พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว

บทที่408 เป็นได้แค่คนถือรองเท้าของกูเท่านั้น



บทที่408 เป็นได้แค่คนถือรองเท้าของกูเท่านั้น

ณ cocoบาร์

แสงไฟสลัว คู่กับดนตรีที่ครึกครื้น ทำให้ทั้งบาร์เต็มไป ด้วยความตื่นเต้น

ผู้หญิงที่แต่งตัวโป๊กำลังอยู่บนฟลอร์แดนซ์กำลังส่ายเอว ตนเองไปมา ผู้ชายจำนวนไม่น้อยอยู่รอบๆพวกเขา เข้าไปหา ผู้หญิงอย่างไม่หยุด

ในขณะนี้จารุณีอยู่ข้างๆฟลอร์แดนซ์ เห็นวัยรุ่นเหล่านั้นอยู่ ที่ฟลอร์ ก็ตื่นเต้นขึ้นมา เริ่มโยกตัวไปตามจังหวะเพลง

สีหน้าของเธอเริ่มแดงขึ้น สายตาหยาดเยิ้ม ดูออกว่าดื่ม เหล้ามาหลายแก้วแล้ว แม้บนใบหน้าจะเต็มไปด้วยรอยยิ้ม แต่นัยน์ตาเต็มไปด้วยความผิดหวัง

เมื่อวานหลังจากที่ออกจากคอนโดไปแล้ว จารุณีก็ได้เริ่ม ไปบาร์ของเมืองริเวอร์ เธออยากใช้แอลกอฮอล์มาช่วย กด ความรู้สึกเจ็บปวดในใจนั้นเอาไว้ ในสองระยะเวลาสองวันนี้ เธอไม่เคยรู้สึกดีเลย

ข้างๆ จารุณี เป็นผู้ชายสวมชุดสูทสีฟ้า ร่างสูง แลดูมีบุคลิก

หลังเขามีการ์ดสองคนยืนอยู่ สามคนยืนอยู่ตรงนั้น ทำให้แลดูมีอำนาจ ทำให้คนรอบๆข้างไม่กล้าเข้าใกล้พวกเขา

ผู้ชายคนนั้นชื่อครองอาตม์ เป็นคุณชายของตระกูลพงศ์ บุณยภาที่ใหญ่ในลำดับสอง เจ้ามาเมืองริเวอร์เพื่อมาต่อรอง ธุรกิจหนึ่ง ตอนที่มาบาร์นั้น ได้สังเกตเห็นจารุณีที่บุคลิกดี เขาอยู่ข้างๆ จารุณีมาทั้งคืนแล้ว

ครองอาตม์เป็นคนเกียวโต แต่ไม่รู้ว่าจารุณีเป็นคุณหนู ใหญ่ของหอการค้าสมนที่เมืองเกียวโต ธีรศานต์อยากจะ ปกป้องจารุณี จึงไม่ได้ให้โลกภายนอกรับรู้ถึงเรื่องราวของ จารุณีมากนัก คนที่รู้นั้นมีจำนวนน้อยเหลือเกิน

ดังนั้นครองอาตม์จึงคิดว่าจารุณีเป็นเพียงสาวสวยของ เมืองริเวอร์เท่านั้น คืนนี้เธอจึงเป็นเหยื่อของเขา

เขาฉวยโอกาสตอนที่จารุณีกำลังเมา อยากจะลวนลามจา รณี ธฤตญาณที่พาพวกมาบังเอิญเห็นเหตุการณ์เข้าพอดี 5 ฤตญาณจึงรีบมาขวางครองอาตมไว้

สองฝ่ายขัดแย้งกัน ครองอาตม์เปิดเผยตัวตนของตนเอง ราวกับไม่เกรงกลัวต่อบอสใหญ่แห่งเมืองริเวอร์อย่างธฤต ญาณ เขาคิดว่า เมืองริเวอร์เป็นเพียงเมืองเล็กๆ ตระกูลพงศ์ บุญยภาของเขา สามารถต่อกลอนได้ทุกสถานการณ์

แต่จารุณรู้จักคนของธฤตญาณและรพีพงษ์ เธอกำลังโกรธ อย่างไม่ลืมหูลืมตา ได้ช่วยครองอาตม์ต่าธฤตญาณด้วยกัน ว่าอย่ายุ่งให้มันมากนัก
ธฤตญาณไม่รู้จะจัดการอย่างไร แล้ววิ่งไปข้างนอกเพื่อ โทรหารพีพงษ์

ไม่นาน ธฤตญาณก็เดินเข้ามา มองไปที่ครองอาตม์ด้วย สีหน้าที่ดูไม่ดี

ครองอาตมเห็นธฤตญาณกลับมา ก็ยิ้มอย่างดูแคลน แล้ว กล่าว “ไง เมื่อออกไปโทรเรียกพรรคพวกหรอ?”

“จะบอกให้นะ แม้แกจะเป็นคนที่เก่งกาจที่สุดของเมือง เวอร์ แกก็เป็นแค่เจ้าถิ่นเท่านั้น ที่เล็กๆแบบนี้ หรือแกอยาก จะสู้กับคนเกียวโตหรอ? ฉันว่าแกรีบไสหัวไปจะดีกว่า แก ไม่มีสิทธิ์มายุ่งเรื่องนี้ ฉันจะจีบผู้หญิง แกไม่เกี่ยว

ธฤตญาณจ้องไปที่ครองอาตม์ แล้วกล่าวผู้หญิงคนนั้นแก แตะต้องไม่ได้ ถ้าแกจะทําอะไรเธอล่ะก็ ฉันรับรองว่าแกจะ ต้องเสียใจ”

ครองอาตมเยาะเย้ย แล้วกล่าว “มึงหยุดพูดมากได้ล่ะ เมืองริเวอร์ กูจะจีบสาวไม่ได้หรือไง? ตลก แล้วผู้หญิงคนนั้น ก็พูดแล้ว เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับมึง เค้าให้กจีบ เกี่ยวเซี่ยไรกับ บึง”

ธฤตญาณหาเหตุผลปฏิเสธครองอาตมไม่ได้ เขารู้ว่าจา รุณี แค่โกรธรพีพงษ์ สไตล์ของจารุณี ไม่มีทางชอบครองอา ตม์สไตล์นี้อย่างแน่นอน
เขาทำได้เพียงรอรพีพงษ์มา ก่อนจะมาถึง เพียงแค่ครอง อาตม์กล้าทำอะไรจารุณี เขาจะขวางเอาไว้เอง

ธฤตญาณที่รู้ว่าจารุณีเป็นใครกลับไม่คิดว่านี่คือการหา เรื่องครองอาตม์ แต่กลับกัน นี่เป็นการปกป้องเขาต่างหาก

เพราะถ้าครองอาตม์ทำอะไรจารุณีจริงๆ ด้วยความ สามารถของหอการค้าสมน. เกรงว่าจะทำลายตระกูลพงศ์ บุญยภาได้ไม่ยาก

ครองอาตมเห็นธฤตญาณยืนอยู่ข้างๆ ไม่พูดไม่จา ก็ยิ้ม อย่างมีเลศนัย จากนั้นก็เดินไปที่จารุณี

เขายืนอยู่หลังจารุณี มือข้างหนึ่งจับไปที่ไหล่ของจารุณี แล้วลูบลงไปด้านล่าง

ตอนที่ลูบนั้นครองมาตย์ยังหันหน้าไปมองธฤตญาณ ด้วย สายตาเหยียดหยาม

ธฤตญาณไม่พูดอะไรแล้วเดินไปที่สองคนนั้นโดยตรง ยื่น มือไปลากครองมาตย์เข้ามา

ในขณะเดียวกันนี้เองการ์ดทั้งสองของครองมาตย์ก็เข้ามา ขวางหน้าธฤตญาณไว้ อย่างเกรี้ยวกราด

ธฤตญาณไม่พูดมาก ยื่นมือหนึ่งออกไป จับการ์ดคนหนึ่ง ไว้ใช้กำลังของแขน ดันไปยังร่างกายของการ์ดอีกคน ทั้งคู่ ล้มลงไปกับพื้น
จากการผ่านอบรมของธีรศานต์ ความสามารถของธฤต ญาณได้พัฒนาขึ้นมาก จนสามารถเทียบกับคนฝีมือดีของ ตระกูลลัดดาวัลย์ได้แล้ว การ์ดที่พวกเขาจัดมานั้น ไม่ได้อยู่ ในสายตาของธฤตญาณเลยแต่อย่างใด

ครองอาตย์คาดไม่ถึงว่าฝีมือของธฤตญาณจะเก่งขนาดนี้ จัดการการ์ดทั้งสองของเขาได้อย่างรวดเร็ว แต่เจ้าก็มิได้ แสดงว่าหวาดกลัวใดๆออกมา ในฐานะที่เป็นคนเกียวโต เขาได้เคยผ่านเหตุการณ์แบบนี้มาบ้างแล้ว

“แกกล้าลงมือกับการ์ดของฉัน แกอยากตายมากใช่ ไหม!” ครองอาตม์ตะคอกไปที่ธฤตญาณ

“อยู่ห่างเธอเอาไว้” ธฤตญาณกล่าวอย่างเยือกเย็น ด้วย

น้ำเสียงพยาบาท

“มึงเป็นใคร กล้ามาสั่งก?” ครองอาตย์ปืนปาก

ธฤตญาณก้าวไปข้างหน้า แล้วลงมือกับครองอาตม

ในขณะเดียวกันนี้เอง จารุณีนี้ที่ดื่มจนเมาได้ยกมือขึ้นมา ตบ แล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงมึนเมาว่า “แกจะทำอะไร ทำไมทำ กับเพื่อนฉันแบบนี้? คนรอบข้างรพีพงษ์ ไม่ใช่คนดีจริงๆด้วย แม้แต่ฉันจะกินเหล้ายังให้คนมาดู

ธฤตญาณเห็นจารุณีห้ามไว้ ก็หยุดทันที เขาไม่เกรงใจ ครองอาตม์ได้ แต่แตะต้องคุณหนูใหญ่คนนี้ไม่ได้ ถ้าจารุณีห้ามไว้ล่ะก็ เขาก็ทำอะไรครองอาตมไม่ได้จริงๆ

ครองอาตมเห็นธฤตญาณนิ่งไป ก็หัวเราะขึ้นมาทันที แล้ว กล่าว “ไม่คาดคิดจริงๆ ว่ามึงจะกลัวผู้หญิงได้ขนาดนี้ น้ำ หน้าอย่างถึงยังกล้าคุยโวว่าเป็นบอสใหญ่อีกหรอ? ถึงหนะ บอสใหญ่ขันที่มากกว่าล่ะมั้ง?”

ธฤตญาณขมวดคิ้ว ไม่พูดอะไร

ครองอาตมเห็นจารุณีออกหน้าแทนเขา ธฤตญาณก็ไม่ กล้าลงมือต่อหน้าจารุณี สถานการณ์จึงเปลี่ยนไป

เขายื่นมือไปโอบจารุณี เขามองว่า จารุณีออกหน้าแทน เขาขนาดนี้ ต้องเป็นเพราะหลงเสน่ห์ของเขาแล้วแน่นอน ดัง นั้นตอนนี้สามารถทำเรื่องสุดติ่งได้แล้ว

แต่ทว่าเมื่อเขาแตะต้องจารุณีนั้น จารุณีหันหลังกลับอย่าง เร็ว แล้วตบไปที่ครองอาตม์โดยตรง แล้วด่า “แกไอ้ลามก แกคิดจะทําอะไร!”

ครองอาตม์งง ไม่คาดคิดว่าผู้หญิงที่เมื่อออกหน้าแทน เขา ตอนนี้จะหาเรื่องกันแล้ว

ในฐานะที่เขาคือคนของตระกูลพงศ์บุญยภา ก็มีความ หยิ่งยโสอยู่บ้าง เขามองว่า จารุณีก็แค่ผู้หญิงสาวสวยของ เมืองริเวอร์เท่านั้น แต่เธอกล้าลงไม้ลงมือกับตน มันชั่งกลับ กันเสียยิ่งกระไร
“เย็ดแม่มึง มึงเป็นเซี่ยไร กล้าตบกู กูให้เกียรติจึงเกินไป ใช่ไหม?” ครองอาตมา ยื่นมือเพื่อจะตบไป

จารุณีถอยหลัง ที่เธอออกหน้าแทนครองอาตม์ เป็นเพราะ โกรธรพีพงษ์จริงๆ แต่ไม่ได้หมายความว่าครองอาตม์จะ ลวนลามเธอได้

ในขณะที่มีอบของครองอาตม์กำลังจะตบไปที่จารุณีนั้น ธ ฤตญาณเข้ามา ยื่นมาไปบิดข้อมือเขาเอาไว้ แล้วถีบลงไปที่ ลำตัว ทําเอาเขาก้มลงไปนอนกับพื้น

ครองอาตม์กัดฟันลุกขึ้นมา มองไปที่จารุณีด้วยสายตา โมโห แล้วด่า “ไอ้ผู้หญิงเซียน จึงแกล้งใช่ไหม จะบอก อะไรให้นะ กูเป็นคนของตระกูลพงศ์บุญยภา ซึ่งยั่วโมโห ก ทำให้ถึงตายทั้งเป็น! จะ

จารุณีมองไปที่ครองอาตม์ แล้วกล่าว “ใครยั่วโมโหแก แกต่างหากที่จะมาลวนลามฉัน ไร้ยางอายจริงๆ ตระกูลพงศ์ บุญยภาของเมืองเกียวโตแล้วไง ถ้าแกยังกล้าพูดแบบนี้อีก ฉันจะทำให้ตระกูลพงศ์บุญยภาไม่มีตัวตนในเมืองเกียวโต อีกต่อไป

ครองอาตม์คิดว่าจารคุยโว แต่ธฤตญาณไม่รู้สึกสงสัย ใดๆ ด้วยความสามารถของหอการค้าสมน, แม้จะมีตระกูล พงศ์บุญขภาสิบตระกูล ก็สามารถลบชื่อของเขาออกไปได้

“เหอะเทอะ ยังกล้าเสแสร้งอีกนะ กูจะโทรหาตระกูลของกูให้มาจัดการกับมึงล่ะยังมีไอ้เหี้ยนี่ ไม่ว่าใครก็หนีไปไม่ได้ ครองอาตม์มองไปที่จารุณี แล้วมองไปที่ธฤตญาณ ด้วย สายตาอาฆาต

คนรอบข้างถูกดึงดูดด้วยความเงียบสงัด แล้วเริ่มเข้ามา ล้อมรอบเอาไว้ คนจำนวนไม่น้อยรู้จักธฤตญาณ ก็เริ่มถูก เถียงกันขึ้นมา

“นี่มันธฤตญาณ บอสใหญ่แห่งปฐพีของเมืองริเวอร์ ยังมี คนกล้ายั่วโมโหเขาด้วยหรอ รนหาที่ตายจริงๆ

“อยู่ที่เมืองริเวอร์จะยั่วโมโหใครก็ได้แต่ไม่ใช่ธฤตญาณ คนที่นั่งอยู่บนพื้นนั่นท่าจะสติไม่ดีแล้ว เขาไม่รู้ถึงความเก่ งกาจของธฤตญาณหรอ?”

“เหอะเหอะ มันก็แค่ยโสโอหัง แม้แต่ธฤจญาณมันยังกล้า ยั่ว ขอให้ธฤตญาณสั่งสอนมันด้วยเหอะ”

เมื่อครองอาตมได้ยินคนรอบๆถกเถียงกัน สีหน้าเริ่มไม่ดี เขาคิดว่า ธฤตญาณไม่มีฤทธิ์เดชอะไร

เจ้ายืนขึ้นมาจากพื้น แล้วตะโกน “พวกมึงหุบปากไปซะ กู เป็นคนของตระกูลพงศ์บุญยภาเมืองเกียวโต แค่บอสใหญ่ เมืองริเวอร์ ในสายตากูก็แค่นั้นๆ มันก็แค่เตะต่อยเป็น เพียง แต่กูเรียกพวกพ้องของวงตระกูลมา ใช้เวลาไม่กี่วันก็ สามารถกำจัดบอสใหญ่ของพวกมึงได้ล่ะ!”
ทุกคนตะลึง ไม่คาดคิดว่าครองอาตม์จะมีคนแบล็กกราวด์ อยู่ที่เมืองเกียวโต สักพัก ทุกคนเริ่มเป็นกังวลแทนธฤตญาณ

พวกเขาคิดว่า บอสใหญ่เมืองริเวอร์นั้นเก่งกาจ แต่ถ้า เทียบกับเมืองเกียวโตแล้ว ต่างกันมาก

ในขณะที่ทุกคนกำลังถกเถียงกันอยู่นั้น มีคนเดินมาที่หลัง ของธฤตญาณและจารุณี มองไปที่ครองอาตม์ แล้วกล่าว “ตระกูลพงศ์บุญยภา? แค่พวกมึง กล้าที่จะมาหาเรื่องที่นี่เลย หรอ? ถ้านายใหญ่ตระกูลถึงมา เป็นได้แค่คนถือรองเท้าของ ฉันเท่านั้นแหละ!


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ