พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว

บทที่304เลื่อนไปนั่งเฟิร์สคลาส



บทที่304เลื่อนไปนั่งเฟิร์สคลาส

สนามบินเมืองกรีนโคล

รพีพงษ์ขึ้นเครื่องนั่งลงไปบนที่นั่งแล้วหลับตาทันทีคิดจะ พักผ่อนสักครู่

ผ่านไปไม่นานเขาก็ได้ยินเสียงฝีเท้าลอยมาตามมาด้วย เสียงที่เต็มไปด้วยความโมโหดังขึ้น”รพีพงษ์เป็นนายอีกแล้ว ไอ้ตัวซวย!”

รพีพงษ์ลืมตาเงยหน้าขึ้นไปมองพบคนที่ยืนอยู่ตรงหน้า ของตนเองไม่นึกว่าจะเป็นกันตา

กันตาตอนนี้ก็พูดได้ว่าค่อนข้างลำบากผมบางลงกว่าหลาย วันก่อนมากบนใบหน้ายังคงมีรอยช้ำที่ยังไม่จางหายไปดูแล้ว คงโดนทุบตีมา

วันนั้นหลังจากที่สุกรณ์พากันตาและบาจรีย์ไปแต่เดิมเห็น ว่าพวกเธอทั้งสองคนหน้าตาไม่เลวอยากจะให้พวกเธออยู่กับ ตนเองสักคืนเมื่อเป็นอย่างนี้เขาก็จะไม่ลงไม้ลงมือกับผู้หญิง

แต่โชคชะตาของกันตาไม่แน่นอนตอนนั้นบาจรีย์ก็ ประนีประนอมยอมตามแล้วเธอรู้สึกว่าไม่ควรหาเรื่องสุกรณ์ หากไม่เชื่อฟังสุกรณ์ต้องใช้วิธีการที่โหดร้ายกว่าเดิมจัดการ พวกเธออย่างแน่นอนอีกอย่างเรื่องนี้ก็เป็นความผิดของพวก เธอจริงๆ

แต่ทว่ากันตารับรูปร่างอ้วนๆของสุกรณ์ไม่ได้ไม่ว่าบาจรีย์ จะพูดโน้มน้าวอย่างไรเธอก็ไม่เห็นด้วยพูดอยู่ด้านหลังจนเธอ รำคาญจึงตะโกนออกมาทันที:”ฉันไม่อยากจะนอนกับหมู ตอน”คำพูดนี้สุกรณ์ได้ยินแล้วเขาเกลียดชังการที่คนอื่น เรียกเขาว่าหมูตอนเป็นที่สุดรพีพงษ์เป็นแขกผู้มีเกียรติของ ตระกูลธนาพัชร์กุลเขาหาเรื่องไม่ได้ทำได้เพียงอดทนเอาไว้ แต่บาจรีย์และกันตาสองคนเขาไม่กลัวสักนิด

เวลานั้นเขาก็โมโหแล้วไม่อยากให้ทั้งสองคนนอนกับตนเอง แล้วพุ่งเข้าไปตบตีผู้หญิงสองคนนั้นทันทีไม่มีความหมายของ การทะนุถนอมผู้หญิงแม้แต่นิดเดียว

วันนั้นบาจรีย์และกันตาโดนตบตีจนน่าเวทนาหลังจากกลับ มาถึงบ้านพ่อแม่ของบาจรีย์ตกอกตกใจกันไปหมดทั้งสองคน ก็ไม่กล้าบอกที่บ้านว่าไปหาเรื่องสุกรณ์ทำได้เพียงโกหกว่า ไปหาเรื่องอันธพาลเข้าแล้ว

หลังจากวันนั้นบาจรีย์ก็เอาแต่บ่นกันตามาโดยตลอดบอก ว่าถ้าไม่ใช่เพราะกันตาพวกเธอก็คงไม่โดนตีหรอก

แต่กันตากลับรู้สึกว่าภารกิจของบาจรีย์นี้อันที่จริงวิธีการ ทั้งหมดของรพีพงษ์เป็นบาจรีย์ที่คิดออกมา

ด้วยเหตุนี้ทั้งสองคนจึงทะเลาะกันจนไม่มีความสุขอย่าง มากเริ่มขัดหูขัดตากันขึ้นมา วันนี้เช้ากันตากับบาจรีย์ทะเลาะ กันหนักมากขึ้นกันตาทนไม่ไหวที่จะอยู่ที่นี่ต่อไปจึงซื้อตั๋ว เครื่องบินกลับเมืองริเวอร์คิดไม่ถึงไม่นึกว่าจะมาเจอรพีพงษ์ บนเครื่องบินลำนี้

แล้วที่ยิ่งทำให้กันตาคิดไม่ถึงก็คือที่นั่งของเธอติดกับที่นั่ง ของรพีพงษ์ในใจของกันตากำลังโมโหที่ได้เห็นฉากนี้แน่นอน ว่ารู้สึกไม่ดีอย่างไม่มีอะไรมาเปรียบได้พุ่งเข้าไปตะโกนใส่รพี พงษ์ทันที รพิพงษ์ก็คิดไม่ถึงว่าตอนที่ตนเองกลับไปจะได้เจอกันตา แต่เขาไม่เคยสนใจกันตาอยู่แล้วดังนั้นหลังจากที่เห็นกันตา เขาจึงหลับตาพักผ่อนต่อไป

กันตาเห็นรพีพงษ์ไม่นึกเลยว่าจะเพิกเฉยเธอในใจก็ยิ่งไม่ ยินยอมนึกถึงตนเองที่โดนตบตีเพราะรพีพงษ์เธอโมโหมาก ยกมือขึ้นทันทีตบไปทางใบหน้าของรพีพงษ์

แม้รพิพงษ์จะหลับตาแต่เขาก็รู้สึกได้ถึงลมที่จะเข้ามาปะทะ ที่ใบหน้าของตนเองมือของกันตายังตบไม่ถึงใบหน้าของเขา เขาก็ยกมือขึ้นมาจับข้อมือของกันตาเอาไว้ก่อนแล้ว

“เธอจะทำอะไร?”รพีพงษ์ลืมตาขึ้นมองกันตาอย่างเย็นชา กันตาคิดไม่ถึงไม่นึกว่ารพีพงษ์หลับตาอยู่จะตอบสนอง

กลับมาได้ในใจก็ประหลาดใจแต่อย่างรวดเร็วเธอก็ดึงมือของ ตนเองกลับมาใบหน้าเต็มไปด้วยความโมโหกล่าวขึ้น :”เห็น นายแล้วหงุดหงิดไม่ได้เหรอ?”

รพีพงษ์ขมวดคิ้วพูดขึ้นอย่างเย็นชา “เห็นฉันแล้วหงุดหงิดก็ จะลงไม้ลงมือกับฉันงั้นเหรอ?งั้นฉันเห็นเธอแล้วหงุดหงิดก็ตี เธอได้ใช่ไหม?”

“ขยะอย่างนายมีสิทธิ์อะไรมาตีฉันครั้งที่แล้วไม่รู้จริงๆว่า นายทำบุญด้วยอะไรเจ้าหมูตอนนั้นไม่นึกว่าจะไม่ลงมือกับ นายในทางกลับกันดันมาจับพวกฉันสองคนรอยซ้ำบนหน้า ของฉันนายเป็นคนทำตอนนี้ฉันตบนายสักทีจะเป็นไร ไป?”กันตาพูดด้วยความโมโห

“เธอหาเรื่องใส่ตัวเองเกี่ยวอะไรกับฉันถ้าเธอยังเจตนา ก่อกวนอย่างไม่มีเหตุผลก็อย่าหาว่าฉันไม่สุภาพแล้วกัน รพิพงษ์ก็คิดไม่ถึงว่าตอนที่ตนเองกลับไปจะได้เจอกันตา แต่เขาไม่เคยสนใจกันตาอยู่แล้วดังนั้นหลังจากที่เห็นกันตา เขาจึงหลับตาพักผ่อนต่อไป

กันตาเห็นรพีพงษ์ไม่นึกเลยว่าจะเพิกเฉยเธอในใจก็ยิ่งไม่ ยินยอมนึกถึงตนเองที่โดนตบตีเพราะรพีพงษ์เธอโมโหมาก ยกมือขึ้นทันทีตบไปทางใบหน้าของรพีพงษ์

แม้รพิพงษ์จะหลับตาแต่เขาก็รู้สึกได้ถึงลมที่จะเข้ามาปะทะ ที่ใบหน้าของตนเองมือของกันตายังตบไม่ถึงใบหน้าของเขา เขาก็ยกมือขึ้นมาจับข้อมือของกันตาเอาไว้ก่อนแล้ว

“เธอจะทำอะไร?”รพีพงษ์ลืมตาขึ้นมองกันตาอย่างเย็นชา กันตาคิดไม่ถึงไม่นึกว่ารพีพงษ์หลับตาอยู่จะตอบสนอง

กลับมาได้ในใจก็ประหลาดใจแต่อย่างรวดเร็วเธอก็ดึงมือของ ตนเองกลับมาใบหน้าเต็มไปด้วยความโมโหกล่าวขึ้น :”เห็น นายแล้วหงุดหงิดไม่ได้เหรอ?”

รพีพงษ์ขมวดคิ้วพูดขึ้นอย่างเย็นชา “เห็นฉันแล้วหงุดหงิดก็ จะลงไม้ลงมือกับฉันงั้นเหรอ?งั้นฉันเห็นเธอแล้วหงุดหงิดก็ตี เธอได้ใช่ไหม?”

“ขยะอย่างนายมีสิทธิ์อะไรมาตีฉันครั้งที่แล้วไม่รู้จริงๆว่า นายทำบุญด้วยอะไรเจ้าหมูตอนนั้นไม่นึกว่าจะไม่ลงมือกับ นายในทางกลับกันดันมาจับพวกฉันสองคนรอยซ้ำบนหน้า ของฉันนายเป็นคนทำตอนนี้ฉันตบนายสักทีจะเป็นไร ไป?”กันตาพูดด้วยความโมโห

“เธอหาเรื่องใส่ตัวเองเกี่ยวอะไรกับฉันถ้าเธอยังเจตนา ก่อกวนอย่างไม่มีเหตุผลก็อย่าหาว่าฉันไม่สุภาพแล้วกัน แอร์โฮสเตสที่อยู่ไม่ไกล

แอร์โฮสเตสรีบเดินมาทางรพีพงษ์ทันทีถามอย่าง สุภาพ:”คุณผู้ชายสวัสดีค่ะมีอะไรให้ช่วยไหมคะ?”

“ชั้นเฟิร์สคลาสยังมีไหม?ผมอยากเลื่อนชั้น”รพีพงษ์เอ่ย ปาก

“มีค่ะแต่คุณผู้ชายต้องเพิ่มค่าใช้จ่ายของชั้นเฟิร์สคลาส ประมาณสามหมื่นกว่าค่ะไม่ทราบว่าคุณผู้ชายแน่ใจที่จะ เลื่อนชั้นไหมคะ?”แอร์โฮสเตสถามขึ้น

รพีพงษ์ยังไม่ได้พูดอะไรกันตาที่อยู่ด้านข้างก็หัวเราะขึ้นมา พูดด้วยสีหน้าที่เต็มไปความเหน็บแนม:”คุณอย่าไปฟังเขา พูดจาเหลวไหลเลยค่ะคนจนอย่างเขาเป็นไปได้อย่างไรที่จะ ไปนั่งชั้นเฟิร์สคลาสนี่เขากำลังเสแสร้งใส่คุณ คุณอย่ามาเสีย เวลากับเขาเลยรีบไปทำงานของคุณเถอะค่ะ”

แล้วเธอก็หันไปมองรพีพงษ์พูดอย่างเหยียดหยาม:”คิดไม่ ถึงไม่นึกว่านายจะยังมีหน้าไปบอกเธอว่าจะเลื่อนไปชั้นเฟิร์ส คลาสนายก็ไม่ตักน้ำใส่กะโหลกชะโงกดูเงาดูความน่า สะอิดสะเอียนอะไรของตนเองหน่อยเหรอทั้งร่างกายเป็น สินค้าข้างทางซื้อตั๋วเครื่องบินชั้นประหยัดก็น่าจะทำให้ ครอบครัวล่มจมแล้วสินะไม่นึกว่ายังเพ้อเจ้อจะไปนั่งชั้นเฟิร์ส คลาสอีกฉันว่านายคิดจะให้เธอเลื่อนระดับชั้นให้ฟรีๆล่ะสิ อย่าฝันไปหน่อยเลย”

รพีพงษ์รู้สึกอยากจะขำคนอย่างกันตาคงทำได้เพียงมีชีวิต อยู่ในโลกของตนเองตลอดไปเธอเองซื้อไม่ได้จึงคิดว่าคนอื่น ก็คงซื้อไม่ได้ด้วยแล้วยังเน้นย้ำออกมาอย่างแน่วแน่เหมือน กับกลัวว่าจะโดนคนอื่นเหยียบให้ตกต่ำอย่างนั้น รพิพงษ์ไม่ได้สนใจเธอแต่กลับส่งบัตรATMของตนเองไป ให้แอร์โฮสเตสทันที “ช่วยเลื่อนชั้นให้ผมแล้วกันโอนเงินจาก ในบัตรนี้ได้เลยรหัสคือหมายเลขบัตร6ตัวหลัง”

แอร์โฮสเตสมองกันตาอย่างค่อนข้างแปลกใจแต่ก็ไม่ได้พูด อะไรยื่นมือไปรับบัตรATMของรพีพงษ์ไปช่วยจัดการเลื่อน ระดับให้รพีพงษ์แล้ว

กันตายังคงมีสีหน้าเยาะเย้ยพูดขึ้นอย่างเย็นชา:”รพีพงษ์ เมื่อครู่นายไม่ได้ยินเธอบอกเหรอว่าชั้นเฟิร์สคลาสราคาเท่า ไหร่?ไม่นึกว่านายจะยังให้เธอไปจัดการในบัตรATMของนาย นั้นยังมีเงินเหรอ?อย่ารอให้เธอมาบอกนายว่ายอดเงินไม่ เพียงพอเลยนั่นจะน่าขำนะ”

“ก็แค่สามหมื่นหยวนเยอะมากเหรอ?”รพีพงษ์จ้องกันตา เขม็งราวกับพูดเรื่องทั่วๆไปเรื่องหนึ่ง

ผู้คนรอบๆได้ยินคำพูดของรพีพงษ์ต่างก็อ้าปากค้างด้วย ความตกใจสามหมื่นหยวนคิดๆแล้วก็ไม่ได้ถือว่ามากมายแต่นี่ ก็เป็นการเปรียบเปรยเท่านั้นถ้าใช้สามหมิ่นนี้ซื้อตั๋วเครื่องบิน ล่ะก็สำหรับพวกเขาแล้วยังคงฟุ่มเฟือยเกินไป

ตอนนี้รพีพงษ์ราวกับไม่สนใจเงินสามหมื่นนี้อย่างนั้นแหละ ทำให้พวกเขาตกตะลึงกันไปหมด

หลังจากกันตาได้ยินคำพูดของรพีพงษ์แล้วยิ่งรู้สึกว่าเขา กำลังเสแสร้งหันไปพูดกับคนรอบๆข้าง “ทุกคนฟังนะคะ ผู้ชายคนนี้เป็นสามีของเพื่อนสมัยมหาวิทยาลัยของฉันเขา แต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงอยู่ในบ้านนอกจากทำงานบ้านอย่างอื่น ก็ทำไม่เป็นแล้วดื่มกินอะไรล้วนแต่ใช้ของภรรยาเขาตอนนี้ไม่ นึกว่าเขาจะพูดว่าสามหมื่นก็ไม่ได้มากมายฉันล่ะขำจะตาย อยู่แล้วสามหมื่นนี้คาดว่าเศษตังค์อีกสิบปีของเขาก็คงเก็บ รวบรวมไม่ได้ไม่นึกว่าเขาจะยังมีหน้ามาเสแสร้งแกล้งทำอยู่ที่ นี่

หลังจากคนรอบข้างได้ยินสิ่งที่กันตาพูดก็เริ่มเหน็บแนมรพี พงษ์ขึ้นมาทันทีบอกว่าเขาหน้าไม่อายเป็นผู้ชายที่เกาะผู้ หญิงกินชัดๆแต่กลับอวดร่ำอวดรวยต่อหน้าคนอื่น

ผ่านไปไม่นานแอร์โฮสเตสก็ถือบัตรATMของรพีพงษ์เดิน เข้ามาท่าทางเคารพนอบน้อมมากกว่าเมื่อครู่อย่างชัดเจน

กันตาเห็นแอร์โฮสเตสเดินเข้าก็รีบถามด้วยใบหน้าที่เต็มไป ด้วยความเยาะเย้ย:”ในบัตรของเขาเงินไม่พอใช่ไหมฉันก็ บอกไปแล้วว่าเขาเป็นแค่คนจนๆเป็นไปไม่ได้ที่จะนั่งชั้นเฟิร์ส คลาส”

หลังจากแอร์โฮสเตสได้ยินคำพูดของกันตาสีหน้าก็แย่มาก เบิกตาโพลงจ้องเธอทันทีพูดขึ้นอย่างเย็นชา :”คุณผู้หญิงคะ โปรดระวังคำพูดของคุณด้วยค่ะคุณผู้ชายท่านนี้เป็นแขกผู้มี เกียรติขั้นสูงสุดของสายการบินพวกเราถ้าคุณยังพูดจา หยาบคายกับเขาพวกเรามีสิทธิ์เชิญคุณลงจากเครื่องบินนะ คะ”

แค่แอร์โฮสเตสพูดออกมาสีหน้าของทุกคนก็เปลี่ยนไปมอง รพีพงษ์ด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความคาดไม่ถึงไม่คิดว่าเขา จะเป็นแขกผู้มีเกียรติขั้นสูงของสายการบินนี้

กันตาก็มองรพีพงษ์อย่างตกตะลึงในใจยังคงยอมรับไม่ได้ อยู่เล็กน้อย “คุณไม่ได้พูดผิดใช่ไหมเขาเป็นแค่ผู้ชายที่เกาะ ผู้หญิงกินเท่านั้นจะเป็นแขกผู้มีเกียรติของสายการบินพวก คุณไปได้อย่างไรคุณต้องจำผิดคนแน่ๆ” แอร์โฮสเตสมองกันตาอย่างอารมณ์ไม่ดีพูด ขึ้น “บัตรATMของคุณผู้ชายท่านนี้เป็นแบล็คการ์ดขั้นสูง ของธนาคารโลกบัตรใบนี้แสดงถึงตัวตนของคุณผู้ชายท่านนี้ ว่าไม่เป็นรองใครไม่ว่าจะสถานที่ไหนเพียงแค่ครอบครอง บัตรใบนี้เขาก็เป็นลูกค้าที่ล้ำค่าที่สุดค่ะ”

พูดจบแอร์โฮสเตสก็หันไปมองรพีพงษ์พูดขึ้นด้วยน้ำเสียง อ่อนโยน”คุณผู้ชายคะเพราะคุณเป็นผู้ถือบัตรแบล็คการ์ด ของธนาคารโลกคุณจึงเลื่อนไปชั้นเฟิร์สคลาสได้โดยไม่ต้อง เสียค่าใช้จ่ายในทุกเที่ยวบินของสายการบินเราดังนั้นการ เลื่อนชั้นครั้งนี้คุณไม่ต้องออกเงินค่ะนี่บัตรของคุณโปรดรับ ด้วยค่ะเชิญมาชั้นเฟิร์สคลาสกับดิฉันได้เลยค่ะ”

รพีพงษ์พยักหน้าเก็บบัตรATMของตนเองขึ้นมาแล้วลุกขึ้น ยืนเดินไปชั้นเฟิร์สคลาสกับแอร์โฮสเตส

กันตาและคนรอบข้างล้วนแต่ตะลึงงันค่าตอบแทนอย่างนี้ สำหรับพวกเขาแล้วราวกับเป็นเรื่องเพ้อฝันคนไม่น้อยเลยที่ แสดงสี่หน้าอิจฉาออกมา

มีเพียงแค่กันตาเท่านั้นที่กำหมัดแน่นมองที่นั่งข้างๆตนเอง ที่ว่างเปล่าเหมือนเดิมในใจก็ยิ่งเกลียดชังรพีพงษ์มากขึ้น


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ