พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว

บทที่ 653 ฉันชอบนาย



บทที่ 653 ฉันชอบนาย

หน้าเรือนของอาจารย์

รพีพงษ์ยืนอยู่หน้าเรือนด้วยสีหน้าจริงจัง ตอนนี้เขาสามารถ ทำตามที่อาจารย์ต้องการได้แล้ว เขาสามารถไปจากที่นี่ได้แล้ว

ช่วงเวลาหกเดือนที่ฝึกฝนอยู่ในหุบเขา มันไม่ใช่ระยะเวลา สั้นๆ ถ้านับตามเวลาแล้ว เด็กในท้องของอารียาก็ใกล้จะถึงเวลา ลืมตาดูโลกแล้ว ตอนนี้เขาไม่รู้ว่าสถานการณ์ที่ตระกูลเป็น อย่างไรบ้าง ดังนั้นเขาจึงจำเป็นต้องรีบกลับไป

ตอนนี้เวทีสยืน โกรธหน้าดำหน้าแดง คำพูดที่เขาเย้ยหยันรพี พงษ์กลับมาตบหน้าเขาอย่างจัง ตอนนี้เขาเข้าใจความน่ากลัว ของความสามารถแล้ว ต่อจากนี้เขาไม่กล้าหัวเราะเยาะรพีพงษ์ อีก

ดำเกิงยืนอยู่ข้างเวทัส เขายื่นมือไปตบไหล่เวกัสแล้วพูดปลอบ ใจว่า “จริงๆ ฉันเข้าใจนายนะ ตอนนี้ฉันก็รู้สึกเหมือนนาย นาย อย่ากดดันตัวเองมาก คนทั่วไปแบบเราไม่ควรไปเทียบกับคนมี ความสามารถแบบเขา ฉันได้ข้อคิดมาอย่างหนึ่งคือ การที่เรา เอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับคนอื่นก็จะหงุดหงิดใจเปล่าๆ ดังนั้น ควรยอมรับความจริงดีกว่า”

เมื่อเวทัสได้ยินสิ่งที่ดำเกิงพูด เขาก็รู้สึกหงุดหงิดใจขึ้นมา ไม่รู้ ว่าดำเกิงกำลังปลอบใจเขาหรือกำลังทำให้เขาทุกข์ใจขึ้นกันแน่
ฝนสุดาสีหน้ามีความสุข แต่ว่าระหว่างทางที่กลับมา รพีพงษ์ บอกว่าจะออกไปจากที่นี่แล้ว ฝนสุดาจึงรู้สึกหดหู

เธอจ้องรพีพงษ์ แววตาของเธอสับสนเหมือนกำลังคิดอะไรอยู่

ศิษย์คนอื่นๆ ก็ยืนอยู่ข้างๆ ไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น “ดำเกิง นี่มันเกิดอะไรขึ้น ทำไมสีหน้าของเวทสดูไม่ดีเลย ศิษย์คนหนึ่งเอ่ยถามขึ้น

ดำเกิงอยากเล่าเรื่องที่รพีพงษ์ใช้กำลังภายในเพียงฝ่ามือ เดียวจนทำให้หินแตกออกเป็นสองซีกให้ทุกคนฟัง แต่เวกัสจ้อง เขา จนทำให้เกิงกลืนสิ่งที่อยากจะพูดลงคอ

“แค่ก แค่ก เวทัสอารมณ์ไม่ค่อยดีนะ กลับไปค่อยเล่าให้ฟัง แล้วกัน” ตาเกิงกระแอมเบาๆ

ทุกคนยิ่งสงสัยเข้าไปใหญ่ พวกเขามองดำเกิงไม่หยุดจน

ทำให้เขาทำตัวไม่ถูก

ผ่านครู่หนึ่ง รพีพงษ์เห็นว่าอาจารย์ยังไม่ออกมา จึงเอ่ยขึ้นว่า “อาจารย์ ศิษย์ทำสิ่งที่อาจารย์ต้องการสำเร็จแล้ว หินก้อนนั้นถูก ศิษย์ใช้ฝ่ามือทำให้แตกเป็นสองซีกแล้ว”

เมื่อทุกคนได้ยินสิ่งที่รพีพงษ์พูด ต่างพากันสงสัย

“ก้อนหิน ก้อนหินอะไรเหรอ ก็แค่ทำให้ก่อนหินแตก ทำไมต้อง มาบอกอาจารย์ด้วย”

“ให้ตายเถอะ คงจะไม่ใช่หินก้อนที่เวทัสประทับรอยฝ่ามือเอาไว้ใช่ไหม หินก้อนนั้นมีความทนทานและแข็งมากไม่ใช่เหรอ แม้แต่ขวานยังไม่สามารถทำให้เป็นรอยได้เลย รพีพงษ์ทำให้หิน ก้อนนั้นแตกด้วยมือเปล่าเหรอ”

“ไม่เสียแรงที่เป็นศิษย์รักของอาจารย์ พรสวรรค์ที่น่ากลัวเช่น นี้ เป็นสิ่งที่เราคาดไม่ถึง

ผ่านไปครู่หนึ่ง มีเสียงของชายชราดังออกมาจากข้างใน “ไป เถอะ จำไว้ว่านายรับปากฉันแล้ว”

รพีพงษ์รู้นิสัยของอาจารย์ดี เมื่ออาจารย์พูดเช่นนี้แสดงว่า อาจารย์ให้เขาไปแล้ว

และอาจารย์ได้พูดสิ่งที่ต้องการพูดไว้ก่อนหน้านี้หมดแล้ว

กำลังภายในที่อาจารย์ถ่ายทอดให้เขา เพราะความสัมพันธ์ ระหว่างศิษย์กับอาจารย์ อีกอย่างคือในภายภาคหน้าเมื่อ อาจารย์ต้องการความช่วยเหลือจากรพีพงษ์ หวังว่าเขาจะช่วย อาจารย์ได้

จากการคาดเดาของรพีพงษ์ ดูเหมือนว่าอาจารย์กำลัง วางแผนอะไรบางอย่าง การที่เขารับศิษย์เยอะขนาดนี้ คงจะ ไม่ใช่แค่เพราะความชอบ ภายภาคหน้าอาจารย์จำเป็นต้องขอ ความช่วยเหลือจากเขา

ถึงแม้จะไม่รู้ว่าอาจารย์จะให้เขาทำอะไร แต่บุญคุณที่อาจารย์ ถ่ายทอดวิชาให้เขา ไม่ว่าจะบุกน้ำลุยไฟ รพีพงษ์ก็จะทำโดยไม่ลังเล

บุญคุณของผู้ที่มาช่วยตอนที่ยากลำบาก ต้องตอบแทนให้เป็น หลายเท่า

หลังจากที่ยืนคอยอยู่หน้าเรือนไม้อยู่พักหนึ่ง รพีพงษ์คุกเข่าลง และค่านับลงที่หน้าประตู จากนั้นลุกขึ้นมาแล้วมองไปยังฝนสุดา

วันนี้เขาจะไปจากที่นี่

“ผมจะไปจากที่นี่แล้ว คุณจะอยู่ที่นี่หรือจะไปกับผม” รพีพงษ์ เอ่ยขึ้น

ฝนสุดารีบเอ่ยขึ้นว่า “ฉันจะอยู่ที่นี่ทำไม นายรอฉันแป๊บนึง ฉัน ขอไปเก็บของก่อน

พูดจบ ฝนสุดาก็วิ่งไปที่ห้องของตัวเอง

เมื่อทุกคนรู้ว่ารพีพงษ์จะไปจากที่นี่ แววตาที่พวกนั้นมองมายัง รพีพงษ์ก็แปรเปลี่ยนไป

ถึงแม้ว่าตอนนั้นรพีพงษ์จะดึงดันหนีไป จนทำให้คนพวกนี้รู้สึก ไม่ดีกับเขา แต่ในระยะเวลาช่วงนี้ รพีพงษ์ได้แสดงความสามารถ ออกมากให้พวกเขานับถือ ถึงปกติจะบาดหมางกัน แต่ไม่ว่ายัง ไงก็เป็นศิษย์อาจารย์เดียวกัน เมื่อทุกคนได้ยินว่ารพีพงษ์จะไป จากที่นี่ ก็รู้สึกหดหู่ใจเล็กน้อย

ดำเกิงจ้องรพีพงษ์ เขาลังเลเล็กน้อย จากนั้นจึงเอ่ยขึ้นว่า “ถึง แม้ช่วงที่ผ่านมาจะมีเรื่องหมางใจกับนาย แต่นายใช้ความ สามารถพิสูจน์ตัวเอง จนกลายเป็นศิษย์รักของอาจารย์ ฉันขอให้นาย

รพีพงษ์ยิ้ม ให้ดำเกิง เขาว่าเกิงเอาชนะ จริงดำเกิง ได้เจตนาเวทัลลังเลเล็กน้อย จากจึงก้าวเข้ามาแล้วว่า นายแข็ง แกร่งจริงฉันเทียบนายไม่ติด แต่ภายภาคหน้าฉันก็ยังเห็นนาย

คู่ท้าประลอง หวังว่า

“แน่นอนรพีพงษ์ตอบ

จากนั้นศิษย์คนอื่นๆ ก็เข้ามาบอกลารพีพงษ์ รพีพงษ์ตอบกลับ ทุกคน หลังจากที่อาวรณ์ และกลับด้วย

ตอนที่ออกมาจากเขาก็พลบค่ำแล้ว ทั้งสองเดินลงยังตำบล เล็กใต้เขา พงษ์หยุดเดิน แล้วมองรพีพงษ์อย่างลังเล

“เป็นอะไร” รพีพงษ์เอ่ยถาม

ผ่านครู่ใหญ่ สุดาเอ่ยถาม “หลังจากนี้ นายจะกลับเกียวโตแล้วไหม”

รพีพงษ์พยักหน้า เข้าใจสุดาต้องการสื่ออะไร

งั้นนายพาฉันกลับด้วยไหมฝนสุดาถาม
รพีพงษ์อึ้งไป เขาไม่เคยคิดเรื่องนี้มาก่อน ระยะเวลาที่ผ่านมา ฝนสุดาเอาแต่อยู่กับเขา บวกกับการบุญคุณที่ฝนสุด ช่วยชีวิต เขา เขาไม่เคยคิดจะไล่ฝนสุดาไป

เมื่อเห็นว่ารพีพงษ์ลังเล ฝนสุดาจึงมีคำตอบอยู่ในใจ เธอยิ้ม แล้วพูดว่า “โอเค โอเค เราไปหาที่พักกันก่อนเถอะ

รพีพงษ์สังเกตเห็นความผิดปกติของฝนสุดา แต่เขาไม่รู้จะพูด เรื่องนี้กับเธออย่างไร จึงทำได้เพียงพยักหน้า ไว้ค่อยคิดเรื่องของ ฝนสุดาในวันพรุ่งนี้

ทั้งสองมาถึงโรงแรมที่ดูเก่าและผุพัง ทั้งสองต้องการห้องที่มี สองเตียง รพีพงษ์คิดว่ายังพอรับได้ จึงไม่ได้พูดอะไร

ตอนกลางคืน แปลกมากที่ฝนสุดาไม่ได้มาวุ่นวายกับรพีพงษ์ เธอเอนอยู่บนเตียงและมองรพีพงษ์เงียบๆ ไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไร อยู่

เช้าวันต่อมา รพีพงษ์หันไปหาฝนสุดา พบว่าเตียงของเธอว่าง เปล่า ผ้าห่มถูกพับเอาไว้เรียบร้อย

รพีพงษ์คิดว่าเธอไปอาบน้ำ ตอนที่เขาลุกขึ้นมา เขาเห็น กระดาษวางไว้บนเตียง ในกระดาษเขียนด้วยลายมือสวยดูน่า อ่าน

เขาหยิบกระดาษใบนั้นขึ้นมา เมื่ออ่านจบก็ถอนหายใจออกมา อย่างเหนื่อยใจ

“เจ้าโง่ ฉันกลับบ้านแล้ว ฉันรู้ว่าในใจของนายไม่มีฉันเลย ถึงฉันจะตามติดนายต่อไป สิ่งที่ได้กลับมาก็มีเพียงความว่างเปล่า แต่ว่าตอนที่ใช้ชีวิตอยู่ในหุบเขา เป็นช่วงเวลาที่มีความสุขที่สุด ในชีวิตของฉันเลยล่ะ ฉันหวังว่าจะเป็นความทรงจำระหว่างฉัน กับนาย ไม่ว่านายจะยอมรับหรือไม่ ฉันขอประกาศว่าช่วงเวลานี้ นายเป็นของฉัน ฉันหวังว่าเราจะได้เจอกันอีกหลังจากแยกจาก กันครั้งนี้ นายอย่าลืมสิ นายยังติดหนี้บุญคุณฉันอยู่นะ ดังนั้นต่อ จากนี้ ถ้านายมีเวลา อย่าลืมแวะมาหาฉันด้วยล่ะ นายจะพาอารี มาด้วยก็ได้ รวมถึงลูกของนายด้วย ฉันจะเตรียมของขวัญเอาไว้ ให้ สุดท้าย ไม่ว่านายจะรับมันไว้หรือไว้ ฉันอยากบอกว่า

“ฉันชอบนาย”

ความรู้สึกเป็นเรื่องที่ยากจะเข้าใจ รพีพงษ์ก็ไม่รู้เหมือนกันว่า ตัวเองจะทำยังไงกับความรู้สึกที่ฝนสุดามีให้เขา

เขาส่ายหน้าช้าๆ ในเมื่อคิดไม่ออก ในอนาคตเขาจะตอบแทน

ฝนสุดเป็นร้อยเท่าพันเท่า

เขาไม่สามารถรับความรู้สึกของฝนสุดาเอาไว้ได้ แต่เขา สามารถปกป้องผู้หญิงคนนี้ให้เธอใช้ชีวิตอย่างสงบสุขไปตลอด ชีวิตโดยไม่มีใครมาสามารถกลั่นแกล้งเธอได้


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ