พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว

บทที่ 331 บางคนเป็นปีศาจมาตั้งแต่เกิด



บทที่ 331 บางคนเป็นปีศาจมาตั้งแต่เกิด

จักรพันธ์ได้ยินที่รพีพงษ์พูดก๊กลอกตาไปมา คิดไม่ ถึงว่ารพีพงษ์จะต้องการแบบนี้

เดิมรพีพงษ์จะมาจัดการวีธราด้วยมือตัวเอง ไม่ว่าปีนั้น หรือตอนนี้วีธราไม่เคยปล่อยเขาให้รอดพ้นน้ำมือของเธอ ไม่ว่ากี่ครั้งต่อกี่ครั้งเธอจะจัดการเขาให้คาที่

โดยเฉพาะตอนที่วีธราทำร้ายอารียาจนทำให้เธอบาด เจ็บ วินาทีที่เขาเห็นอารียา เขาอยากสั่งสอนวีธราให้สำนึก ในทันที

แต่ว่าตอนนี้เขาเปลี่ยนความคิดแล้ว เขาจะทำให้วีธรา รู้ว่าเธอทำผิดมาตลอดหลายปี ลูกชายที่เธอคิดว่าดี นักหนา มันก็แค่คนเนรคุณที่เห็นแก่ตัวเท่านั้น ให้จักรพันธ์ ทำให้วีธราสำนึกผิดเป็นการลงโทษวีธราอย่างดีที่สุด

“รพีพงษ์ เราพูดกันเรียบร้อยแล้ว ฉันจะช่วยเอาป้าย คำสั่งมาจากนายใหญ่ แล้วบอกรหัสผ่านบัญชีหลักกับ นาย นายปล่อยฉันให้เป็นอิสระ นายจะมากลับกลอกแบบ นี้ไม่ได้!” จักรพันธ์ตะโกนใส่รพีพงษ์

รพีพงษ์หันไปมองแล้วเอ่ยขึ้นว่า “ฉันไม่เคยพูดว่าถ้า นายทำสองเรื่องนี้สำเร็จ ฉันจะปล่อยให้นายเป็นอิสระ ฉัน แค่ตกลงไม่ฆ่านาย ส่วนเรื่องอื่นนายคิดเอาเองฝ่ายเดียว”

จักรพันธ์อ้าปากค้างมองรพีพงษ์ ในหัวของเขาคิดถึง คำพูดของรพีพงษ์แล้วคิดได้ว่ารพีพงษ์ไม่เคยบอกว่าจะ ปล่อยให้เขาเป็นอิสระ มีแต่เขาที่เอาแต่สร้างเงื่อนไขแล้ว คิดเอาเองว่ารฟีพงษ์ตกลงแล้ว

“นายนีหน้าไม่อาย ฉันช่วยนายขนาดนี้ นายยังกล้าทำ กับฉันแบบนี้เหรอ!” จักรพันธ์พูดด้วยความโกรธจนอยาก จะพุ่งเข้าไปหารพีพงษ์

“ฉันหน้าไม่อาย? แต่ก็ยังไม่ถึงครึ่งของนายมั้ง อย่าลืม สิว่าการที่ฉันจับนายมาเพราะว่าการกระทำชั่วๆ ของนาย ทั้งนั้น จะเอาเรื่องรหัสมาให้ฉันปล่อยนาย นายไร้เดียงสา เกินไปหน่อยแล้วล่ะ”

พูดจบ รพีพงษ์ก็เตะไปที่ตัวของจักรพันธ์จนเขา กระเด็นไปอยู่ข้างวีธรา

“วันนี้จะมีแค่คนเดียวที่สามารถรอดออกจากคฤหาสน์ นี้ได้ พวกนายมีเวลาแค่ครึ่งชั่วโมง ถ้าหลังจากครึ่งชั่วโมง นายยังตัดสินใจไม่ได้ ฉันจะจัดการพวกนายด้วยมือของ ฉันเอง”

รพีพงษ์พูดพลางหยิบมีดปอกผลไม้ขึ้นมาแล้วใช้แรง ปามีดใส่ผนัง มันรุนแรงอย่างเห็นได้ชัด

จักรพันธ์ตัวสั่นเทิ้ม เขาไม่สงสัยคำพูดของรพีพงษ์ เลยแม้แต่น้อย เขากับวีธราไม่คนใดคนหนึ่งอาจจะมีชีวิต รอดไป ไม่งั้นก็ต้องตายทั้งสองคน

“ลูก ถึงรพีพงษ์มันจะข่มขู่เราจนมาถึงขั้นนี้ แต่เราควร ตอบโต้อะไรออกไปบ้าง ถึงจะตาย พวกเราก็ไม่ต้องไปย อมให้กับคนอย่างมัน ลูกจะยอมตายไปกับแม่ไหม” วีธรา มองจักรพันธ์

จักรพันธ์มองวีธราอย่างอึ้งๆ แล้วพูดว่า “แม่อยากตาย ก็ตายไปสิ ผมไม่อยากตายสักหน่อย ผมยังใช้ชีวิตไม่คุ้ม เลย ในเมื่อแม่พร้อมตายแล้ว แม่ก็รีบตายไปสิ ผมจะได้มี ทางรอดแล้วผมจะตอบแทนบุญคุณแม่อย่างแน่นอน”

พูดจบจักรพันธ์ก็พุ่งเข้าไปหาวีธราแล้วใช้แรงปีบคอ ของผู้เป็นแม่ เขาไม่ออมแรงแม้แต่น้อย

“แม่อยู่มานานขนาดนี้แล้ว อยู่ต่อไปก็ไม่มีประโยชน์ อะไร แม่ใช้ชีวิตของแม่มาต่อชีวิตของผมเถอะ ผมจะใช้ ชีวิตอยู่บนโลกใบนี้อย่างดี” จักรพันธ์กัดฟันพูด

วีธราไม่ขัดขืนแม้แต่น้อย น้ำตาไหลออกมาจากหาง ตาของเธอ ดูเหมือนเธอจะยอมแพ้แล้ว

คนที่อยู่รอบๆ ต่างพากันนิ่ง พวกเขาคิดไม่ถึงว่า จักรพันธ์จะโหดร้ายขนาดนี้ เขาเลือกที่จะฆ่าวีธราโดย ไม่มีความลังเลแม้แต่น้อย

“นี่มันคนประเภทไหนกัน คนในตระกูลใหญ่เขาใจหิน กันขนาดนี้เชียวเหรอ ขนาดลูกแท้ๆ ยังทำร้ายแม่ได้ คนที่ ทำร้ายแม่ได้ขนาดนี้ เป็นคนทั่วไปยังดีเสียกว่า จะได้ไม่ ต้องมาแก่งแย่งอะไรที่น่าหดหู่ขนาดนี้” ชนิสราพูดด้วย สีหน้าหดหู

อารียามองจักรพันธ์กับวีธราแล้วพูดว่า “ถึงจะเป็น ตระกูลใหญ่ แต่ก็ไม่ได้เป็นอย่างนี้ทุกคนหรอก มันเป็น

เพียงการแยกแยะคน บางคนเกิดมาก็เป็นปีศาจ มันเป็นสิ่ง ที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้”

ชนิสราพยักหน้า จากนั้นก็ไม่พูดอะไรอีกแล้วมอง จักรพันธ์กับวีธรา ตอนแรกวีธราไม่ขัดขืนอะไร

แต่สัญชาตญาณครั้งสุดท้ายของเธอทำให้เธอขัดขืน ขึ้นมา น่าเสียดายถึงแม้ว่าเธอจะขัดขืน แต่ก็ไม่สามารถ ขัดขืนคนที่อยากฆ่าคนอย่างจักรพันธ์ได้อีกแล้ว

ผ่านไปไม่ถึงห้านาที วีธราค่อยๆ หมดแรงลงจนมือ ของเธอตกลงข้างตัว ดวงตาของเธอค่อยๆ ปิดลง

เมื่อจักรพันธ์เห็นวีธราไม่ขยับ เขาจึงบีบคอเธอไปอีก พักหนึ่ง เพื่อพิสูจน์ว่าเธอตายแล้ว จากนั้นจึงปล่อยมือ เขา เอามือไปวางตรงจมูกของวีธรา เมื่อพบว่าเธอตายแล้ว จริงๆ เขาจึงลุกขึ้นมาด้วยความกระวนกระวาย จากนั้นจึง หันไปหารพีพงษ์ “เขาตายแล้ว ครั้งนี้ฉันรอดแล้วใช่ไหม”

รพีพงษ์เห็นสีหน้าของจักรพันธ์ไม่มีแม้แต่ความเสียใจ เขารู้สึกเสียใจแทนวีธรา แต่แค่เสียใจเท่านั้น

“ใช่ ฉันบอกว่าจะให้พวกนายรอดคนหนึ่ง ในเมื่อวีธรา ตายไปแล้ว ฉันก็ไม่ทำอะไรนายอีก” รพีพงษ์เอ่ย

“งั้นนายจะให้ฉันไปไหน เห็นแก่การที่ฉันบอกรหัสผ่าน บัญชีหลักให้นาย นายอย่าพาฉันกลับไปในห้องที่มืดและ อับแบบนั้นอีกเลย” ครั้งนี้จักรพันธ์ฉลาดแล้ว เขารู้ดีว่ารพี พงษ์น่าจะไม่ปล่อยเขาไปง่ายๆ ดังนั้นเขาจึงไม่บอกให้รพี พงษ์ปล่อยเขาให้เป็นอิสระ

รพีพงษ์ถอนหายใจอย่างเหนื่อยใจ เขาคิดว่าจักรพันธ์ กับวีธราเป็นคนประเภทเดียวกัน เกิดมาอยู่บนโลกใบนี้ไม่ ทำตัวเป็นคนดี แต่ว่าตอนนี้ตระกูลลัดดาวัลย์ไม่สามารถ ให้อำนาจกับเขาได้แล้ว การที่เขาจะทำเรื่องชั่วๆ ก็ไม่ใช่ เรื่องง่าย

รพีพงษ์หันไปมองธฤตญาณแล้วพูดว่า “ให้คนพามัน ไปภาคใต้ ที่นั่นมีคนของฉัน ให้มันไปเป็นขอทานสัมผัส ความจริงของโลกนี้บ้าง มันจะได้มีความรู้สึกบ้าง”

ธฤตญาณพยักหน้าแล้วหันไปคุยกับคนที่ยืนอยู่ข้างๆ ไม่กี่คำ คนนั้นรีบพาคนเข้าไปจับจักรพันธ์ออกจาก คฤหาสน์

จักรพันธ์ได้ยินว่ารพีพงษ์จะให้เขาไปเป็นขอทาน เขา รู้สึกไม่พอใจ แต่ว่าการเป็นขอทานก็ยังสามารถเห็นเดือน เห็นตะวัน ดีกว่าโดนขังในที่มืดและอับเป็นไหนๆ ดังนั้นเขา จึงไม่พูดอะไร

หลังจากที่จักรพันธ์โดนพาตัวออกไป รพีพงษ์หันไป มองศพของวีธรากับบอดี้การ์ดพวกนั้น “จัดการกับศพพวก นี้ด้วย ฉันพาอารีไปหาหมอก่อน ส่วนเรื่องอื่นค่อยว่ากัน ตอนฉันกลับมา”

ธฤตญาณพยักหน้า เขายิ้มแล้วพูดว่า “คุณไปเถอะ ผมถนัดเรื่องจัดการศพอยู่แล้ว”

รพีพงษ์พยักหน้า จากนั้นจึงเดินไปหาอารียา

ขณะนั้นศักดาและศศินัดดามองรพีพงษ์ด้วยแววตา หวาดกลัว พวกเขาคิดไม่ถึงว่ารพีพงษ์จะน่ากลัวขนาดนี้ เขาสามารถตัดสินชีวิตของบอดี้การ์ดพวกนี้ได้ แถมยัง บังคับให้จักรพันธ์ฆ่านายใหญ่ของตระกูลลัดดาวัลย์

นั่นเป็นนายใหญ่ของตระกูลลัดดาวัลย์เชียวนะ ใน ความคิดของพวกเขา นายใหญ่ของตระกูลลัดดาวัลย์ เหมือนเทพเจ้า พวกเขาไม่สามารถไปเตะต้องได้ ใครจะ คิดว่ารพีพงษ์จะทำให้นายใหญ่ของตระกูลลัดดาวัลย์ตาย ในคฤหาสน์แห่งนี้ ตอนนี้พวกเขารู้สึกไม่อยากอยู่ใน

คฤหาสน์แห่งนี้แล้ว พวกเขาไม่ค่อยเข้าใจว่าป้ายคำสั่งกับรหัสบัญชีหลัก ของนายใหญ่คืออะไร ดังนั้นพวกเขาจึงคิดว่าการที่รพี

พงษ์ฆ่านายใหญ่ของตระกูลลัดดาวัลย์ อีกไม่นานรพีพงษ์

จะเจอกับหายนะครั้งใหญ่

รพีพงษ์รับอารยามาจากมือของชนิสรา จากนั้นเขา จ้องศักดากับศศินัดดาเขม็ง พวกเขาก็โดนแซ่ฟาดเหมือน กัน แต่ดูแล้วไม่หนักเท่าอารียา

“พ่อกับแม่จะไปโรงพยาบาลกับพวกเราไหม” รพีพงษ์ เอ่ยถาม

ทั้งสองคนส่ายหน้า ศศินัดดาพูดขึ้นมาว่า “พวกเรา เป็นแผลแค่เล็กน้อย ทายาก็หาย นายพาอารีไปเถอะไม่ ต้องห่วงพวกเรา”

หลังจากที่เกิดเรื่องเมื่อกี้ น้ำเสียงที่ศศินัดดาพูดกับรพี พงษ์เริ่มอ่อนลง

เมื่อได้ยินดังนั้นรพีพงษ์จึงพยักหน้าแล้วประคองอารี ยาออกจากคฤหาสน์ เขาพาเธอนั่งในรถและมุ่งหน้าไปโรง พยาบาล

เพราะเป็นแค่รอยแผลที่โดนแซ่ฟาด ดังนั้นรพีพงษ์จึง ไม่ได้พาอารียาไปหาชุติเทพ แผลพวกนี้แค่พาไปให้น้ำ เกลือที่โรงพยาบาลก็หายแล้ว หลังจากที่รพีพงษ์กับอารียาออกไป ธฤตญาณสั่งให้ คนจัดการกับศพที่อยู่ในคฤหาสน์ หลังจากที่จัดการ เรียบร้อย เขาก็พาคนออกไปจากที่นี่

ศักดากับศศินัดดาถึงกับโล่งอก ชนิสราก็ถอนหายใจ ออกมาเช่นกัน เรื่องในวันนี้ทำให้เธอเปิดโลกทรรศ

ศศินัดดามองจุดที่วีธราตาย เธอยังรู้สึกกลัวจึงหันไป มองศักดา “เมื่อกี้นายใหญ่ของเกียวโตมาตายในบ้านของ เรา คุณว่าตระกูลลัดดาวัลย์จะส่งคนมาฆ่าพวกเราไหม นายใหญ่ของตระกูลมาตายในบ้านของเรา นี่มันเรื่องใหญ่ มากเลยนะ”

“คงไม่หรอก ในเมื่อรพีพงษ์กล้าทำถึงขนาดนี้ เขาต้อง คิดถึงผลที่ตามมาอย่างแน่นอน เขาต้องไม่ให้เรื่องแบบนี้ เกิดขึ้นแน่” ชนิสราเอ่ยขึ้น

“แกจะรู้อะไร รพีพงษ์มันตัวซวย นี่มันหาเรื่องซวยมา ให้ชัดๆ ตระกูลลัดดาวัลย์ต้องส่งคนมาหาเรื่องเราแน่ ฉัน บอกแล้วว่าอย่าให้มันอยู่ในบ้าน ดูสิผิดจากที่ฉันพูดซะ

ที่ไหนล่ะ” ศศินัดดาเอ่ยขึ้น

ศักดาที่ยืนอยู่อีกด้านก็รู้สึกกลัวเช่นกัน เรื่องนี้ เกี่ยวข้องกับตระกูลลัดดาวัลย์ เขาก็ไม่รับรองความ ปลอดภัยของรพีพงษ์เหมือนกัน

“ไม่ได้การละ เราต้องรีบย้ายออกจากที่นี่ ไม่งั้นจะต้อง ซวยไปพร้อมกับรพีพงษ์แน่ๆ รีบไปเก็บของในห้องเร็วๆ เอาของที่เป็นเงินมาให้หมด จากนี้ถึงแม้จะต้องนอนโรง แรม ฉันก็จะไม่กลับมาที่นี่อีก” ศศินัดดาพูดจบก็ขึ้นไปเก็บของข้างบน

ศักดาก็กลัวว่าถ้าอยู่ต่อจะมีแต่เรื่องลำบาก เขาจึงตาม ศศินัดดาไปเก็บของ

ชนิสรามองทั้งคู่อย่างเหนื่อยใจ ถึงแม้เธอจะกลัว แต่ เธอทำงานให้รพีพงษ์ เธอจะไปจากที่นี่ก่อนที่เขาจะกลับ มาไม่ได้

“หวังว่าครั้งนี้รพีพงษ์จะอยู่รอดปลอดภัยจาก เหตุการณ์ครั้งนี้นะ เขาเป็นคนจิตใจดี สวรรค์คงจะไม่ให้ เขาเป็นอะไร” ชนิสราพูดพึมพำ

ในโรงพยาบาล

ในห้องผู้ป่วย รพีพงษ์เฝ้าอยู่ที่ข้างเตียงอารียา เมื่อครู่ หมอทำแผลให้เธอ รอให้น้ำเกลือหมดเธอก็สามารถกลับ

บ้านได้

หลังจากนี้ต้องหมั่นทำแผล ไม่มีอะไรที่น่าเป็นห่วง “ครั้งนี้มีรอยแผลเป็นบนตัวด้วย” อารียาพูดอย่างหดหู

รพีพงษ์หัวเราะแล้วพูดว่า “วางใจเถอะ หมอบอกว่าเขา ใช้ยาที่นำเข้าล่าสุดจากต่างประเทศ ไม่มีรอยแผลเป็น รอ สักสองสามวันผิวของคุณก็จะเรียบเนียนเหมือนเดิม ลูบ แล้วเหมือนแต่ก่อนแน่นอน”

อารียาจ้องรพีพงษ์ทันที แววตาที่เธอมองเขาเต็มไป ด้วยความสงสัย “นายรู้ได้ยังไงว่ามันเรียบเนียน นายแอบ ลูบเหรอ” รพีพงษ์กระแอมออกมาอย่างกระอักกระอ่วน “แค่ก แค่ ก ตอนกลางคืนคุณชอบกลิ้งมาหาผม ตัวคุณมาโดนมือ ผมต่างหาก”

“ได้ ไอ้เลวนี่ แอบลูบแล้วยังไม่ยอมรับอีก ยังมาบอกว่า ฉันโดนตัวนาย หน้าไม่อายจริงๆ!” อารียาพูดด้วยสีหน้า โมโห

รพีพงษ์รับขอโทษ “ผมผิดไปแล้ว ต่อจากนี้ผมจะไม่ ทำเรื่องน่าอายแบบนั้นอีก ผมรับรอง”

อารียาทั้งตลกและรู้สึก ขำ จู่ๆ เธอก็ไม่รู้ว่าจะยอมรับ สิ่งที่เขารับประกันหรือจะพูดว่าเขาโง่ดี

ผ่านไปพักหนึ่ง อารียาสงบสติลง เธอหันไปมองรพี พงษ์แล้วถามขึ้นว่า “ครั้งนี้นายใหญ่ของตระกูลลัดดาวัลย์ ตายที่เมืองริเวอร์ ตระกูลลัดดาวัลย์ที่เกียวโตต้องตกใจ เป็นอย่างมาก นายจะทำยังไงต่อ”

รพีพงษ์แสยะยิ้มร้ายกาจ “ผมอาจจะต้องไปที่เกียวโต ก่อน”

อารียาเบิกตาโพลง “นายจะไปเกียวโตทำไม นาย ใหญ่ของตระกูลลัดดาวัลย์ตายที่เมืองริเวอร์ นายไปเกียว โต นี่ไม่ใช่เนื้อเข้าปากเสือเหรอ”

“วางใจเถอะ ถึงวีธราจะตายไปแล้ว ฝั่งเกียวโตก็ทำ อะไรผมไม่ได้เหมือนเดิม แถมผมยังเป็นทายาทของ ตระกูลลัดดาวัลย์ แค่โดนนังงูพิษวีธราแย่งไปก็แค่นั้น”

“ครั้งนี้ที่ผมไปเกียวโต เพราะผมจะเอาทุกอย่างของ ผมกลับคืนมาทั้งหมด!”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ