พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว

บทที่ 831 ความเคยชินคือบ่อเกิดแห่งความชำนาญ



บทที่ 831 ความเคยชินคือบ่อเกิดแห่งความชำนาญ

ประเทศญี่ปุ่น เมืองโตเกียว

ณ ร้านที่ได้รับความนิยมร้านหนึ่งในห้าง

รพีพงษ์พาอุเอสึงิ ฮารุมายังด้านหน้าร้านเสื้อผ้าแบรนด์เน มร้านหนึ่ง อุเอสึงิ ฮารุกำลังมองเสื้อผ้าที่สวยงามที่วางอยู่เต็มไป หมด ถึงกับมีอาจละสายตาไปได้

แม้จะเป็นคุณหนูของตระกูลอุเอง แต่อุเอสึงิ ฮารุก็ใช้ชีวิต อย่างคนทั่วไป แม้ตระกูลอุเอสึงจะมีเงิน เธอก็ไม่ได้ใช้อยู่ดี ดัง นั้นเหมือนร้านเสื้อผ้าแบรนด์เนมนี้ อุเอสึงิ ฮารุไม่เคยมองก่อน เลย

“คุณชาย ไม่งั้นพวกเราไปดูร้านเสื้อผ้าค้าส่งที่อยู่ด้านนอกดี กว่า เสื้อผ้าที่นี่แพงไป ฉันไม่อยากคุณชายเปลืองเงิน” อุเอสึงิ ฮา รุมองไปที่รพีพงษ์แล้วกล่าว

รพีพงษ์ได้ยินคำพูดของอุเอสึงิ ฮารุจึงยิ้มออกมา แล้วกล่าว “ไปซื้อที่ร้านค้าส่งหรือซื้อที่นี่สำหรับผมแล้วก็ไม่ต่างกัน แต่ใน เมื่อจะซื้อชุดใหม่ ก็ต้องซื้อที่มันดูดีหน่อย สบายใจได้ ซื้อเสื้อผ้า ไม่กี่ชุดสำหรับผมแล้วยังไม่ถือว่าเปลืองเงินนะ”

ที่รพีพงษ์พูดแบบนี้ก็แค่โอ้อวดก็เท่านั้น เพราะสำหรับรพีพงษ์ ที่ในบัตรมีเงินหมื่นล้าน จ่ายห้าล้านหรือห้าหมื่น ก็ไม่ได้ต่างกัน มากจริงๆ
บัตรธนาคารของรพีพงษ์ใช้ได้ทั่วโลก ตอนที่รูดบัตรจะคิด ตามอัตราแลกเปลี่ยนแล้วหักลบเอา ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องไป ธนาคารเพื่อแลกเงินเยน

อุเอสึงิ ฮารุได้ยินรพีพงษ์พูดแบบนี้ ก็ไม่ปฏิเสธ ดังนั้นจึงได้

พยักหน้าให้รพีพงษ์ แล้วเดินไปที่ร้านนั้นพร้อมกับรพีพงษ์

ราคาที่อยู่บนป้ายของชุดในร้านนี้ใช้สกุลเงินดอลล่าร์ ชุดที่ ถูกที่สุด ก็ราคาพันดอลล่าร์อัพ แม้จะเป็นญี่ปุ่นประเทศที่พัฒนา แล้ว แต่ที่นี่ก็เป็นที่ๆของคนรวยเท่านั้นที่จะอยู่ได้

เพราะคนที่มาซื้อของในร้านมีจำนวนน้อย ปกติคนที่เข้ามาก็ แค่มาดู ดังนั้นพนักงานในร้านจึงไม่มีอะไรทำ เห็นรพีพงษ์และอุ เอสึงิ ฮารุเข้ามา ไม่ได้มีการเข้ามาแนะนำแต่อย่างใด

แล้วเมื่อพนักงานเหล่านั้นเห็นการแต่งกายของรพีพงษ์และอุเอ ส็ง ฮารว่าแย่มากแล้ว จึงไม่อยากเข้ามาแนะนำพวกเขาแต่อย่าง

ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน ก็ต้องมีการเหยืดหยามเกิดขึ้น แต่สิ่งที่ ประเทศญี่ปุ่นและประเทศจีนต่างกันคือ เมื่อพนักงานของประเทศ ญี่ปุ่นเห็นลูกค้าใส่ชุดธรรมดาเข้ามา จะไม่ไล่พวกเขาออก เพราะ พวกเขาไม่อยากเสียอารมณ์กับคนจน อีกอย่างก็คือขี้เกียจจะ ใส่ใจ

แต่ถ้าเป็นพนักงานร้านแบนด์เนมเห็นคนสวมใส่ชุดข้างทาง จะรีบไล่พวกเขาออกไปในทันใด

รพีพงษ์รู้สึกคุ้นเคยกับเรื่องแบบนี้ไปแล้ว ดังนั้นจึงไม่ถือสา พาอุเอ งิ ชุดในร้าน

ผ่านไปไม่นาน อุเอสึงชอบกระโปรงที่สวยงามมากตัวหนึ่ง รพ พงษ์เอาประโปรงตัวนั้นออกมา ให้อุเอสึงิ ฮารลองใส่ดู

พนักงานเห็นดังนี้ ก็รีบเดินเข้ามา

“ขอโทษค่ะ พวกคุณจะลองชุดใช่ไหม?” พนักงาน ใช้ภาษา ญี่ปุ่นคุยกับรพีพงษ์

รพีพงษ์พยักหน้า

“ขอโทษค่ะ เสื้อผ้าของร้านเราต้องซื้อก่อนถึงจะลองได้ ถ้า พวกคุณไม่ซื้อ ก็อย่าลอยเลย” พนักงานกล่าว

ความจริงพวกเขาไม่มีกฎนี้ เธอเพียงแค่คิดว่ารพีพงษ์และอุเอ สิ่ง ฮารุไม่มีทางซื้อ ถ้าให้พวกเขาลองชุด เกิดทำสกปรกขึ้นมา เธอจะมีปัญหา

“คุณชาย งั้นพวกเราไม่เอาแล้วดีกว่า ความจริงซื้อข้างนอกก็ เหมือนกันนะ” อุเอสึงิ ฮารเห็นพนักงานร้านดูถูกพวกเขา จึงได้ ถอยตัวออก

ในขณะเดียวกันนี้มีชายหนึ่งหญิงหนึ่งเดินมาจากด้านนอก สองคนนี้เป็นนักท่องเที่ยวที่มาจากประเทศจีน ครอบครัวมีฐานะ ชอบเข้าร้านแบรนด์เนม ไปทุกๆที่ จะต้องเข้าร้านแบรนด์เนมทุก ครั้ง ลิ้มลองการเป็นพระเจ้าสักหน่อย

พวกเขาทั้งสองได้ยินรพีพงษ์และอุเอสึงิ ฮารพูดภาษาจีน ได้ และสังเกตท่าทีของพนักงานร้าน รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เกิดความหยามเหยียดขึ้นในใจ ยิ้มพลางเดินไปที่พวกเขา

“โอ๊ะ โอ๊ะ คิดไม่ถึงจริงๆ ไม่คาดคิดว่าคนที่สวมใส่ชุดข้างถนน จะกล้าเข้ามาในร้านแบรนด์เนม เพราะฉันตามไม่ทัน หรือเป็น เพราะพวกคุณไม่รู้สถานะตัวเองกันแน่นะ?” ฝ่ายหญิงประชด ประชัน

ฝ่ายชายจ้องไปที่รพีพงษ์ ยิ้มพลางกล่าว “เด็กน้อย คุณน่าจะ เป็นคนจีนสินะ ถ้าจะให้ผมพูด ออกมานอกประเทศ อย่าทำให้ คนจีนเสียหน้า คุณไม่เห็นหรอว่าพนักงานไม่อยากพูดกับพวก คุณแล้วหนะ?”

รพีพงษ์มองทั้งสองอย่างเซ็ง คิดไม่ถึงว่าไม่ว่าตัวเองจะไป ที่ไหน ก็ต้องเจอกับพวกที่น่ารำคาญอย่างนี้ตลอดเล เลย

ด้วยประสบการณ์ที่ผ่านมา รพีพงษ์ไม่ให้โอกาสทั้งสองได้ เหยียดหยามตัวเองต่อ จึงได้ถามผู้ชายคนนั้นไปว่า “งั้นคุณคิด ว่า อะไรที่จะถือว่าไม่ทำให้คนจีนเสียหน้าล่ะ?”

“คือ เรื่องแบบนี้ ไม่เกี่ยวกับปัญหา แต่เกี่ยวกับตัวบุคคล ไม่ ว่าทำอะไรก็จะทำให้คนจีนเสียหน้าหมดแหละ ผมสูงส่งขนาดนี้ ไม่ว่าทำอะไร ล้วนดูดีกว่าคนทุกเมื่อ เข้าใจไหม?” ฝ่ายชายกล่าว

รพีพงษ์พยักหน้า กล่าว “โอเค หวังว่าคุณจะสูงส่งได้ตลอด รอดฝั่งนะ”

จากนั้นเขาก็หันหลังไปมองพนักงานคนนั้น เอาบัตรธนาคาร ของตัวเองออกมา แล้วยื่นไป กล่าว “ช่วยเติมเงินสมาชิกล้า นดอลล่าร์ให้ผมหน่อย แล้วเอาชุดที่เราดูเมื่อกี้เตรียมไว้ให้ด้วยขอบคุณ”

พนักงานชะงัก แล้วแสดงออกด้วยสายตาตื่นเต้น ถามกลับไป ว่า “แน่……แน่ใจหรอคะ?”

รพีพงษ์พยักหน้า

สายตาของพนักงานคนนั้นมองไปที่รพีพงษ์อย่างไม่เหมือน เดิม เธอรีบหยิบบัตรของรพีพงษ์ไปทำบัตรสมาชิก

ชายหญิงคู่นั้นเห็นดังนี้ ก็อ้าปากค้าง ตอนแรกพวกเขาอยาก จะเหยียดหยามรพีพงษ์เสียหน่อย กลับกลายเป็นว่ารพีพงษ์เติม เงินเข้าไปในบัตรสมาชิกล้านดอลล่าร์เสียอย่างนั้น ใครจะรู้ ไหว?

“จริงหรือเปล่า หลอกกันปะเนี่ย?” ฝ่ายหญิงพึมพำกับตัวเอง ฝ่ายชายพยักหน้า รู้สึกว่าน่าจะเป็นไปได้

แต่ทว่าห้านาทีหลังจากนั้น เห็นพนักงานยื่นบัตรธนาคารให้ อย่างยินดีปรีดา รวมทั้งเตรียมชุดไว้ให้เรียบร้อย คู่ชายหญิงคู่ นั้นถึงกับพูดไม่ออกเลยทีเดียว

รพีพงษ์รับบัตรธนาคารกลับมา หันไปแล้วยิ้มให้กับคู่นั้น กล่าว “ผมจนขนาดนี้ แต่เติมเงินสมาชิกไปล้านดอลล่าร์ เพื่อ แสดงความสูงส่งของพวกคุณ พวกคุณต้องเติมมากกว่าผมมั้ย?”

ฝ่ายชายเหงื่อไหลไม่หยุด แม้เขามีทรัพย์สินของตระกูลอยู่ บ้าง แต่เติมเงินสมาชิกล้านดอลล่าร์ง่ายๆแบบนี้ แล้วยังเป็นดอล ล่าร์อีก ให้ตายเขาก็ไม่กล้า
“น้อง……..องชาย เมื่อพวกเราบ้าบินไปหน่อย อย่าถือสา เลย ทิ้งเบอร์ติดต่อไว้หน่อยมั้ย เดี๋ยวผมจะเลี้ยงข้าวชดเชยความ ผิด” ฝ่ายชายยิ้มแหยๆ

ซึ่งเหอะ ผมกลัวว่าคนจนอย่างผม ไม่เหมาะกับอาหารของคน สูงส่งอย่างพวกคุณ”

พูดจบ รพีพงษ์ก็หยิบชุด พาอุเอสึงิ ฮารุ เดินออกไปข้างนอก

อุเอสึงิ ฮารมองเรื่องที่เกิดขึ้นอย่างตาค้าง ไม่คาดคิดว่าร พงษ์จะจัดการเรื่องนี้ได้อย่างง่ายดาย เหมือนผ่านการอบรมมา แล้วอย่างไรอย่างนั้น

“คุณชาย ทําไม คุณใช้เวลาอันสั้น แสดงอำนาจให้สองคน เห็นได้อย่างเร็ว? คุณชั่งร้ายกาจจริงๆ!” อุเอสึงิ ฮารุกล่าว

รพีพงษ์หันไปยิ้มพลางมองอุเอสึงิ ฮารุ แล้วกล่าว

“เพราะ…….ความเคยชินคือบ่อเกิดแห่งความชำนาญ


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ