พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว

บทที่736 เธอมันอัปลักษณ์



บทที่736 เธอมันอัปลักษณ์

สองทุ่ม

ประตูโรงแรมแบบพระราชวังค์แห่งหนึ่งในไชน่าทาวน์ แสงไฟ สว่างไสว รถหรูจอดรวมกัน

คนสวมใส่ชุดราตรีจํานวนมากเดินเข้าไปในโรงแรม หนึ่งใน จำนวนมากนั้นล้วนเป็นนักธุรกิจเอเชีย นานๆจะเห็นคนอเมริกา เข้ามาสักคน

สี่ตระกูลใหญ่คือตระกูลชั้นนำของโลก ร่วมมือกัน พลังมาก พอที่จะต่อกรกับตระกูลดังระดับโลกได้ พวกเขาจัดงานเลี้ยง มี คนจํานวนไม่น้อยมาเข้าร่วม

ขณะนี้คทาวุธและพวกทั้งสี่ได้เปลี่ยนชุดทางการแล้ว เป็น

ตัวแทนผู้ปกครอง มาต้อนรับแขกในงาน

“รอให้งานเลี้ยงจบ ฉันจะต้องไปหาพ่อและลุงทามัน ยืมนักฆ่า จากเขามาสักคน นึกถึงไอ้เชี้ยนั่นแล้วโมโห” กันติศาหน้าตาบึง ตึง

“อย่าใจร้อน ได้ยินมาว่าวันนี้คนของลอบสังหารจะมาด้วย ถึง เวลานั้นพูดกับเค้าดีๆ ว่าให้ช่วยจัดการได้ไม่มีขือมีแปนั่นไม่ง่าย กว่าหรอ” คฑาวุธยิ้มพลางกล่าว

กันติศาพยักหน้า ด้วยสายตาอาฆาต
ใต้ต้นไม้ต้นหนึ่งที่ห่างออกไปไม่ไกล รพีพงษ์กำลังยืนอยู่ตรง นี้ สองตากำลังมองไปที่คนผ่านไปผ่านมา ที่พลุกพล่านเต็มไป หมด

ในขณะนี้มีลุงอายุราวเจ็ดสิบปีเดินเล่นผ่านมา เห็นรพีพงษ์จ้อง โรงแรมใหญ่ที่หรูหราฝั่งตรงข้าม ยิ้มพลางกล่าว “เด็กน้อย อยากจะเข้าไปในงานนั้นหรอ ได้ยินมาว่าคืนนี้ตระกูลใหญ่จัด งานเลี้ยง คนที่เข้าร่วม ล้วนเป็นบุคคลชั้นนำ คนธรรมดาไม่มี สิทธิ์เข้าไป หลานของลุงก็อยากจะเข้าร่วมกับเค้าด้วยเหมือนกัน เสียดายไม่มีแบล็ค เค้าไม่มีสนใจหรอก

ได้ยินคำพูดของลุง รพีพงษ์ก็ยิ้ม กล่าว “ถูกผิดแพ้ชนะวัฏจักร เวียนว่ายตาย ก็แค่สี่ตระกูลใหญ่ ไม่แน่หลังจากคืนนี้ไป สี่ตระกูล ใหญ่อาจเป็นแค่ประวัติศาสตร์ก็ได้นะ”

“ฮ่าฮ่า เด็กน้อยแกพูดเล่นไม่ใช่น้อยเลยนะ นั่นสี่ตระกูลใหญ่ พอบอกว่าไม่มีแล้วจะไม่มีเลยได้ไง วัยรุ่น มีเวลาคิดเรื่องแบบนี้ สู้ๆตั้งใจทำงานดีกว่า ช่วงนี้หลานลุงกำลังตั้งใจสอบ ไม่แน่อีกไม่ นานก็อาจจะได้ไปทำงานในบริษัทของตระกูลใหญ่แล้วก็เป็น ได้” ลุงพูดอย่างมั่นใจ

รพีพงษ์ยิ้มแต่ไม่พูดอะไร คิดในใจว่าความฝันของหลานลุงน่า จะยากที่จะเป็นจริงแล้วล่ะ แต่คนเก่งไปที่ไหนก้ไม่ลำบาก แม้ ตระกูลใหญ่พังลง แต่ก็จะมีตระกูลที่ดีออกมาอยู่ดี

หลังจากที่ลุงจากไปแล้วไม่นาน ชาลิสาและไอ้อ้วนทั้งสองเดิน มาหารพีพงษ์
“ลูกพี่ ลอบสังหารเตรียมตัวเสร็จแล้ว ถึงเวลานั้นแค่พี่ส่ง สัญญาณ ครอบภพจะให้คนของตัวเองเริ่มปฏิบัติการ” ไอ้อ้วน กล่าวพลางยิ้ม

“คนของปรมาจารย์เนียจิ้งอยู่บริเวณใกล้ๆนี้ แต่คืนนี้ พวกเขา น่าจะทำอะไรพวกเราไม่ได้” ชาลิสากล่าว

รพีพงษ์พยักหน้า กล่าว “ใกล้ได้เวลาแล้ว พวกเราไปกันเถอะ ไม่แน่อาจได้กินของฟรีก็ได้นะ”

ในห้องโถงของ โรงแรม

ทามันนายใหญ่ตระกูลนนท์สัจทัศน์ อภิรุจนายใหญ่ตระกูลม หัทธนธรรม บุณฤทธิ์นายใหญ่ตระกูลตั้งชินคุปต์ ชนกันต์นาย ใหญ่ตระกูลคินกุลทั้งสี่กำลังยืนอยู่ร่วมกันด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม และกำลังพูดคุยอยู่กับแขกในงาน

งานเลี้ยง ในวันนี้ หนึ่งเพื่อฉลองแผนการลอบฆ่าคนของเทือก เขากิสนา อีกข้อคือ ประกาศให้ภายนอกรับรู้ถึงความสัมพันธ์อัน ดีของตระกูลใหญ่ ให้ทุกคนได้รู้ว่าสี่ตระกูลใหญ่รวมเป็นหนึ่ง ถ้าจะหาเรื่องพวกเขา ต้องไตร่ตรองให้ดีว่าจะรับความเกรี้ยว กราดของตระกูลชั้นนำของโลกได้หรือไม่

“ก่อนหน้านี้ ผมก็คิดว่าเทือกเขาสนาเป็นเพียงสถานที่ท่อง เที่ยวหรูหราเท่านั้น ไม่ต้องเก็บมาใส่ใจ จนกระทั่งพวกมันลงมือ กับตระกูลนิธิวรสกุล และคุณชายของพวกมันได้ฆ่าระดับสูงของ ตระกูลนิธิวรสกุลทั้งหมด ผมถึงรับรู้ได้ถึงความน่าเกรงขามของเทือกเขากิสนา แต่ที่คุณชายของพวกมันได้ถูกปรมาจารย์เนีย จิ้งจับขังไว้คุกที่ห้าแล้ว ได้ยินมาว่าหลังจากเข้าไปแล้ว ก็ไม่มีทาง จะออกมาได้ ดังนั้นพวกเราก็ไม่ต้องเป็นกังวลอะไรอีกต่อไป ทา มันยิ้มพลางกล่าว

“พูดถูก ความจริง พวกเราต้องขอบคุณคุณชายของเทือกเขา สนา ถ้าไม่ใช่เพราะเขา ตอนนี้พวกเราก็ต้องถูกตระกูลนิธิวรสกุล จูงจมูกไปเรื่อย ไม่งั้นจะมีออร่าอย่างตอนนี้ได้ไงกัน” อภิรุจพูด ตาม

“ขอบคุณเชี่ยไรล่ะ ช่วงนี้เทือกเขาสนาก็หาเรื่องพวกเราไม่ น้อยเหมือนกันนะ การลอบฆ่าในครั้งนี้เป็นการเตือนพวกมัน ให้ พวกมันรู้ว่าสี่ตระกูลใหญ่แต่ต้องไม่ได้เหมือนกัน” บุณฤทธิ์ กล่าวอย่างเกรี้ยวกราด

“ฮ่าฮ่า อภิรุจแค่ล้อเล่นเท่านั้น เชื่อว่าหลังจากงานเลี้ยงคืนนี้ ไป เทือกเขาสนาจะต้องเจ็บหนัก ไม่มีทางมาต่อกรกับพวกเรา ได้อีก แล้วพวกยอดฝีมือเนี่ยจิ้งเหล่านั้น มีปรมาจารย์เนียจิ้งคุม อยู่ พวกมันก็ไม่กล้าทำอะไรพวกเรา” ชนกันต์กล่าว

ขณะนี้คทาวุธและพวกทั้งสี่ได้มาถึงห้องโถง พูดคุยอยู่ไม่ไกล จากนายใหญ่ของสี่ตระกูลมากนัก

ในห้องโถงเห็นได้ชัดว่ารวมกันเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ทุกคน ล้วนสุภาพเรียบร้อย

ในขณะเดียวกันนี้เอง ประตูของห้องโถงถูกคนๆหนึ่งถีบทันใด คนที่ดูแลอยู่ตรงประตูถูกโยนออกไป
ทุกคนตกใจ หันไปมองที่ประตูนั้น

เห็นเพียงสามคนปรากฏตัวที่ห้องโถง ดูแตกต่างไปจากคน

สังคมชั้นสูงเหล่านี้โดยสิ้นเชิง คทาวุธและพวกทั้งสี่ก็ดูไปทางประตูนั้น หลังจากที่เห็นสามคน นั้นแล้ว สีหน้าถอดสีทันที

“เป็นไอโง่นั่นได้ไงกัน? มันมาที่นี่ทำไม?” กันติศากล่าวอย่าง บูดบึ้ง

“อาจจะมาสร้างความวุ่นวาย แต่มันมาก็ดีแล้ว กล้ามาสร้าง ความวุ่นวายในงานเลี้ยงของตระกูลใหญ่ แม้พวกเราจะไม่พูด พ่อฉันและพวกเขาจะต้องจัดการมันแน่นอน” คทาวุธกล่าว จากนั้นเขาก็เดินไปที่รพีพงศ์และพวกทั้งสาม

“พวกแกทั้งสามคนไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วใช่ไหม กล้ามาสร้าง ปัญหาที่นี่ ที่แบบนี้ พวกแกมีสิทธิ์มาหรือไง?” คฑาวุธกล่าวอย่าง เกรี้ยวกราด

กันติศาก็พูดตาม ด้วยสีหน้าโกรธแค้น “ไอ้งั่งมาถึงที่ ในเมื่อ มาแล้ว ก็รอรับความโชคร้ายได้เลย!!

รพีพงษ์ยิ้มพลางดุพวกเขาทั้งคู่ กล่าว “ฉันไม่ได้มาหาพวกแก ถ้าจะให้ดีพวกแกอย่างสร้างปัญหาจะดีกว่า”

“ไม่ได้มาหาพวกเรา? งั้นแกมาหาใคร?” กันติศาจ้องรพีพงษ์แล้วถาม
รพีพงษ์ชี้ไปที่ทามันสี่คนนั้น กล่าว “หาไอ้แกทั้งสี่นั่น”

“แก!” คทาวุธ โกรธแค้น

คนรอบข้างจ้องรพีพงษ์และพวกทั้งสามด้วยความเหยียด หยาม คิดว่าพวกเขาทั้งสามกล้าไม่เคารพต่อนายใหญ่ของทั้งสี่ ตระกูลใหญ่ รนหาที่ตายชัดๆ

ขณะเดียวกันนี้ทามันและพวกทั้งสี่เดินมา สัญญาณให้เขาถอยไป ดูคทาวุธ แล้วส่ง

“ไม่ทราบว่าคุณเป็นใคร คืนนี้เป็นงานเลี้ยงของตระกูลใหญ่ พวกคุณบุกรุกเข้ามา มองข้ามสี่ตระกูลใหญ่ของฉันเกินไปแล้ว?” ทามันกล่าวอย่างเยือกเย็น

รพีพงษ์ยิ้ม กล่าว “ผมชื่อรพีพงษ์ พวกคุณจัดงานเลี้ยงเพื่อ ลอบฆ่าคนของเทือกเขาสนาของผม มองข้ามคุณชายเทือกเขา กิสนาอย่างผมเกินไปเปล่า?”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ