พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว

บทที่458 อนาคตไกล



บทที่458 อนาคตไกล

“ความสามารถของแกมากกว่าที่ฉันคิดไว้ เก่งกว่าที่ฉัน นึกไว้เสียอีก”

“ถ้าวันนี้แกต่อยกับฉันคนเดียวล่ะก็ ฉันอาจไม่ใช่คู่แข่ง ของแก แต่นี่คือปีนบันไดสูง แม้ตอนนี้พลังของแกจะใช้จน หมดแล้ว แต่ฉันก็ต้องใช้กาลังทั้งหมดที่มีต่อสู้กับแก

“หวังว่าแกจะรอดออกไปได้ ฉันอยากต่อยสู้ก็แกโดยที่ แกใช้พลังเต็มที่ แม้แพ้ แต่ฉันก็จะยอมรับมัน”

ดัมพ์รงค์จ้องไปที่รพีพงษ์ ด้วยสายตาที่ชื่นชม รพีพงษ์ยิ้มให้กับดัมพ์รงค์ แล้วกล่าว “แม้จะเป็นตอนนี้ แต่ฉันก็ยังคงชนะแกได้เช่นเคย”

“หวังว่าแกจะยังคงรักษาระดับก่อนหน้านี้ไว้นะ” ดัมพ์ รงค์รู้สึกว่ารพีพงษ์ไม่ได้คุยโว เพียงแค่พูดอย่างเรียบง่าย

รพีพงษ์ มชนท่าทีของดัมพ์รงค์ เขารู้สึกได้ว่าคนที่อยู่ ด้านหน้า แม้จะเป็นลำดับที่หนึ่ง แต่ก็ไม่ได้มองข้ามคนอื่น นี่สิ ถึงจะเป็นท่าทีของคนเก่งที่มีฝีมือจริงๆ

“เชิญ” รพีพงษ์สูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วทำท่าเชิญต่อ ดัมพ์รงค์ ให้เขาลงมือ

ดัมพ์รงค์ไม่ลังเล พุ่งไปที่รพีพงษ์โดยตรง อย่างรวดเร็ว

โดยที่คนเหล่านั้นไม่สามารถเทียบเท่าได้

รพีพงษ์ก็มีสมาธิ เขารู้ว่านัดนี้เป็นนัดที่นากที่สุดในปร ต่อสู้ ดังนั้นจึงไม่กล้าออมมือ

บวกกับก่อนหน้านี้ที่เขาได้ใช้พลังอันมหาศาลในการ ต่อสู้ไปแล้ว ตอนนี้จะต่อสู้กับดัมพ์รงค์โดยใช้กำลังทั้งหมดที่ มีได้หรือไม่นั้น ไม่รู้เลยจริงๆ ความเร็วและพลังของดัมพ์รงค์จัดอยู่ในขั้นสูงสุด เทียบ กับยอดฝีมือก่อนหน้านี้ ดัมพ์รงค์มีครบกว่า ไม่ว่าจะในด้าน ใด ก็หาจุดอ่อนไม่เจอ

รพีพงษ์รู้ดี มีเพียงยอดฝีมือ ถึงจะต่อกลอนยาก ดังนั้น เขาจะต้องใช้ความคิดมากกว่าก่อนหน้านี้ในการที่จะหาจุด อ่อน ให้เขาเผยจุดอ่อนออกมา

ถึงแม้ก่อนหน้ารพีพงษ์จะผ่านการต่อสู้มาแล้วเก้านัด แต่ ดัมพ์รงค์ก็ไม่ได้มองข้ามรพีพงษ์แต่อย่างใด เขาใช้พลัง ทั้งหมดที่มี มาสู้กับรพีพงษ์

สิ่งที่ทําให้เขาตะลึงคือ หลังจากที่รพีพงษ์ได้ผ่านการ ต่อสู้มาหลายนัด แล้วยังสามารถต่อกลอนกับหมัดของเขาได้ ทั้งหมด เขาจินตนาการไม่ออกว่าถ้ารพีพง ใช้พลังทั้งหมดที่ มี จะน่ากลัวมากขนาดไหน

หลายปีมานี้ เขาไม่ได้เห็นคนคนที่มีกำลังน่ากลัวมาก ขนาดนี้มานานแล้ว ครั้งที่แล้วที่เขาเจอแล้วมีพลังมากขนาดนี้ ก็เป็นตอนที่เผชิญกับมารเหล่านั้น

การต่อสู้ที่น่าสนใจของทั้งคู่ถึงจุดไคล์แม็ก นี่คือการ ต่อสู้นัดหนึ่งที่น่าสนใจที่สุด ในหลายปีมานี้ของเทือกเขากิ สนา

เตชัสยืนอยู่ข้างๆเวที มองไปยังรพีพงษ์อย่างตาค้าง

หรือนี่คือขีดจํากัดความสามารถที่รพีพงษ์พูดไว้งั้นหรอ? ถ้าไม่ใช่เพราะเห็นท่าทีของรพีพงษ์ เตชัสคิดว่ายอดฝีมือ ดัมพ์รงค์ ก็ได้ใช้พลังจนถึงขีดจํากัดความสามารถของ ตนเองแล้วเช่นกัน

ที่แท้ เขาไร้เดียงสาไป หลังจากที่มาถึงเทือกเขากิสนา แล้วนั้น เตชัสคิดว่าความแตกต่างระหว่างตัวเองกับรพีพงษ์ นั้นมีไม่มาก ตอนนี้ดูๆแล้ว คนที่ฝึกฝนกับเขาตอนที่อยู่ในป่า นั้น ฝีมือห่างกับเค้าราวกับฟ้าและเหวแล้ว

ชั้นสาม ธนเทพมองไปยังรพีพงษ์ที่กำลังต่อสู้อยู่ด้วย สายตาเครียดแค้น เขากำหมัดไว้แน่น จนด้านบนเริ่มบวมช้ำ ร่างกายเริ่มสั่น

ตอนที่รพีพงษ์ชนะสามนัดติด เขาคิดว่ารพีพงษ์ถึงขีด จำกัดความสามารถของร่างกายแล้ว ต้องยืนหยัดได้อีกไม่ นานแน่นอน

รพีพงษ์จัดการยอดฝีมือทั้งสามได้อย่างสบาย ไม่มีคน ไหนที่ต่อกลอนกับรพีพงษ์ได้เกินสามสิบหมัด

จนกระทั่งถึงเทพเจ้าสงครามลำาดับที่สี่ กําลังของรพี พงษ์ลดลงมานิดนึง ไม่ได้น่ากลัวเฉกเช่นก่อนหน้านี้แล้ว ในตอนนั้นธนเทพคิดว่ารพีพงษ์ยืนหยัดได้มากสุดถึงแค่

ยอดฝีมือเทพเจ้าสงครามลำดับที่สาม ก็จะแพ้และตายไปเอง

แต่ทว่ารพีพงษ์ผ่านมาได้ตลอด จนมาถึงการต่อสู้กับ ดัมพ์รงค์ ทั้งหมดนี้เหนือความคาดหมายของธนเทพทั้งหมด

เขาใช้เงินสามหมื่นล้าน เพื่อเตรียมให้รพีพงษ์ กลายเป็น ตัวตลกในปีนบันไดสูงนี้ และเสียชีวิตต่อหน้าผู้คนที่มาในเทิ อกเขากิสนานี้

แต่ทว่าการแข่งขันปีนบันไดสูงนั้น ทุกคนได้รับรู้ถึง ความเก่งกาจของรพีพงษ์ แม้เขาจะแพ้ให้กับดัมพ์รงค์ เจ้าของเทือกเขา สนาก็ไม่มีทางให้รพีพงษ์ตายบนเวที แน่นอน เพราะการที่จะปั่นยอดฝีมือได้นั้น ต้องฝึกฝนขึ้นมา ยากสาบากแน่นอน เจ้าของเทือกเขา สนาไม่ใช่คนโง่ ไม่มี ทางให้คนที่มีพรสวรรค์ตายไปอย่างเสียเปล่าแน่นอน

หลังจากที่รพีพงษ์และดัมพ์รงค์ได้แลกหมัดกันแล้วนั้น ก็ถอยหลังอย่างเร็ว ราวกับกลับไปตั้งรับ ดัมพ์รงค์เห็นเหตุการณ์ เห็นตุดอ่อนของรพีพงษ์ ก็ถีบ ไป ที่จุดอ่อนนั้นของรพีพงษ์โดยตรง

รพีพงษ์ยิ้มอย่างร้ายกาจ ถอยหลังไปอย่างเร็ว แล้วเอา

มือมารับขาของดัมพ์รงค์ไว้

ดัมพ์รงค์สีหน้าถอดสี รู้แล้วว่าตกหลุมพลองของรพีพงษ์ แล้ว แต่ทว่าทั้งสองปล่อยหมัดนั้น เป็นเพียงชั่วขณะ ตอนนี้ รู้ตัว ก็สายไปเสียแล้ว

หลังจากที่รพีพงษ์จับเท้าของดัมพ์รงค์แล้วนั้น ก็กัดฟัน แล้วใช้กําลังเฮือกสุดท้าย ผลักดัมพ์รงค์ออกไป

ร่างของดัมพ์รงค์ลอยขึ้น ในตอนที่รพีพงษ์ปล่อยมือ ร่าง เขาก็ลอยออกจากเวทีไป

ลอยออกไปนอกเวที ดัมพ์รงค์ทรงตัว ยืนขึ้นจากพื้น

รพีพงษ์โบกมือ แล้วยิ้ม

“ชนะแล้ว”

ดัมพ์รงค์ก็โบกมือ แล้วคำนับให้ แล้วกล่าว “เทพเจ้า สงครามอันดับที่หนึ่ง มอบให้แก!”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ