พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว

บทที่ 327 ตราสัญลักษณ์ของนายใหญ่และรหัส บัญชี



บทที่ 327 ตราสัญลักษณ์ของนายใหญ่และรหัส บัญชี

ที่ดงเย็น ชนิสราเดินเข้าไปในคฤหาสน์ ด้วยสีหน้าที่ จริงจัง ระหว่างทางกลับมา เธอก็รู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดี ตาก็ กระตุกไม่หยุด

สัญชาตญาณของเธอแม่นยำมาก และเมื่อเปลือกตา ของเธอกระตุก สิ่งไม่ดีมักจะเกิดขึ้นเสมอ ดังนั้นเธอจึง รู้สึกไม่ค่อยสลายใจเล็กน้อย

เมื่อเธอเห็นว่าประตูรั้วเปิดอยู่ หัวใจของเธอก็เต้นแรง ปกติแล้วประตูนี้ไม่ได้เปิด เมื่อออกไปเท่านั้นถึงจะเปิดมัน สถานการณ์ที่เปิดและไม่ปิดแบบนี้ ปกติจะไม่เกิดขึ้น

เธอรีบเดินเข้าไปในคฤหาสน์ และพบว่าประตูของ คฤหาสน์นั้นเปิดอยู่ และมีเสียงตะโกนโหวกเหวกบาง อย่างออกมาจากด้านใน ต้องเห็นกับตาก่อน อารียาศศิ นัดดาและศักดาทั้งสามคนต่างก็ถูกมัดมือและแขวนเอาไว้ และตรงหน้าทั้งสามคนในเวลานี้มีผู้ชายในชุดสูท และผู้ หญิงที่แข็งแกร่งยืนอยู่

เมื่อตอนที่ชนิสราเห็นฉากนี้ ในใจก็ร้องเสียงหลงว่า แย่แล้ว จึงหันกลับมา และออกจากที่นี่ก่อน เพื่อแจ้งให้รพี พงษ์

แต่ทันทีที่เธอหันกลับมา ก็ชนเข้ากับชายร่างสูง ชาย หนุ่มคนหนึ่งก็สวมสูทเช่นกัน และเป็นหนึ่งในบอดี้การ์ด

ของวีธรา “ในเมื่อกลับมาแล้ว ก็อย่าเพิ่งไปเลย เข้าไปเถอะ”บอดี้ การ์ดผลักชนิสราเข้าไปในคฤหาสน์ ชนิสราก็รีบเอา โทรศัพท์มือถือของตัวเองออกมา ต้องการจะโทรหารฟี พงษ์ แต่แล้วเธอก็จำได้ว่าตัวเองโทรศัพท์เสียแล้ว

สถานบันเทิงสตาร์กาย

รพีพงษ์ตามธฤตญาณมาที่นี่ และทั้งสองคนก็ไปที่ ห้องที่ขังจักรพันธ์อยู่

ทันทีที่ประตูห้องเปิดออก กลิ่นอับชื้นและเชื้อราผสม กับกลิ่นปัสสาวะก็พุ่งเข้ามา และรพีพงษ์ก็อดไม่ได้ที่จะปิด จมูกตัวเองไว้

จักรพันธ์อาศัยอยู่ในสภาพแวดล้อมแบบนี้ทุกวัน และ ที่สำคัญไม่เห็นพระอาทิตย์ ทุกวันยังต้องทนทุกข์ทรมาน กับที่ธฤตญาณเตรียมไว้ ในช่วงเวลานี้เขาได้รับรู้ว่าความ สิ้นหวังคืออะไร

เมื่อรพีพงษ์เห็นว่าจักรพันธ์ที่นอนอยู่บนเตียงสภาพ เหมือนกลายเป็นผี ก็แปลกใจเล็กน้อย แต่เขาไม่ได้มี ความเห็นอกเห็นใจอะไรต่อจักรพันธ์เลยแม้แต่น้อย ความ ชั่วร้ายที่ผู้ชายคนนี้ทำไว้ การลงโทษเหล่านี้ เป็นสิ่งที่ สมควร

เมื่อจักรพันธ์ได้ยินเสียงเปิดประตู ลุกขึ้นนั่งบนเตียง ทันที หรี่ตามองไปที่หน้าประตู เห็นรพีพงษ์เข้ามา ก็ คุกเข่าลงทันที

“รพีพงษ์ นายปล่อยฉันไปเถอะ ฉันรู้แล้วว่าฉันผิด หลังจากนี้ฉันจะทำตัวดีๆ ใช้ชีวิตอยู่ที่นี่มันยากเกินไป จริงๆ ฉันอยากออกไปเจอพระอาทิตย์ ขอร้องล่ะนาย ปล่อยฉันไปเถอะ”จักรพันธ์ร้องขอความเมตตา

ธฤตญาณหันหน้าไปมองรพีพงษ์ แล้วพูดว่า : “ไอ้หมอ นี่ขอร้องมานานมาก ฉันเรียกนายมา ก็เพราะว่าเขาเสนอ เงื่อนไขมาหนึ่งอย่าง ฉันคิดว่านายก็อาจจะสนใจ ดังนั้น ก็เลยให้นายมา”

“เงื่อนไขอะไร?”รพีพงษ์ถาม

“ให้เขาพูดเองดีกว่า”ธฤตญาณกล่าว หันหน้ามองไปที่ จักรพันธ์ พูดอย่างเย็นชา: “รีบพูดสิ่งที่นายอยากพูดออก มา พวกเราไม่อยากที่จะทนกับอากาศสกปรกนี้อยู่ที่นี่กับ นายหรอกนะ”

จักรพันธ์ไม่ลังเล และรีบพูดว่า: “รพีพงษ์ นายก็น่าจะรู้ อำนาจทั้งหมดของตระกูลลัดดาวัลย์นั้น ขึ้นอยู่กับตรา สัญลักษณ์ของนายใหญ่ ตอนนั้นแม่ของเราก็ได้ตรา สัญลักษณ์นายใหญ่แผ่นนี้มา ดังนั้นถึงสามารถควบคุม คนข้างล่างได้”

เมื่อได้ยินคำว่า “แม่ของเรา” รพีพงษ์ก็ขมวดคิ้ว และ พูดอย่างเย็นชา: “อย่ามาตีสนิทกับฉัน ฉันกับนายไม่สนิท กัน”

บนใบหน้าของจักรพันธ์ก็ละลายเล็กน้อย แต่ว่าก็ไม่ กล้าที่จะพูดอะไร แล้วพูดต่อไปว่า: “ฉันรู้ว่านายเกลียด แค้นวีธรา ที่สำคัญนายคงจะรู้สึกว่าทายาทสืบทอดของ ตระกูลลัดดาวัลย์ควรจะเป็นของนาย ฉันอยู่ที่นี่มานาน ขนาดนี้ ฉันไม่สนใจในตัวตนของทายาทสืบทอดของ

ตระกูลลัดดาวัลย์ ตอนนี้ฉันต้องการแค่ไปเจอ

พระอาทิตย์ ทานข้าวมื้อหนึ่ง ไม่มีความหวังที่เพ้อฝันกับ สิ่งอื่นใดอีกต่อไป” “ดังนั้นเพียงแค่นายรับปากว่าจะปล่อยฉันไป ฉัน สามารถที่จะเอาตราสัญลักษณ์นายใหญ่นั้นมาได้ ข้อ

ตกลงนี้สำหรับนาย ได้กำไรไม่ขาดทุน นายคิดว่ายังไง

ล่ะ?”

หลังจากที่ได้ยินคำพูดของจักรพันธ์ รพีพงษ์ก็ยิ้มเล็ก น้อย แล้วพูด : “นายจะช่วยให้ฉันได้รับตราสัญญาลักษณ์ นายใหญ่มาเหรอ? ฉันว่านายอยากใช้โอกาสนี้ ส่งข่าวว่า นายถูกขังอยู่ที่นี่ให้กับวีธรามากกว่า ทางที่ดีฉันเตือนนาย ไม่คิดเช่นนี้จะดีกว่า เพราะว่าถึงเวลาวีธรายังมาไม่ถึง นายก็จะถูกฉันฆ่าได้”

ใบหน้าของจักรพันธ์เผยถึงความขมขื่นออกมาให้เห็น แล้วพูด: “ฉันรู้ว่านายมีความสามารถนี้ ตอนนี้ฉันสำนึก ผิดจริงๆ ฉันไม่อยากอยู่ในสภาพแวดล้อมแบบนั้นอีกต่อ ไป ฉันไม่ได้โกหกนาย ตราสัญลักษณ์นายใหญ่วีธราพก ติดตัวตลอด ตราบใดที่นายยอมปล่อยฉัน ฉันสามารถ ช่วยนายหลอกให้วีธรามาที่เมืองริเวอร์ได้ ถึงเวลานั้นนาย ก็จัดเตรียมคนให้ไปจับตัวเธอ เพียงแค่ตราสัญลักษณ์ นายใหญ่ถึงมือ ที่สำคัญถ้าหากนายฆ่าเธอ ฉันก็จะไม่ ห้าม”

เมื่อได้ยินคำพูดของจักรพันธ์ รพีพงษ์ก็แสยะยิ้ม วีธรา คงจะคิดไม่ถึง คนที่เธอคิดว่าเป็นลูกชายสุดที่รัก ตอนนี้ กำลังคิดวิธีหลอกล่อเธอมาฆ่า ไอ้อกตัญญทำถึงขนาดนี้ ก็ถือว่าเป็นวัฏจักรอย่างหนึ่ง

“อยากจะหลอกล่อให้วีธรามาที่เมืองริเวอร์ มีวิธี มากมาย ที่สำคัญถือว่าไม่ยากเกินไป แล้วทำไมฉันต้อง ให้นายช่วยฉันด้วยล่ะ ฉันว่านายสงบจิตสงบใจ นายก็อยู่ ที่นี่ดีๆจะดีกว่า ใช้ชีวิตที่เหลือของอยู่นายไปเถอะ”รพี พงษ์กล่าว

จักรพันธ์รีบลุกขึ้นทันที คุกเข่าแล้วคลานไปข้างหน้า สองก้าว และพูดว่า: “รพีพงษ์ ขอร้องนายล่ะ เพียงแค่ นายยอมปล่อยฉัน ฉันยังสามารถบอกรหัสผ่านบัญชีของ ตระกูลลัดดาวัลย์ให้นายได้ รหัสนี้ตอนนี้มีเพียงฉันและวี ธราที่รู้ เพียงแค่มีรหัสบัญชีนี้เท่านั้น นายก็สามารถโอน ย้ายทรัพย์สินทั้งหมดของตระกูลลัดดาวัลย์ได้ ไม่อย่าง นั้นต่อให้จะมีตราสัญลักษณ์นายใหญ่ นายก็ไม่สามารถมี ความมั่งคั่งของตระกูลลัดดาวัลย์ได้”

เมื่อได้ยินสิ่งนี้ รพีพงษ์ก็นิ่งเงียบ เงื่อนไขนี้ทำให้เขา รู้สึกสนใจจริงๆ เนื่องจากกู้คืนตระกูลลัดดาวัลย์ ก็อยู่ใน แผนการของเขาด้วย ตระกูลลัดดาวัลย์เป็นหัวใจของน นทภู ไม่ควรที่จะให้วีธราครอบครอง

อย่างไรก็ตามเพียงแค่ฆ่าวีธรา และแย่งตำแหน่งของ นายใหญ่ของเธอมา ก็ไม่สามารถยึดคืนตระกูลลัดดา วัลย์มาได้ทั้งหมด เนื่องจากจะโน้มน้าวใจคนในตระกูลลัด ดาวัลย์ทั้งหมด ทรัพย์สินของตระกูลลัดดาวัลย์ก็ต้องอยู่ ในมือของเขาก่อน เขาถึงจะสามารถควบคุมตระกูลลัด ดาวัลย์ได้ มิฉะนั้นเมื่อวีธราตายแล้ว ต่อให้เขาจะได้รับตรา สัญลักษณ์นายใหญ่ คนในตระกูลลัดดาวัลย์ที่โลภ ตำแหน่งนายใหญ่มานาน ก็จะไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของเขา

ตราสัญลักษณ์นายใหญ่เป็นสัญลักษณ์อำนาจเท่านั้น ตอนนั้นที่วีธราสามารถดำรงตำแหน่งนายใหญ่ของตระกูล ลัดดาวัลย์ได้ สาเหตุก็เป็นเพราะควบคุมเส้นชีวิตทาง เศรษฐกิจของตระกูลลัดดาวัลย์ได้ทั้งหมด เงินทั้งหมดใน ตระกูลลัดดาวัลย์ ต้องผ่านความยินยอมจากเธอถึงจะ สามารถใช้ได้ อำนาจนี้ทำให้คนอื่นๆเกิดความคิดนำไปทำ ตามไม่ได้

อย่างไรก็ตามแม้ว่าคนเหล่านี้จะมีเงินอยู่ในมือบ้าง แต่ ก็อาจเป็นตัวเลขที่สูงเสียดฟ้าสำหรับคนธรรมดา แต่ สำหรับตระกูลลัดดาวัลย์ทั้งหมด มันเป็นเพียงแค่เงินเล็ก น้อยเท่านั้น

รพีพงษ์คิดไม่ถึงว่าวีธราจะบอกของที่สำคัญเช่นนี้ให้ กับจักรพันธ์ ในขณะเดียวกันก็ถอนหายใจเล็กน้อย หรือ จะพูดได้ว่าอิจฉา

ใช่แล้ว ในใจของรพีพงษ์เกิดความรู้สึกอิจฉาขึ้นมา เล็กน้อย

เขาก็เป็นลูกที่เกิดมาจากท้องของวีธรา แต่ท่าทางที่วี ธราแสดงกับเขาและแสดงกับจักรพันธ์ พูดได้ว่าต่างกัน ราวกับฟ้ากับดิน

แม้ว่าจักรพันธ์จะเป็นลูกชายคนแรกของวีธรา แต่วี ธราก็ไม่ควรเอาความแค้นทั้งหมดมาลงที่ตัวรพีพงษ์ ใน เมื่อฟัพงษ์ไม่ได้บังคับให้เธอแต่งงานเข้ามาที่ตระกูล ตระกูลลัดดาวัลย์

เมื่อจักรพันธ์เห็นว่ารพีพงษ์ลังเล ก็รู้ว่าเงื่อนไขที่ตัวเอง เสนอให้ทำให้หัวใจของรพีพงษ์สั่นคลอน ไม่ว่าจะเป็นใคร ก็ตาม คงจะไม่สามารถต้านทานรหัสผ่านบัญชีของ ตระกูลลัดดาวัลย์ได้ เนื่องจากนั้นเป็นทรัพย์สินที่คน ธรรมดาใช้จ่ายอย่างสุรุ่ยสุร่ายกี่ร้อยชาติก็ไม่หมด

สำหรับตระกูลลัดดาวัลย์ที่ร่ำรวยเทียบเท่ากับ ประเทศ แม้ว่ามันจะดูเกินจริงไปหน่อย แต่อย่างน้อย สำหรับความมั่งคั่งของตระกูลลัดดาวัลย์ ก็มากเกินพอที่ จะซื้อประเทศเล็กๆได้หนึ่งประเทศ

ที่สำคัญนี้ไม่ใช่สิ่งที่สำคัญที่สุด ตระกูลลัดดาวัลย์อยู่ ในประเทศและแม้กระทั่งต่างประเทศ ก็มีกิจการอยู่ จำนวนมากมาย ซึ่งเกี่ยวข้องกับแทบทุกสาขาอาชีพ ตราบใดที่ยังมีกิจการเหล่านี้อยู่ ตระกูลลัดดาวัลย์ก็ไม่มี ทางที่จะล้มละลายได้ ความมั่งคั่งทางเครือข่ายทาง เศรษฐกิจเหล่านี้ มีมูลค่ามากกว่าตัวเลขธรรมดาในบัญชี

“รพีพงษ์ ถ้าหากว่านายหวั่นไหว อย่างนั้นก็รับปากว่า จะปล่อยฉันไป ฉันจะบอกรหัสผ่านของบัญชีให้นาย แน่นอน ถึงเวลาฉันก็ช่วยนายเอาตราสัญลักษณ์นาย ใหญ่ถึงมือ ความมั่งคั่งทั้งหมดของตระกูลลัดดาวัลย์ก็จะ เป็นของนาย ในอนาคตก็จะไม่มีใครที่กล้าทำอะไรกับ นาย ฉันใช้สิ่งนี้เพื่อแลกอิสรภาพกับนาย มันน่าจะคุ้มค่า มาก”จักรพันธ์กล่าว

รพีพงษ์เหลือบมองเขา และถามว่า: “ฉันจะมั่นใจได้ยัง ไงว่ารหัสที่นายให้มามันไม่ใช่ของปลอม?”

“ฉันสามารถใช้ชีวิตของฉันมารับรอง ฉันมาถึงขนาด นี้แล้ว ฉันไม่อยากทนกับชีวิตแบบนี้อีกต่อไปแล้วจริงๆ ตอนนี้สำหรับฉัน อิสรภาพสำคัญกว่าความมั่งคั่งใดๆ ฉัน จะไม่มีวันโกหกนาย”จักรพันธ์กล่าวด้วยความจริงใจ

รพีพงษ์ครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง และพูดว่า: “เอาแบบนี้ละ กัน นายบอกรหัสผ่านของบัญชีให้ฉันก่อน ฉันจะเอาไป ตรวจสอบ ถ้าหากว่าเป็นความจริง ฉันก็จะพิจารณาคืน อิสระกับนาย”

จักรพันธ์จ้องมองทันที และกล่าวว่า: “อย่างนั้นไม่ได้ ถ้าหากว่าฉันบอกนายแล้ว แต่นายไม่ปล่อยฉันไปล่ะ อย่างนั้นฉันก็จะเสียเปรียบมากไม่ใช่เหรอ?”

รอยยิ้มที่เจ้าเล่ห์ปรากฏขึ้นบนใบหน้ารพีพงษ์ แล้วพูด ว่า: “นายคิดว่าตอนนี้นายมีสิทธิ์มาเจรจาต่อรองเรื่อง เงื่อนไขกับฉันเหรอ?”

ตัวของจักรพันธ์ก็สั่นทันที ทันใดนั้นก็รู้ว่า ตัวเองบอก กับรพีพงษ์ว่าตัวเองรู้รหัสผ่านของบัญชี มันเป็นเรื่องที่โง่

มาก

ที่ดงเย็น

ในคฤหาสน์ ชนิสราก็ถูกบอดี้การ์ดใช้เชือกมัดแล้ว แขวนไว้ ทั้งสี่ก็ห้อยอยู่กลางอากาศ แม้ว่าจะดิ้นรน แต่ก็ ไม่มีผลใดๆ วีธรายืนอยู่ตรงหน้าคนทั้งสี่คน ถือแส่ในมือหนึ่งอัน ด้วยท่าทางที่ดูโหดเหี้ยม

หลังที่ตอนนั้นศศินัดดาพูดชื่อของจักรพันธ์ขึ้นมา วี ธราก็รู้แล้วว่ามีบางอย่างผิดปกติ ดังนั้นจึงให้บอดี้การ์ด ของตัวเองจับตัวพวกเขาไว้

เดิมที่เธอต้องการโทรหาจักรพันธ์แล้วถาม แต่ว่าเมื่อ คิดถึงศศินัดดาบอกว่าจักรพันธ์หายไปนานแล้ว ในช่วง เวลาที่เธอและจักรพันธ์โทรศัพท์คุยกัน ทุกครั้งจักรพันธ์ ก็บอกว่าตัวเองไม่เป็นอะไร อยู่ที่เมืองริเวอร์สบายดี ใน ระหว่างทั้งสองเรื่องนี้มีความขัดแย้งกัน

แม้ว่าศศินัดดาจะไม่รู้เบาะแสที่ชัดเจนของจักรพันธ์ แต่ว่าศศินัดดาก็ไม่ควรจะรู้จักชื่อของจักรพันธ์

ที่สำคัญเมื่อกลับมาย้อนคิดดูในช่วงนี้เธอทุกครั้งที่เธอ โทรหาจักรพันธ์ ก็จะมีความรู้แปลกๆทุกครั้งจักรพันธ์ พูดจาน้อยมาก ที่สำคัญทุกครั้งก็จะพูดประโยคเดียวกัน ตลอด

สิ่งนี้ทำให้วีธราสงสัย “จักรพันธ์”ที่ตัวเองติดต่อด้วย เป็นไปได้อาจจะไม่ใช่ตัวของเธอ

เธอกลัวว่าจะแหวกหญ้าให้งู ตื่น ก็เลยไม่ได้ติดต่อกับ จักรพันธ์ แต่ต้องการจะถามอารียาพวกเขาก่อน เพื่อดูว่า ถามอะไรมาได้บ้าง

เธอหยิบแส้ออกมา และถามศศินัดดาไปไม่กี่คำถาม อารียาส่งสายตาให้ศศินัดดาให้เธอห้ามพูด แต่ศศินัดดา เป็นคนที่ไม่สามารถทนต่อการถูกคนอื่นขู่ ที่สำคัญวีธราก็ ไม่คลุมเครือ มาถึงก็ฟาดศศินัดดาไปไม่กี่แส้ ศศินัดดา กลัวมาก จึงพูดออกไปหมดทุกอย่าง

แต่ศศินัดดารู้เพียงว่าจักรพันธ์ปลอมเป็นรพีพงษ์มาที่ บ้าน เรื่องอื่นไปก็ไม่รู้เรื่อง ดังนั้นก็เลยไม่ได้พูดข้อมูล อะไรที่เป็นประโยชน์ออกไป เพียงแค่ช่วยยืนยันให้วีธรา ว่าครอบครัวอารียาเปิดโปงจักรพันธ์มาก่อนตั้งนานแล้ว และจักรพันธ์ที่อยู่ในโทรศัพท์เขาปลอมตัวได้เนียนมาก ซึ่งแสดงให้เห็นว่า จักรพันธ์ที่คุยโทรศัพท์กับเธอนั้น เป็น ตัวปลอม

หลังจากนั้นเธอก็ถามศักดาและชนิสราทั้งสองคน สิ่ง ที่พวกเขารู้ไม่มากกว่าศศินัดดา ความสนใจของวีธราก็มา ตกอยู่ที่อารียา

“ตอนนี้ดูเหมือนว่า มีเพียงเธอเท่านั้นที่รู้เรื่องมากที่สุด ถ้าเธอยอมบอกสิ่งที่เธอรู้มาให้ฉัน ฉันก็จะละเว้นความเจ็บ ปวดทางผิวหนังให้กับเธอได้บ้าง ถ้าไม่บอก ฉันก็จะลอง ดู ว่าผิวหนังที่ละเอียดอ่อนและอ่อนโยนบนตัวเธอ จะ สามารถทนทานต่อแส้ของฉันได้กี่แส้กัน!”วีธราข่มขู่

อารียามองไปที่วีธรา ด้วยใบหน้าที่เย่อหยิ่ง และพูด อย่างเย็นชา: “ฉันไม่รู้อะไรทั้งนั้น คุณไม่สามารถถาม อะไรไปจากฉันได้!”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ