ของเขาจะอยู่ในขอบเขตสี่เหลี่ยม ประมาณห้าเมตร สิ่งที่ปรากฏอยู่รอบๆห้าเมตร ล้วนมิอาจหลบหลีกการรับรู้สัมผัสของรพีพงษ์ได้

หรือนี่คือพลังจิต ในตำนาน? พลังของไม้เทพแดง ทำให้ฉัน ควบคุมพลังจิตใต้?” รพีพงษ์บ่นกับตัวเอง

ไม่ว่าจะยังไง ตอนนี้เขาควบคุมพลังแบบนี้ คล้ายๆกับพลังจิต อย่างมาก แต่จิตวิญญาณ ในหัวของเขาน ราวกับจะเก่งกาจกว่า คนที่มีพลังจิตพวกนั้นที่กลุ่มสิงโตบันทึกไว้เสียอีก

ถ้าบริพันธ์อยู่ที่นี่ เห็นลักษณะของรพีพงษ์ จะต้องตะลึงอย่าง ที่สุดเป็นแน่ เพราะตอนนี้พลังทั้งหมดที่รพีพงษ์มีอยู่ ไม่ใช้พลังจิต อะไรนั่น แต่เป็นจิตวิญญาณเทพที่ลึกกว่าพลังจิตนั่นร้อยเท่า

จิตวิญญาณนั่นที่อยู่ในสมองของรพีพงษ์ ก็คือจิตวิญญาณเทพ ของเขา

รพีพงษ์จะต้องไม่คาดคิดว่าการทดลองที่ผิดๆถูกๆของเขา

ทำให้จิตวิญญาณเทพโดยกำเนิดตื่นภวังค์

แม้จะมีจิตวิญญาณเทพโดยกำเนิด ตื่นภวังค์ก็ถือเป็นขั้นตอน ที่อันตรายอย่างหนึ่ง ที่ผ่านมา คนเก่งที่มีจิตวิญญาณเทพโดย กำเนิด ล้วนถูกดูแลด้วยกันทั้งหมด ตอนที่พวกเขากำลังทำจิต วิญญาณเทพตื่นภวังค์ จำเป็นต้องมีผู้อาวุโสกำกับอยู่ข้างๆ เพื่อ ไม่ให้เกิดข้อผิดพลาดใดๆขึ้นมา

แต่รพีพงษ์ลองผิดลองถูกจนจิตวิญญาณเทพตื่นภวังค์แล้ว แล้วยังไม่รู้ถึงอันตรายที่จะเกิดขึ้นอีก แล้วยังคิดว่าตัวเองโชคดีที่ มีพลังจิตวิญญาณแบบนี้
นี่ถ้าบริพันธ์รู้เข้า จะต้องสั่งสอนรพีพงษ์เป็นการใหญ่อย่าง แน่นอน นี่มันกำลังเสี่ยงชีวิตชัดๆ

โชคดี รพีพงษ์ไม่เป็นอะไร แล้วยังทำจิตวิญญาณเทพตื่น ภวังค์ได้สําเร็จ ต่อไปถ้าเขาเข้าใจในเรื่องนี้อย่างถ่องแท้แล้ว จะ ต้องตกใจเป็นอย่างมากแน่นอน

“ไม้เทพแดงนี่มันลี้ลับจริงๆ สามารถทำให้ฉันมีพลังจิตได้ นี่ ถ้าต่อไปตอนต่อสู้ใช้พลังจิตสังเกตการณ์คู่ต่อสู้ งั้นฉันก็รู้การ เคลื่อนไหวทุกอย่างของอีกฝั่งอย่าชัดเจน แบบนี้ก็ไม่ต้องกลัวว่า จะแพ้แล้ว

รพีพงษ์ค่อนข้างมีความสุข แต่เขาไม่รู้เลย ไม้เทพแดงเป็น เพียงผลข้างเคียงเท่านั้น ที่เขามีพลังแบบนี้ได้ เป็นเพราะเขามีจิต วิญญาณเทพ โดยกำเนิด แม้คนอื่นจะมีไม้เทพแดง แต่ก็เกรงว่า จะไม่มีความสามารถแบบเขาได้

รพีพงษ์ที่ควบคุม “พลังจิต”เบื้องต้นได้ก็แปลกใจกับความ สามารถแบบนี้ ดังนั้นจึงได้ทดสอบไปมาอยู่ในเตียง ไม่นาน เขา ก็รู้สึกว่าจิตวิญญาณของเขาเริ่มอ่อนแอลง ไม่สามารถไหลเวียน พลังจิตได้อีกแล้ว

แม้ผลลัพธ์ของจิตวิญญาณเทพจะแข็งแกร่ง แต่ก็ใช้พลังงาน จะทำให้คนตกใจได้เช่นกัน รพีพงษ์เพิ่งตื่นจากภวังค์จิตวิญญาณ เทพ แน่นอนว่าไม่สามารถยืนหยัดได้นาน

แต่จิตวิญญาณเทพจะเติบโตไปพร้อมๆกับรพีพงษ์ แข็งแกร่ง ไปพร้อมกับฝีมือของรพีพงษ์ จิตวิญญาณเทพของเขาก็จะแข็งแกร่งตามไปด้วย ดังนั้นฝีมือที่แสดงออกมาจะยิ่งมากขึ้นไป อีก

รพีพงษ์ในขั้นนี้ ในด้านจิตวิญญาณ เป็นแค่เด็กที่เพิ่งเริ่มเรียน เทียบกับยอดฝีมืออย่างบริพันธ์ ยังไม่พอ แต่สำหรับคนที่ไม่เคย ฝึกฝนจิตวิญญาณเทพ นี่ถือเป็นท่าไม้ตายที่ยอดเยี่ยมที่สุดแล้ว

ในขณะที่รพีพงษ์อยากจะพักผ่อน พักฟื้นจิตใจของตัวเอง เขา

รู้สึกว่ามีอะไรเต้นออกมาจากเสื้อผ้าของเขา เขายื่นมือไปลูบในชุด จากนั้นก็หยิบหยก โยงจิตออกมาสอง

อัน ความผันผวนเมื่อกี้ ออกมาจากด้านบน

รพีพงษ์จ้องไปที่หยกโยงจิตนั้น ตอนนั้นที่เกิดความผันผวนขึ้น เป็นตอนทีรพีพงษ์เก็บพลังจิตของตัวเองไว้

ดังนั้นเขาจึงทนกับความเหนื่อย ใช้พลังจิตเชื่อมไปที่หยก โยง

จิตนั่น จากนั้นหยกโยงจิตก็ขยับ แล้วมีพลังวิเศษออกมาก รพี

พงษ์รู้สึกว่าพลังจิตของตัวเอง ได้รับการฟื้นฟูแล้ว

หยกโยงจิตในสภาวะทั่วไป สามารถฟื้นฟูจิตใจคนได้ คิดไม่ ถึงว่ามันก็มีประโยชน์กับจิตวิญญาณเทพด้วยเช่นกัน

แม้หยงโยงจิตจะทำให้จิตวิญญาณของรพีพงษ์ฟื้นฟูได้ไม่เร็ว นัก แต่ดีกว่าที่รพีพงษ์ไม่ทำอะไรเลยแล้วให้มันฟื้นตัวด้วยตัวของ มันเอง ไม่แปลกที่กลุ่มสิงโตมองว่าหยกโยงจิตนี้ต้องมีค่าเท่ากับ สามแสนผลงาน ที่แท้ของสิ่งนี้ก็มีประโยชน์อย่างนี้อีกด้วย

ยังไงรพีพงษ์ก็ยังรวบวมหยกโยงจิตไม่ครบสามอัน ก่อนที่จะให้กับอาจารย์ เขาไม่คิดมากที่จะเอาหยกโยงจิตมาฟื้นฟูตัวเอง

เขารับรู้ได้ ถ้าเอาหยกโยงจิตติดตัวเป็นระยะเวลานาน พลัง

ของเขาจะค่อยๆเพิ่มขึ้น โดยทั่วไปแล้ว วันนี้รพีพงษ์ได้รับหลายอย่าง การมีพลังจิต อนาคตถ้าเขาต้องต่อสู้กับคนอื่น มีไพ่ใบสุดท้ายที่คนอื่นไม่มี ถ้า

อนาคตพลังจิตของเขาสามารถโจมตีอีกฝั่งได้โดยตรง ก็ยิ่งน่า

เกรงขามเข้าไปอีก

เก็บหยก โยงจิตและไม้เทพแดงไว้ รพีพงษ์ออกจากห้องไป ว่า จะไปเล่นกับอารยาและหนูลิน ผ่อนคลายนิดหน่อย แล้วให้หยก โยงจิตฟื้นฟูพลังจิตของตัวเองไปด้วย

หยก โยงจิตจะฟื้นฟูจิตวิญญาณเทพด้วยตัวมันเอง รพีพงษ์ เพียงแค่ให้จิตวิญญาณเทพของตัวเองเชื่อมโยงกับหยก โยงจิต หยกโยงจิตก็จะฟื้นฟูจิตวิญญาณเทพของเขาเอง โดยที่เขาไม่ ต้องทําอะไรเลย

ช่วงกลางวันของวันต่อมา รพีพงษ์กำลังกินข้าวเที่ยงอยู่ มีคน หนึ่งวิ่งเข้ามา บอกรพีพงษ์ว่ามีคนมาหาเขาอยู่ด้านนอก

รพีพงษ์แปลกใจ ไม่รู้ว่าตอนเขากินข้าวเที่ยง ใครมาหาเขา จึง ถามไปว่า “ใครมาหาผม?”

คนนั้นตอบทันทีว่า “คนที่มาอายราวๆ ยี่สิบเจ็บยี่สิบแปดปี เธอชื่อหงส์ บอกว่ามาขอความช่วยเหลือจากนายใหญ่”

ได้ยินคำพูดของคนนี้ รพีพงษ์ก็ชะงัก แม่เสือสาวมาเกียวโตได้ไง?


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ