พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว

บทที่734 ตระกูลใหญ่ประตูว



บทที่734 ตระกูลใหญ่ประตูว

ไชน่าทาวน์ ณ ร้านกาแฟที่ถือว่าหรูหราร้านหนึ่ง

รพีพงษ์และชาลิสานั่งอยู่ข้างๆหน้าต่าง สายตาของแต่ละคน มองไปที่แก้วกาแฟ แล้วฟังเพลง ในร้านกาแฟไปด้วย ให้ความ รู้สึกสบาย ผ่อนคลาย

คืนนี้ เป็นวันงานเลี้ยงของตระกูลใหญ่ ก่อนหน้าที่จะถึงชาติ สาอยากเล่าเกี่ยวกับตระกูลใหญ่ให้รพีพงษ์ฟัง ดังนั้นจึงได้พา รพีพงษ์มายังร้านกาแฟ

รพีพงษ์ยังไม่รู้เหตุผล ที่ต้องมาร้านกาแฟ ชาลิสาบอกว่าที่นี่ ค่อนข้างเงียบสงบ เหมาะที่จะพูดคุย แต่หลังจากที่เข้ามาแล้ว รพี พงษ์เพิ่งจะรู้ว่านี่เป็นร้านกาแฟสำหรับคู่รัก คนที่มาล้วนมาเป็น

ชาลิสาแสดงท่าทีไม่รู้ไม่ชี้ แต่ในเมื่อมาถึงแล้ว ถ้าจะเปลี่ยนที่ ก็ยุ่งยาก รพีพงษ์ไม่คิดอะไร จึงได้นั่งลงที่นี่

แต่เมื่อตอนที่สั่งกาแฟนั้น ท่าทีของชาลิสาไม่เหมือนกับว่า เพิ่งเคยมาครั้งแรก ทำให้รพีพงษ์รู้สึกแปลกใจ

ชาลิสารู้สึกเขิลอายตั้งแต่ต้นจนจบ ไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่

“สี่ตระกูลใหญ่แบ่งเป็นตระกูลมหัทธนธรรม ตระกูลตั้งซิน คุปต์ ตระกูลคินกุล และตระกูลนนท์สัจทัศน์ พวกเขามีบทบาท อย่างมากกับโลก ต่อมาพึ่งความช่วยเหลือจากตระกูลนิธิวรสกุลจึงได้กลายมาเป็นตระกูลชั้นนําของโลก

“ถ้ามองหนึ่ง ในตระกูลทั้งนี้ สำหรับเทือกเขาสนาแล้ว ไม่ น่ากลัว แต่ถ้าตระกูลทั้งสี่ร่วมมือกัน ก็ไม่ควรมองข้ามแล้ว บวก กับหลังจากที่ตระกูลนิธิวรสกุลถูกล้างบางแล้วนั้น ธุรกิจส่วน ใหญ่ก็ถูกสี่ตระกูลใหญ่แบ่งสรรปันส่วนกันออกไป ดังนั้นตระกูล ทั้งสี่ถือเป็นตระกูลที่เจริญรุ่งเรืองอย่างมากในตอนนี้

“มีสิ่งสำคัญอย่างหนึ่งที่ต้องจำไว้ ตอนนั้นที่คุณปู่ของคุณเสีย ชีวิต ตระกูลทั้งสี่ก็ออกแรงไม่น้อย ระหว่างนั้นมีสิ่งที่เกิดขึ้น มากมาย ล้วนเป็นสี่ตระกูลใหญ่จัดการทั้งหมด”

ได้ยินคำพูดสุดท้ายของชาลิสา รพีพงษ์ก็สงสัย เดิมทีสี่ตระกูล ใหญ่จะจัดการคนของเทือกเขาสนา รพีพงษ์ก็ไม่ปล่อยพวกเขา ไว้ ตอนนี้ยิ่งรู้ว่าการเสียชีวิตของคุณปู่มีความเกี่ยวข้องกับพวก เขา งั้นสี่ตระกูลใหญ่ ก็ไม่มีทางได้รับการอภัยจากรพีพงษ์แล้ว

“ไม่ว่าตอนนี้พวกมันจะเจริญรุ่งเรืองขนาดไหน หลังจากคืนนี้ ไป สี่ตระกูลใหญ่ก็จะเป็นแค่ประวัติศาสตร์” รพีพงษ์กล่าวอย่าง สงบ

ชาลิสาพยักหน้าอย่างตั้งใจ ไม่คิดว่าสิ่งที่รพีพงษ์พูดนั้นมัน เกินจริงแต่อย่างใด และมักจะรู้สึกว่าเมื่อรพีพงษ์พูดแนวๆนี้ ก็จะ มีเสน่ห์อย่างมาก

เมื่อพูดเรื่องสี่ตระกูลใหญ่จบ ทั้งสองก็คุยกันเรื่องสัพเพเหระ ชาลิสาเหมือนกับจะสนใจในเรื่องภรรยาของรพีพงษ์ รพีพงษ์ ยินดีที่จะเล่าเรื่องระหว่างตนกับอารียาให้เธอ
ในขณะที่คนหนึ่งพูดอย่างมีความสุข และอีกคนหนึ่งกำลังฟัง อย่างตั้งใจ ด้านนอกร้านกาแฟมีคนสี่คนสวมชุดทันสมัยเดินเข้า มาทันใด แวบแรกก็ดูออกว่าเป็นวัยรุ่นของครอบครัวมีตังค์ ชาย สามหญิงหนึ่ง ข้างๆกายก็ตามมาด้วยบอดี้การ์ดที่น่าเกรงขาม

เมื่อพวกเขามาถึง พวกบอดี้การ์ดเริ่มไล่คนในร้านออก ตะคอกออกมาว่า “รีบออกไปซะวันนี้ร้านถูกคุณชายคฑาวุธ เหมาไว้แล้ว คนที่ไม่อยากมีปัญหาก็รีบออกไปซะ มิเช่นนั้น พวก แกจะได้รับรู้ถึงความเสียใจว่ามีรสชาติยังไง!

คู่รักเหล่านั้นที่อยู่ในร้านกาแฟเห็นคนพวกนี้แตะต้องไม่ได้ ก็ รีบวิ่งออกไปนอกร้านกาแฟ

ซาลิสามองไปที่สี่คนนั้น แล้วกล่าว “คนของตระกูลใหญ่ พวกเขาล้วนเป็นลูกของตระกูลใหญ่ทั้งหมด เพราะช่วงนี้ ตระกูลกำลังรุ่งโรจน์ พวกเขาจึงยโสโอหัง”

รพีพงษ์พยักหน้า ดูออกว่าสี่คนนี้ล้วนเป็นทายาทเศรษฐีที่ยโส โอหัง

“พวกเราจะเอาไงดี?” ชาลิสาถาม

“รอให้พวกมันมา ถ้าพวกเขายังหน้ามืดตามัว งั้นก่อนที่เราจะ สั่งสอนพวกอาวุโสของมัน ก็สั่งสอนพวกมันแทนก่อนแล้วกัน” รพีพงษ์ตอบ

ไม่นาน คนในร้านกาแฟก็ออกกันไปหมด เหลือเพียงรพีพงษ์ และชาลิสาสองคนเท่านั้น
การ์ดเหล่านั้นเดินเข้ามา ตะคอกใส่รพีพงษ์และชาลิสา ทั้งคู่ ไม่ขยับ และยังคงนั่งดื่มกาแฟต่อไป

คฑาวุธคุณชายตระกูลนนท์สัจทัศน์ จักรชัยคุณชายตระกูลม หัทธนธรรม กันติศาคุณหนูตระกูลตั้งชินคุปต์ และชลธรคุณชาย ตระกูลคินกุลทั้งสี่สังเกตเห็นรพีพงษ์และชาลิสา

ตอนที่สายตาของคทาวุธพวกคุณชายทั้งสามมองไปที่ชาลิสา แววตาเป็นประกาย แม้กันติศาจะน่ารัก แต่เทียบกับชาลิสาแล้ว นั้นยังห่างกันมาก ดังนั้นเมื่อเห็นชาลิสาแล้วนั้น ก็เหยียดหยาม ทันใด

“ไม่กลัวตายจริง ยังกล้านั่งตรงนี้ไม่ไปไหนอีก เดี๋ยวคุณหนู อย่างฉันจะจัดการมันเอง” กันติศาดูแคลน อยากตบหน้าอัน สวยงามของชาลิสาสักกี่ฉาด

คฑาวุธเห็นเหตุการณ์ ก็รีบห้ามเธอไว้ ยิ้มพลางกล่าว “อย่า โมโหขนาดนี้ ดูสิไม่มีความเป็นกุลสตรีแล้วหนะ ในเมื่อพวกเขา ไม่ไป พวกเราเข้าไปพูดคุยกับพวกเขาก็ได้แล้ว”

จักรชัยและชลธรทั้งสองพยักหน้า

แวบเดียวกันติศาก็รู้แล้วว่าทั้งสามคนกำลังคิดอะไรอยู่ พวก เขาก็แค่อยากจีบชาลิสา แต่ยิ่งเป็นแบบนี้ เธอยิ่งโมโห

ทั้งสี่เดินไปที่รพีพงษ์และชาลิสาตรงนั้น คฑาวุธมองข้ามร พงษ์ไป พูดต่อชาลิสาว่า “คนสวย จะเป็นไรไหมถ้าจะดื่มกาแฟ ด้วยกัน?”
ชาลิสาเหลือบไปมอง กล่าว “เป็น”

คทาวุธอับอาย เขาไม่คาดคิดว่าชาลิสาจะปฏิเสธเขาแบบนี้ เมื่อก่อนไม่เคยมีใครกล้าพูดแบบนี้กับเขา กันติศาพูดทันทีว่า “วุธ แกจะเกรงใจมันทำไม มันก็แค่หญิง

แรด ฉันเห็นมันก็ไม่ต่างอะไรกับผู้หญิงที่แกเล่นๆเมื่อก่อนเลยนะ

ถ้าแกอยากได้มันจริงๆ ให้คนพามันไปซะก็สิ้นเรื่อง จะมาเสีย

เวลาอยู่ทำไม”

“แกว่า ใครแรด!” ชาลิสาตบโต๊ะทันใด ด้วยความโกรธ

กันติศาเหยียดหยามชาติสาว่า “โหโหโห อารมณ์ร้ายเหมือน กันนะ ถ้าไม่ใช่วุธอยากเอาแก ฉันตบหน้าแกไปนานล่ะ แกรู้ไหม ว่าเราสี่คนเป็นใคร ยังกล้ายโสโอหังที่นี่อีก

ชาลิสาของขึ้น คิดในใจว่าที่แท้สี่ตระกูลใหญ่ก็ไม่ใช่คนดีอะไร

นักฉวยโอกาสกำจัดมันให้เร็วที่สุดหนะดีแล้ว

รพีพงษ์ยิ้ม แล้วพูดต่อชาลิสาว่า “อย่าโมโหเลย บางทีใน สายตาเธอ อาจจะเป็นสาวแรดที่สวยกว่าเธอนะ

ชาลิสาได้ยินรพีพงษ์พูดแบบนี้ ก็ดีใจขึ้นมา คนนี้ กำลังชมว่า ตัวเองสวยอยู่ใช่ไหม?

กันติศาโมโหขึ้นมา ตะคอกใส่รพีพงษ์ทันใดว่า “แกเป็นใคร กล้าดูถูกคุณหนูอย่างฉัน ฉันว่าแกไม่อยากอยู่แล้วใช่ไหม!

คทาวุธมองรพีพงษ์อย่างเยือกเย็น เขาอยากจีบซาลิสา ไม่ได้ สนรพีพงษ์
“เด็กน้อย แกน่าจะเคยได้ยินสี่ตระกูลใหญ่นะ? พวกเราทั้งสี่ เป็นคุณชายและคุณหนูของตระกูลใหญ่ ถ้าแกไม่อยากตาย ก็ คุกเข่าค่านับขอโทษกันตอนนี้ มิเช่นนั้น เหอะเหอะ อย่าหาว่าฉัน ไม่เตือน” คทาวุธกล่าว

รพีพงษ์ยิ้ม และกล่าวอย่างไม่ใส่ใจว่า “ตระกูลใหญ่ขี้ประติ้ว ยังจะให้ฉันคุกเข่า กล้าดียังไง?


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ