พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว

บทที่862 เหตุผล



บทที่862 เหตุผล

ในร้านอาหารแห่งหนึ่ง

รพีพงษ์และธัชธรรมทั้งสองคนกำลังนั่งอยู่ที่มุมหนึ่ง บนโต๊ะมี ออร์เดิร์ฟเย็นหลายจานและน้ำชาหนึ่งกา

รพีพงษ์จ้องมองไปที่ธัชธรรมแวบหนึ่ง เอ่ยปากถามว่า “ไม่ ทราบว่าผู้อาวุโสมีอะไรอยากคุยกับฉันเหรอ?”

ธัชธรรมไม่ได้วางมาดของความเป็นเจ้านายแม้แต่น้อย แม้ว่า จะมีความแข็งแกร่งที่ลึกล้ำ ก็ให้ความรู้สึกที่เป็นมิตรใกล้ชิดกับ ผู้คน ก็เหมือนราวกับคุณปู่ที่มีอัธยาศัยไมตรีดี

เขาทานอาหารบนโต๊ะไปคำหนึ่ง จากนั้นถามรพีพงษ์ว่า: “นายคิดว่าตัวเองสำหรับโลกนี้แล้ว รู้จักมากแค่ไหน?”

เมื่อได้ยินธัชธรรมเริ่มแรกก็ถามคำถามที่ลึกซึ้งเช่นนี้ทันที รพี พงษ์ก็ยังไม่ทันได้ตั้งตัว แต่ช่วงนี้ในใจของเขาก็เกิดคำถามที่ คล้ายๆกันขึ้นมา

ตั้งแต่ที่เขาได้สัมผัสกับการมีอยู่ของแดนดั่งเทพ รพีพงษ์ก็รู้ แล้วว่า บนโลกใบนี้ไม่ได้ธรรมดาเหมือนอย่างที่เขาคิด ภายใต้ ผิวน้ำที่ดูไปแล้วนิ่งสงบ ความจริงแล้วปิดซ่อนคลื่นใต้น้ำที่ร พงษ์ไม่สามารถจินตนาการได้

ตัวอย่างเช่นวิธีทางไสยศาสตร์ที่ตระกูลอุเอสึงฝึกฝน ถ้าเป็น เมื่อก่อนนี้ สิ่งที่รพีพงษ์ใส่ใจก็มีเพียงแต่การพัฒนาของบริษัทแล้วจะไปคิดเรื่องแบบนี้ได้อย่างไร

“พูดได้เพียงว่ายังรู้จักได้ยังเพียงพอ ไม่ทราบว่าผู้อาวุโสรู้จัก โลกนี้มากแค่ไหน? รพีพงษ์ถามกลับ

ธัชธรรมยิ้มเล็กน้อย แล้วพูดว่า “ความแข็งแกร่งของนาย บรรลุถึงแดนครึ่งดั่งเทพแล้ว ฝีมือที่สามารถใช้ได้ ก็ถึงเหมือน ราวกับอิทธิฤทธิ์ของเทพอสูรในสายตาของมนุษย์ ดังนั้นก็น่าจะรู้ ดีว่า บนโลกใบนี้ ซับซ้อนกว่าที่นายคิดไว้เยอะมาก

“เช่นเดียวกับตระกูลอุเองที่ฝนฝึกวิธีทางไสยศาสตร์ อยู่บน โลกใบนี้มีอยู่ไม่น้อย และยังมีบางคนที่เชี่ยวชาญเวทมนตร์ที่ แปลกประหลาดที่คาดเดาไม่ได้ และวิธีการยอดเยี่ยมบางอย่างที่ นายคิดไม่ถึง”

“บุคคลที่มีพลังนี้ประเภทนี้ สามารถสร้างผลกระทบขนาด ใหญ่ต่อโลกคนธรรมดาได้อย่างง่ายดาย เช่นเดียวกับตระกูลอุ เองในครั้งนี้ ถ้าหากเขาต้องการใช้พลังนี้เพื่อทำร้ายผู้คน ถ้า อย่างนั้นก็จะเป็นหายนะขนาดใหญ่

“และความสำคัญของการมีอยู่ของกลุ่มสิงโตของเรา คือการ รักษาโลกนี้ให้เป็นระเบียบอย่างปกติ ถ้าหากมีใครใช้พลัง ศักดิ์สิทธิ์นี้มาทำสิ่งชั่วร้าย พวกเราจะออกโรง

เมื่อได้ยินเช่นนี้ รพีพงษ์พยักหน้า ถึงว่าปรมาจารย์เนี่ยจิ้งก็อยู่ ใต้บังคับบัญชาของกลุ่มสิงโต สิ่งที่ปรมาจารย์เนยจึงควบคุม ดูแล คือเรื่องราวของยอดฝีมือเนยจิ้ง และสิ่งที่กลุ่มสิงโตควบคุม ดูแล นั่นคือเหนือแดนปรมาจารย์ขึ้นไป และรวมทั้งพวกคนที่มีวิธีการแปลงร่างที่คาดไม่ถึง

“เช่นเดียวกับการต่อสู้ของนายและนายใหญ่ตระกูลอุเองใน ครั้งนี้ พลังที่นายแสดงออกมานั้น เกินจินตนาการของคน ธรรมดาไปมาก ในเวลานี้คนของเราจะดำเนินการชี้นำให้ ประชาชน ให้พวกเขายิ่งรู้สึกว่าเป็นผลพิเศษที่สร้างออกมา ดัง นั้นจึงบดบังความจริงที่ว่ามีความแข็งแกร่งที่ทรงพลังมากจน อธิบายไม่ได้อยู่บนโลกใบนี้

“อยู่ในสถานการณ์ที่ไร้สติ ต่อให้คนเหล่านี้จะเห็นนายหลอม รวมพลังเงาดาบฟาดฟันออกมากด้วยตาตัวเอง แต่หลังจากผ่าน การชี้นำ ตอนที่ทุกคนต่างก็ไม่เชื่อนาย ตัวของเขาเองก็จะเกิด ความรู้สึกสงสัยกับเรื่องราวที่ตัวเองเห็นมา

“ดังนั้นมักจะมีอยู่ในตำนานพื้นบ้านทุกประเภท พิลึกพิลั่น จากปากต่อปาก ก็กลายเป็นเรื่องไร้สาระมากขึ้นเรื่อยๆ แน่นอน ว่า ยังมีคนบางส่วนที่เชื่อว่าตัวเองเคยเห็นปีศาจร้ายหรือเทพเจ้า มีบางคนก็พยายามแสวงหาความจริงมาทั้งชีวิตของตัวเอง เพียง แต่ว่านี่เป็นเพียงส่วนน้อย และจะไม่ส่งผลกระทบต่อการรับรู้ของ สาธารณชนในภายหลัง

“โลกนี้อันตรายไกลกว่าที่นายคิดไว้มากนัก ภายใต้ความนิ่ง สงบ มีอันตรายที่ยิ่งใหญ่กว่าซ่อนอยู่

หลังจากฟังสิ่งที่เขาพูดจบ รพีพงษ์ก็พยักหน้าเห็นด้วย แล้ว ถามต่อว่า “ดังนั้นที่ผู้อาวุโสมาหาฉัน คืออยากให้ฉันเข้าร่วม กลุ่มสิงโต รักษาโลกนี้ให้เป็นอย่างระเบียบไปพร้อมกับพวกท่านเหรอ?”

ธัชธรรมยิ้มเล็กน้อย เอ่ยปากว่า “นี่เป็นจุดมุ่งหมายสำคัญ ของกลุ่มสิงโตจริงๆ ทั้งหมดจะมีความแข็งแกร่งและศักยภาพ พวกเราก็จะดำเนินการเชิญชวน ท้ายที่สุดยิ่งแข็งแกร่งมากเท่า ไหร่ความรับผิดชอบก็ยิ่งมากขึ้นเท่านั้น และพวกเราจะจัดเตรียม เงื่อนไขการฝึกฝนที่ดีขึ้นด้วย ช่วยเหลือซึ่งกันและกันเท่านั้นเอง

“แต่ที่ฉันมาหานาย ให้นายเข้าร่วมกลุ่มส่งโต ก็ไม่ใช่เพราะ เหตุนี้ แต่เป็นเหตุผลอื่น

รพีพงษ์นิ่งอึ้งไปชั่วขณะ เอ่ยปากถามว่า “เหตุผลอะไร?”

“ตอนนี้ความแข็งแกร่งของนายเป็นเพียงแดนครึ่งดั่งเทพ ยัง บรรลุไม่ถึงแดนดั่งเทพที่แท้จริง ดังนั้นน่าจะไม่รู้ว่า แดนดั่งเทพ นั้นแบ่งออกเป็นสามชั้น แบ่งเป็นขั้นต้นขั้นกลางและขั้นสูง ทุกๆ ขั้นตอน ต่างก็แสดงถึงการเพิ่มความแข็งแกร่งขนาดมาก

“นายฆ่าอุเอสึงิ ทาคิโนะแล้ว โดยผ่านวิธีทางไสยศาสตร์ ก็แค่ เพิ่มความแข็งแกร่งของตัวเองถึงพื้นฐานของขั้นต้นแดนดั่งเทพ เท่านั้นเอง แม้ว่านายสามารถฆ่าเขาด้วยความแข็งแกร่งแดน ครึ่งเทพ แต่ความแข็งแกร่งตอนนี้ของนาย ความจริงแล้วยังไม่ ถือว่าเป็นผู้แข็งแกร่งที่แท้จริง”

“และอยู่เหนือแดนดั่งเทพ ยังมีอีกแดนหนึ่งที่ผู้คนนับไม่ถ้วน หวังที่จะไปให้ถึง พวกเราเรียกว่า แดนเทพ”

“แดนเทพ!”รูม่านตาของรพีพงษ์หดตัวลง คาดไม่ถึงว่าเหนือ แดนดั่งเทพ กลับยังมีแดนที่ยิ่งสูงกว่า ที่สำคัญถูกเรียกว่าแดนเทพ หรือว่าบรรลุถึงแดนนี่แล้ว ก็จะกลายเป็นเทพเจ้าเหรอ?

มองออกว่ารพีพงษ์สงสัย ธัชธรรมยิ้มเล็กน้อย แล้วพูดว่า “แดนที่ฉันกำลังพูดถึง ไม่ใช่เทพเจ้าในตำนานที่นายคิด เพียง แต่คนที่บรรลุถึงแดนนี้ วิธีการที่แสดงออกมานั้นสามารถใช้ เพียงคำว่าอัศจรรย์มาอธิบาย ต่อให้จะบอกว่าเป็นเทพเจ้าที่แท้ จริง ก็ไม่ใช่เรื่องเกินจริง ดังนั้นจึงเรียกว่าแดนเทพ”

“ที่สำคัญแดนนี้ จนถึงตอนนี้ยังไม่มีใครบรรลุถึง

รพีพงษ์ก็เกิดความสงสัยขึ้นมาทันที ในเมื่อไม่มีคนบรรลุถึง ถ้าอย่างนั้นเขารู้อย่างไรว่าเหนือแดนดั่งเทพ ยังมีแดนเทพอยู่

โดยไม่ลังเล รพีพงษ์ถามคำถามนี้ไปโดยตรง

หลังจากที่ธัชธรรมได้ยิน กล่าวด้วยรอยยิ้ม: “นี่เป็นความลับ ของกลุ่มสิงโตของเรา ถ้าหากนายเข้าร่วมกลุ่มสิงโต ในอนาคต มีโอกาสที่จะได้รู้”

รพีพงษ์พูดไม่ออกไปชั่วขณะ ความรู้สึกแบบก็เหมือนกับมีคน บอกกับรพีพงษ์ว่าเขารู้ว่าจะกลายเป็นแดนเทพได้อย่างไร พอ รพีพงษ์ถามไปว่าจะเป็นได้อย่างไร จากนั้นก็ปวดไข่เหมือนกับคน คนนั้นบอกว่าจะไม่บอกให้คุณ

แต่คำพูดเหล่านี้ของธัชธรรมยังคงทำให้รพีพงษ์มีความเข้าใจ ใหม่เกี่ยวกับความแข็งแกร่งของตัวเอง เดิมทีแดนดั่งเทพถูกแบ่ง ออกเป็นสามชั้น และเหนือแดนดั่งเทพ ยังมีสิ่งที่สูงกว่าอยู่

สิ่งนี้ทำให้รพีพงษ์ที่เดิมทีคิดว่าความแข็งแกร่งของตัวเองแข็งแกร่งเพียงพอแล้วเกิดความรู้สึกว่าความจริงแล้วตัวเองนั้น ตัวเล็กมาก

ที่สำคัญบนโลกใบนี้นอกจากความแข็งแกร่งของศิลปะการ ต่อสู้แล้ว ยังมีวิธีการแปลกประหลาดอื่นที่รพีพงษ์ไม่รู้ด้วย สิ่งนี้ก็ ทำให้รพีพงษ์รู้สึกว่าโลกนี้อันตราย ใหญ่กว่าที่เขาคิดไว้มาก

ตัวอย่างเช่นอารียาเพียงแค่ทานเนื้อไม้หนึ่งชิ้นเข้าไป ก็กลาย เป็นไม่มีพิษอะไร ร่างกายก็บรรลุถึงสมบูรณ์แบบ เรื่องราวแบบนี้ ไม่สามารถอธิบายได้ด้วยศิลปะการต่อสู้

ในเมื่อมีสิ่งที่สามารถทำให้ร่างกายของคนเราสมบูรณ์แบบได้ อยู่ ถ้าอย่างนั้นคงจะต้องมีสิ่งของที่สามารถทำให้คนตายโดย ไม่รู้ว่าตายอย่างไรอยู่

“สิ่งเหล่านี้เกี่ยวข้องกับเหตุผลที่ผู้อาวุโสกล่าวอย่างไร? ร พงษ์เอ่ยปากถาม

“ตอนนี้นายอายุเพียงสี่สิบกว่า ก็บรรลุถึงระดับแดนครึ่งดั่งได้ ความเร็วแบบนี้ เป็นสิ่งเดียวที่ฉันเคยเห็นเป็นครั้งแรกในชีวิต อัจฉริยะที่ทรงพลังในโลก ก็ไม่มีทางที่จะเทียบกับนายได้

“ดังนั้นฉันคิดว่า นายมีเป็นคนที่มีความเป็นไปได้ที่จะบรรลุถึง แดนเทพนั้นได้”

“นั่นคือเหตุผลที่ฉันมาหานาย


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ